คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อุบัติเหตุหน้ามหาลัย
บางทีครอบครัวของพวกเขาก็สลับกันหยุดงานเหมือนกัน วันหยุดพวกนี้ก็ไม่ได้รวมกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์นะเพราะว่าคุณแม่ของเขาก็แค่อยากจะให้ทุกคนในครอบครัวผ่อนคลายและทำงานอย่างไม่เคร่งเครียดกันก็เท่านั้นเอง เพราะคุณแม่ของเขาก็พูดอยู่เสมอว่าการมีเงินมีทองที่เยอะไปก็ไม่ใช่ว่าจะดีนัก สุขภาพและร่างกายของตัวเองดูแลดีๆมันถึงจะดีที่สุด
" หนูจะให้พี่ไปส่งหรือเปล่า? " ขุนเขาถามน้องชายด้วยความอาลัยอาวรณ์ เมื่อเห็นว่าน้องชายจูงจักรยานคันโปรดของตัวเองเพื่อที่จะปั่นไปมหาลัยอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน
" หรือว่าหนูจะไปกับพ่อ ติดรถพ่อไปลงที่หน้ามหาลัยก็ได้นะ " สุวิทย์ก็ถามลูกชายคนเล็กของตัวเองเหมือนกัน เพราะเขาก็เห็นลูกชายของเขาทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ว่าเขาก็อยากที่จะไปส่งลูกชายตัวเองที่หน้ามหาลัยบ้างเหมือนกันนั่นแหละ
" ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวหนูปั่นจักรยานไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว มหาลัยอยู่ใกล้ๆแค่นี้เองครับ " น้ำตาลได้แต่ทำปากยู่เล็กน้อยและพูดออกมาเมื่อเห็นความหวงของพี่ชายกับคุณพ่อของตัวเอง มหาลัยก็อยู่แค่ใกล้ๆ บ้านของพวกเขานี่เอง แต่คุณพ่อกับพี่ชายของเขาก็ยังถามเขาแบบนี้อยู่ทุกวัน
ตัวเขาก็รู้ว่าครอบครัวเป็นห่วงแต่นี่ก็ไม่เห็นจะต้องประคบประหงมเขาขนาดนี้เลยก็ได้ แต่ว่าในใจของน้ำตาลก็รู้สึกมีความสุขมากอยู่ดีที่เห็นครอบครัวของตัวเองเป็นห่วงตัวเขามากขนาดนี้
" พากันไปทำงานได้แล้วจะมาวุ่นวายอะไรกับหนูตาลกัน ก็เห็นอยู่ว่าลูกปั่นจักรยานไปเองอยู่ทุกวันแต่ก็ถามทุกวันอยู่ได้ " จินดารีบพูดออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าลูกชายคนโตทั้งสองคนและสามีของเธอทำสีหน้าไม่ยินยอมเล็กน้อยเพราะอยากที่จะไปส่งลูกชายคนเล็กของเธอ
" ครับ "
" ก็ได้ "
จินดายิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อทุกคนพูดรู้เรื่องแล้ว จะต้องให้เธอต้องมาพูดแบบนี้ทุกวันอยู่ได้ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์มันจะออกมายังไงแต่พวกเขาก็ยังถามออกมาแบบนี้อยู่เสมอ
" หนูก็ไปโรงเรียนเถอะ ปั่นจักรยานไปกว่าจะถึงเดี๋ยวก็สายอีก " จินดาลูบแผ่นหลังลูกชายคนเล็กอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นว่าผมของลูกชายของเธอถูกเก็บไว้ในวิกเหมือนเช่นเคย...
ที่ลูกชายของเธอปลอมตัวแบบนี้มันก็ไม่ใช่ว่ามีเหตุผลอะไรมากมายหรอก แต่หลักๆเลยก็คือการที่มีผู้ชายมากมายหลายตาเข้ามาจีบลูกชายคนเล็กของเธออยู่เรื่อยๆ และการที่ลูกชายคนเล็กของเธอแต่งตัวแบบนี้ทั้งครอบครัวก็รู้สึกพึงพอใจมาก ที่เห็นน้ำตาลดูแลและทะนุถนอมตัวเองอย่างดี
สังคมมันโหดร้ายถ้าหน้าตาดีเกินไปมันก็จะมีคนเข้ามายุ่งและวุ่นวายอยู่มากมายตลอดเวลานั่นแหละ ในเมื่อลูกชายคนเล็กของเธอยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีจนถึงที่สุดนัก การที่ลูกชายของเธอจะยอมแต่งตัวแบบนี้เองมันก็ถือว่าดีมากจริงๆ
น้ำตาลปั่นจักรยานออกจากบ้านเหมือนอย่างในทุกๆวันพร้อมกับมีรถของพ่อและพี่ชายของเขาที่ค่อยๆขับมาอย่างช้าๆเพื่อที่จะตามไปส่งเขาที่โรงเรียนเหมือนอย่างในทุกๆวันเหมือนกัน
การที่ได้มีคนมาดูแลและปกป้องแบบนี้ตลอดเวลาน้ำตาลมีความสุขมาก ตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าครอบครัวของตัวเองจะมาจุ้นจ้านหรือว่ามายุ่งยากกับชีวิตของตัวเองจนเกินไป เพราะการที่ครอบครัวของเขาเป็นแบบนี้มันก็ดีที่สุดแล้ว
ขณะที่น้ำตาลปั่นรถจักรยานจนใกล้จะถึงทางเข้ามหาลัยแล้วแต่ก็ต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่ออยู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาตัดหน้ารถจักรยานของเขา น้ำตาลที่เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้เขาก็รีบหักแฮนด์จักรยานหลบผู้หญิงคนนั้นด้วยกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะบาดเจ็บ พร้อมกับจักรยานของเขาที่ล้มลงไปและตัวเขาก็มีรอยถลอก
" ปั่นจักรยานยังไงย่ะ!! ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือเลยสักนิด อีตุ๊ด! " ผู้หญิงคนนั้นหันมาด่าน้ำตาลด้วยน้ำเสียงหยาบคายเมื่อเห็นใบหน้าที่ยังมีเค้าโครงสวยหวานของน้ำตาล
" คุณนั่นแหละที่เดินไม่ดูทางจักรยาน นี่มันทางปั่นจักรยานนะครับ ไม่ใช่ทางเดินเท้า " น้ำตาลตอบโต้กลับด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้หันมาด่าเขาด้วยคำพูดน่าเกลียด แล้วเขาจะยอมได้ยังไงกันล่ะ
" ยังจะมาเถียงอีกก็อย่างนี้แหละพวกตุ๊ดพวกกะเทย ก็คงจะแรดมองแต่ผู้ชายคนอื่นจนไม่ดูอะไร " ผู้หญิงที่ยืนด่าน้ำตาลปาวๆอยู่นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เธอก็คือดาวคณะของนิเทศนั่นเอง และชื่อของเธอก็คือลิลลี่
" เอาเถอะ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำถูกแล้วคุณก็ไปเถอะ " คนที่พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้น้ำตาลไม่ชอบที่จะไปยุ่งมากที่สุด เพราะการที่เขายิ่งพูดกับคนแบบนี้ มันจะทำให้เขาดูโง่ไปด้วยเดี๋ยวเขาจะแผ่เมตตาไปให้เธอก็แล้วกัน
" ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้แกมาบอกอยู่แล้ว!! หน้าโง่ๆอย่างแกก็ยังจะมีหน้ามาบอกว่าคนอื่นถูกคนอื่นผิดอีกเหรอ!? ทั้งโง่ทั้งจนแล้วก็ยังไม่รู้จักเจียมตัวเองอีกน่ะ แหวะอี๋!สกปรก ! " ลิลลี่พูดแล้วเธอก็เดินเข้าไปในมหาลัยด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างหยิ่งยโส โดยที่เธอก็ไม่ได้ขอโทษน้ำตาลแม้แต่คำเดียว แถมเธอยังมาด่าน้ำตาลซ้ำอีกก่อนที่เธอจะเดินจากไปด้วยความสะใจ
" หนูเป็นอะไรมั้ย!? " ทะเลที่หาช่องว่างจอดรถได้คนแรกเขาก็รีบวิ่งลงมาดูน้องชายของตัวเองด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าน้องชายของตัวเองเกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด
" หนูไม่เป็นไรครับ " น้ำตาลบอกพี่ชายคนโตของเขาพร้อมกับโบกมือให้พี่ขุนเขาและพ่อของเขาที่ยังหาที่จอดรถไม่ได้ว่าไม่เป็นไร เพื่อที่จะไม่ได้ให้ทั้งสองลงมาจากรถให้เสียเวลา
" ไหนดูซิ " ทะเลสำรวจเนื้อตัวของน้องชายไปมาก็เห็นว่ามีแค่ที่แขนเท่านั้นที่ถลอกนิดหน่อย นอกนั้นก็ปกติดีเขาก็เลยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
ทั้งๆที่น้องชายของเขาก็ขี่จักรยานบนทางปั่นจักรยานอย่างดีแต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเดินมาตัดหน้าจักรยานของน้องชายเขาได้อีก ชั่งเป็นผู้หญิงที่ใช้ไม่ได้จริงๆ ตาบอดหรือไง!จักรยานก็ไม่ใช่คันเล็กๆสักหน่อย..
ความคิดเห็น