ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดิมพันร้ายสัมผัสรักของสิงหราช ( มี E- book )

    ลำดับตอนที่ #4 : คนที่ร้ายจริงๆน่ะอยู่นี่

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 66


    " ไผ่ว่าพวกเราอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นจะดีที่สุดเพราะผู้หญิงคนนั้นเธอทั้งรวยและมีอำนาจ และที่แน่ๆแฟนของผู้หญิงคนนั้นก็เป็นตัวร้ายด้วย " ที่ไฟพูดออกมาก็ไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด

    เพราะชื่อเสียงของลิลลี่ใครๆก็รู้กันอยู่แล้ว สำหรับลิลลี่แล้วก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ที่หนักเลยก็คือแฟนของลิลลี่ต่างหากล่ะที่ทั้งรวยและหล่อจนติดอันดับโลก และชื่อเสียงของเขาก็ไปในทางที่ไม่ดีด้วย ไฟก็เลยไม่อยากที่จะให้หนูตาลเข้าไปยุ่งกับคนแบบนั้น

    " ใช่ พวกเราไม่ต้องไปยุ่งกับคนแบบนั้นหรอก ผู้หญิงคนนั้นน่ะชอบวีนชอบเหวี่ยงคนอื่นไปทั่ว ยิ่งใครเข้าไปใกล้แฟนนางนะนางจะยิ่งจัดหนักจัดเต็มเลยแหละ " ส้มพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก เพราะเธอเคยเห็นลิลลี่ตามด่าผู้หญิงพวกนั้นจนอยู่ไม่สุขกันเลยสักคน ก็ใครใช้ให้แฟนของนางหล่อเหลาขนาดนั้นล่ะอย่างกับเทพบุตร

    ใครๆก็อยากที่จะเป็นผีเสื้อที่อยากจะลองบินเข้าไปเล่นกับไฟทั้งนั้นแหละ

    " เราก็ไม่ได้อยากที่จะไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นนักหรอก เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นยังมาหาเรื่องเราไม่หยุด เราบอกเลยว่าเราไม่ยอมแน่ " น้ำตาลไม่ชอบที่จะให้ใครมารังแกตัวเองได้ง่ายๆแบบนี้หรอก

    ส่วนเรื่องที่หน้ามหาลัยมันก็เป็นเรื่องอุบัติเหตุเขาก็พอเข้าใจได้แต่ถ้าเกิดว่าผู้หญิงคนนั้นมาหาเรื่องเขาตรงๆเขาไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน

    " คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว หนูตาลของเราใจดีที่สุด " ยาหยีพูดออกมาอย่างขำๆ เพราะหนูตาลเป็นคนที่รักสงบเอามากๆ ไม่อย่างนั้นจะปลอมตัวมาเรียนแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะคนที่ไหนเขาจะทำกัน

    คนอื่นอาจจะมองไม่ออกแต่พวกเขาทั้ง 6 คนที่เป็นเพื่อนสนิทของหนูตาลพวกเขาก็เลยรู้เพราะพวกเขาได้เจอกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

    แล้วนี่ทั้งกลุ่มของพวกเราก็พากันปลอมตัวกันบ้างนิดหน่อยเหมือนกัน บางคนก็เติมไฝบางคนก็เติมกระ หรือจุดด่างดำลงไปที่ใบหน้า แล้วก็เปลี่ยนสีผิวเพราะพวกเขาก็ไม่อยากที่จะทำให้กลุ่มของตัวเองโดดเด่นมากนัก

    เธอไม่อยากจะพูดหรอกนะว่ากลุ่มของพวกเธอก็มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้น และการที่พวกเราพากันทำตัวแบบนี้มันก็ทำให้พวกเรามาเรียนอย่างมีความสุขเหมือนคนอื่นเขาได้

    " ไม่ใช่ว่าหนูตาลแผ่เมตตาไปให้เขาแล้วหรอกนะ " ไฟถามหนูตาลออกมาพร้อมกับทำสีหน้ารู้ทัน เพราะน้ำตาลก็ชอบทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ

    " ฮ่าๆๆ ไฟรู้ทันเราตลอดเลย เราแผ่เมตตาไปให้เธอเรียบร้อยแล้วล่ะ " น้ำตาลหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ เมื่อไฟรู้ทันเขาไปซะทุกเรื่อง เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรเพื่อนคนนี้ของเขาก็รู้ทันเขาตลอด

    " เงียบๆแบบนี้ก็ร้ายกาจเหมือนกันนะเรา " มายพูดออกมาอย่างหยอกล้อเพราะเธอรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คู่แข่งของหนูตาลหรอก คนที่เขาร้ายจริงๆน่ะอยู่นี่ เพราะหนูตาลไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ในสายตาเลยต่างหากล่ะ

    " ไปๆ เข้าเรียนได้แล้ว ถึงเวลาแล้วเนี่ย "

    ทั้ง 7 คนพากันเข้าเรียนกันอย่างมีความสุข เพราะว่ามันเป็นการเรียนที่พวกเขาชอบพวกเขาก็เลยรู้สึกสนุกสนานและมีความสุขไปกับมันด้วย แล้วนี่ก็เป็นปีสุดท้ายแล้วที่พวกเขาเรียนที่นี่ แถมพวกเขาก็ยังตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะไปฝึกงานที่เดียวกันด้วย เรียนแป๊บเดียวก็เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว

    " พวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารกลางกันเถอะ " เต้ยรีบชักชวนเพื่อนๆด้วยท่าทางทะเล้น

    เพราะโรงอาหารกลางมีอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมาย และมันก็ถูกและประหยัดสำหรับพวกเขาด้วย ทั้งๆที่บ้านของพวกเขาก็รวยกันทุกคนนั่นแหละแต่พวกเขาก็อยากที่จะใช้ชีวิตปกติธรรมดาๆ เพราะว่ามันรู้สึกสนุกมากยังไงล่ะ

    " ได้ดิ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ " ทุกคนก็ไม่ได้มีความคิดที่จะไปกินอาหารร้านหรูอะไรข้างนอกอยู่แล้วเพราะการที่กินข้าวโรงอาหารแบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกัน ทั้ง 7 คนพากันปั่นจักรยานของตัวเองคนละคันแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารกลางในทันที ปั่นจักรยานแค่ 10 นาทีพวกเขาก็ถึงโรงอาหารกลางแล้ว ถ้าเดินเท้ามาพวกเขาก็คงจะเดินไม่ไหวกันหรอกแต่นี่ปั่นจักรยานมาพวกเขาก็เลยพากันมีใจสู้มา

    ว่าไม่ได้หรอกนะเห็นอย่างนี้พวกเขาทั้ง 7 คนก็พากันแข็งแรงกันทุกคนแหละทุกคนพากันเล่นกีฬาทุกประเภทแถมพวกเขายังฝึกพิเศษมวยและคาราเต้ด้วย แม้แต่อาหารพวกเขาก็ยังทำเป็น จนมีฝีมือเทียบเท่าเชฟนะคิดดู ก็อย่างว่าแหละยิ่งกลุ่มพวกเขาสนใจเรียนรู้กันแบบนี้ทุกคนก็จะได้ความรู้ไปด้วย คบเพื่อนยังไงก็ได้แบบนั้นแหละตามที่เขาว่าเอาไว้

    " ทุกคนไปซื้ออาหารก่อนเลยนะ เดี๋ยวเราจะไปจองโต๊ะให้ก่อน " น้ำตาลรีบบอกเพื่อนๆในทันทีเพราะตอนนี้คนในโรงอาหารก็เริ่มเยอะแล้วก่อนที่จะไม่มีโต๊ะนั่งให้พวกเขาได้นั่งกินข้าวกันน้ำตาลก็เลยจะต้องไปจองโต๊ะก่อนเหมือนทุกครั้ง

    " ได้ๆ หนูตาลเอาเหมือนเดิมใช่ไหม เดี๋ยวไฟจะซื้อมาให้ "

    " อืม ตาลเอาเหมือนเดิม " น้ำตาลว่าพร้อมกับยื่นมือไปรับกระเป๋าสะพายหลังของไฟ ที่ไฟจะต้องยื่นให้กับน้ำตาลเป็นแบบนี้ประจำทุกครั้ง

    น้ำตาลมองซ้ายมองขวาไม่นานเขาก็ได้โต๊ะที่เขารู้สึกพึงพอใจเขารีบวางกระเป๋าของเขาลงบนโต๊ะเพื่อจองโต๊ะ พร้อมกับนั่งลงบนโต๊ะเพื่อรอเพื่อนๆของเขา แต่ว่าในขณะที่น้ำตาลนั่งรอ อยู่ที่โต๊ะได้เพียงแค่ 5 นาทีเขาก็รู้สึกได้ว่าเหมือนกับมีคนมาสะกิดที่หลังของเขาอย่างแรง

    " นี่นาย ฉันขอโต๊ะนี้ได้หรือเปล่า " ดินแดนถามออกมาอย่างห้วนๆ เพราะโต๊ะตัวนี้เป็นโต๊ะประจำที่เขานั่งกินข้าวกับเพื่อนเขาอยู่แล้ว และครั้งนี้ก็เป็นดินแดนที่จะต้องมาจองโต๊ะไว้ก่อนที่เพื่อนๆ ของเขาจะมากัน ดินแดนก็เลยรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย เมื่อมีคนมานั่งที่โต๊ะประจำของเขาในวันที่เขามาจอง

    " โต๊ะอื่นก็ว่างน่ะครับ โต๊ะนี้ผมจองแล้ว " น้ำตาลที่ได้ยินน้ำเสียงห้วนๆของดินแดนเขาก็ขมวดคิ้วในทันที ก็เห็นๆกันอยู่ว่าตอนนี้มีคนนั่งแล้วแต่ทำไมผู้ชายคนนี้ก็ยังอยากที่จะได้โต๊ะของเขากัน

    " ฟังนะ! โต๊ะนี้เป็นโต๊ะประจำของพวกฉันเรื่องแค่นี้นายก็ไม่รู้หรือไง " ท่าทางที่ดูนุ่มนิ่มเหยาะแหยะแบบนี้มันทำให้ดินแดนรู้สึกรำคาญมาก ขนาดเขาพูดไปขนาดนี้แล้วผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่รู้อีกว่าจะต้องทำตัวแบบไหนและยังไง

    " โต๊ะอาหารนี้เป็นของส่วนรวมครับ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจองล่วงหน้าได้ก่อนคนอื่น ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันและวันนี้ผมก็มาจองโต๊ะนี้ได้ก่อนคุณ และคุณก็ต้องไปจองโต๊ะอื่นแค่นั้น เข้าใจหรือยังครับ " น้ำตาลทำหน้านิ่งไปในทันที เมื่อเจอคำพูดและสีหน้าท่าทางที่ดูเหยียดหยามใส่เขา

    น้ำตาลก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้กับผู้ชายคนนี้สักหน่อย ถ้าเป็นผู้หญิงที่ทำสีหน้าแบบนี้เขาก็อาจจะไม่สนใจและปล่อยผ่านไป แต่สำหรับผู้ชายที่มาดูถูกกันเองและถ้ายังมากกว่านี้น้ำตาลก็คงจะต้องจัดการจนถึงขั้นเด็ดขาดเหมือนกัน

    " แม่งเอ้ย !! ไอ้ตุ๊ดพูดไม่รู้เรื่อง " ดินแดนสบถใส่น้ำตาลอย่างโมโหแล้วเขาก็เดินไปหาโต๊ะใหม่ในทันที ใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าโต๊ะนั้นเป็นโต๊ะประจำของกลุ่มพวกเขา

    ผู้ชายคนนี้คงอยากที่จะมาอ่อยพวกเขานะสิ คนแบบนี้เขาไม่ให้ค่าหรอก แถมเขาก็ยังมีแต่ความรังเกียจเดียดฉันด้วย

    " มึงน่ะสิตุ๊ด! ไอ้ควาย! " น้ำตาลด่าพร้อมกับยกนิ้วกลางให้ดินแดนด้วยความหงุดหงิด ในตอนแรกดินแดนกำลังจะเดินออกไปแล้ว แต่สุดท้ายดินแดนก็หันมองดูควายที่น้ำตาลได้มอบให้เขา ดินแดนชี้นิ้วมาที่น้ำตาลด้วยมือที่สั่นเทา เพราะว่าไม่เคยมีใครที่จะกล้ามาทำแบบนี้กับเขามาก่อน

    " มึงคอยดูเถอะ ว่ากูจะจัดการกับมึงแบบไหนอีตุ๊ด! " ดินแดนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมแล้วเขาก็เดินไปหาโต๊ะอาหารที่ว่างต่อ แค่เขาเห็นท่าทางที่ดูเหมือนตุ๊ดแบบนั้นเขาก็มีแผนการในใจแล้ว รับรองว่ามันจะต้องเจ็บปวดจนอยากจะตายเลยแหละ หึหึ! รอก่อนเถอะมึง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×