คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชามแรก > บทนำ
บทนำ
“ทุกอย่างเรียบร้อยไหมครับคุณจูฮอน?”
“ถูกใจผมมากเลย เงินที่เหลือผมจะโอนให้พรุ่งนี้นะ”
“ได้ครับ งั้นผมขอตัวก่อนพอดีติดไปดูไซต์งานอีกที่ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มโทรบอกผมได้ตลอด ผมจะส่งช่างมาทำให้ฟรีไม่คิดเงิน”
“อย่างั้นเลยพี่ แค่พี่เร่งงานให้ผมขนาดนี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“ไม่เป็นไรครับคนกันเอง ขอให้ขายดีนะครับผมไปล่ะ”
“ขอบคุณครับพี่” ผมเดินออกไปส่งพี่มาทำร้านใหม่ให้ผมที่รถเขาก่อนจะก้มหัวบอกลาเมื่อรถค่อยๆ แล่นออกไป
‘ชายตี๋บะหมี่เกี๊ยว’
ผมหมุนตัวกลับมามองป้ายร้านก๋วยเตี๊ยวสีน้ำตาลเข้มของตัวเองที่เพิ่งติดใหม่เอี่ยมอ่องแล้วยิ้มปริ่มด้วยความชื่นใจว่านี่แหละคือน้ำพักน้ำแรงแรกของผมที่จะตอบแทนครอบครัว แต่รอยยิ้มวันนี้มันมาพร้อมกับความรับผิดชอบใหญ่หลวงในการสืบทอดกิจการของอากงต่อไปให้ได้
“อาตี๋อ่าาา”
“จ๋าม่า” ต้องรีบขานรับอาม่าทันทีพร้อมเดินเข้าไปหาแกที่แคร่นั่งหลังร้าน “ม่าเอาอะไรจ๊ะ?”
“ม่าฝันเห็นอากงอีกแล้ว” อาม่าจับมือผมแน่น น้ำตาจะไหลเลยว่ะพูดอย่างไม่อาย
“อากงไปสบายแล้วม่าอย่าห่วงเลย ผมว่าม่านอนต่อดีกว่าเย็นๆป๊ากับม๊ามาเราค่อยออกไปหาของอร่อยกินกันนะจ๊ะ”
“เอางั้นหรอตี๋”
“จ่ะ” ผมพยักหน้ายิ้มมองอาม่าล้มตัวนอนบนแคร่อีกครั้ง ยังคงนั่งตรงนั้นต่ออีกพักนึงรอจนกว่าอาม่าจะหลับผมถึงลุกเอาเก้าอี้มานั่งนึกอะไรเรื่อยเปื่อยหน้าร้าน
อาม่าแกอายุมากแล้วเกินครึ่งชีวิตแกแต่งงานอยู่กินกับอากงมาตลอด แต่ไม่นานมานี้อากงเพิ่งเสียจิตใจอาม่าเลยย่ำแย่ช่วงแรกเพ้อถึงอากงทุกวันจนทุกคนในบ้านเป็นห่วง ป๊าถึงขนาดจะจ้างพยาบาลมาดูแลแต่ผมว่าไม่มีใครดูแลดีเท่าคนในครอบครัวด้วยกันหรอก เลยอาสาป๊าม๊ารับผิดชอบทั้งเรื่องดูแลอาม่าแล้วก็เรื่องร้านบะหมี่เกี๊ยวของอากงที่ถูกเรียกเวียนคืนที่ดินไปทำรถไฟสีรุ่งอะไรนั่นอีก
ยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้อยากมาขายบะหมี่เกี๊ยว ผมก็เหมือนเด็กจบใหม่ไฟแรงทั่วไปอยากหางานทำตามสายที่ตัวเองเรียนมา ทั้งๆที่ป๊ากับม๊ามีธุรกิจโรงงานผลิตแป้งแล้วก็ทำเส้นบะหมี่ส่งออกแต่ลูกหัวแข็งอย่างผมก็ไม่ยอมเข้าไปสานต่อโรงงานของพ่อแม่ไม่อยากให้ใครตราหน้าว่าเป็นเด็กเส้น ด้วยความทนงตัวอยากยืนบนลำแข้งตัวเองเลยต้องเดินเตะฝุ่นอยู่ปีกว่า รองเท้าผ้าใบสึกไปไม่รู้กี่คู่งานก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ยังคงเกาะพ่อแม่กินอยู่อย่างนั้น กระทั่งอากงมาเสียนั่นแหละผมถึงได้ตาสว่าง
‘ตี๋เอ้ยกงฝากอาม่ากับร้านเกี๊ยวด้วยนะ ร้านนั้นกงใช้เลี้ยงป๊าเอ็งมาตั้งแต่เล็กยันมาเลี้ยงเอ็งจนโตเป็นหนุ่ม อย่าทิ้งนะ ตี๋อย่าทิ้งร้าน’
คำสั่งเสียสุดท้ายของอากงเป็นแรงผลักดันให้ผมมีแรงลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ป๊ากับม๊าเห็นแล้วยังตกใจ เงินเก็บในบัญชีทั้งหมดถูกถอนออกมาแล้วหาทำเลดีๆใกล้มหาลัยแห่งหนึ่งลงทุนตั้งร้านใหม่ตกแต่งร้านเอง และใช้ชื่อตี๋ที่อากงชอบเรียกผมตั้งแต่เด็กๆมาเป็นชื่อร้านด้วย เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ผมต้องมารับผิดชอบเรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเด็กไม่เอาไหนอย่างผมก็ได้จริงไหม?
โอโห เล่ามาถึงตรงนี้ชีวิตผมโคตรจะดราม่าอย่างกับวันเฉลิมลูกแม่ลำยองเลยว่ะ
อย่าลืมเตรียมทิชชูไว้ด้วยนะครับทุกคน
“ตี๋อ้วนหลบ”
มาละมึง ไอ้ตัวป่วนให้ชีวิตผมดราม่ากว่าเดิมหิ้วจักรยานสามล้อเตาะแตะมาละ เดินหน้าง่วงมาเลยเพิ่งตื่นจากนอนกลางวันล่ะสิ ตื่นมาก็คว้าของเล่นทันทีเห็นขาผมขวางทางก็โวยวายแล้วดูมันเรียกซะก่อน
“เรียกกู๋ดีๆก่อน”
“ตี๋อ้วนหลบเอ็มก่อน ไอเอ็มจะออกไปขี่ยาน” ไอ้ตัวเล็กอายุแค่สี่ขวบพูดไม่ชัด ขี่จักรยานก็เป็นขี่ยานกลายเป็นนักบินอวกาศไปอีก
“เรียกอากู๋จูฮอนสุดหล่อแล้วจะให้ออกไปเล่น”
“ป๋าก็เรียกกู๋ว่าตี๋อ้วน ไมเอ็มจะเรียกไม่ได้”
นั่น! พ่อมันสอนมาดีจนน่าเสยกะบาลสักที
ป๋ามันก็พี่ชายผมเนี่ยแหละตอนนี้มันเข้ากรมเพราะหมดโคต้าจะผ่อนผันทหารแล้ว ส่วนแม่ไอเอ็มก็กลับไปเรียนมหาลัยให้จบเพราะท้องไอ้หลานหัวแก้วหัวแหวนของผมซะก่อนถึงดร็อปเรียนรอไอเอ็มเข้าอนุบาลพอจะมีเวลาไปเรียนต่อได้ ก็พี่ผมอ่ะนะเสือกทำน้องเขาท้องเลยต้องมาลำบากแบบนี้ ดีเท่าไหร่ที่สองคนนั้นรักกันไม่งั้นป่านนี้ไอ้ตัวเปี๊ยกได้ถูกทิ้งไว้ในสถานเด็กกำพร้าที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะ ตั้งแต่มีไอ้ตัวเล็กบ้านเราก็ดูมีสีสันขึ้นมาเยอะแต่มันจะไม่ดีตรงที่ผมต้องซวยมาสู้รบปรบมือเลี้ยงไอ้หลานจอมมึนช่วงปิดเทอมตอนพี่ชายกับพี่สะใภ้ไม่ว่างนี่สิ
“ขอเก็บค่าผ่านทาง” ผมก้มลงให้หน้าอยู่ระดับเดียวกับความสูงของไอเอ็มแล้วพองแก้มตุ่ย เจ้าหลานจอมฉลาดมันก็รู้งานเอาปากมาจุ๊บแก้มผมจนรู้สึกหมั่นเขี้ยวอุ้มไอเอ็มขึ้นมาฟัดพุงไปหลายที เจ้าตัวเล็กก็เสียงส่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากให้ลั่น
ไอ้เปี๊ยกมันน่ารักเหมือนใครวะเนี่ย งั่มๆ
“ฮ่าๆๆ กู๋ปล่อยเอ็ม เอ็มจะขี่ยาน”
“จะไปก็ไป อย่าขี่ออกถนนระวังรถเลี้ยวเข้าซอยด้วย เค๊?”
“เคครับ”
ผมวางตัวเล็กลงบนพื้นแล้วไอเอ็มก็เอากำปั้นเล็กมาชนกับกำปั้นผมที่ยื่นไปรอตรงหน้าแทนการรับปาก เดินกระเตงสามล้อคู่ใจไปแว๊นในซอยหน้าร้าน โชคดีอยู่อย่างที่ไอ้เปี๊ยกเป็นเด็กผู้ชายการเลี้ยงดูหลานมันเลยไม่ยุ่งยากมากสำหรับผม อย่างว่านะผมโตมาสองคนพี่น้องก็ผู้ชายทั้งคู่นิสัยทื่อๆเถื่อนๆตามประสาชายหนุ่ม พอมีหลานชายผมเลยคิดว่าคงไม่ต้องถะนุถนอมมาก(ป่ะวะ?) แมนๆคุยกัน
“ไม่รู้จะกินไรเหมือนกัน ไม่ค่อยมีร้านเปิดด้วย เสาร์อาทิตย์ก็งี้แหละ”
กำลังจะลุกยกเก้าอี้เข้าไปเก็บในร้านเสียงสดใสของใครคนหนึ่งเดินคุยโทรศัพท์ผ่านหน้าร้านจนต้องเหลียวหลังกลับมามอง
แม่เจ้า!
ผู้ชายที่ไหนยิ้มหวานขนาดนี้ คนหรือบาร์บี้ครับเนี่ย O__O
น้องคนนั้นวางโทรศัพท์ไปแล้ว เขาหมุนตัวซ้ายขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่างตรงหน้าร้านผมพอดี เอาไงละทีนี้? น่ารักจนอยากเสนอหน้าไปคุยด้วยจนตัวสั่น ผมเกาหัวทำใจอยู่แป๊ปนึงก็คิดว่าเป็นไงเป็นกันนานๆจะเจอคนที่ถูกใจปล่อยผ่านไปคงเสียด้ายแย่ ก่อนอื่นขอปลุกของก่อน
โอมมม คาถากุกุกาก้าจงสำแดงฤทธิ์เดชช่วยพ่อให้เด็กรักเด็กหลง ณ บัดนี้
เพี้ยง!!!!
“โทษนะครับ หาอะไรอยู่หรอ?” เก๊กเสียงหล่อจนแสบคอไปหมดล่ะกู
“เอ่อ... ผมกำลังมองว่ามีร้านข้าวร้านไหนเปิดบ้างน่ะครับ”
วิ่งไปลวกเส้นบะหมี่ให้น้องเขากินเดี๋ยวนี้ทันไหม!
“น่าเสียดายจังครับ วันนี้ร้านพี่ยังไม่เปิดไม่งั้นจะให้น้องชิมบะหมี่เกี๊ยวคนแรกเลย”
“พี่เพิ่งมาเปิดร้านใหม่หรอครับ?”
“ครับ พรุ่งนี้เปิดร้านวันแรกอย่าลืมอุดหนุนด้วยนะ” การตลาดแน่นมาก โฆษณาแอบแฝงตลอดเลยกูนี่
“ได้เลยครับ ผมคงได้มาฝากท้องกับพี่บ่อยแน่ๆ เพราะหอผมอยู่ตรงข้ามนี่เอง”
โถ่ เอ็นดูจังครับ น้องเขาจะฝากท้องกับผม ถึงไม่ใช่หมอสู(ตินารี)แต่ยอมให้น้องเขาฝากท้องก็ได้ หรือจะให้ผมทำเขาท้องก็ยังได้ แอร๊ยยยย ตาลอยแล้วจ้า =.,=
ไม่ทะลึ่งดิวะจู!
“ต่อไปเราคงได้เจอกันบ่อยเลยนะครับ” ผมยิ้มหวานเยิ้ม ด้วยตาที่ไม่มีเหล่าเต๊งอยู่แล้วฉีกยิ้มทีเป็นสระอิเลยทีเดียว ไม่อยากจะโม้นี่แหละเสน่ห์ของผม(มั่นหน้ามากๆ) “น้องชื่อ....”
“ตี๋อ้วนคุยกับใครอ่อ?”
มารผจญจนได้! โผล่มาทำไมตอนนี้วะไอ้เอ็มกู๋ยังไม่ได้ถามชื่อเขาเลย คำที่เรียกติดปากไอ้หลานสุดที่รักมันช่างไม่ให้เกียรติความมั่นหน้าของอามันบ้างเลยแม่งเง้ยยยย
“ไปเล่นตรงนู้นไปเอ็ม ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน” ไล่ครับไล่ กัดฟันไล่หลานตัวเองลงคอเลยงานนี้ เพราะไอ้นี้อยู่มีหวังแผนผมล่มไม่เป็นท่าแหงๆ
“พี่คนนี้น่ารักจัง”
เอาแล้วไงหลานกู้วววว T T
“ช่างพูดจังนะครับตัวแค่เนี่ย” น้องยิ้มหวานขยี้หัวไอเอ็มเขินๆเมื่อโดนชมต่อหน้า
รักเด็กด้วยอ่ะทำไมดูดีไปหมด ฮื่อออ ใจเต้นเป็นจังหวะสามช่า
“ไอเอ็มครับ ผมชื่อไอเอ็ม”
“ชื่อเท่นะเนี่ย”
“พี่ชื่อไรอ่อ?”
บ๊ะ! ขอถอนคำพูดว่าไอเอ็มจะทำแผนพัง หลานกู๋ประเสริญอะไรเช่นนี้น้อออออ
“พี่กีฮยอนครับ”
น้องกีฮยอนนนนน ชื่อคล้องจองกันเลย จูฮอนกีฮยอน กีฮยอนจูฮอน มันใช่เอ่าะ
ชงขนาดนี้รออะไรอยู่ปรบมือสิครับ เร็ววววว
ติ๊ด!
“เพื่อนพี่ตามตัวแล้ว พี่ไปก่อนนะ” น้องกีฮยอนยกหน้าจอมือถือขึ้นมาดูหลังมีเสียงเตือนข้อความเข้ามา แล้วก็หันมาบอกลาไอเอ็มพร้อมกับหยิกแก้มยุ้ยๆของไอ้เปี๊ยกไปที “ผมไปนะครับ พรุ่งนี้จะมาอุดหนุน”
น้องหันมาพูดกับผม รอยยิ้มเจ้านั้นช่างตราตรึงใจพี่นัก!
“ครับ พี่จะรอนะ” นี่แน่ะ! ผูกมัดซะเลย ไม่มาก็ต้องมาอ่ะพี่อ่อยขนาดนี้แล้ว น้องกีฮยอนก็ยังเก็บอาการได้ดีเขาแค่ยิ้มๆแล้วก้มหัวให้ก่อนจะเอ่ยคำลาสุดท้าย
“แล้วเจอกันครับ ลูกพี่น่ารักมากเลยนะครับ”
เฮือกกกกกกก
ลูก? ไอ้เอ็มอ่ะนะลูกพี่?
ม่ายยยยยยยย T T
น้องกีเขาใจพี่ผิดแล้วครับ ไอ้เปี๊ยกไม่ใช่ลูกพี่ นี่หลานครับหลานพ่อมันอยู่ในกรมโน้น แล้วไง? คร่ำครวญแล้วได้อะไรน้องเขาเดินไปถึงไหนแล้ว
ไหนล่ะ หนุ่มหล่อโสดใสไร้สิวที่อยากพรีเซนต์ให้น้องเขาเห็น ไม่เหลือแล้วภาพพจน์ เครดิตจูฮอนยับเยิบหมดคราวนี้
ฮื่ออออ ออมม่าาาจูฮอนจะฟ้องออมม่าาาา T T
#ยาใจพี่เกี๊ยว
อันยองงงงงงงงงง
สวัสดีจ้าแม่ยกจูกีทั้งหลายเหล่านี้
ฝากฟิคจูกีเรื่องแรกด้วยน้า อ่านเอาบันเทิงเนาะอย่าจริงจัง
อาจจะมีคำหยาบบ้างให้ได้ฟิวโปรดให้อภัยเราด้วย
เรายังใหม่อยู่มากมีไรบอกกล่าวได้เลย
ถึงพูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไรจะหาให้เธออออ
พอ!
ความคิดเห็น