ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดิมพันร้ายสัมผัสรักของสิงหราช ( มี E- book )

    ลำดับตอนที่ #3 : ชื่อเสียงที่เน่าเฟะ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 66


    " หนูตาลไม่เป็นอะไรจริงๆน่ะ " น้ำตาลยิ้มกว้างในทันทีที่เห็นพี่ชายของเขายังคงสำรวจร่างกายของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว เพราะตั้งแต่เด็กจนโตพี่ชายของเขาก็ทำแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ

    " ผู้หญิงอะไรไม่มีมารยาทเลยสักนิด จะขอโทษสักคำก็ไม่มี " อย่าคิดว่าเขาไม่ทันที่จะได้ยินผู้หญิงคนนั้นด่าน้องชายของเขานะเขาได้ยินทั้งหมดนั่นแหละ

    ก็แม่คุณเล่นด่าเสียงดังขนาดนั้นแม้แต่คนรอบข้างก็ยังหันมามองเลย

    " พี่ไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงคนนั้นหรอกครับ แต่ตอนนี้พี่ก็รีบขับรถไปทำงานเถอะก่อนที่มันจะสายแล้วจริงๆ " ทั้งๆที่ครอบครัวของพวกเขาก็ตื่นเร็วและทานอาหารตั้งแต่เช้าแต่นี่ก็เป็นเวลา 7 โมงตรงแล้ว เดี๋ยวพี่ชายกับพ่อของเขาจะเข้าบริษัทไม่ทันเวลางานได้

    และที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าครอบครัวของเขาต้องทำให้เป็นตัวอย่างที่ดีของพนักงานนั่นเอง แต่จริงๆแล้วครอบครัวของน้ำตาลก็ไม่ได้เคร่งครัดถึงขนาดนั้นหรอก

    " ถ้าอย่างนั้นน้องก็อย่าลืมไปที่ห้องพยาบาลด้วยนะ ดูแลตัวเองพี่จะไปแล้ว " ทะเลลูบหัวน้องชายเบาๆและเขาก็เดินไปยกจักรยานมาให้น้องชายพร้อมกับสำรวจความเสียหายของจักรยานเล็กน้อย ก่อนที่จะจูงจักรยานไปให้น้องชายของตัวเอง เขาส่งจักรยานให้น้องชายของเขาแล้วเขาก็เดินไปขึ้นรถอย่างเชื่องช้าเพราะเป็นห่วงน้องชายของเขาอยู่เล็กน้อย แต่ว่าตัวเขาก็ต้องตัดใจแล้วขับรถไปทำงานเหมือนปกติ

    น้ำตาลรู้สึกชอบมากที่สุดก็คือการที่ครอบครัวของเขามันธรรมดามากถึงมากที่สุด ดูจากเสื้อผ้าของเขาสิมันทั้งเก่าและขาวซีดไปหมดแล้ว เขาก็ยังใส่ไปมหาลัยได้ทุกวัน

    เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าที่น้ำตาลใส่มาตั้งแต่ปี 1แล้ว จนตอนนี้เขาก็เรียนอยู่ปี 4 แล้ว ใส่เรียนมาตั้งหลายปีแล้วจะไม่ให้เสื้อผ้าของเขามันมีความขาวซีดได้ยังไงกันล่ะ แต่ว่าน้ำตาลก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะชีวิตที่เป็นอยู่แบบนี้ มันก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนใครที่ไหนอยู่แล้ว

    ถึงแม้ว่าการที่เขาไปมหาลัย ก็จะมีคนที่ชอบดูถูกเขาอยู่บ้างแต่เขาก็ยังมีกลุ่มเพื่อนที่ดีและรักเขาจริงๆ ไม่ใช่เพื่อนที่คอยแต่อยากที่จะหาประโยชน์จากตัวเขา

    น้ำตาลปั่นจักรยานเข้าไปในมหาลัย แล้วเขาก็ปั่นจักรยานไปที่หน้าตึกพยาบาลก่อน เพื่อที่จะแวะไปทำแผลก่อนเล็กน้อยก็เขาไม่ต้องการที่จะให้ผิวพรรณของเขาได้มีรอยตำหนิหรือรอยช้ำอะไรแม้แต่นิดเดียวนี่นา

    แล้วน้ำตาลก็ไม่ได้เป็นตุ๊ดเหมือนอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นว่าแต่เขาก็มีความชอบที่จะเห็นร่างกายของตัวเองสะอาดและเกี้ยงเกาไม่มีรอยตำหนิอะไรพวกนี้

    " เป็นอะไรมาครับ " แพทย์ฝึกหัดที่อยู่ในห้องพยาบาลถามน้ำตาลในทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำตาลเดินเข้ามาในห้องพยาบาล

    ส่วนมากคนที่เข้ามาในห้องพยาบาลก็จะต้องเป็นคนที่บาดเจ็บเท่านั้นแหละ

    " ผมขี่จักรยานล้มนิดหน่อยครับ มีแค่แผลถลอกที่แขนเล็กน้อย " น้ำตาลยกแขนให้แพทย์ฝึกหัดดูเล็กน้อยเพื่อที่จะให้พี่เขาเห็นแผลของน้ำตาลนั่นเอง

    " มานั่งตรงนี้เลยครับ แค่แผลนิดเดียวผมทำความสะอาดให้แป๊บเดียวไม่ยุ่งยากอะไร " แพทย์ฝึกหัดคนนี้ก็ไม่ได้คิดว่าน้ำตาลดูผิดแปลกไปจากคนอื่นเลยสักนิด

    เพราะคนที่เรียนหมอและพยาบาลส่วนมากก็จะมีแต่เด็กผู้ชายแบบนี้เต็มไปหมด มันเป็นเรื่องปกติของที่นี่อยู่แล้ว แพทย์ฝึกหัดทำความสะอาดแผลให้น้ำตาลแป๊บเดียวพร้อมกับติดพลาสเตอร์ 1 อัน ให้น้ำตาลก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

    " เสร็จแล้วครับ "

    " ขอบคุณพี่หมอมากนะครับที่ช่วยทำแผลให้ผมในวันเช้าตรู่เคสแรกเป็นการทำงาน " น้ำตาลรีบขอบคุณพี่หมอในทันที หลังจากที่พี่หมอทำแผลให้เขาเสร็จแล้ว

    เพราะดูเหมือนว่า วันนี้พี่หมอก็คงจะไม่ว่างทั้งวันหลังจากที่เขาเปิดงานให้แล้ว เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย

    " ไม่เป็นไร! ขอบใจนะที่อวยพร วันหลังก็ไม่ต้องไปขี่จักรยานล้มมาอีกล่ะ " แพทย์ฝึกหัดพูดกับน้ำตาลอย่างอ่อนโยน เพราะเขารู้สึกว่าเด็กผู้ชายคนนี้ดูแข็งแรง แต่ว่าคำพูดของเขาก็ดูอ่อนหวานและนุ่มนิ่มมาก มันไม่ได้ดูเหมือนตุ๊ดเหมือนเกย์หรืออะไร แต่ว่ามันกลับดูน่ารักไปอีกแบบนึงเขาก็เลยรู้สึกเอ็นดูเด็กผู้ชายคนนี้เล็กน้อย

    " ครับพี่หมอ "

    น้ำตาลรับปากพี่หมอไปแล้วเขาก็เดินออกมาจากห้องพยาบาลในทันที แล้วเขาก็ปั่นจักรยานไปที่คณะศิลปกรรมของเขาเพราะน้ำตาลชอบวาดรูปมาก ตัวเขาก็เลยเรียนต่อทางด้านนี้ซะเลย ส่วนเพื่อนๆของเขาที่เห็นเขาเรียนศิลปะแบบนี้พวกเพื่อนๆของเขาก็เลยลงเรียนตามๆกันหมด

    เพราะแบบนี้น้ำตาลถึงยังคบกับเพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่เด็กจนถึงมหาลัยก็มีแต่หน้าตาเดิมๆ และส่วนมากเพื่อนที่มาใหม่นั้นก็จะไม่ค่อยสนิทเหมือนกับเพื่อนที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กหรอก

    ส่วนมากคนพวกนั้นจะเอาไว้เวลาไปพวกงานกินเลี้ยงมหาลัยพวกเขาก็จะพากันมีกลุ่มและแก๊งของตัวเองกันอยู่แล้ว ถ้ามีงานอะไรทุกคนถึงจะมาจอยและรวมกลุ่มกัน มันก็เป็นเรื่องปกติของสังคมมหาลัย..

    " ตาล ! ทางนี้ " ไฟเพื่อนของน้ำตาลเรียกน้ำตาลทันทีที่เห็นน้ำตาลปั่นจักรยานมาจอดที่หน้าคณะ เพราะว่าทุกๆวันน้ำตาลจะมาที่มหาลัยเร็วกว่าทุกคนเสมอ

    ทุกครั้งที่ทุกคนมาถึงโต๊ะนั่งประจำของพวกเขาทุกคนจะต้องเห็นน้ำตาลนั่งรออยู่ที่โต๊ะนี้ก่อนแล้ว แต่วันนี้พวกเขากลับไม่เห็นน้ำตาลซะอย่างนั้นพวกเขาก็เลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

    น้ำตาลโบกมือให้พวกเขารับรู้ว่าเขาได้รับรู้แล้ว พร้อมกับเอากระเป๋าสะพายที่อยู่ในตะกร้ารถจักรยานของเขาออกมาสะพายหลังเหมือนปกติแล้วเขาก็เดินมาที่โต๊ะนั่งเล่นประจำของพวกเขา

    " หนูตาลทำไมวันนี้ถึงมาช้ามีอะไรหรือเปล่า " ไฟรีบสำรวจหนูตาลไปทั่วร่างกายด้วยความเป็นห่วงเพราะไฟก็เป็นคนดูแลและประคบประหงมหนูตาลมากที่สุดในกลุ่มอยู่แล้ว

    " นั่นสิ ปกติก็เห็นมาเร็วตลอดนี่นา~ " เต้ยเพื่อนชายของน้ำตาลอีกคนนึงก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เต้ยรู้สึกว่าเพื่อนของเขาจะมีปัญหาตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่ใช่ว่าจะไปซุกซนจนบาดเจ็บที่ไหนมาอีกหรอกนะ

    " ตาลไม่ได้เป็นอะไรหรอก ตาลแค่ขี่จักรยานล้มเฉยๆ ดูสิ " น้ำตาลเล่าเรื่องพร้อมกับยกแขนให้ดูว่าเขามีแค่บาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทุกคนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

    " แน่ใจนะว่าหนูตาลขี่จักรยานล้มเองจริงๆ " ส้มเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มรีบถามอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะว่าเพื่อนคนนี้ของเธอเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างมาก แล้วเพื่อนของเธอก็ขี่จักรยานช้ามากจริงๆแล้วแบบนี้จะไม่ให้ส้มสงสัยได้ยังไง

    " หนูตาลไม่ต้องโกหกเลยนะ! " มายเพื่อนสาวอีกคนรีบพูดดักหนูตาลในทันที เพราะว่าน้ำตาลมันก็เป็นคนที่พูดโกหกไม่เก่งเลยสักนิด

    " พอดีว่ามีผู้หญิงมาตัดหน้ารถจักรยานเรานะสิ เราก็เลยหักจักรยานหลบเล็กน้อยก็เลยทำให้ล้มอย่างที่เห็นแบบนี้แหละ " น้ำตาลก็ไม่ได้อยากที่จะโกหกอะไรเพื่อนหรอกเรื่องแบบนี้เขาสามารถพูดออกมาได้อยู่แล้ว

    แต่เขาก็แค่ไม่อยากที่จะให้เพื่อนๆของเขาได้โมโหกันก็แค่นั้นแหละ

    " หนูตาลจำได้หรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร " ไผ่เพื่อนชายอีกคนนึงในกลุ่มถามขึ้นมาในทันที เพราะเขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่โง่งมเดินไปตัดหน้ารถจักรยานอีกเหรอ?

    " ลิลลี่ ดาวคณะนิเทศศาสตร์ " น้ำตาลรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของเขาต้องถามออกมาแบบนี้เขาก็เลยตอบออกมาตรงๆ แล้วก็ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักลิลลี่ดาวนิเทศศาสตร์ด้วย

    เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสวยและมีชื่อเสียงที่ดีอย่างมาก แต่จากการที่น้ำตาลโดนผู้หญิงคนนั้นด่าเมื่อเช้าเขาก็รู้สึกว่าชื่อเสียงและหน้าตาของลิลลี่มันเป็นของปลอมอย่างแน่นอน

    ความสวยน่ะก็พอได้ แต่ว่านิสัยดีนั้นเขาว่าไม่ใช่ ปลอมตั้งแต่หน้ายันนิสัยจริงๆ

    " อ๋อๆๆๆ " ส้มพูดแอ็คโค่ออกมาอย่างยาวเหยียด เพราะเธอก็รู้ถึงกิตติศักดิ์ของแม่นี่เหมือนกันภายนอกคนอื่นก็พูดว่าหน้าตาสวยใจดีและดูอ่อนหวาน

    แต่ที่จริงแล้ว ข่าวในวงในของเธอนิสัยของผู้หญิงคนนี้นั้นทั้งเรียนเก่ง ทั้งมีนิสัยที่ดีเอามากๆและเธอจะทำตัวดีเฉพาะต่อหน้าแฟนของเธอก็เท่านั้นแหละ ทั้งๆที่ตัวจริงมันเน่าเฟะมาก

    " ฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าใครจะโง่เดินหน้าเซ่อมาให้คนอื่นขี่จักรยานชนกันแบบนี้ ที่แท้ก็แม่ดาวค้างฟ้าคนนั้นนี่เอง " มายพูดออกมาด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย เพราะเธอไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้เป็นที่สุด

    " ยาหยีว่าหนูตาลต้องเจอผู้หญิงคนนั้นด่ามาอย่างแน่นอน ใช่ไหม ? " ยาหยีก็เคยได้ยินชื่อเสียงของลิลลี่มาเหมือนกัน

    " อืม.. เธอด่าเราจริงๆแถมยังด่าว่าเราเป็นตุ๊ดอีกด้วย " ยาหยีเดาได้ถูกต้องจริงๆเพราะน้ำตาลก็ไม่คิดว่าผู้หญิง ที่ทั้งดูดีและดูมีการศึกษาแบบนั้นจะเป็นผู้หญิงที่นิสัยร้ายกาจและปากร้ายได้ขนาดนี้

    ใครที่ได้ผู้หญิงคนนั้นไปเป็นแฟนนะเขาว่าจะต้องเข็ดขยาดอย่างแน่นอน

    " หนูตาลไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงแบบนั้นหรอกรีบมานั่งข้างๆไฟเร็วเข้า " ไฟรีบขยับตัวนิดนึงเพื่อที่จะให้หนูตาลได้มานั่งข้างๆเขา

    " ขอบใจนะไฟ " น้ำตาลก็ลืมที่จะนั่งเหมือนกันเพราะเขามัวแต่ยืนโชว์แผลพวกนี้ให้เพื่อนๆเขาดูอยู่ได้ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×