ตอนที่ 24 : JK DAY |RAIN|
JUNGKOOK BIRTHDAY
OS
KOOKMIN
RAIN
ฝนตก...อีกแล้ว
คนตัวเล็กยืนมองท้องฟ้ามืดครึ้มที่มาพร้อมกับฝน เขายืนอยู่ที่ระเบียงห้องพร้อมกับแก้วกาแฟอุ่นๆในมือ ใช้มันเพื่อคลายความหนาวเย็นที่เกาะกุมอยู่ที่ฝ่ามือ ไม่รู้ว่ากี่นาทีแล้วที่ยืนมองสายฝนโปรยปรายลงจากท้องฟ้าอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่อากาศก็เย็นขนาดนี้ ...แต่เขากลับไม่มีความคิดที่จะเดินกลับเข้าห้องแล้วซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนาๆอย่างที่คนส่วนมากเขาทำกัน
เขาไม่รู้ว่าคนอื่นจะมีความรู้สึกแบบไหนเวลาที่ฝนตก
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงเวลาที่หยดน้ำตกกระทบกับฝ่ามือที่ยื่นออกไปรองรับ
อาจจะชอบหรือไม่ชอบ หงุดหงิดที่พื้นชื้นแฉะ อารมณ์เสียที่ทำให้การเดินทางล่าช้า หรืออาจจะเศร้าจนน้ำตาไหลเพราะมีความหลังฝังใจกับฝน
แต่สำหรับเขานั้น...ไม่ใช่ทั้งหมดที่กล่าวมา
เพราะสำหรับเขาแล้ว ฝน คือความ ‘อบอุ่น’
อบอุ่นเหมือนใครคนนั้น
คนที่เคยกอดเขาจนจมอกในวันที่ฝนตก
จีมินหัวเราะออกมาเบาๆในตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดถึงเรื่องราวเก่าๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้าย แล้วก้าวเท้าเข้ามหาลัย จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี และทำงานกินเงินเดือนอย่างทุกวันนี้
ฝน ทำให้เขานึกถึงคนๆนั้น แฟนเก่าที่เลิกรากันไป...นานเท่าไหร่แล้วนะ
เจ็ด...หรือแปดปี
อืม ถ้านับดูดีๆแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงจะเข้าปีที่แปดพอดี
จะว่าตลกร้ายมั้ย ก็อาจจะใช่...เพราะเขาน่ะ คิดถึงคนๆนั้นอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ จะมากหน่อยก็คงเป็นตอนที่ฝนกำลังตก อย่างตอนนี้ไง
ไม่ใช่ว่าเจ็บปวดกับมันจนจำฝังใจ แต่เพราะมันเป็นรักดีๆที่จบจากความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายต่างหาก ไม่ได้เจ็บจนจำ แต่มีความสุขจนมันแน่นอยู่ในอกต่างหาก
จีมินส่ายหัวให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ผละจากริมระเบียงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของฝนแล้วเดินกลับเข้าห้อง วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงานแล้วหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ โยนความคิดถึงก่อนหน้าไปไว้อีกทางก่อนจะลงมือทำงานที่ค้างอยู่
ที่บอกว่าโยนไปไว้อีกทางน่ะ เพราะเขาไม่มีทางที่จะโยนมันทิ้งไปยังไงล่ะ
คุณพนักงานคนเก่งแตะคีย์การ์ดลงบนเครื่องสแกน วันนี้เขามาถึงที่ทำงานเร็วกว่าทุกวัน อาจจะเพราะเจ้าแมวตัวป่วนที่เลี้ยงไว้กระโดดขึ้นมาปลุกกันถึงที่นอน หรืออาจจะเพราะความฝันที่ทำเอาเขานอนต่อไม่ลง ได้แต่ยิ้มกับตัวเองแล้วคิดซ้ำไปซ้ำมา
ว่าถ้าคนในฝันโผล่มาตรงหน้าได้ก็คงจะดี
แต่เพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้น เลยทำได้แค่เก็บมันไว้แล้วมีความสุขกับมันเวลานึกถึง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่จีมิน”
“อรุณสวัสดิ์ครับ อย่าลืมทานข้าวเช้ากันด้วยนะเด็กๆ”
เสียงเอ่ยทักจากเด็กสาวที่นั่งประจำอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทำให้เขาต้องหันไปส่งยิ้มให้ เอ่ยเตือนเรื่องทานข้าวแล้วเดินจากมา ยืนมือไปกดลิฟต์แล้วยืนรอ ใช้เวลาไม่นานเจ้าลิฟต์โดยสารตัวเก่งที่ใช้ขึ้นลงทุกวันก็พาเขามาถึงชั้น 27
ตลอดทางได้รับคำทักทายจากพนักงานที่มาทำงานตั้งแต่เช้าอยู่สองสามคน กระเป๋าเอกสารถูกวางลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าห้องที่ติดป้ายไว้ว่า CEO เดิมทีจีมินไม่ได้ทำงานอยู่ตำแหน่งนี้ แต่จำเป็นต้องโยกย้ายมาเพราะเลขาคนเก่งพ่วงตำแหน่งภรรยาของท่านประธานน่ะกำลังจะมีเจ้าตัวน้อยให้ได้เชยชมกัน เขาที่รู้ใจท่านประธานยิ่งกว่าใครเพราะเป็นสายรหัสกันมาก่อนเลยต้องโยกย้ายตัวเองมาทำงานตรงนี้ชั่วคราวเพราะคำสั่งเด็ดขาดของท่านประธาน
แต่ตอนนี้น่ะ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้งานล่ะ เพราะคุณเลขาเพิ่งจะท้องได้แค่สามเดือน ตอนนี้ก็เลยยังเดินเหินไปไหนมาไหนได้ปกติ และคาดว่าทันทีที่สอนงานเขาเสร็จก็คงโดนคำสั่งพักงานจากท่านประธานเหมือนกัน
มือเล็กหยิบเอกสารบางส่วนกับสมุดโน้ตออกมาจากกระเป๋า เรียงกันไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการทำงาน เสร็จแล้วเดินเข้าห้องครัวที่ตั้งอยู่ตรงมุมเพื่อชงกาแฟเข้มๆให้ตัวเองสักแก้วก่อนที่จะเริ่มทำงานเช้าวันนี้
‘เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดกินกาแฟตั้งแต่อายุสิบหก’
‘กินมาตั้งแต่สิบห้าแล้วเถอะ’
‘บอกกี่ครั้งแล้วว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ ทำไมไม่ฟังกันบ้าง’
จีมินโยกหัวหนีจากมือที่พยายามจะวางบนหัว แต่ดูเหมือนความพยายามจะสูญเปล่า เพราะถึงยังไงก็หลบไม่พ้นอยู่ดี แรงโยกที่ส่งผ่านมือของอีกคนไม่ได้รุนแรงอะไร เหมือนการโยกเบาๆเพราะความเอ็นดูเสียมากกว่า จีมินฉีกยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่ม
เมื่อก่อนมันเป็นแบบนั้น...ทุกครั้งเลย
ภาพความทรงจำที่ผุดขึ้นมาในหัวทำให้เช้าอันสดใสดูอุ่นละมุนขึ้นทันตา มือที่กำลังตักผงกาแฟสำเร็จรูปชะงักไปก่อนจะค่อยๆเทมันกลับเข้าขวดโหล เหลือเพียงครึ่งจากปกติที่เคยดื่ม
และวันนี้เขาก็ได้รู้ ...ว่ากาแฟรสชาติอ่อนๆแบบนี้มันก็อร่อยไปอีกแบบ
เช้าวันที่สามของเดือน วันนี้เขาต้องออกไปพบลูกค้ากับท่านประธาน คำสั่งฉุกเฉินทำเอาเลขาชั่วคราวแบบเขาเลิ่กลั่กไปหมด เพราะท่านประธานน่ะอยู่ดีๆก็โทรมาบอกตอนเขากำลังยัดแฟ้มเอกสารใส่กระเป๋าว่าตอนนี้อยู่ด้านล่างคอนโดแล้ว คุณต้องไปพบลูกค้ากับผม
ด่วนจนเขามึนไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาก็เข้ามานั่งอยู่ในร้านอาหารสุดหรูกับท่านประธานและคู่ค้าอีกสองคนเป็นที่เรียบร้อย และการเจรจาก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ถือซะว่าเป็นการฝึกไปในตัวเพราะดุเหมือนว่าเขาต้องทนทำงานอยู่ในตำแหน่งนี้ไปอีกนานเลยล่ะ
“วันนี้มีงานด่วนอะไรอีกมั้ยคุณเลขา”
ท่านประธานคนเก่งคนดีเอ่ยถามหลังจากที่จัดการเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย จีมินหยิบแท็บเล็ตที่พกติดตัวตลอดขึ้นมาดูตารางงานที่เหลือในวันนี้
ก่อนจะพบว่า
“ไม่มีครับ”
ไม่มีอะไรเหลือให้ทำเลย...
“งั้นไปห้างเป็นเพื่อนผมหน่อย ...อยากไปดูเสื้อผ้าเด็ก”
เพราะเจ้าคนเห่อลูกคนนี้...เคลียร์ตารางงานทุกอย่างเพื่อที่จะไปเดินช้อปปิ้งอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก
ให้ตายเถอะ...เชื่อเขาเลย
สุดท้ายแล้ว พัคจีมินก็ต้องมาเดินตามท่านประธานที่ใส่ชุดสูทเต็มยศมาเลือกของใช้ในแผนกเด็กอ่อน ตั้งแต่ที่นอนยันคาร์ซีทและขวดนม เขาได้บอกไปหรือยังว่าตอนนี้น่ะภรรยาท่านประธานอายุครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เจ้าตัวน้อยก็จะลืมตาตื่นมาดูโลกใบนี้แล้ว
และไม่ใช่แค่ท่านประธานที่ตื่นเต้น ตัวเขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน อาจจะไม่เท่าเจ้าคนเห่อลูกคนนั้น แต่นั่นน่ะ หลานคนแรกของเขาเลยนะ
และเขาได้แต่ภาวนา ขอให้หลานเกิดมาน่ารักเหมือนแม่นะลูก อย่าไปเอานิสัยฉลาดแกมโกงจากพ่อมาเยอะนะครับ ไม่งั้นทั้งบ้านคงได้วุ่นวายกันไปหมด
เพราะคนพ่อน่ะ สมัยเรียนแสบใช่เล่นเลยน่ะสิ
เดินเลือกของไป นินทาเจ้านายในใจไปด้วย จนสุดท้ายภารกิจเลือกซื้อของเด็กก็ผ่านพ้นไป ดูเหมือนว่าวันนี้ท่านประธานจะเสียทรัพย์ไปเยอะพอควรกับของๆเจ้าตัวน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังหน้าบานอยู่ได้ทั้งวัน
นี่แหละน้า ความสุขของคนที่กำลังจะกลายเป็นพ่อคนอย่างเต็มตัว เขาเองก็คงต้องหาซื้อของมารับขวัญหลานเหมือนกันสินะ...
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น สุดท้ายแล้ววันนี้เขาก็ไม่ได้เข้าบริษัท แต่ต้องมาเดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนท่านประธาน จีมินมองดูนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์ ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ เพราะไม่อยากให้ท่านประธานขับรถวนไปมาเพื่อกลับไปส่งเขาที่คอนโด ก็เลยตัดสินใจแยกกันตั้งแต่ที่ห้าง
สายตาที่เคยจับจ้องหน้าจอโทรศัพท์เหม่อมองออกไปด้านนอก รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นที่มุมปากในตอนที่สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา และเหมือนว่าจะแรงขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะมองไม่เห็นทาง มือเล็กลูบแขนตัวเองเบาๆเพื่อคลายความหนาวก่อนจะเปลี่ยนเป็นการกอดตัวเองไว้หลวมๆ
“หนาวจัง”
‘รู้ตัวว่าตัวเองขี้หนาว แล้วทำไมถึงไม่ชอบพกเสื้อกันหนาว’
‘ก็ไม่รู้นี่ว่าฝนมันจะตก’
‘อ้างตลอด พยากรณ์อากาศน่ะหัดดูบ้าง’
‘บ่นๆ สุดท้ายก็ถอดเสื้อตัวเองให้อยู่ดีอ่ะ’
‘เจ้าเด็กนี่’
จีมินฉีกยิ้มกว้างในตอนที่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของอีกคนถูกคลุมลงบนไหล่แคบๆของเขา ทั้งๆที่โดนบ่นแต่กลับมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็น เสียงบ่นของอีกฝ่ายยังคงดังอยู่เรื่อยๆในขณะที่มือใหญ่กระชับเสื้อคลุมเข้าหากันเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่เขา
ฝนน่ะ อบอุ่น จะตายไป
จริงๆนะ
“ใจเย็นๆนะจีมิน ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ”
“พี่บอกตัวเองเถอะ!!”
คนตัวเล็กหันไปโวยใส่คนที่ตอนนี้กำลังนั่งไม่ติดที่ เขาได้รับโทรศัพท์จากเจ้าคนเห่อลูกว่าตอนนี้พี่สะใภ้กำลังจะคลอด เขาน่ะตื่นเต้นจนรีบวิ่งหน้าตั้งไปขึ้นรถไฟใต้ดินแล้วก็วิ่งจากรถไฟใต้ดินมาที่โรงพยาบาลแทนการขับรถเพราะกลัวเสียเวลากับช่วงที่รถกำลังติดแบบนี้
ทันทีที่มาถึงหน้าห้องคลอดก็เจอกับคุณลุงคุณป้าแล้วก็เจ้าพ่อจอมเห่อที่ตอนนี้กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้า เอาแต่พูดบอกให้เขาใจเย็นทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะสติแตก
ไม่นานนักเจ้าตัวน้อยกับคุณแม่ก็ถูกเข็นออกมาก่อนจะถูกส่งตัวไปที่ห้องพัก เขามองดูเจ้าตัวน้อยอยู่ห่างๆเพราะกลัวว่าจะเอาเชื้อโรคไปแพร่ให้หลาน ก่อนจะมาถึงนี่เขาสมบุกสมบันน้อยซะที่ไหน
คุยเล่นอยู่สักพักก็ขอตัวกลับออกมา ให้เวลาคุณแม่กับเจ้าตัวน้อยได้พักผ่อน จีมินทิ้งตัวลงนั่งตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาล
หมดแรง
เขาหมดแรงแล้วจริงๆ เหมือนความตื่นเต้นในตอนนั้นมากเกินไปจนทำให้เขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย วิ่งมาได้ยังไงตั้งสี่กิโล นึกแล้วก็ได้แต่หัวเราะกับตัวเองเบาๆ ความตื่นเต้นนี่ทำให้คนเป็นบ้าเป็นบอได้จริงๆ
กำปั้นเล็กทุบลงบนขาตัวเองเบาๆเพื่อคลายความเมื่อยล้า ดูเหมือนว่าวันนี้เขาคงต้องนั่งรถเมล์กลับห้องซะแล้ว เพราะตอนขามาน่ะตื่นเต้นจนลืมหยิบแม้แต่กระเป๋าสตางค์ โชคดีแค่ไหนที่มีบัตรอเนกประสงค์อย่างทีมันนี่ที่ใช้กับขนส่งสาธารณะติดอยู่กับเคสโทรศัพท์ ถึงได้พาตัวเองมาถึงที่นี่ได้ ครั้นจะนั่งแท็กซี่ ก็กลัวว่าเงินในบัตรจะไม่พอ
ไม่ได้เติมมากี่เดือนแล้วก็ไม่รู้...
เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่วันนี้ก็ดูมืดครึ้มเหมือนวันที่ผ่านๆมา รอบนี้ตกติดต่อกันมากี่วันแล้วนะ น่าจะสี่หรือห้าวัน ในทีวีก็ออกข่าวว่าช่วงสัปดาห์ต่อไปพายุจะเข้า สงสัยเขาต้องรีบกลับไปซื้อรามยอนมาตุนไว้สักหน่อยแล้ว
ยังไม่ทันจะได้เคลื่อนตัวไปไหนเจ้าฝนตัวดีก็ตกลงมาซะแล้ว มือเล็กยื่นออกไปรองเอาหยดน้ำที่กำลังร่วงหล่นลงมาก่อนจะสะดุ้งโหยงเพราะเสียงฟ้าร้อง
เขาน่ะ ชอบฝนมากๆเลยนะ แต่ไม่ชอบเสียงกับแสงที่มาพร้อมกับฝน...ไม่ชอบเลยจริงๆ
จีมินพรูลมหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืน ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้คงต้องกลับแท็กซี่ เพราะกว่ารถเมล์จะมาก็อีกตั้งสิบนาที อาจจะเสี่ยงโดนด่าหน่อยตอนที่ขอให้คนขับแท็กซี่รอตอนขึ้นไปเอาเงินมาจ่าย แต่ทางเลือกนี้น่าจะดีกว่าการยืนอยู่ข้างถนนท่ามกลางเสียงฟ้าร้องเปรี้ยงปร้างแบบนี้
เปรี้ยง!
มือเล็กที่หมายจะยกขึ้นเรียกแท็กซี่ถูกยกขึ้นมาอุดหู ไหล่สองข้างหดเข้าหากันเพราะความตกใจ ดวงตาสองข้างปิดสนิทเพราะกลัวแสงที่มาพร้อมกัน
สำหรับเขา ฟ้าแลบน่ากลัวกว่าฟ้าร้อง
ฟ้าร้องยังพอทนได้ แต่ฟ้าแลบเขาไม่ไหวจริงๆ
‘รู้ว่ากลัวแล้วจะออกมาข้างนอกทำไม’
‘กลัวฟ้า แต่ชอบฝน’
‘แต่มันมาพร้อมกันไง’
‘รู้น่า แต่แบบนี้ก็ไม่กลัวแล้ว...แค่กอดไว้ ก็ไม่กลัวอะไรแล้ว’
จีมินซุกหน้าตัวเองลงกับอกแกร่งของคนอายุมากกว่า รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนที่โอบรัดรอบตัว อ้อมกอดของคนๆนี้น่ะ...ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
ทั้งๆที่แก่กว่าแค่สองปีแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ตัวใหญ่กว่าเขาเยอะขนาดนี้
แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว กอดอุ่น
อุ่นกาย...แถมยังอุ่นใจ
เมื่อก่อนยังมีคนที่กอดเขาจนจมอกเพื่อไม่ให้หวาดกลัวกับเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้...เขาไม่มี
เขาควรกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ใช่...ควรกลับเข้าไปแล้วรอจนกว่าฝนจะหยุดตกแล้วค่อยกลับจะดีกว่า ร่างเล็กหมุนตัวกลับหวังจะวิ่งเข้าไปหลบฝนในโรงพยาบาล ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเดินก็ชนเข้ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง จีมินละล่ำละลักเอ่ยคำขอโทษ
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรมะ...”
จีมินชะงักไปหลังจากที่เงยหน้ามองคนที่เขาหันไปชน แต่ภาพตรงหน้า...เหมือนฝันเลย ผู้ชายตัวสูงที่สวมชุดกาวน์ ตากลมโตที่ถูกบดบังด้วยแว่นสายตาอันใหญ่ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ มองดูยังไงก็เหมือนภาพที่เกิดจากจินตนาการมากกว่าจะเกิดขึ้นจริง
เขาฝันหรือในที่สุดพระเจ้าก็ได้ยินคำขอที่ดังอยู่ในใจเขาทุกวันกันนะ
คนๆนี้ถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
“เจ็บครับ”
ยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ
จอนจองกุก กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา...
“ขอโทษครับ”
“ไม่รับได้มั้ยครับ”
“ทำไมครับ”
“อยากได้อย่างอื่นครับ”
“แค่เดินชน...”
“มีความรับผิดชอบหน่อยครับ”
“.....”
“เอาหัวใจหมอไปแล้ว ก็ช่วยกลับมารับผิดชอบด้วยครับ”
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งคู่ ต่างกันที่คนตัวเล็กกว่ามีน้ำตาประกอบอยู่บนใบหน้า ต่างจากอีกคนที่มีเพียงรอยยิ้มและดวงตาที่สื่อถึงความรู้สึกทั้งหมดที่มี
เหมือนตอนนั้นเลย
ตอนที่เจอกันครั้งแรก
‘ขอโทษๆๆ เป็นอะไรมั้ยอ่ะ’
‘เจ็บ’
‘ขอโทษนะ’
‘ไม่รับ’
‘อ้าว’
‘จะเอาอย่างอื่น’
‘จะเอาอะไร ไม่มีเงินนะบอกก่อน’
‘ชอบ มีแฟนยัง’
‘ห๊ะ...’
‘ถ้าไม่มี จะจีบ’
ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
สวัสดีค่ะทุกคน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ฮ่าาา
วันนี้เอาของขวัญวันเกิดคุณเขามาฝากเนอะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขนะคะ
เจอกันอีกทีวันเกิดน้องจีมินเนอะ
ร่วมหวีดกันได้ที่ #ฝนกุกมิน
hohope
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,540 ความคิดเห็น
-
#1447 Somyungg (จากตอนที่ 24)วันที่ 26 กันยายน 2562 / 00:37คิดถึงมากๆเลยครับ#1,4470
-
#1445 minji.. (จากตอนที่ 24)วันที่ 9 กันยายน 2562 / 19:29ตอนแรกเราคิดว่าพ่อเด็กคือจองกุกด้วยอะไรท์555555#1,4450
-
#1436 BSmtb42 (จากตอนที่ 24)วันที่ 2 กันยายน 2562 / 13:29น่ารักจังเลย ;____;#1,4360
-
#1435 Tangmo270345 (จากตอนที่ 24)วันที่ 1 กันยายน 2562 / 08:16ละมุนมาก อบอุ่นหัวจุยยย#1,4350
-
#1434 sadanan123 (จากตอนที่ 24)วันที่ 31 สิงหาคม 2562 / 22:45ทำไมถึงเลิกกันทั้งทีรักกันขนาดนี้#1,4340
-
#1433 Hypnosx_ (จากตอนที่ 24)วันที่ 31 สิงหาคม 2562 / 19:34แงงงงรอเลยค้าบบบบ#1,4330
-
#1432 xChuu (จากตอนที่ 24)วันที่ 31 สิงหาคม 2562 / 18:18จะรอนะคะ!><#1,4320
-
#1431 PANGzbelieber (จากตอนที่ 24)วันที่ 31 สิงหาคม 2562 / 18:14รอเลยงับ คถเรื่องนี้มากกก#1,4310
-
#1430 PhanchitaCho (จากตอนที่ 24)วันที่ 31 สิงหาคม 2562 / 18:14รอเรยค่าาา#1,4300
-
#1261 CypherKPark (จากตอนที่ 24)วันที่ 27 มิถุนายน 2561 / 19:45จะรอนะคะ อยากอ่านอีกรอบ 5555#1,2610
-
#1260 Tumblr_tunder (จากตอนที่ 24)วันที่ 27 มิถุนายน 2561 / 17:55จะรอจ้า#1,2600
-
#1259 pipepais (จากตอนที่ 24)วันที่ 27 มิถุนายน 2561 / 15:00ลงทุกวันจริงๆนะคะ สู้ๆค่ะ 5555#1,2590