คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตัวอย่าง : If You Only Knew彡จิ๊กซอว์หัวใจ.,บอกว่าใช่ 'เธอ'
ชื่อผู้ฝาก : หวาน
นามปากกา : CapelLa/คาเพลลา :)
แนวนิยาย : รักหวานแหววค่ะ
คำวิจารณ์
สวัสดีค่ะหวาน : ) ขอโทษนะคะที่มาวิจารณ์ช้าไปหน่อย...ก่อนอื่นออกตัวก่อนนะคะว่าทั้งหมดนี่เป็นแค่ความเห็นของหน่อยคนเดียว ส่วนหนึ่งหน่อยวิจารณ์จากรสนิยมในการอ่านนิยายของตัวหน่อยเอง หวานมีสิทธิ์จะตัดสินใจว่าคำแนะนำของหน่อยน่าเอาไปปรับใช้รึเปล่า ถ้าหวานเอาไปปรับแล้วอยากให้หน่อยกลับไปอ่านนอกรอบก็ยินดีค่ะ อย่าเสียเวลา เริ่มเลยดีกว่าค่ะ
แอบอยากให้มันก๊อบปี้ได้จังเลยค่ะ เง้อ หน่อยไม่อยากพิมพ์ใหม่
ธีม
เริ่มกันที่ธีมหลักของเรื่องนี้เลยละกันค่ะ หน่อยคิดว่าธีมหลักของเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องการแอบรักใช่มั้ย? หวานเลือกใช้ประโยคสุดคลาสสิกมาเป็นตัวเปิดบทนำ แต่อยากจะแนะนำนิดนึงค่ะคือคำแปลประโยคสุดท้าย ไม่น่าจะใช่ “คุณจะพูดมันออกมาดังๆในขณะนั้น” แต่น่าจะแปลว่า “พูดออกมาดังๆตอนนั้นเลย” เช่นเดียวกับ “หรือจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป” แต่น่าจะเป็น “หรือมิฉะนั้น โอกาสนั้นอาจหลุดลอยไป” มากกว่านะคะ
หน่อยเข้าใจเอาเองว่าธีมที่หวานต้องการจะสื่อก็คือ “การได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนคนหนึ่ง จะทำให้ความรักเปลี่ยนไปไหม?” จากการที่เห็นหวานสื่อถึงฉากที่บลูส์ต่อยเท็นเท็น ฉากที่บลูส์ดูเหงาๆเศร้าๆ ไม่ร่าเริงเหมือนตอนที่วิฟพบครั้งแรก ถ้านี่คือธีมที่หวานตั้งใจไว้จริงๆ หน่อยก็ถือว่าหวานทำได้ดีเลยนะ อยากเสริมให้คือไม่ควรเน้นเรื่องความน่ารักแบบกุ๊กกิ๊กของสองคนนี้มากเกินไป แต่น่าจะให้ความสัมพันธ์ของตัวละครพัฒนาไปเป็นเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่าค่ะ คือมองให้ลึกลงไปถึงภายในจริงๆ ไม่ใช่แค่นางเอกเขินที่พระเอกจับมือ เรียกว่าเจ้าหญิง อะไรแบบนั้น บางฉากน่ารักดีค่ะ แต่ระหว่างฉากเหล่านั้นน่าจะมีตอนที่พัฒนาความสัมพันธ์บ้าง หน่อยคิดว่าความรักของสองคนนี้จะดูตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
พล็อต
พล็อตซับซ้อนใช้ได้เลยค่ะ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะคาดเดาไม่ได้เอาซะเลย ...หน่อยไม่รู้นะคะว่าหวานได้วางพล็อตล่วงหน้าไว้แค่ไหน วางพล็อตในที่นี้รวมถึงการกำหนดบทบาทของตัวละครในแต่ละตอนด้วยนะคะ หน่อยคิดว่าหวานสามารถทำให้มันดูน่าติดตามได้มากกว่านี้น่ะ คือยังไงดี คล้ายๆกับว่าหวานขมวดปมเร็ว และเฉลยเร็วมากเลย ถ้าเว้นระยะเวลามากกว่านี้หน่อย อาจทำให้ดูน่าสนใจขึ้นเยอะเลยนะ ^^ เหมือนเรื่องของพี่มะนาวกับบลูส์ อ่านต่อไปอีกไม่นานก็รู้แล้วว่าเกี่ยวอะไรกัน เช่นเดียวกับเรื่องของวิฟกับเฟส ที่จู่ๆก็มาพูดถึงเรื่องเด็กดีกับพี่ชายทั้งที่ไม่เคยเกริ่นมาก่อนเลย ตอนแรกๆวิฟดูจะไม่ค่อยถูกชะตากับเฟส แต่พอมารู้เรื่องพี่ชาย ท่าทีวิฟก็เปลี่ยนไปแทบจะในทันทีเลย หวานน่าจะลองปรับเรื่องการเล่าเรื่องนิดนึงนะคะ ค่อยๆหาเหตุการณ์ที่ทำให้ปมที่วางไว้ดูน่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ แต่รวมถึงความรู้สึกของตัวละครด้วย อย่าให้มันรวดเร็วเกินไป ไม่งั้นมันจะคล้ายกับว่าเหตุการณ์นั้นไม่มีผลกระทบอะไรกับตัวละครเลย
ตัวละครหลัก
วิฟ : วิฟเป็นเด็กผู้หญิงที่หวานตั้งใจให้เป็นคนร่าเริงใช่มั้ยคะ แต่บางครั้งหน่อยกลับรู้สึกว่าวิฟเป็นผู้หญิงที่เป็นวัยรุ่นซะจนเกินไป ภาษาที่ใช้(เพราะเรื่องนี้เล่าจากมุมมองของวิฟ)ดูเป็นวัยรุ่นซะเกินความเป็นนิยายค่ะ ภาษาวัยรุ่นใช้ได้ แต่ไม่ควรใช้ในการบรรยาย ใช้แต่ในบทพูดก็พอ จุดนึงที่หน่อยขออนุญาตแนะนำว่าไม่ควรใช้ก็คือคำว่า งอแงๆ ค่ะ (และพวกคำทั้งหลายที่ไม่เห็นจำเป็นต้องมีไม้ยมกตามหลัง) อยากให้หวานแก้ไขนะคะตรงนี้ ...นอกจากนี้หน่อยคิดว่าวิฟเป็นคนที่ดูขัดแย้งกันในตัวเองนะ มีหลายครั้งที่วิฟดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ซึ่งหน่อยคิดว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้วิฟน่าจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง แต่เหมือนจะยังไงวิฟก็ยังเหมือนเดิม (เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวน้า) เช่นฉากนี้ค่ะ ฉากที่วิฟเพิ่งไปเห็นว่าบลูส์ซ้อมเท็นเท็นมา แล้ววิฟก็ถามว่าบลูส์ทำอะไรมา หวานใช้ประโยค ลุ้นมากมายเล้ย~ มันไม่เหมือนลุ้นแบบแอบหวังให้เขาพูดตรงๆน่ะค่ะ มันเหมือนลุ้นโชคมากกว่า และยิ่งฉากถัดจากนั้น ถ้าไม่ไปเห็นกับตาคงไม่รู้หรอกว่าคนน่ารักๆอย่างเจ้าชายจะทำเรื่องป่าเถื่อนแบบนั้นได้ แต่จะให้ฉันทำไงล่ะ ก็คนมันชอบไปแล้ว~ หน่อยแบบ อ้าว? ไม่มีปฏิกิริยาเลย? หรือเพราะมันตรงข้ามกับธีมที่หน่อยเข้าใจเอาเองข้างบนก็ได้ อันนี้แล้วแต่มุมมองของหวานนะคะ แต่ยังไงหน่อยว่าตรงนี้มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นา (อาจจะอินไปก็ได้ค่ะ ^^”) ...อีกอย่างหนึ่งที่ขัดใจคือเวลาเจอความโรแมนติกถูกตัดอารมณ์ฉับด้วยความไม่คิดมากของวิฟ เช่นฉากนี้ แต่ฉันว่ามันน่าจะเหมาะกับรูปหยดน้ำมากกว่า ก็มันทั้งเศร้า ทั้งเหงาเลยนี่เนอะ ว่าไหมๆ? คำว่า ว่าไหมๆ? นี่มีผลทำให้อารมณ์ชะงักได้ค่ะ ...อีกอันนึงเป็นข้อแนะนำของหน่อยเอง คือตอนบทนำที่เปิดฉากออกมาว่าวิฟไม่อยากเรียนไวโอลินเพราะเมื่อยอย่างนู้นอย่างนี้ อันนี้หน่อยคิดว่ามันเป็นการสร้างอิมเพรสชั่นที่ไม่ดีกับนางเอก เหมือนมันบ่งบอกว่านางเอกไม่มีความอดทนกับเรื่องที่สนใจ แล้วทำให้นึกต่อไปอีกว่า การที่ชอบพระเอกนี่ชอบเล่นๆรึเปล่า? จะไม่สนใจแล้วอยากเลิกก็เลิกเอาง่ายๆแบบนี้เหมือนกันรึเปล่า? หรือถ้าหวานจงใจให้คนอ่านคิดอย่างนี้ก็ได้นะคะ แล้วค่อยไปตลบตอนหลังว่า เรื่องของบลูส์ วิฟไม่เคยคิดเล่นๆนะ อะไรประมาณนี้ก็ทำให้เรื่องดูมีพลังมากขึ้นเหมือนกัน
บลูส์ : หน่อยคิดว่าหวานสร้างฉากให้บลูส์เป็นคนที่ดูเหมือนเจ้าชายมากๆ เพื่อให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับนางเอกว่า เอ้อ พระเอกน่ารักจริงๆนะ อะไรแบบนั้น การที่นางเอกแอบรักก็ไม่แปลก แต่หน่อยรู้สึกว่าบางอย่างมันเกินพอดีน่ะค่ะ เช่นการที่พระเอกตะเบ๊ะให้นางเอกทั้งที่เจอกันครั้งแรก หน่อยว่ามันออกจะผิดวิสัยคนทั่วไปสักหน่อย (รึว่าหน่อยคิดมากไป ? เป็นไปได้ค่ะ T^T) แต่ยังไงหน่อยขอแนะนำว่า อย่าพยายามยัดเยียดอะไรให้พระเอกมากุ๊กกิ๊กกับนางเอกจนเกินไป เช่นฉากสวีทที่มันไม่เข้ากับอารมณ์เรื่อง รวมถึงอารมณ์พระเอกและนางเอก เช่นตอนที่วิฟโกรธบลูส์แล้วลงมาจากรถแท็กซี่แล้วบลูส์เดินลงมาง้อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บลูส์เพิ่งว่าไปหยกๆว่า หุบปาก คือคำนี้แรงนะสำหรับคนอย่างบลูส์น่ะ แล้วก็มาเป็นซื้อมาม่ามาให้ เล่าเรื่องพระจันทร์กับดวงดาวที่ดูโรแมนติกมากๆ ...หน่อยคิดว่าอารมณ์บลูส์ตอนนี้ดูไม่ค่อยเหมาะสมนิดนึงค่ะ ส่วนวิฟก็อย่างที่พูดไปแล้ว เมื่อกี๊เศร้า ต่อมาก็โกรธ พอเจ้าชายมาง้อก็หาย แล้วก็จบด้วยซึ้ง อยากให้หวานยืดฉากและยืดอารมณ์อีกหน่อยจะดีกว่านี้นะคะ จะทำให้อารมณ์สมจริงมากขึ้น ทำให้คนอ่านเข้าใจตัวละครมากขึ้นค่ะ ^^
ลีลาการเขียน
1. หน่อยคิดว่าบรรทัดนึงของหวานน้อยไปหน่อย บางบรรทัดมีแค่อีโมตัวเดียว บรรทัดต่อมาเป็นประโยคสั้นๆ ที่บางทีไม่จำเป็นต้องเคาะเพื่อเว้นบรรทัดก็ได้ ตัวอย่างเช่น
มันเหมือนกับว่าบลูส์จะกลับไปเจอผู้หญิงคนนั้นอีก
ชิๆ
ทำไมต้องเว้นบรรทัดด้วย เอาคำว่า ชิๆ ไปต่อท้ายเลยก็ได้ค่ะ ...หน่อยคิดว่าการที่หนึ่งบรรทัดมีประโยคน้อยเกินไปมันก็ทำให้ดูโล่งไม่น่าอ่านพอๆกับมีตัวหนังสือติดกันเป็นพรืดเต็มหน้ากระดาษลองปรับดูแล้วกันนะคะ ^^
2. การที่หวานอธิบายศัพท์เทคนิคบางอย่าง(ซึ่งทุกครั้งจะเป็นการที่วิฟคิดในใจ) ตั้งแต่บทนำ ที่มาของชื่อวิฟและชื่อบลูส์ ตรงนี้ยังโอเคนะคะ คิดว่าไม่แปลกที่วิฟจะรู้ว่าชื่อตัวเองมีที่มายังไงถึงจะเป็นภาษาฝรั่งเศสก็ตาม แต่หลังๆมามีพูดถึงคำว่า laughter และมีให้ความหมายด้วย รวมถึงพูดถึงระบบประสาทซิมพาเธติกและอะดรีนาลีน เรื่องแบบนี้หน่อยว่าไม่จำเป็นไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ หน่อยเป็นเด็กศิลป์ อ่านแล้วมึนๆเลย นี่ยังดีว่าหน่อยเคยเรียนมาบ้าง แต่ถ้าคนที่ไม่เคยเรียน ไม่เคยรู้เรื่องอย่างนี้เลยมาอ่าน มันจะกลายเป็นว่านิยายสนุกๆถูกขัดอารมณ์ด้วยเนื้อหาวิชาการซึ่งไม่มีความจำเป็นเลย เพราะหวานไม่ได้เขียนนิยายที่ต้องอิงข้อมูล และถึงจะจำเป็นต้องอิงข้อมูลจริงๆก็มีวิธีที่ดีกว่านี้ เช่นตอนที่พูดถึงบัลเล่ต์ เรื่องสมองตาย หน่อยคิดว่าถ้าให้บลูส์เป็นคนพูดจะดีกว่า ดูมีเหตุผลที่บลูส์จะรู้เรื่องนี้ลึกซึ้งกว่าวิฟน่ะค่ะ
3. หน่อยแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์วัยรุ่นในฉากเศร้าค่ะ เช่นฉากที่วิฟกำลังกังวลว่าพี่ชายจะพูดว่าอะไรต่อ แล้วมือถือพี่ชายดังขึ้น หวานบรรยายว่า เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่องแบบนานเว่อร์ๆ ไม่อยากให้ใช้คำนี้เลย มันดูเป็นฉากที่อารมณ์วิฟน่าจะไม่สนุกสนานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเวลาเลือกคำ เลือกให้ตรงกับอารมณ์วิฟเป็นหลักนะคะ
4. อีโมบางที่ไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ ยกตัวอย่างฉากเดียวกัน เบื่อแล้วๆ พี่ชายเข้าใจยากเกินไป TOT ฉากนี้นางเอกควรจะสับสนอยู่ ไม่ต้องใส่อีโมก็ได้ค่ะ บางทีการไม่ใส่อีโมก็สื่ออารมณ์ดีกว่าการใส่ซะอีกนะ : )
5. มีจุดเออเร่อร์เล็กๆน้อยๆที่อยากให้หวานลองไปแก้ดูค่ะ จุดแรกคือการที่นางเอกจินตนาการว่าในห้องนั้นจะมีคนนั่งเล่นแกรนด์เปียโน แต่ที่จริงในห้องซ้อมไม่น่าจะมีแกรนด์เปียโนนะคะ กับอีกจุดคือตอนที่แม่พระเอก คนขับรถ กับพระเอกไปเจอนางเอกซื้อดอกไม้ ในนิยายบอกว่านั่งรถสปอร์ต แต่รถสปอร์ตน่าจะมีแค่สองที่นั่งนะคะ ไม่น่าจะมีที่นั่งพอ ...อันนี้หน่อยสงสัยเอง ถ้าเข้าใจผิดขอโทษด้วยค่ะ : )
6. สิ่งที่อยากแนะนำหวานคือหลักการเขียนง่ายๆค่ะ ซึ่งก็คือ Show, not tell คือแทนที่จะพูดว่ารู้สึกยังไง ให้บรรยายการกระทำ การแสดงออกจะดีกว่าค่ะ เช่นตรงที่บรรยายแม่บลูส์ว่าเป็นคนสวย สง่า น่าเคารพยำเกรงมากๆ แต่ไม่ได้บอกว่าสวย สง่า น่าเคารพยำเกรงยังไง ตาของเธอเป็นยังไง ลักษณะการแต่งตัว ท่าเดิน วิธีการพูดจา รอยยิ้ม ...มีอะไรบรรยายได้เยอะแยะเลยค่ะ คิดว่าถ้ายึดหลักนี้จะทำให้คนอ่านเห็นภาพและคล้อยตามได้มากขึ้นนะคะ
นิยายหวานเป็นเรื่องแรกเลยนะที่หน่อยวิจารณ์หลังจากไม่ได้วิจารณ์มานานหลายปี หน่อยดีใจที่หวานไม่เขียนภาษาวิบัติ และถือว่าบรรยายเยอะนะ สำหรับนิยายรักหวานแหวว และบางฉากก็บรรยายได้ดีทีเดียวค่ะ ...ปกติหน่อยไม่ค่อยสนใจเรื่องรูปอิมเมจหรือการตกแต่งอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่หวานทำสวยเลยแหละ แอบชมค่ะ : ) อิมเมจเข้ากับทุกคนมากๆ โดยเฉพาะวิฟ เรื่องการเว้นวรรค คำผิดก็ไม่ค่อยจะมีให้หนักใจเลยถือว่าเก่งมากเลยค่ะ ขอชม และอีกอย่างที่หน่อยประทับใจมากๆ คือการใส่ใจต่อนิยายของตัวเองค่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องอัพ แต่เรื่องตอบคอมเม้นท์ด้วย เวลาเห็นหวานขึ้นชื่อทุกคนที่แอด Fav หน่อยรู้สึกดีแทนคนที่เขาแอดจังเลย ...หน่อยคิดว่าหวานยังพัฒนาได้อีกเยอะนะคะ เพราะฉะนั้นจึงให้คำวิจารณ์ตรงๆแบบนี้ไปเพราะหน่อยคิดว่า ถ้าหวานอยากจะเขียนให้ดีขึ้น การให้คำวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาน่าจะดีกว่าการที่หน่อยหลับหูหลับตาอ่านผ่านๆ นะคะ หวังว่าหวานคงไม่โกรธ แต่ถ้ามีคอมเม้นต์หรืออยากให้ไปอ่านอีกนอกรอบก็ยินดีนะคะ ขอบคุณที่เลือกหน่อย หวังว่าจะไม่ทำให้หวานผิดหวังนะคะ : )
ความคิดเห็น