คะแนนรีวิวจากนักอ่าน
สวัสดีครับผมชื่อจิน เด็กมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนลาดพร้าววิทยาคม โรงเรียนดีเด่น การศึกษาล้ำเลิศ รู้วินัย รู้คุณธรรม สังคมดี จากปากต่อปากของบรรดาผู้ใหญ่และผู้ปกครอง ฟังดูเหมือนโรงเรียนมัธยมปกติใช่มั้ยล่ะครับแต่ชีวิตมัธยมในโรงเรียนนี้ของผมมันไม่ปกติ เพราะอะไรเดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง
4 ตุลาคม 2564
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมแล้วหลังจากจบม.4ผมตื่นเต้นมากไม่ได้เจอเพื่อนตั้งนานหลังจากปิดเทอมไปตั้งหลายเดือน ผมตื่นเช้าแปรงฟันอาบน้ำกินข้าวไข่เจียวที่เเม่ทำ
“วันนี้เปิดเทอมเเล้วตั้งใจเรียนด้วยนะ” เเม่ผมบอก
“โอเครไม่ต้องเป็นห่วงครับ” ผมตอบกลับ
หลังจากกินข้าวอะไรเสจผมก็ไปโรงเรียน พอถึงโรงเรียนผมก็หาที่นั่งรอเพลงขึ้นเพื่อเข้าแถว
“อ้าวว! ไอจิน โห ไม่ได้เจอมึงตั้งนานกูอยู่บ้านเหงาจัดเลย” แจ๊คเดินเข้ามาทักอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เอ่า! กูกำลังตามหามึงอยู่เลย กูกำลังทำใจเหงาเลยนึกว่ามึงจะมาสายซะแล้ว” ผมตอบกลับ
แจ๊คเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมตั้งแต่สมัยม.ต้นไปไหนไปด้วยกันอยู่ห้องเดียวกันมาตลอด สักพักเสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้นเพื่อให้นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติระหว่างเข้าแถวผมก็เห็น “หลิน” หนึ่งในเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวของผมที่ผมแอบชอบมานานแล้วแต่ผมรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันก็มีความสุขดี จริงๆผมแค่ไม่มีโอกาสได้บอก
“นี่กูเห็นมึงชอบหลินมานานละ ทำไมไม่บอกหลิ่นสักทีวะ ระวังจะไม่มีโอกาสได้บอกนะเว่ย” แจ๊คเตือนผม ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เออ กูรู้แล้ว” “เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาหน่อยย” ผมตอบกลับ
แต่…..ใครจะไปรู้ว่าโอกาสบอกมันสายไปแล้วเพราะวันนี้เป็นวันที่หลินตายจากอุบัติเหตุโดนรถชน
ข่าวจากทีวีรายงานว่ามีนักเรียนหญิงโดนรถชนเสียชีวิตคาที่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ว่าเกิดประมาณช่วง5โมงเย็นส่วนคนที่ขับรถชนแล้วหนีตอนนี้ตำรวจกำลังสืบส่วนตามคนที่ขับรถอยู่ หลังจากผมได้ยินผมช็อคมากหน้าผมซีด รางกายผมรู้สึกหมดแรง การที่ผมเสียคนที่สำคัญและเป็นคนที่ผมชอบมาตลอดทำให้ผมเสียใจมาก
11 ตุลาคม 2564
ผ่านไป 1 สัปดาห์หลังจากวันเกิดอุบัติเหตุก็ยังไม่มีมีความคืบหน้าจากตำรวจข่าวก็เงียบหายไปผมเริ่มรู้สึกแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมคดีนี้ถึงยืด จนมาวันนึงผมไปโรงเรียนตามปกติความรู้สึกของผมบรรยากาศของโรงเรียนทั้งหมดเปลี่ยนไปตั้งแต่หลินจากไป คนที่เสียใจไม่แพ้กันคือพ่อแม่และเพื่อนของหลิน ทุกคนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น พอมาถึงช่วงเวลาพักเที่ยงผมนั่งกินข้าวกับแจ๊คและเพื่อนๆ
แจ๊คพูดขึ้นมาขณะกินข้าว “ช่วงนี้มึงโอเครขึ้นบ้างปะเนี่ย ตั้งแต่วันนั้นมึงก็ไม่ได้เล่นบาสและก็กลับกับพวกกู ทุกครั้งพอกินข้าวเสร็จมึงก็ขึ้นไปนั่งคนเดียวบนห้องไม่คุยกับคนอื่นเลย”
“มึงพูดมาขนาดนี้แล้วมึงคิดว่ากูโอเครมั้ยล่ะ กูขอบคุณนะเว่ยที่มึงเป็นห่วง แต่เรื่องนี้กูรับไม่ได้จริงๆ ตำรวจก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย กูอยากย้อนเวลากลับไปช่วยหลินว่ะ” ผมตอบด้วยความอึดอัดทั้งหมดในใจ
“ย้อนเวลาอะไรของมึง มึงหยุดเพ้อแล้วทำใจสักทีเหอะ ยอมรับความเป็นจริงไม่งั้นมึงก็จมอยู่กับอดีตแบบนี้ตลอด” แจ๊คขึ้นเสียง
“มึงไม่ใช่กูมึงจะรู้อะไร” ผมสวนกลับ
“เฮ้ย! มึงพูดงี้ได้ไงวะ เออกูอาจจะไม่รู้เรื่องของมึงกูรู้แต่ว่ามึงต้องยอมรับมันให้ได้” แจ๊คพูดด้วยความโกรธ
“ยอมรับเหี้ยอะไร! หลินตายไปตั้งกี่วันแล้ว มึงดูดิตอนนี้หาตัวคนชนได้ยัง? ตำรวจประเทศนี้แม่ง” ผมขึ้นเสียงใส่แจ๊ค
“ไอสัส ต่อให้มึงเจอตัวคนชนละมันจะฟื้นคืนชีพหลินให้มึงมั้ยล่ะ” แจ๊คขึ้นเสียงตาม
คนในโรงอาหารเริ่มมองผมกับแจ๊คทะเลาะกันเสียงดัง ผมกลั้นน้ำตารีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า ขณะที่ผมล้างหน้าผมได้ยินเสียคนคุยกันข้างนอก
“ละนี่มึงจะทำยังไงวะกับคดีที่มึงชนแล้วหนีเนี่ย มีใครรู้เรื่องนี้รึยัง” เสียงคนนึงพูดจากนอกห้องน้ำ
“ไม่มีใครรู้หรอก ดีนะพ่อกูยัดเงินตำรวจไม่งั้นบริษัทพ่อกูต้องเสียชื่อเพราะกูแน่” อีกคนตอบกลับ
“จิงอ่ออ ละพ่อมึงไม่ด่าเลยหรอวะ” ถามต่อ
“ไม่ด่าก็เหี้ยแล้ว แม่งด่ากูยับเลยโดนยึดรถด้วยเซ็งชิบหาย” อีกคนตอบกลับ
ผมโกรธมากหลังจากได้ยินผมกำหมัดแล้วรีบวิ่งออกไปตามเสียงแต่พอผมวิ่งออกไปไอ2คนนั้นมันก็หายไปแล้ว ตัวผมทั้งตัวสั้นพร้อมกับความโกรธที่หลินต้องตายแบบไม่เป็นธรรม ใช่สิคนรวยมันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่ดียกเว้นยอมรับผิด อะไรๆก็แก้ปัญหาด้วยเงิน ผมรับไม่ได้เลยวิ่งหนีออกจากโรงเรียน ขณะที่ผมวิ่งออกไปนอกโรงเรียน ทันที่ก็มีรถขับมาชนผมสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้คือตัวผมนอนอยู่บนพื้นกับภาพท้องฟ้าที่ฝนใกล้จะตก ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีผมอยู่ที่ห้องนอนของผมบรรยากาศรอบตัวผมคุ้นๆเหมือนมันพึ่งผ่านมาไม่่กี่วันนี่เองหรือว่าจะเป็นเเค่เดจาวู ผมเปิดปฏิทินในโทรศัพท์ดูปรากฏว่าเป็นวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 5:30น. เเต่วันนี้เป็นวันที่ 11 เเล้วไม่ใช่หรอผมจำได้ว่าผมโดนรถชนเเต่รางกายผมไม่เป็นอะไรเลยเเผลก็ไม่มีเเต่ก็ช่างมันเถอะไม่เป็นไรก็ดีเเล้วผมอาจเเค่สลบไปเเล้วก็พ่อเเม่ผมมารับผมที่ห้องพยาบาลโรงเรียน
“จินน! ตื่นได้เเล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”เสียงเเม่ผมตะโกนมาจากชั้นล่างของบ้าน
“ครับ!” ผมตะโกนกลับ
ผมลงไปเเปรงฟันอาบน้ำกินข้าวไข่เจียวที่เเม่ทำ ผมรูีสึกเเปลกใจมากบรรยากาศทุกอย่างรวมถึงข้าวไข่เจียวที่เเม่ทำเหมือนวันที่ 4 ที่ผ่านมาเป๊ะเลย
สักพักเเม่พูดขึ้นมา“วันนี้เปิดเทอมเเล้วตั้งใจเรียนด้วยนะ”
“ไม่ใช่เปิดเทอมไปเเล้วหรอครับ?” ผมถามกลับด้วยความสงสัย
“4 ตุลา วันนี้พึ่งเปิดเทอมเองนะ นี่ไปจำสลับกับฝันปะเนี่ย” เเม่ตอบกลับพร้อมหัวเราะ
“นั่นสิครับ” ผมยิ้มเเล้วตอบไป
มันชักจะเเปลกๆเเล้วสิวันที่ 4 ตุลา มันผ่านไปเเล้วหนิหรือว่าผมจะย้อนเวลามา บ้าบอผมคงเพ้อไปเองใครเขาจะย้อนเวลาได้ ปฏิทินในโทรศัพท์ของผมกับเเต่คงเพี้ยนเเหละมั้ง หลังจากนั้นผมก็ไปโรงเรียนพอถึงโรงเรียนผมก็นั่งรอเพลงขึ้นเพื่อเข้าเเถวเคารพธงชาติ
“อ้าวว! ไอจิน โห ไม่ได้เจอมึงตั้งนานกูอยู่บ้านเหงาจัดเลย” แจ๊คเดินเข้ามาทักอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แจ๊ค? วันนี้เปิดเทอมหรอวะ” ผมถามด้วยความสับสน
“ใช่ดิ มึงดูงงๆนะ เป็นไรวะ” แจ๊คถาม
“เปล่าๆ” ผมตอบกลับ
ตอนนี้ผมรู้สึกตกใจและก็สับสนมากทุกๆบรรยากาศทุกคำพูดของแจ๊คเหมือนวันนั้นเป๊ะหรือนี่ผมย้อนเวลาจริงๆแต่ถ้ามันจริงแปลว่าหลินยังไม่ตายสิ สักพักเสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้นเพื่อให้นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติระหว่างเข้าแถวผมก็เห็น “หลิน”จากที่ผมตกใจธรรมดาตอนผมโครตตกใจเลย นี่ต้องเป็นฝันแน่ๆผมตบหน้าตัวเองแรงๆไปหนึ่งที
“นี่มึงจะตบหน้าตัวเองทำไม” แจ๊คกระซิบถามขณะเข้าแถว
“ห้ะ...อ่อ...พอดียุงมันเยอะๆ” ผมตอบกลับ
เชี่ยย..ผมไม่ได้ดูผิดใช่มั้ยหรือที่ผมเห็นมันคือวิญญาณของหลิน ผมยืนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นี่กูเห็นมึงชอบหลินมานานละ ทำไมไม่บอกหลิ่นสักทีวะ ระวังจะไม่มีโอกาสได้บอกนะเว่ย” แจ๊คเตือนผม ด้วยความเป็นห่วงผมเหมือนที่เคยถามมาก่อน
“ครั้งนี้กูจะไม่เสียโอกาศ” ผมพูดเสร็จแล้วเดินขึ้นห้อง
“เสียโอกาศอะไรวะ” เสียงแจ๊คบ่น
พอผมเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องเรียนสักพักผมได้ยินเสียงผู้หญิง
“จิน! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงอันสดใสของหลินทักผม
“หลิน? หลินจริงๆใช่มั้ย” ผมเผลอหลุดพูดไป
“ใช่ เราหลินเองเเกลืมเราเเล้วหรอ” หลินตอบกลับพร้อมกับขำผม
“เราคิดถึงเเกจัง” ผมยิ้มพร้อมน้ำตาคลอเเล้วพูดไป
“อะไรเนี่ยเเค่ไม่เจอหน้าไม่กี่วันเองทำอย่างกับจะไม่ได้เจอเราซะเเล้ว” หลินบอกผม
ก็ใช่สิในโลกปัจจุบันของผมหลินไม่อยู่เเล้ว พอคิดแล้วก็เริ่มเครียด
“จิน! รีบเข้าห้องเร็วครูมาแล้ว” เสียงหลินเรียกผมดังมาจากในห้อง
ระหว่างเรียนผมนั่งคิดไปเรี่อยเปื่อยจนมาภึงตอนพักเที่ยงผมก็นึกขึ้นได้ว่านี่ผมย้อนเวลามาวันเดียวกับวันที่เก็ดอุบัติเหตุหนิ! แปลว่าการย้อนเวลาของผมในครั้งนี้ผมมีโอกาสช่วยชีวิตหลินได้ แต่ว่าผมจะรู้ได้ยังไงว่าอุบัติเหตุจะเกิดตอนไหน เท่าที่จำได้จากรายงานข่าวในทีวีเขาบอกว่าเกิดช่วงประ5โมงเย็น นับจากเวลาตอนนี้คือเที่ยงตรงพอดีผมมีเวลาช่วยหลิน5ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ผมต้องช่วยชีวิตหลินโดยการหาวิธีทำยังไงก็ได้ไม่ให้หลินกลับบ้านในเส้นทางที่เกิดเหตุ ผมไม่ทันได้นั่งคิดวางเเผนครูก็ไล่ให้ผมไปเข้าเรียน
“หมดเวลาพักเที่ยงเเล้วนั่งทำไรตรงนี้? ไปเข้าห้องเรียนไป” ครูปกครองเดินมาบอกผม
“ครับๆ”
หลังจากเลิดเรียนเวลาประมาณบ่าย3 ผมพึ่งนึกได้ว่าวันนี้เลิกเรียนเร็ว เเย่เเล้ว! ผมเหลือเวลาอีกเเค่2ชั่วโมงทำไงดีผมต้องหารีบไปหาหลินก่อนหลินจะออกจากโรงเรียน ผมวิ่งขึ้นห้องเรียนเจอเพื่อนทำเวรอยู่
“มีใครเห็นหลินปะ?” ผมถามเพื่อนที่ทำเวรอยู่
“หลินอ๋อ เห็นเดินไปหาของกินที่โรงอาหารนะ” เพื่อนตอบ
หลังจากผมวิ่งมาถึงโรงอาหารผมก็เดินตามหาหลิน หาไปหามาเเต่ก็หาไม่เจอสักที สักพัก
“อ้าวจิน ตามหาใครอยู่หรอ” หลินถามผมจากด้านหลัง
“ห้ะ.. อ่ออ..เปล่าๆ” ผมตอบ
“โอเครรงั้นเราไปก่อนนะบ๊ายบาย” หลินพูดพร้อมกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยว! หลิน” ผมรีบเรียกหลินก่อนหลินจะเดินออกไป
“ห้ะ... ว่าาา” หลินทำสีหน้าสงสัย
“ป... ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย” ผมชวนหลินเเบบไม่มั่นใจ
“ได้สิ ไปตอนนี้เลยปะล่ะ” หลินตอบ
ตั้งเเต่ที่ผมชอบหลินจนถึงตอนนี้ก็เป็นปีเเล้วผมไม่เคยกล้าชวนหลินไปกินข้าวเลยเเค่มองหน้าผมก็เขินเเล้ว พอรู้ว่าหลินจะต้องตายผมกล้าทำทุกอย่างขึ้นมาทันทีเพื่อช่วยหลินให้ได้เเปลกดีนะคนมักจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อรู้ว่าคนสำคัญจะไม่อยู่เเล้วเเต่ตอนที่อยู่ด้วยกันดันไม่ทำอะไรเลย
“ทำไมหน้าดูเครียดๆอ่ะ? เห็นตั้งเเต่ตอนเช้าเเล้ว” อยู่ๆหลินก็ถามผมขึ้นมา
“หืม? เปล่านะหน้าเราดูเครียดขนาดนั้นเลยหรอ5555”ผมเเกล้งยิ้มเเล้วตอบไป
“ใช่สิ เหมือนเเกมีอะไรกลุ่มใจเเต่ไม่ยอมบอกเลย” สีหน้าของหลินเเสดงถึงความเป็นห่วง
“อื้มเราไม่เป็นไรหรอก” ผมดีใจที่เห็นหลินเป็นห่วงผม
“โอเครร เเล้วเราไปกินข้าวอะไรกันดีอ่ะ” หลินถาม
“อะไรก็ได้หลินเลือกเลย” ผมตอบ
“อย่าตอบเเบบนั้นดิ เเกก็เลือกเลยเรากินได้ทุกอย่าง” หลินทำหน้าหงุดหงิด
“อาหารตามสั่งหลังโรงเรียนมั้ย” ผมเสนอขึ้นมา
“ไม่เอาอ่ะ ไปกินหมูกระทะกัน” หลินยิ้มเเล้วทำหน้ากวนๆ
“เอ้า ไหนบอกกินอะไรก็ได้ไง” ผมถามด้วยความงง
“ก็ใช่เเต่เราไม่อยากกินตามสั่ง55555” หลินตอบผมเเล้วขำ
“อะๆๆหมูกระทะก็หมูกระทะ” ผมตอบไป
การที่ผมได้กินข้าวกับหลินครั้งนี้ผมมีความสุขมาก ผมไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน เเต่ผมดันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่ผมย้อนเวลาครั้งนี้อาจจะเป็นเเค่ความฝันก็ได้ หรือตอนนี้ผมตายไปเเล้วนะ? เขาว่ากันว่าเวลาคนเราก่อนตายมักจะฝันถึงสิ่งที่เป็นปมในใจเเล้วได้คลี่คลายออกเพื่อเป็นการตายอย่างสงบ
“เเกคิดยังไงอยู่ๆมาชวนเรากินข้าวเนี่ย” อยู่หลินก็ถามผม
“ไม่รู้สิคงเป็นเพราะเรารู้จักกันเป็นปีเเต่เราไม่เคยชวนเเกกินข้าวเลยมั้ง” ผมตอบ
“เราดีใจนะที่ได้เกินข้าวกับเเกอ่ะ” หลินบอกผมพร้อมกับยิ้ม
“วันนี้เเกดูเหมือนเป็นคนใหม่เลยเเกดูสดใสกล้าคิดกล้าทำจากที่เคยเป็นคนเก็บตัวเงียบๆเราไม่เคยเห็นเเก่ในมุมนี้เลย “หลิน” หลินยังไม่ทันพูดจบผมพูดเเทรกขึ้นมา
“ว่าา?” ผมทำหน้าสงสัย
“เราชอบเเกอ่ะ” ผมมองหน้าหลินเเล้วพูดไปตรงๆ
“…” หลินทำหน้าอึ้ง
“ถึงเเกจะไม่ชอบเราก็ไม่เป็นไรเเต่เราชอบเเกตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ได้รู้จักที่ผ่านมาทั้งหมดเราไม่กล้าพอที่จะบอกเเกเเต่วันนี้เราตัดสินใจบอกชอบเเกก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอกอีก” ผมได้บอกสิ่งที่อยากพูดมาตลอด ผมเคยพลาดไปครั้งนึงเเต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้พลาดอีก
“เชี่ยย เเกเปลี่ยนไปจริงๆด้วย”
“เราก็ชอบเเกเหมือนกันน ที่ผ่านมาเราก็ชอบเเก เเต่เเกดูเงียบๆเข้าถึงยากไม่ค่อยคุยกับเรา เราเลยไม่กล้าบอกเเก” หลินพูดขึ้นมา
“จริงปะเนี่ยที่ผ่านมาเเกก็ชอบเรามาตลอดอ่ออ” ผมยิ้มเเทบจะร้องไห้ออกมา
“ใช่สิ เเกจะร้องไห้ทำไมมทำอย่างกับจะไม่ได้เจอเราอีกเเล้ว” หลินถามผม
“เปล่าๆเราเเค่ดีใจอ่ะ” ผมยิ้มเเล้วตอบหลิน
“ถึงขนาดร้องไห้เลยอ๋อ เอ็นดูอ่ะ55555”
“เเต่วันนี้เเกเปลี่ยนไปจริงๆนะเเต่ก่อนดูหน้ากลัวมาก อยากให้เเกเป็นเเบบนี้ตลอดไปอ่ะมันดีต่อตัวเเกนะจะมีได้คนกล้าเขาถึงตัวเเกมากขึ้นดีกว่าเป็นคนเก็บตัวนะ” หลินเเนะนำผม
“อึ้มมเดี๋ยวเราจะปรับตัวนะ” ผมตอบด้วยความเต็มใจ
เเต่เดี๋ยวนะผมลืมดูเวลาเลยตอนนี้กี่โมงเเล้ว 5โมงครึ่ง! นี่ผมทำสำเร็จแล้วหรอวะ? มันเลย5โมงแล้วหนิผมพาหลินมากินข้าวเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุ เชี่ยย! นี่กูย้อนเวลามาช่วยหลินได้จริงๆด้วย ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนได้คลี่คลายปมในใจ ผมได้ทั้งช่วยชีวิตหลินแล้วก็บอกชอบหลิน
“กินเสร็จแล้วกับกันเถอะ” หลินพูดขึ้นมาแล้วยิ้ม
“ป่ะ กลับกัน ปกติกลับทางไหนอ่ะเดี๋ยวเราเดินไปส่ง” ผมถามหลิน
“อ๋อพอดีบ้านเราอยู่ใกล้เดี๋ยวข้ามทางมาลายแล้วเดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว” หลินตอบ
“โอเครเดี๋ยวเราเดินไปส่งนะ” ผมตอบ
แต่ขณะที่ผมข้ามทางม้าลายเดินไปคุยไปกับหลิน ผมกับหลินไม่ทันได้มองรถอยู่ๆมีรถคันนึงวิ่งมากำลังจะมาชนผมกับหลิน ผมตั้งสติทันแล้วรีบผลักตัวหลินออกไปไม่ให้โดนรถชน
ตู้มมมม! ผมล้มลงนอนลงกับพื้นเห็นท้องฟ้าที่ฝนกำลังจะตกเหมือนกับภาพสุดท้ายก่อนที่ผมได้ย้อนมา
.
.
.
ผมรู้สึกตัวแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้งตัวผมอยู่บนเตียงสีขาว แสงไฟสีขาวสว่างส่องมาที่ม่านตาผม
“จิน! ตื่นแล้วหรอลูก?” เสียงแม่ผม
“ที่นี่ที่ไหนครับ?” ผมถาม
“โรงพยายาลไงลูก ตอนลูกจำอะไรได้บ้าง?” แม่ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“วันนี้วันที่เท่าไหร่ครับ?” ผมถามต่อ
“วันที่11ไง ลูกลืมหมดแล้วหรอเดี๋ยวแม่ไปตามหมอมานะ” แม่ผมพูดเสร็จแล้วรีบเดินออกไป
สรุปทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝันสินะ ไม่แปลกหรอกจะมีคนย้อนเวลาเองได้ที่ไหนกัน ผมยิ้มพร้อมกับร้องไห้ไปพร้อมกันมันทั้งดีใจที่เหมือนกับได้เคลียปมในใจแล้วก็เสียใจที่มันเป็นแค่ความฝัน บางทีสิ่งแจ๊คพูดมันอาจจะถูกก็ได้นะตัวผมเองควรจะทำใจยอมรับมัน ชีวิตจริงไม่สามารถแก้ไขอะไรอดีตได้เลย ผมร้องไห้เป็นเด็กเลยความรู้สึกของผมตอนนี้คือโครตปลดปล่อย ผมคงต้องใช้เวลาทำใจไปอีกนานเลยแหละ
หลังจากที่ผมพักฟื้นจนร่างกายพร้อม ผมไปโรงเรียนผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะจะโทรหาแจ๊ค เฮ้ออตั้งแต่ทะเลาะกับมันวันนั้นไม่รู้ตอนนี้จะหายโกรธรึยัง.....ตู๊ด......ตู๊ด......ไม่รับว่ะสงสัยเล่นบาสอยู่ เข้าห้องเรียนนั่งเล่นก่อนละกัน ทันทีที่ผมกำลังจะเดินขึ้นห้อง
“จิน! หายดีตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ทำไมไม่ตอบไลน์อ่ะ” เสียงผู้หญิงเรียกผม
“หลิน?”