คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตระกูลศิริเกืองวงศ์
ในเช้าวันที่สดใส มีพระอาทิตย์ขึ้น และส่องแสงเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ร่างสูงสมส่วนที่นอนอยู่บนเตียงใหญ่รู้สึกได้ถึงแสงของดวงอาทิตย์ที่แยงตาเข้ามาจนร่างสูงสมส่วนที่นอนอยู่บนเตียงไม่สามารถที่จะทนนอนอยู่บนเตียงได้อีก
พระอาทิตย์ส่องแสงแยงตาขนาดนี้แล้วใครมันจะไปนอนได้อีกกันล่ะ น้ำตาลได้แต่ตัดใจให้ตัวเองตื่นนอนจากเตียงนุ่มๆหลังใหญ่นี้ ใช่แล้วคนที่นอนอยู่บนเตียงนี้ก็คือน้ำตาลนั่นเอง
" ตาลตื่นได้แล้วนะลูก เดี๋ยวหนูจะไปโรงเรียนสายเอาได้ " จินดาแม่ของน้ำตาลตะโกนบอกลูกชาย เพื่อที่จะให้ลูกชายของเธอไปโรงเรียน นี่ก็เป็นเวลา 6:00 เช้าแล้วไหนจะเผื่อเวลาเดินทางไปมหาลัยอีก ไม่อย่างนั้นลูกชายของเธออาจจะไปมหาลัยสายได้ ถึงลูกชายของเธอจะโตจนเรียนมหาลัยแล้วก็เถอะ แต่เธอก็คิดว่าลูกชายของเธอเขาก็ยังคงเป็นเด็กตัวเล็กๆสำหรับเธออยู่เสมอ
" ครับแม่ หนูตื่นแล้ว " ทุกครั้งที่น้ำตาลอยู่บ้าน ตัวเขาก็จะพูดคำว่าหนูกับแม่ทุกครั้งเพราะว่าแม่ของเขาก็เรียกเขามาตั้งแต่เด็กแล้วและตัวเขาเองก็รู้สึกชินด้วย แต่ถ้ามีคนนอกมาบ้านเขาหรือว่าตัวเขาอยู่ข้างนอกอะไรแบบนี้เขาก็จะไม่พูดด้วยคำพูดที่น่ารักแบบนี้หรอก นอกจากเพื่อนที่สนิทของน้ำตาลจริงๆ
ร่างบางสมส่วนที่มีหน้าท้องเป็นร่องซิกแพคเปิดปากหาวและขยี้ตาด้วยความงัวเงีย พร้อมกับบิดขี้เกียจทำให้เห็นลายกล้ามเนื้อที่สมส่วน และดูสวยงาม บวกกับแสงพระอาทิตย์ที่ส่องกระทบผิวขาวเนียนเหมือนไข่ปอกสีอมชมพูก็ยิ่งทำให้ภาพนี้ยิ่งดูสวยงามจับตาอย่างหาได้ยาก
" อืม.... ขี้เกียจจังเลยไม่ไปแล้วได้ไหมไอ้มหาลัยเนี่ย " น้ำตาลบ่นพึมพำพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ลุกจากที่นอนจนได้แล้วน้ำตาลก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ และอาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองอย่างเชื่องช้าเพราะว่าน้ำตาลเป็นคนที่รักสะอาดและอาบน้ำนานมากที่สุดไม่ว่าจะซอกซอยไหนของร่างกายเขาก็ถูจนหมดนั่นแหละ
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วน้ำตาลก็เอาผ้าเช็ดตัวมาซับน้ำบนร่างกายของเขาพร้อมกับส่องกระจกไปด้วย ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกก็คือผู้ชายที่มีความสูงถึง190 เซนติเมตร มีผมยาวจนถึงข้อเท้าและมีร่างที่บาง ไหล่ที่กว้างพอดีและเอววีขอดบวกกับซิกแพคเรียงสวยหกลูก พร้อมกับสะโพกที่ผายกลมกลึงรับกันกับก้นลูกพีชแน่นๆ! แต่ถ้ามองไปที่ใบหน้าก็จะเห็นใบหน้าที่สวยหวานราวกับออกมาจากนางวรรณคดี
และถ้ามองดูดีๆก็จะเห็นใบหน้าที่หล่อเหลายิ่งกว่าดาราและนายแบบตัวท็อปที่แอบซ่อนอยู่ภายในใบหน้าที่สวยงามอย่างจับตัวหาได้ยาก แล้วความลงตัวทั้งสองอย่างที่มารวมกันก็ยิ่งทำให้น้ำตาล เหมือนคนที่มีแค่ในจินตนาการเท่านั้นในความคิดของคนอื่น
ถึงน้ำตาลจะเป็นผู้ชายแต่ตัวเขากลับมีหน้าตาและเอวที่ขอดเหมือนผู้หญิง แต่ถ้าน้ำตาลถอดเสื้อเมื่อไหร่ความคิดของคนอื่นจะเปลี่ยนไปในทันที เพราะร่างกายของเขามันอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่สวยงาม
น้ำตาลก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเขาเป็นผู้ชายที่แตกต่างกันกับผู้ชายคนอื่นเพราะตัวของน้ำตาลเองก็มีมดลูกที่อยู่ในร่างกายเหมือนกับผู้หญิงมันก็เลยส่งผลทำให้รูปร่างและหน้าตาของเขาออกมาแบบนี้ และผมที่ยาวจนถึงข้อเท้าของน้ำตาลมันก็ยังเป็นสีดำเหลือบเทาอีกด้วย
น้ำตาลดูคล้ายคลึงกับผู้เป็นแม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และเขาก็เป็นเด็กผู้ชายที่แปลกมากเพราะเขาเกิดมาตัวเขาก็ผิดแปลกไปจากผู้ชายคนอื่นแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ที่สุดนั่นก็คือการที่เขามีกลิ่นตัวที่หอมเย้ายวนอยู่ตลอดเวลา แต่กลิ่นหอมและเย้ายวนของเขามันก็ไม่ได้ทำให้การใช้ชีวิตของเขามันผิดปกติอะไร
เพราะว่าถ้าไม่มีคนที่เข้ามาใกล้ชิดและตั้งใจที่จะดอมดมใกล้ๆจริงๆ พวกเขาก็จะไม่ได้กลิ่นหอมพวกนี้หรอก หลังจากที่น้ำตาลเช็ดตัวจนแห้งแล้วเขาก็เปิดกระปุกครีมเพื่อที่จะทาลงบนผิวของเขา
เนื้อครีมพวกนี้ก็ผ่านการตกแต่งพิเศษมาแล้วเพื่อที่จะทำให้ผิวของน้ำตาลไม่ขาวจนเกินไป หลังจากที่ทาครีมปกปิดสีผิวแล้วเขาก็หันกลับมาแต่งหน้าของตัวเองเล็กน้อยเพื่อที่จะไม่ให้ใบหน้าของตัวเองโดดเด่นและดูสวยจนเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตในมหาลัยของเขาได้
น้ำตาลแต่งหน้าแค่แป๊บเดียวใบหน้าที่สวยงามราวกับภาพวาดของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ดูธรรมดาและดูน่ารัก แต่ที่แน่ๆมันก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้ชายคนอื่นมากนัก แล้วอย่างสุดท้ายที่น้ำตาลต้องทำนั่นก็คือการใส่วิกผมและแว่นตากรองแสงที่ดูคล้ายๆแว่นสายตา
คนอื่นอาจจะสงสัยว่าทำไมตัวเขาจะต้องปล่อยผมยาวแล้วมาใส่วิกผมให้ยุ่งยากแบบนี้ทำไมกัน มันเป็นเพราะว่าน้ำตาลรักเส้นผมพวกนี้ของเขามากเขารู้สึกว่ามันพิเศษกับตัวเขาและการที่เขาตัดผมสั้น น้ำตาลก็รู้สึกว่ามันไม่เข้ากับใบหน้าของตัวเองเลยสักนิดเขาก็เลยทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
และมันก็ไม่ได้ติดขัดอะไรในชีวิตของเขาด้วยสำหรับน้ำตาลเขาก็รู้สึกว่ามันสะดวกดี ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างพวกเขาเถอะ
" หนูตาลมานั่งเร็วๆลูก " จินดารีบเรียกลูกชายของเธอให้มานั่งบนโต๊ะอาหารในทันทีเพราะว่าสามีของเธอและลูกชายฝาแฝดคนโตทั้งสองคนของเธอก็ได้มานั่งรออยู่นานแล้ว
" ไม่ต้องรีบหรอกครับ หนูมานั่งตรงนี้ใกล้ๆพี่มา " ทะเลพี่ชายฝาแฝดคนโตรีบเรียกน้องเล็กของเขาให้มานั่งคั่นกลางน้องชายฝาแฝดของเขากับตัวเขาเอง
ขุนเขาฝาแฝดคนน้องก็รู้หน้าที่ทันทีเขารีบดึงเก้าอี้ออกเล็กน้อยเพื่อที่จะให้น้องชายคนเล็กของเขานั่งได้สะดวกมากขึ้น
" กินข้าวเถอะ " สุวิทย์พ่อของน้ำตาลประมุขของบ้านพูดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นทุกคนมาพร้อมแล้ว สุวิทย์ได้แต่ส่ายหัวให้ลูกๆคลั่งรักน้องเล็กทั้งพี่ทั้งน้อง ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นเหมือนกัน
จะพูดง่ายๆว่าก็คือครอบครัวนี้ทั้งดูแลและทะนุถนอมน้ำตาลมากกอไก่ล้านตัว มากจนมากเกินไปแต่ว่าน้ำตาลก็ยังได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและได้ทำเหมือนกับที่เด็กคนอื่นได้ทำเหมือนเดิม
เพราะครอบครัวของน้ำตาลไม่อยากที่จะบังคับเกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตของน้ำตาล พวกเขาก็เลยได้แต่หลับหูหลับตาข้างนึงบ้าง เมื่อเห็นว่าน้ำตาลมีเพื่อนที่เกเรหรือว่าเล่นอะไรพิเรนทร์ต่างๆในทุกๆวัน
กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน พร้อมกับคุยกันอย่างเป็นกันเองเพราะครอบครัวของน้ำตาลอยู่กันแบบวิถีชีวิตของคนทั่วไปไม่ได้เคร่งครัดมารยาทอะไรมากนัก
คนอื่นอาจจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้มีความคิดแบบนี้จะต้องเท้าความมาก่อนว่าครอบครัวของน้ำตาลหรือ ตระกูลศิริเกืองวงศ์ ร่ำรวยอย่างมากและเป็นตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
แต่ชีวิตครอบครัวของน้ำตาลกับใช้ชีวิตธรรมดามาก เหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้มีเงินทองหรืออะไรเลยแม้แต่น้อยเพราะบ้านของพวกเขาก็ยังใช้รถที่ราคาในท้องตลาดหรือชนชั้นกลางสามารถซื้อได้
แล้วบ้านของพวกเขาก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แถมยังไม่มีคนรับใช้แม้แต่คนเดียว เป็นแม่ของน้ำตาลที่ทำอาหารและงานบ้านเองทั้งหมดทุกอย่าง
และบางทีทุกคนก็ช่วยกันทำอาหารและงานบ้านช่วยกัน เพื่อที่จะได้ให้จินดาสบายมากขึ้น ใครที่ว่าการทำงานบ้านและอาหารมันไม่หนักกันมันหนักมากต่างหากล่ะ ทุกคนในบ้านก็เลยช่วยทำงานบ้านคุณแม่มาตลอด
ความคิดเห็น