ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แผนการ กับ นิทานยามราตรี
เมื่อร่างบางวิ่งออกไปแล้ว ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก ใจนึงก็อยากจะตามไป แต่อีกใจก็บังคับไม่ให้ตาม เพราะสิ่งที่เธอทำนั้นเกินกว่าจะให้อภัย.......
ร่างสูงนั่งลงบนเตียงและทิ้งตัวลงนอน เค้าหลับตา เอามือก่ายหน้าผาก ประโยคสุดท้ายของหญิงสาวยังก้องในหัว.........และเค้าก็รู้สึกว่าปลายเตียงมันยุบไป
"นายนี่มันโค-ตรชั่วว่ะ"คิลพูดส่งสายตาตำหนิมาให้เจ้าเพื่อนซี้ ที่มองมายังเค้าด้วยสายตาเหนื่อยล้า
"แกนี่มันเลวอย่างที่ไอ้เฟรันมันบอกเลยว่ะ"เสียงของครี้ดพูด คาโลลุกขึ้น มองเพื่อนๆที่บัดนี้มาอยู่ในห้องเค้าอย่างถือสิทธิ์ และต้องเลิกคิ้วเมื่อเห็น พี่โรเวน พี่ลูคัส พี่ลอเรนซ์ มารวมอยู่ด้วย
"เสียงพวกนายมันดังจนฉันนอนไม่หลับ"ลอเรนซ์พูดอย่างอารมย์เสีย(ซึ่งเฮียแกก็เป็นอยู่ทุกวัน)
"ขอโทษครับ"คาโลพูดเสียงเหนื่อยอ่อน
"ช่างเหอะคาลี่ โรวี่ ฉันและลอรี่(เฟี้ยว~ฉึก)ไม่ถือสามากมาย"เสียงจากซาตานอารมณ์ดีแห่งป้อมอัศวินกล่าวพลางหลบมีดบินของลอรี่ เอ้ย! ลอเรนซ์
"นายพูดอย่างนั้นมันแรงเกินไปน่ะ"แจ็คพูด มองไปที่คาโลอย่างเห็นใจปนตำหนิ
"นายยังไม่รู้หมดเลยก็ด่ามันซะแล้ว เฮ้อ~ เนี่ยละน้าคนเรา"โซโลบ่น
"รู้ไม่หมด?"คาโลฉงน มองไปที่คิลที่อยู่ดีๆก็กำมือแน่นทันที
"อย่าถามฉัน ไม่งั้นฉันติดคุก ขอหาฆ่าคนตายในเอดินเบริก์"คิลบอก พยายามระงับอารมย์ตัวเอง แววตาวาวโรจน์จนน่ากลัว จนเรนอนต้องเดินมาบีบหัวไหล่คิลเบาๆเพื่อให้สงบสติ
"คือ เรื่องมันเป็นอย่างนี้.........."โรเริ่มเล่าเรื่องให้คาโลและพวกรุ่นพี่ที่ยังไม่รู้สาเหตุของการทะเลาะครั้งใหญ่ของทั้งสองฟัง "เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ"
เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมด โรเวนและคู่หูตัว L ก็หน้าเครียดทันที ส่วนคาโลตอนนี้ปล่อยไอเย็นอย่างไม่เกรงใจใครแล้ว
"นีมันกล้าทำอย่างนั้น"คาโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็ยเหยียบ
"เรื่องนี้มันเกินไปแล้ว"ลอเรนซ์พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อย่างมาก ที่รุ่นน้องโดนขนาดนี้ ในมือก็ควงมือไปมาพร้อมปาได้ทุกเมื่อ
"เจ้านั่นหน้าตาเป็นยังไงคิล"โรถาม
"ตาสีเทาๆ คิ้วโก่งๆ จมูกโด่ง ผิวคล้ำๆ ตัวพอๆกับพี่ลอเรนซ์ แล้ว...โอ้ย! ไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วโว้ย รู้อย่างเดียวว่ามันหล่อเท่านั้นแหละ"คิลตอบ
"อ้อ แล้วก้ออยู่ปาสาทขูนนางคับ"ฟลอนเพิ่ม นั่งเล่นอยู่บนตักคาโล
"อืม........"โรใช้ความคิดอยู่สักครู่"เจ้านั่น คือ ฟาโรห์ ดาโวเรีย เดอะ เมจิคเชี่ยน ออฟ เอเธนส์"
"เจ้านี่นี่เอง!!"โคลว์กับครี้ดโผ่งออกมาพร้อมกัน
"ทำไมเหรอ?"มาทิลด้าถาม
"ก็เจ้านี่น่ะ ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้น่ะซี๊"ครี้ดบอก
"และยังเรื่องด้านคารมน่ะ ที่หนึ่งเล้ย มันน่ะคบแล้วหวังฟันเท่านั้นแหละ"โคลว์บอก
"ตานี่มันชั่วที่สุด"แองจี้พูดอย่างมีน้ำโห
"มันน่านัก ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!!!"คิลตะโกนยืนขึ้น มือกำแน่น ไอสังหารพวยพุ่งอย่างน่าตกใจ
"ฉันก็ไม่ไหวแล้ว มันต้องตายวันนี้แหละ!!!!"แองจี้ตะโกน คาฑาในมือส่องแสงวิบวับ มือกำคฑาแน่นจนขึ้นข้อเขียว ไอแห่งความโกรธพุ่งออกมา ดวงตาแวววาวอย่างน่าหวาดเสียว
ทั้งสองมองหน้ากันและพยักหน้า ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้อง
"เฮ้ย!! จับมันไว้ก่อน เดี๋ยวมันเผลอฆ่าคนในเอดินเบิรก์"โรเวนร้อง ทุกคนรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อไปตามทั้งสอง
++++++++++++++++
"ปล่อยฉัน!!!"คิลร้องพยายาม ให้หลุดจากการเกาะกุมของเพื่อนๆ
"มาทิลด้า ปล่อย!!! มันไม่ตายวันนี้ไม่ได้แล้ว"แองจี้กล่าว พยายามยามสบัดเพื่อนๆออก
"พวกนายฆ่ามันแล้วได้อะไรเล่า"ลูคัสว่า พลางกดคิลให้ติดพื้น
"ตอนนี้พวกเราฆ่ามันก็ไม่มีประโยชน์หรอกน่ะ"โรเอ่ยเสียงเรียบผิดปกติ เค้านั่งดูพวกเพื่อนๆก็รุ่นพี่จับคิลและแองจี้แน่น
"ตอนนี้ แทนที่พวกนายจะมานั่งฆ่ามัน นายน่าจะให้คาโลกับเฟรินดีกันสิ"โรเอ่ย เตือนสติ
"แต่ว่ามันทำร้ายเฟริน!!"แองจี้ตะโกน
"ฉันรู้ แต่ว่าไม่ใช่แค่พวกนายหรอกน่ะที่ห่วงเฟรินขนาดนี้ พวกเราทุกคนนั่นแหละที่ห่วงเฟริน"ทั้งสองหยุดดิ้น และมองไปที่โร
"ตอนนี้พวกเราทุกคนก็โมโหที่มันทำกับเฟรินแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมันที่จะไปเฝ้ายมบาล อันนี้เอาไว้ทีหลังก่อน ก่อนอื่นคือทำให้คาโลและเฟรินคืนดีกันซะ"
"แล้วจะทำยังไงล่ะ"เอ็ดเวิดร์ถาม
โรยิ้มก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนมาใกล้ ทุกคนรีบเขยิบเข้าไปใกล้ๆอย่างสนใจรวมทั้งพวกโรเวนด้วย
"เข้าใจแล้ว"คิลร้อง ยิ้มกว้าง แววตาระริก เมื่อฟังแผนของโรจบ
"น่าสนุกน่ะครับ"ซีบิลพูดอย่างชอบใจ
"แต่ว่าใครเห็นฟลอนบ้าง?"มาทิลด้าถามขึ้น ทุกคนมองหาฟลอน
"เดี๋ยวฉันไปตามเอง"คาโลอาสา"แต่นายแน่ใจน่ะว่าได้ผล?"คาโลหันไปถามคนวางแผน โรยิ้มมาให้แทนคำตอบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
"ฮือ ฮือ ไอ้คาโลบ้า ฮึก ฮือ"เสียงหวาน สะอื้นอยู่ใต้ต้นไม้หน้าป้อม พลางใช้กำปั้นทุบดินอย่างเอาเป็นเอาตาย ปากก็ด่าว่าคนที่เธอพึ่งจากมาเมื่อกี้
"แม่คับ"เสียงใสไดงขึ้นด้านหลัง เฟรินหันไปมอง
"ฟลอน"เฟรินสูดน้ำมูกรีบเช็ดน้ำตาออก
"แม่ร้องห้าย?"ฟลอนรีบเข้าไปดูเฟริน เฟรินยิ้มและส่ายหน้า
"เปล่า แล้วฟลอนมาทำอะไรที่นี่หล่ะ"เฟรินถาม ฟลอนนั่งลงบนตักเธอทันที
"มาตามแม่ปายนอน"ฟลอนตอบ
"เอ่อ พี่....เอ้า! แม่ก็แม่!"เฟรินกล่าว บอกเด็กตรงหน้าตั้งกี่หนต่อกี่หนแล้วว่าให้เรียกพี่ แต่ยังไงก็ยังเรียกแม่อยู่ดี
"หาววววว -O-"ฟลอนหาวออกมา พลางเอามือขยี้ตา ภาพนี้ช่างน่ารักจนเฟรินต้องอมยิ้ม
"ง่วงแล้วน่ะสิเรา"เฟรินพูด ฟลอนรีบส่ายหน้าปฎิเสธทันที แต่เฟรินหัวเราะ "ง่วงก็บอกมาเถอะ จะได้ไปนอนกันไง"
"ง่วงก็ง่วงคับ"ฟลอนยอมรับ"แต่แม่ล่าวนิทานห้ายฟางหน่อนสิคับ"
"นิทานเหรอ อืม..........."เฟรินคิดและคำพุดหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัว".....อาทิตย์ไม่เคยดับในแดนน้ำแข็ง...."เฟรินพึมพำ แต่ฟลอนก็ได้ยิน
"อาวเรื่องนี้แหละคับ"ฟลอนพูด"อาทิตย์ไม่เคยดับ"ฟลอนพูดต่ออย่างสนใจ
"ก็ได้....เคยมีคนๆนึง เล่าให้แม่ฟัง(หมดแล้วศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตู TTOTT)ว่า...."
"คนๆนั้นเปงคนที่แม่รักช่ายมั้ยคับ"ฟลอนถาม
เฟรินนิ่งเงียบไปสักครู่ ก่อนจะเอ่ย พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน"ใช่จ้ะ คนๆนั้นเป็นคนที่แม่รัก...รักมาก...รักที่สุดเลยด้วยหล่ะ"ฟลอนยิ้ม และเงียบเพื่อให้เฟรินเล่าต่อ
"เคยมีคนๆนึงเล่าให้แม่ฟัง...ถึงอาทิตย์ไม่เคยดับในดินแดนแห่งน้ำแข็ง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ยังมีดอกเกล็ดหิมะบานอย่างสวยงาม มีเพียงคนที่อดทน ซื่อสัตย์ในรักเท่านั้นที่คู่ควรแก่มัน...ดอกเกล็อดหิมะ คือความรักอันมั่นคง เข้มแข็ง และซื่อตรง การที่มันยังคงขึ้นได้ท่ามกลางความเย็น เพราะว่ามัน มีความอดทน และมั่นคงในรักกับดวงอาทิตย์ มันพยายามเบ่งบาน เพื่อชูช่องดงามคู่กับดวงอาทิตย์...."
(แหะๆ ท่านผู้อ่านขา ขอเพิ่มเติมเองน่ะค่ะ ไม่รู้จะเอานิทานเรื่องไหน เลยเอาเรื่องนี้และค่ะ ม่เพิ่มเติมมาเองด้วย ขอโทษจิงๆน่ะค่ะ -/l\-)
"ฟี้~ ฟี้~ "เสียงกรนเบาๆดังขึ้นจากอ้อมแขนของเฟริน ทำให้เธอรู้ว่าเด็กน้อยหลับไปแล้ว
เฟรินยิ้ม ก่อนลุกขึ้นและกระชับอ้อมแขนให้ฟลอนนอนได้อย่างถนัด และเดินเข้าป้อมไป โดยไม่ได้สังเกตุร่างสูงที่เธอเดินเลยผ่านไป
ร่างสูงยืนท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน ผมสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์ ยามค่ำคืน ใบหน้ารูปสลักก้มมองพื้น เรียวปากเผยยิ้มอย่างอ่อนโยน นัยเนตรสีฟ้ามาน้ำตาเอ่อล้น เค้ารีบป้ายมันออก ก่อนจะรีบเดินกลับป้อมไป คำพูดของหญิงสาวยังก้องกระทบโสตประสาททุกส่วน
"ใช่จ้ะ คนๆนั้นเป็นคนที่แม่รัก...รักมาก...รักมากที่สุดเลยด้วยหล่ะ"......
ร่างสูงนั่งลงบนเตียงและทิ้งตัวลงนอน เค้าหลับตา เอามือก่ายหน้าผาก ประโยคสุดท้ายของหญิงสาวยังก้องในหัว.........และเค้าก็รู้สึกว่าปลายเตียงมันยุบไป
"นายนี่มันโค-ตรชั่วว่ะ"คิลพูดส่งสายตาตำหนิมาให้เจ้าเพื่อนซี้ ที่มองมายังเค้าด้วยสายตาเหนื่อยล้า
"แกนี่มันเลวอย่างที่ไอ้เฟรันมันบอกเลยว่ะ"เสียงของครี้ดพูด คาโลลุกขึ้น มองเพื่อนๆที่บัดนี้มาอยู่ในห้องเค้าอย่างถือสิทธิ์ และต้องเลิกคิ้วเมื่อเห็น พี่โรเวน พี่ลูคัส พี่ลอเรนซ์ มารวมอยู่ด้วย
"เสียงพวกนายมันดังจนฉันนอนไม่หลับ"ลอเรนซ์พูดอย่างอารมย์เสีย(ซึ่งเฮียแกก็เป็นอยู่ทุกวัน)
"ขอโทษครับ"คาโลพูดเสียงเหนื่อยอ่อน
"ช่างเหอะคาลี่ โรวี่ ฉันและลอรี่(เฟี้ยว~ฉึก)ไม่ถือสามากมาย"เสียงจากซาตานอารมณ์ดีแห่งป้อมอัศวินกล่าวพลางหลบมีดบินของลอรี่ เอ้ย! ลอเรนซ์
"นายพูดอย่างนั้นมันแรงเกินไปน่ะ"แจ็คพูด มองไปที่คาโลอย่างเห็นใจปนตำหนิ
"นายยังไม่รู้หมดเลยก็ด่ามันซะแล้ว เฮ้อ~ เนี่ยละน้าคนเรา"โซโลบ่น
"รู้ไม่หมด?"คาโลฉงน มองไปที่คิลที่อยู่ดีๆก็กำมือแน่นทันที
"อย่าถามฉัน ไม่งั้นฉันติดคุก ขอหาฆ่าคนตายในเอดินเบริก์"คิลบอก พยายามระงับอารมย์ตัวเอง แววตาวาวโรจน์จนน่ากลัว จนเรนอนต้องเดินมาบีบหัวไหล่คิลเบาๆเพื่อให้สงบสติ
"คือ เรื่องมันเป็นอย่างนี้.........."โรเริ่มเล่าเรื่องให้คาโลและพวกรุ่นพี่ที่ยังไม่รู้สาเหตุของการทะเลาะครั้งใหญ่ของทั้งสองฟัง "เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ"
เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมด โรเวนและคู่หูตัว L ก็หน้าเครียดทันที ส่วนคาโลตอนนี้ปล่อยไอเย็นอย่างไม่เกรงใจใครแล้ว
"นีมันกล้าทำอย่างนั้น"คาโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็ยเหยียบ
"เรื่องนี้มันเกินไปแล้ว"ลอเรนซ์พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อย่างมาก ที่รุ่นน้องโดนขนาดนี้ ในมือก็ควงมือไปมาพร้อมปาได้ทุกเมื่อ
"เจ้านั่นหน้าตาเป็นยังไงคิล"โรถาม
"ตาสีเทาๆ คิ้วโก่งๆ จมูกโด่ง ผิวคล้ำๆ ตัวพอๆกับพี่ลอเรนซ์ แล้ว...โอ้ย! ไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วโว้ย รู้อย่างเดียวว่ามันหล่อเท่านั้นแหละ"คิลตอบ
"อ้อ แล้วก้ออยู่ปาสาทขูนนางคับ"ฟลอนเพิ่ม นั่งเล่นอยู่บนตักคาโล
"อืม........"โรใช้ความคิดอยู่สักครู่"เจ้านั่น คือ ฟาโรห์ ดาโวเรีย เดอะ เมจิคเชี่ยน ออฟ เอเธนส์"
"เจ้านี่นี่เอง!!"โคลว์กับครี้ดโผ่งออกมาพร้อมกัน
"ทำไมเหรอ?"มาทิลด้าถาม
"ก็เจ้านี่น่ะ ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้น่ะซี๊"ครี้ดบอก
"และยังเรื่องด้านคารมน่ะ ที่หนึ่งเล้ย มันน่ะคบแล้วหวังฟันเท่านั้นแหละ"โคลว์บอก
"ตานี่มันชั่วที่สุด"แองจี้พูดอย่างมีน้ำโห
"มันน่านัก ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!!!"คิลตะโกนยืนขึ้น มือกำแน่น ไอสังหารพวยพุ่งอย่างน่าตกใจ
"ฉันก็ไม่ไหวแล้ว มันต้องตายวันนี้แหละ!!!!"แองจี้ตะโกน คาฑาในมือส่องแสงวิบวับ มือกำคฑาแน่นจนขึ้นข้อเขียว ไอแห่งความโกรธพุ่งออกมา ดวงตาแวววาวอย่างน่าหวาดเสียว
ทั้งสองมองหน้ากันและพยักหน้า ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้อง
"เฮ้ย!! จับมันไว้ก่อน เดี๋ยวมันเผลอฆ่าคนในเอดินเบิรก์"โรเวนร้อง ทุกคนรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อไปตามทั้งสอง
++++++++++++++++
"ปล่อยฉัน!!!"คิลร้องพยายาม ให้หลุดจากการเกาะกุมของเพื่อนๆ
"มาทิลด้า ปล่อย!!! มันไม่ตายวันนี้ไม่ได้แล้ว"แองจี้กล่าว พยายามยามสบัดเพื่อนๆออก
"พวกนายฆ่ามันแล้วได้อะไรเล่า"ลูคัสว่า พลางกดคิลให้ติดพื้น
"ตอนนี้พวกเราฆ่ามันก็ไม่มีประโยชน์หรอกน่ะ"โรเอ่ยเสียงเรียบผิดปกติ เค้านั่งดูพวกเพื่อนๆก็รุ่นพี่จับคิลและแองจี้แน่น
"ตอนนี้ แทนที่พวกนายจะมานั่งฆ่ามัน นายน่าจะให้คาโลกับเฟรินดีกันสิ"โรเอ่ย เตือนสติ
"แต่ว่ามันทำร้ายเฟริน!!"แองจี้ตะโกน
"ฉันรู้ แต่ว่าไม่ใช่แค่พวกนายหรอกน่ะที่ห่วงเฟรินขนาดนี้ พวกเราทุกคนนั่นแหละที่ห่วงเฟริน"ทั้งสองหยุดดิ้น และมองไปที่โร
"ตอนนี้พวกเราทุกคนก็โมโหที่มันทำกับเฟรินแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมันที่จะไปเฝ้ายมบาล อันนี้เอาไว้ทีหลังก่อน ก่อนอื่นคือทำให้คาโลและเฟรินคืนดีกันซะ"
"แล้วจะทำยังไงล่ะ"เอ็ดเวิดร์ถาม
โรยิ้มก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนมาใกล้ ทุกคนรีบเขยิบเข้าไปใกล้ๆอย่างสนใจรวมทั้งพวกโรเวนด้วย
"เข้าใจแล้ว"คิลร้อง ยิ้มกว้าง แววตาระริก เมื่อฟังแผนของโรจบ
"น่าสนุกน่ะครับ"ซีบิลพูดอย่างชอบใจ
"แต่ว่าใครเห็นฟลอนบ้าง?"มาทิลด้าถามขึ้น ทุกคนมองหาฟลอน
"เดี๋ยวฉันไปตามเอง"คาโลอาสา"แต่นายแน่ใจน่ะว่าได้ผล?"คาโลหันไปถามคนวางแผน โรยิ้มมาให้แทนคำตอบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
"ฮือ ฮือ ไอ้คาโลบ้า ฮึก ฮือ"เสียงหวาน สะอื้นอยู่ใต้ต้นไม้หน้าป้อม พลางใช้กำปั้นทุบดินอย่างเอาเป็นเอาตาย ปากก็ด่าว่าคนที่เธอพึ่งจากมาเมื่อกี้
"แม่คับ"เสียงใสไดงขึ้นด้านหลัง เฟรินหันไปมอง
"ฟลอน"เฟรินสูดน้ำมูกรีบเช็ดน้ำตาออก
"แม่ร้องห้าย?"ฟลอนรีบเข้าไปดูเฟริน เฟรินยิ้มและส่ายหน้า
"เปล่า แล้วฟลอนมาทำอะไรที่นี่หล่ะ"เฟรินถาม ฟลอนนั่งลงบนตักเธอทันที
"มาตามแม่ปายนอน"ฟลอนตอบ
"เอ่อ พี่....เอ้า! แม่ก็แม่!"เฟรินกล่าว บอกเด็กตรงหน้าตั้งกี่หนต่อกี่หนแล้วว่าให้เรียกพี่ แต่ยังไงก็ยังเรียกแม่อยู่ดี
"หาววววว -O-"ฟลอนหาวออกมา พลางเอามือขยี้ตา ภาพนี้ช่างน่ารักจนเฟรินต้องอมยิ้ม
"ง่วงแล้วน่ะสิเรา"เฟรินพูด ฟลอนรีบส่ายหน้าปฎิเสธทันที แต่เฟรินหัวเราะ "ง่วงก็บอกมาเถอะ จะได้ไปนอนกันไง"
"ง่วงก็ง่วงคับ"ฟลอนยอมรับ"แต่แม่ล่าวนิทานห้ายฟางหน่อนสิคับ"
"นิทานเหรอ อืม..........."เฟรินคิดและคำพุดหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัว".....อาทิตย์ไม่เคยดับในแดนน้ำแข็ง...."เฟรินพึมพำ แต่ฟลอนก็ได้ยิน
"อาวเรื่องนี้แหละคับ"ฟลอนพูด"อาทิตย์ไม่เคยดับ"ฟลอนพูดต่ออย่างสนใจ
"ก็ได้....เคยมีคนๆนึง เล่าให้แม่ฟัง(หมดแล้วศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตู TTOTT)ว่า...."
"คนๆนั้นเปงคนที่แม่รักช่ายมั้ยคับ"ฟลอนถาม
เฟรินนิ่งเงียบไปสักครู่ ก่อนจะเอ่ย พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน"ใช่จ้ะ คนๆนั้นเป็นคนที่แม่รัก...รักมาก...รักที่สุดเลยด้วยหล่ะ"ฟลอนยิ้ม และเงียบเพื่อให้เฟรินเล่าต่อ
"เคยมีคนๆนึงเล่าให้แม่ฟัง...ถึงอาทิตย์ไม่เคยดับในดินแดนแห่งน้ำแข็ง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ยังมีดอกเกล็ดหิมะบานอย่างสวยงาม มีเพียงคนที่อดทน ซื่อสัตย์ในรักเท่านั้นที่คู่ควรแก่มัน...ดอกเกล็อดหิมะ คือความรักอันมั่นคง เข้มแข็ง และซื่อตรง การที่มันยังคงขึ้นได้ท่ามกลางความเย็น เพราะว่ามัน มีความอดทน และมั่นคงในรักกับดวงอาทิตย์ มันพยายามเบ่งบาน เพื่อชูช่องดงามคู่กับดวงอาทิตย์...."
(แหะๆ ท่านผู้อ่านขา ขอเพิ่มเติมเองน่ะค่ะ ไม่รู้จะเอานิทานเรื่องไหน เลยเอาเรื่องนี้และค่ะ ม่เพิ่มเติมมาเองด้วย ขอโทษจิงๆน่ะค่ะ -/l\-)
"ฟี้~ ฟี้~ "เสียงกรนเบาๆดังขึ้นจากอ้อมแขนของเฟริน ทำให้เธอรู้ว่าเด็กน้อยหลับไปแล้ว
เฟรินยิ้ม ก่อนลุกขึ้นและกระชับอ้อมแขนให้ฟลอนนอนได้อย่างถนัด และเดินเข้าป้อมไป โดยไม่ได้สังเกตุร่างสูงที่เธอเดินเลยผ่านไป
ร่างสูงยืนท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน ผมสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์ ยามค่ำคืน ใบหน้ารูปสลักก้มมองพื้น เรียวปากเผยยิ้มอย่างอ่อนโยน นัยเนตรสีฟ้ามาน้ำตาเอ่อล้น เค้ารีบป้ายมันออก ก่อนจะรีบเดินกลับป้อมไป คำพูดของหญิงสาวยังก้องกระทบโสตประสาททุกส่วน
"ใช่จ้ะ คนๆนั้นเป็นคนที่แม่รัก...รักมาก...รักมากที่สุดเลยด้วยหล่ะ"......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น