ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดิมพันร้ายสัมผัสรักของสิงหราช ( มี E- book )

    ลำดับตอนที่ #6 : การพนันที่ชั่วร้ายของดินแดน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 66


    " แซงคิวที่ไหนกัน อันที่จริงแล้วฉันก็มาก่อนนายตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ "

    " มาก่อน ? "

    " ก็ใช่น่ะสิ "

    " ถ้านายมาก่อนนายก็ต้องต่อคิวก่อนฉันสิ แต่นายเล่นมาแซงคิวแบบนี้ก็แสดงว่านายมาทีหลัง " น้ำตาลมองใบหน้าที่ดูน่ารักด้วยสีหน้าฉงน แม้แต่ตอนที่คนตรงหน้าทำสีหน้าหงุดหงิด ก็ยังดูน่ารักในสายตาของเขา

    เพราะดูไปแล้วผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็หน้าตาดีเหมือนกันต้องบอกว่าดีมากเลยล่ะ

    มองอีกด้านหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะหล่อจนไม่สามารถที่จะละสายตาออกไปไหนได้ แต่มองอีกด้านหนึ่งก็ดูน่ารัก ทั้งสองอย่างที่มันมารวมอยู่ในตัวผู้ชายคนนี้มันกลับดูลงตัวมากในสายตาของน้ำตาล

    " มองอะไร!? บอกว่ามาก่อนก็มาก่อนสิพูดมากอยู่ได้ "

    น้ำตาลมองริมฝีปากกระจับสีแดงเชอรี่ที่พ่นคำพูดที่ไม่น่าฟังออกมาแล้วในใจของเขาก็รู้สึกคันยุบยิบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    เขาอยากจะบดริมฝีปากของตัวเองลงที่ริมฝีปากเล็กๆให้สาแก่ใจตัวเองจริงๆ

    " อย่ามองฉันด้วยสายตาที่น่ารังเกียจแบบนั้นนะ ฉันไม่ชอบ! " ร่างบางที่เห็นสายตาหื่นกระหายมาจากน้ำตาลเขาก็แขวะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

    "ไม่ชอบเหรอ ? "

    " รู้แล้วก็ยังจะถามอีก น่ารำคาญจริงๆ "

    ดวงตาคมเรียวยาวและสวยหวานมองผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาด้วยความสนใจ แล้วน้ำตาลก็พูดขึ้นมาลอยๆ " ก็ไม่ได้บอกให้ชอบสักหน่อย แต่ถ้าอยากจะชอบก็ไม่เป็นไรนะ ผมไม่ถือสาคนน่ารักหรอก "

    " หึ! ทั้งหน้ามึนทั้งหน้าด้านจริงๆ คนแบบนี้ใครเขาจะไปชอบลง ไม่น่าเชื่อว่าโลกใบนี้ยังจะมีคนแบบนี้อยู่ " ร่างบางพูดจบเขาก็รีบเดินไปสั่งน้ำและรีบหนีไปจากสายตาของน้ำตาลด้วยความหงุดหงิด

    สงสัยคนน่ารักจะชอบกินนมปั่น

    " ตาล! น้ำตาลวันนี้จะเอาน้ำอะไรล่ะ เอาเหมือนเดิมหรือเปล่า "

    " เชอรี่ "

    " หื้ม! เชอรี่อย่างนั้นเหรอปกติก็ไม่เคยกินน้ำเชอรี่นี่หรือว่าวันนี้อยากจะลองเปลี่ยนรสชาติ " แม่ค้าถามด้วยความสงสัย เพราะปกติน้ำตาลก็จะกินน้ำสตอเบอรี่ทุกครั้ง สงสัยวันนี้คงอยากจะลองเปลี่ยนรสชาติ

    " อะแฮ่ม! ครับวันนี้ผมอยากกินน้ำเชอรี่ " ใช่แล้ววันนี้น้ำตาลคอแห้งมากจนอยากจะกินน้ำเชอรี่ เมื่อนึกถึงริมฝีปากกระจับสีแดงเชอรี่เขาก็ยิ่งหิว น้ำเชอรี่คงจะอร่อยน่าดู

    " หนูตาล ซื้อน้ำอะไรมาเนี่ย " ไฟมองน้ำปั่นสีแดงออกชมพูด้วยความไม่เข้าใจหลังจากที่ดูดน้ำปั่นไปแล้ว

    เพราะปกติเพื่อนของเขา มันจะกินน้ำสตอเบอรี่ของโปรดมันแล้วก็ซื้อมาเผื่อเขาด้วยทุกครั้งแล้วนี่มันซื้อน้ำอะไรมาอีกล่ะ

    " ทำไม? ก็น้ำเชอรี่มันอร่อย หรือนายไม่ชอบ? "

    " มันไม่เกี่ยวกับความชอบหรือว่าไม่ชอบหรอก มันแค่แปลกก็เท่านั้นแหละ "

    " ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย คนเรามันก็ต้องเปลี่ยนรสชาติกันบ้างสิ " น้ำตาลทำหน้ามึนแล้วทำเป็นดูดน้ำเชอรี่และกินข้าวอย่างไม่สนใจสายตาจับผิดของเพื่อนในกลุ่มที่มองมาที่เขาอีก

    " แน่นะ! ที่บอกว่าไม่มีอะไร" ส้มที่คันปากก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

    เพราะท่าทางของเพื่อนเธอมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าตอนนี้น้ำตาลกำลังมีความลับจากพวกเขา

    " มันไม่มีอะไรจริงๆ ฉันคิดว่าฉันกินน้ำสตอเบอรี่จนเลือดของฉันมันจะกลายเป็นสตอเบอรี่อยู่แล้ว ฉันก็เลยอยากจะลองเปลี่ยนบ้าง " เรื่องอะไรที่น้ำตาลจะกล้าบอกกับเพื่อนของตัวเอง

    เพราะผู้ชายที่เขาได้พบเจอตอนที่ซื้อน้ำก็มีท่าทางที่หยิ่งยโสขนาดนั้น เพื่อนของเขาจะต้องไม่สนับสนุนแน่ที่รู้ว่าเขาสนใจผู้ชายคนนั้น

    " ก็แล้วไป แต่ถ้าพวกฉันรู้ทีหลังนายได้เจอพวกเราซักจนสะอาดแน่ "

    " เอาน่า มีเรื่องอะไรที่ฉันจะปิดบังจากทุกคนได้หรือไง? ทุกคนก็รู้ไม่ใช่เหรอเรื่องที่ฉันโกหกไม่เก่ง " น้ำตาลยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยน เมื่อเห็นทุกคนเป็นห่วงตัวเขาจริงๆจากหัวใจ

    แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากคิดจะพูด ออกมาอยู่ดี เพราะความรู้สึกของเขามันบอกว่า การพบเจอกันของเขากับผู้ชายคนนั้น มันจะต้องมีแต่ความสนุกแน่

    " น้ำตาลไม่เคยได้ยินอย่างนั้นเหรอ ว่าเสือร้ายก็เจ็บเป็น " เต้ยมองเพื่อนของตัวเองด้วยสายตาที่มีเลศนัย ถึงแม้ว่าตอนนี้น้ำตาลจะยังไม่บอกทุกคนในกลุ่ม แต่หลังจากนี้พวกเขาจะต้องได้รู้แน่

    " ถึงเสือมันจะรู้สึกเจ็บเป็น แต่อย่างน้อยเสือมันก็ควรที่จะได้ขย้ำก่อนไหมวะ " ใช่แล้วถึงแม้ว่าเสือมันจะเจ็บปรางตาย แต่อย่างน้อย เสือมันก็ยังได้ลงมือขย้ำจนเต็มเหนี่ยวแล้ว

    ถึงมันจะเจ็บแต่มันก็คงจะไม่ถึงตายหรอก

    " พวกฉันจะจำคำพูดของนายเอาไว้ " ทุกคนมองน้ำตาลด้วยรอยยิ้มอ่อน ถึงแม้ว่าน้ำตาลจะเป็นเสือร้าย แต่ก็เป็นเสือที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน

    น้ำตาลเอาแต่บอกกับตัวเองทุกครั้ง ว่าจะต้องอยู่ให้ไกลจากความเจ็บปวดมากที่สุด เดี๋ยวพอถึงเวลาน้ำตาลก็คงจะรู้เองนั่นแหละว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง หลังจากที่เล่นสนุกพอแล้ว

    " อีธาร ฉันเห็นนะที่นายยืนคุยกับผู้ชายคนนั้นตอนที่ไปซื้อน้ำ นายรู้จักกับมันเหรอวะ? " ดินแดนพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาอาจจะรู้จักกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ

    " ไม่รู้จัก แต่มันมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันก็เลยด่ามันกลับไป " อีธารพูดขึ้นมา อย่างไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของดินแดน

    ถึงแม้ว่าเพื่อนของเขาจะถามเขาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก็ตาม

    " ถ้าอย่างงั้นนายอยากจะเล่นเกมกับฉันหน่อยมั้ย? "

    " เกมอะไร? " อีธารที่รู้สึกหิวข้าวมาก เขาก็เลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาดูสีหน้าของเพื่อนตัวเองว่ามันดูชั่วร้ายมากแค่ไหน

    " นายเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย? ถ้านายสามารถทำให้ไอ้เด็กนั่นมารักมาชอบและเอามันได้ ฉันจะให้รถสปอร์ตนาย 1 คัน " ดินแดนรีบยื่นเสนอที่รู้ล่อตาล่อใจเพื่อน

    เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มของพวกเขาเล่นเกมแบบนี้ แต่ส่วนมากอีธารจะไม่ค่อยร่วมเล่นเกมพวกนี้มากนักหรอก

    อีธารเป็นคนที่งานเยอะ และไม่ค่อยมีเวลามากนัก เรียนเสร็จอีธารก็ต้องกลับไปที่บริษัทของตัวเองทันทีอีธารก็เลยไม่ค่อยได้อยู่กับกลุ่มเพื่อน

    " ฉันไม่เอาด้วยหรอก นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ค่อยมีเวลามาเล่นเรื่องไร้สาระกับพวกนาย " อีธารรีบปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเกมที่โหดร้ายของเพื่อนตัวเองอยู่แล้ว

    นิสัยของอีธารออกจะเย็นชามากด้วยซ้ำเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ของตัวเองเพราะนี่ก็แค่เพื่อนในมหาวิทยาลัยเพราะเขาก็ไม่ได้มีแค่เพื่อนกลุ่มนี้แต่กลับมีเพื่อนที่โตมาด้วยกันอีกกลุ่ม

    ส่วนเพื่อนกลุ่มนี้เขาก็แค่คบไว้เพื่อใช้ชีวิตในมหาลัยก็เท่านั้นเอง อีธารก็เลยไม่ค่อยสนใจมากนัก

    " ไม่ลองดูหน่อยเหรอคะ? ผู้ชายคนนั้นชื่อน้ำตาลค่ะ ถ้าพี่ธารสามารถทำตามข้อเสนอของพี่ดินแดนได้ หนูก็จะถอนหมั้นให้กับพี่ธารค่ะ " ถ้าคิดว่าข้อเสนอของดินแดนน่าสนใจแล้ว แต่ข้อเสนอของลิลลี่กับน่าสนใจมากกว่า

    เพราะลิลลี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่อีธารก็อยากจะถอนหมั้นกับเธอใจจะขาด เพราะว่าเธอก็ชอบแต่จะคอยสร้างปัญหาให้พี่อีธารตลอดในสายตาของเขา และพี่อีธารก็ไม่ได้อยากที่จะหมั้นกับเธอตั้งแต่แรก เขาไม่เคยรักเธอด้วยซ้ำ!

    แต่เป็นเพราะครอบครัวของลิลลี่เองต่างหากที่อยากให้เธอได้หมั้นหมายกับอีธาร พ่อแม่ของเธอที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของอีธาร และทั้งสองครอบครัวก็เคยสัญญากันเอาไว้ ถ้าเกิดว่าพวกเขามีลูกสาวและลูกชายพวกเขาก็จะให้เด็กๆทั้งสองมาแต่งงานกันในอนาคต

    และขั้นตอนแรกที่พวกเขาจะทำนั่นก็คือการหมั้นหมายของเด็กๆทั้งสอง และอีธารก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ด้วย เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของตัวเองเสียหน้า

    " หื้ม~ จริงเหรอข้อเสนอนี้น่าสนใจดี " อีธารใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มของตัวเอง และใช้นิ้วเคาะโต๊ะไปมาอย่างใช้ความคิด

    ข้อเสนอของลิลลี่มันดูน่าสนใจมากจริงๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาสามารถที่จะตัดผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตของตัวเองได้ชีวิตของเขามันก็คงจะมีความสุขมากขึ้น

    และไม่ต้องคอยจัดการเรื่องราวที่น่าปวดหัวของลิลลี่อีก แถมยังได้ตัดปลิงดูดเลือดตัวนี้ที่คอยดูดเลือดดูดเนื้อเขาได้อีก มันดูคุ้มค่ามาก..

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×