ตอนที่ 19 : Epilogue
GOLDEN CLOSET
Epilogue
“ฮื้อ หนาว~”
จีมินเดินบ่นไปตามทาง มือเล็กยกขึ้นมากอดตัวเองเพื่อคลายหนาว เมื่อสิบนาทีที่แล้วเขาโดนแทฮยองเข้าไปก่อกวนที่ซุ้มของคณะนิเทศศาสตร์ จากที่เคยช่วยเด็กๆในซุ้มที่มีฮีตเตอร์อุ่นๆให้คลายความหนาวแบบสบายๆตอนนี้กลับต้องมาเดินตากลมตามแทฮยองไปเรื่อยกับอากาศหนาวๆแบบนี้
วันนี้ที่มหาลัยมีงานประจำปีอะไรสักอย่าง เห็นว่าจัดกันมาทุกปี และนิทรรศการภาพถ่ายของเด็กคณะศิลปกรรมที่ทำให้จองกุกอดหลับอดนอนอยู่หลายวันก็รวมอยู่ในงานนี้ด้วย
จีมินเดินตามแทฮยองไปเรื่อย แวะหาของกินตามทางบ้าง แวะซุ้มของคณะอื่นบ้างตามที่ใจคุณแทฮยองเขาอยากจะทำ ระหว่างทางยังมีคนมองมาด้วยความสงสัยบ้าง เขาไม่รู้ว่าแทฮยองทำยังไงกับข่าวลือพวกนั้น รู้แค่ว่าเพียงอาทิตย์กว่าๆมันก็เงียบหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ถึงจะมีสายตาอยากรู้อยากเห็นที่มองมา แต่เสียงนินทาต่างๆกลับหายเงียบไปราวกับว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยถึง
“อื้อ อะไรเนี่ย” คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งตกใจเพราะก้อนกลมๆสีขาวๆที่จ่ออยู่ตรงริมฝีปาก
“เหมือนจีมินเลย กลมๆขาวๆ” แทฮยองว่า หลังจากที่แวะซุ้มของคณะคหกรรมไปเมื่อครู่เขาก็ได้สิ่งนี้ติดมือกลับมา ‘มังเกต๊อก’ เค้กข้าวที่มีก้อนกลมๆสีขาวๆคล้ายๆกับขนมโมจิที่จีมินชอบกิน
“เราเป็นคนนะ ไม่ใช่ของกินสักหน่อย เมื่อก่อนก็ชอบเอาไปเทียบกับโมจิแล้วนี่ยังเอามาเทียบกับเค้กข้าวอีก”
“น่ารักดีออก เนี่ยอุ๋งๆมาก เหมือนแก้มจีมิน” แทฮยองว่าก่อนจะเอื้อมมือมาบีบแก้มจีมิน
“ปัญญาอ่อน” จีมินว่าขำๆก่อนจะปัดมือเพื่อนออกเบาๆ คุณแทฮยองที่หลายๆคนต้องเกรงใจหายไปไหนแล้วนะ ทำไมเหลือแค่คนปัญญาอ่อนที่กำลังเล่นเป็นเด็กอยู่ตรงหน้า
“จ้าๆ ใครจะไปดีเหมือนจอนจองกุกล่ะ” จีมินมุ่ยหน้าเมื่อน้อยๆเมื่อได้ฟัง คำพูดและท่าทางดูเหมือนจะงอนแต่แววตาที่กำลังสนุกได้ที่นั่นทำเอาจีมินอยากทุบเพื่อนสนิทสักทีสองที
“ก็รู้ตัวนี่”
“จ้า เมื่ออาทิตย์ก่อนใครมาร้องไห้ซบอกกันนะ ใครกันนะ”
“พูดเหมือนตัวเองไม่เคยมาร้องไห้ให้เราปลอบอ่ะ”
“โห นั่นมันตั้งแต่สมัยไหนแล้วอ่ะคุณ” แทฮยองดึงแก้มย้วยๆของเพื่อนด้วยความมันเขี้ยว ยอมรับว่าตอนเด็กๆเคยวิ่งไปร้องไห้ใส่จีมินให้อีกฝ่ายปลอบ แต่พอโตมาเขาต่างหากที่เป็นคนปลอบ ไม่ใช่จีมินสักหน่อย คิดไปคิดมาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แทฮยองยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้เกือบจะได้เวลาที่เขานัดกับเจ้าเด็กเรื่องมากคนนั้นแล้ว
“ป่ะ ไปกัน” แทฮยองเลิกล้อเพื่อนแล้วหันมาจูงมือจีมินเดินไปตามทาง
“ไปไหน”
“ไม่บอก”
แทฮยองหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อนแบบกวนๆจนโดนทุบไหล่ไปทีถึงได้ยอมหยุด ไม่นานก็พาเพื่อนตัวเล็กมาถึงลานกว้างที่เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของคณะดุริยางค์ศิลป์ ลานแสดงดนตรีที่เต็มไปด้วยผู้คน
“คนเยอะอ่ะ” จีมินพึมพำออกมาเบาๆ ผู้คนมากมายยืนออกันอยู่เต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติหรือวันนี้จะมีอะไรพิเศษกันแน่ แต่จะว่าไปเขาเองก็ได้ยินมาจากน้องในคณะว่าปกติงานประจำปีจะมีศิลปินมาขึ้นแสดงด้วยนี่เนอะ คนจะเยอะก็คงไม่แปลก
“อือ เห็นว่าวันนี้มีโชว์พิเศษ”
“แทฮยองอยากดูเหรอ” จีมินเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วคิมแทฮยองไม่ใช้คนที่ชอบเอาตัวมาอยู่กลางคนเยอะๆแบบนี้
“ไม่อ่ะ พาจีมินมาดู” แทฮยองหันมายิ้มให้เพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงจะนึกหมั่นไส้ในโชว์พิเศษที่ว่าก็เถอะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ...
“หือ...โอ๊ะ นั่นจินนี่นา” คนตัวเล็กกำลังจะหันไปถามเพื่อนทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นผู้ชายหน้าหล่อที่กำลังเดินขึ้นไปบนเวทีเข้าพอดี
“สวัสดีครับทุกคน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นทันทีที่คิมซอกจินปรากฎตัวบนเวที จีมินมองไปรอบๆด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับคนบนเวทีมากถึงขนาดนี้
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับที่วันนี้มารบกวนพื้นที่ของคณะดุริยางค์ศิลป์ แต่ผมรู้ว่าทุกคนกำลังรอโชว์พิเศษของวันนี้อยู่” ซอกจินเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จะว่าขอรบกวนพื้นที่ของคณะดุริยางค์ก็คงใช่ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกันแทบจะทุกปีอยู่แล้ว และปีนี้อาจจะพิเศษกว่าปีอื่นๆหน่อย
“ปีนี้เป็นคิวของรุ่นน้องของผมเองครับ ไม่ต้องตกใจที่เห็นผมบนเวทีนะ แค่ขึ้นมาถ่วงเวลาให้นิดหน่อยครับ...” ซอกจินเว้นระยะเล็กน้อยพลางกวาดสายตาหาคนที่กำลังรออยู่ “และตอนนี้เหมือนทุกอย่างจะพร้อมแล้วนะครับ .....ขอปลอบสาวๆที่อยู่ตรงนี้สักนิดนะครับ ไม่ใช่อดีตเดือนมหาลัยปีสี่ก็จริง...แต่เป็นรุ่นน้องที่ผมเคยมอบตำแหน่งให้กับมือ”
เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบทิศ หากเป็นคนที่ซอกจินบอกว่ามอบตำแหน่งให้เองกับมือก็คงไม่พ้นคนๆนั้น อดีตดือนมหาลัยปีสาม จอนจองกุก...
“ตอนนี้คงหมดหน้าที่ของผมแล้ว ขอให้ทุกคนสนุกกับงานประจำปีของมหาลัยนะครับ”
ซอกจินเอ่ยประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินลงเวทีไป สวนทางกับเด็กรุ่นน้องที่กำลังจะเดินขึ้นเวทีพร้อมกับผู้ช่วย รอบๆบริเวณเกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีที่เห็นหน้าบุคคลที่ซอกจินเอ่ยถึง ไม่ผิดคาดสักเท่าไหร่ แต่คนที่เดินตามมานั่นต่างหากที่ค่อนข้างจะเป็นที่ตกอกตกใจของใครหลายๆคน ...จอนจองกุกกับมินยุนกิ
เก้าอี้สองตัวบนเวทีถูกจับจองด้วยชายหนุ่มทั้งสอง จอนจองกุกที่เดินตัวเปล่าขึ้นเวทีกับมินยุนกิที่เดินตรงไปที่เปียโนไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ตรงมุมสุดของเวที
“กรี๊ดดด นั่นมันพี่ยุนกิอดีตเดือนนิติเมื่อหลายปีก่อนใช่ไหมอ่ะ คนที่เคยมาสอนแทนอาจารย์คิมน่ะ” เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นข้างหูทำให้จีมินต้องหันไปมอง
แค่จอนจองกุกขึ้นไปอยู่บนนั้นก็น่าตกใจมากพอแล้ว นี่ยังมีมนุษย์ตัวขาวหน้าตาเบื่อโลกคนนั้นอีก จีมินหันไปกระทุ้งศอกใส่คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ แทฮยองส่งยิ้มมาให้พร้อมกับยักคิ้วเหมือนกับจะกวนประสาทกัน
เขาไม่รู้หรอกว่าจองกุกขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ...แต่จากสิ่งที่เคยได้ยินมาก็มากพอที่จะทำให้เดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร จีมินเม้นปากแน่นเมื่อนึกถึงคำพูดของรุ่นน้องในคณะ ทุกๆปีของงานประจำปี บนเวทีของคณะดุริยางค์ศิลป์ โชว์พิเศษที่เคย
ได้ยินมาผ่านๆ เขารู้แค่ว่า.....มันเป็นวิธีสารภาพรักของเด็กมาหาลัยนี้
“ช่วยรับฟังสิ่งที่ผมอยากจะบอกด้วยนะครับ”
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงเปียโนไฟฟ้าคล้ายกับมนต์สะกดที่ไม่อาจหลีกหนี สายตาที่จ้องมองมาทำเอาจีมินตัวแข็งทื่อไปหมด ทว่าเมื่อเสียงนุ่มหวานหูดังขึ้นอีกครั้งคนที่ยืนนิ่งอยู่เมื่อครู่ก็เริ่มรู้สึกตัว จีมินสบตากับคนที่นั่งร้องเพลงอยู่บนเวที พร้อมกับฟังสิ่งที่จองกุกอยากจะบอก
“ไม่มีใครอีกแล้วที่เหมือนกับคุณ
แม้ว่าผมจะไม่มีอะไรเลย แต่ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
โลกของผมเหมือนหยุดหมุน
รู้สึกเหมือนไม่มีแม้ดอกไม้สักดอก เมื่อไม่มีคุณอยู่ข้างๆ”
จีมินมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มันตีรวนไปหมดในตัวเขา ทั้งดีใจ ตกใจ แปลกใจ ไม่เข้าใจ และอีกหลายความรู้สึกที่หลั่งไหลเข้ามา
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ท่าทีของผมที่มีต่อคุณ
สายตาของผมที่มองไปที่คุณ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
คุณที่เคยเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางได้จมหายไปในความทรงจำ
ผมพยายามเพื่อที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าคุณอีกครั้ง
ความจริงที่ว่าจะได้เจอคุณอีกครั้ง มันทำให้หัวใจของผมสั่นไหว
ชื่อของคุณกลายเป็นคำติดปาก ทุกๆวันผมเอาแต่พูดถึงคุณ
ผมกำลังวิ่งผ่านวันเวลาไปหาคุณ ช่วยรอผมอีกนิดนะ”
ก็รออยู่ตรงนี้ไง ...ก็บอกแล้วว่าเขาจะไม่ไปไหน จีมินเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นยิ้ม ไม่ได้หรอก...ถ้ายิ้มออกไปตอนนี้เจ้าเด็กนั่นต้องได้ใจมากแน่ๆ จีมินจ้องไปมอง
ไปที่คนบนเวที จ้องมองคนที่เอาแต่มองเขาไม่หยุดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตากัน
“ผมกำลังยืนอยู่ตรงหน้าคุณ
คนที่รอผมมาเสมอในอีกด้านหนึ่งของความทรงจำ”
ทำยังไงดี...กลั้นยิ้มไว้ไม่ไหวแล้ว จีมินกระตุกชายเสื้อของแทฮยองเบาๆก่อนจะเดินไปซ่อนอยู่ด้านหลังเพื่อนตัวสูง ใช้ไหล่หนาๆของแทฮยองเป็นโล่แล้วโผล่ออกมาแค่ครึ่งบนของหน้า
“Long time no see (ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ)
คุณเป็นยังไงบ้าง คุณรอมานานมากเลยสินะ
จากนี้ผมจะไม่ไปไหนแล้วนะ
Baby don’t worry (ที่รัก ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ)”
ไม่ไหว... จีมินกำชายเสื้อของแทฮยองแน่น ถึงจะเขินมากขนาดไหนแต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากคนที่นั่งร้องเพลงอยู่บนเวที แอบได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของแทฮยองดังแว่วเข้ามาในหู
“Long time no see (ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ)
ผมเองก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน
ผมหลงทางนิดหน่อยตอนมาหาคุณ
แต่ผมจะไม่ไปไหนอีกแล้วนะ
Baby don’t worry (ที่รัก ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ)”
แทฮยองนึกเอ็นดูคนที่กำลังกำชายเสื้อเขาแน่นและไม่มีท่าทีว่าจะปล่อย ทว่าความเอ็นดูนั้นไม่เท่าความอยากแกล้ง มือหนาดึงชายเสื้อของตัวเองออกจากมือของจีมินก่อนจะจับให้เพื่อนตัวเล็กมายืนอยู่ข้างหน้าแทน แทฮยองหัวเราะออกมาเบาๆกับปฏิกิริยาของจีมิน ดูเหมือนว่าจะเขินจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
คนแกล้งเพื่อนชะงักเมื่อเห็นละอองสีขาวที่กำลังโปรยปรายจากฟากฟ้า เห็นแบบนี้แล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะรู้เห็นเป็นใจให้กับน้องชายของเขาเสียเหลือเกิน
แม้กระทั้งหิมะก็ยังร่วงหล่นจากฟ้าในเวลาที่เหมาะสมที่สุด
“Oh baby don’t worry (ที่รัก ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ)
เรามาอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ
ผมสัญญาว่าจะปกป้องคุณ จะอยู่เคียงข้างคุณ
Oh baby don’t worry (ที่รัก ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ)
เรามาอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณจะยังมีผมอยู่เคียงข้างเสมอ”
[Long time no see - iKON]
เสียงเพลงหยุดลงพร้อมหิมะแรกสีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังโปรยปรายราวกับว่าเป็นพยานรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ความเชื่ออันเลื่องลือของคนเกาหลีที่ว่ากันว่า หากถ้าโดนใครสักคนถามว่า "เห็นหิมะแรกไหม?" นั่นหมายความว่าเขากำลังขอความรัก
“พัคจีมิน ผมจะไม่ถามว่าเห็นหิมะแรกไหม” ประโยคสั้นๆที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของผู้คนที่กำลังรอ ...รอว่าคำสารภาพรักของผู้ชายคนนั้นจะเป็นแบบไหน
“แต่ต่อจากนี้ช่วยรอดูหิมะแรกด้วยกันทุกปีจะได้ไหมครับ”
END
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณนะคะ
ไรท์แต่งเรื่องนี้ได้ดีมากๆแงง ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณสำหรับฟิคสนุกๆนะคะ
รออ่านตอนพิเศษน๊า
บรรยายไม่ถูกเลยทีเดียวว จองกุกทำไมรุนแรงกับน้องนักลูก โอ๊ยยยยย น้องจีมินทำไมนู๋น่ารักขนาดนี้คะ><
นัมจุน แทฮยอง จัดการคนที่วางยาจีมินให้หนักเลยนะ สงสารน้อง T^T มากกก
รอเปิดขายอีบุ๊ค นะคะ พอดีอยู่ต่างประเทศ
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่า ????????สนับสนุนเเน่นอนค่า