ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาววิศวกรเกิดใหม่ชีวิตไอดอล

    ลำดับตอนที่ #1 : มาอยู่ร่างใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 67




         บัณฑิตา    ภูมิโสภณเมธา  ชื่อเล่นข้าวปุ้น เป็นวิศวกรเครื่องกลจบมาแล้ว2ปี ว่างงาน1ปี ทำงานที่โรงงานแห่งนี้มา1ปี  วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เครื่องกลมีปัญหา เธอจึงรีบแต่งตัวด้วยเสื้อยืด สวมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีส้ม กางเกงขายาวสีดำรองเท้าผ้าใบสีขาวดำ แล้วรีบออกมาแต่เช้าหลังจากที่โดนโทรตาม



         “พี่ก้อย ตัวเครื่องไหนมีปัญหาหรอ!!” พี่ก้อยสาวโรงงาน เธอทำงานในโรงงานแห่งนี้มาเเล้วสี่ปี เจ้าตัวเป็นหญิงอวบชอบมัดผมหางม้า มีผิวสีนํ้าผึ้ง ใส่เสื้อสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสีดำซึ่งเป็นชุดที่แจกให้กับพนักงานในโรงงาน



         “ตัวที่2จู่ๆก็ดับน่ะ!” อธิบายพร้อมเดินนำไปยังที่เกิดเหตุ สีหน้าเคร่งเครียด


         “เค” เดินมาถึงตัวเครื่องต้นเหตุ พบว่ามันไม่ทำงาน ข้าวปุ้นลงมือตรวจสอบพบว่าน่าจะมีปัญหาที่วงจรไฟฟ้า


         “พี่ก้อย ติดต่อวิศวกรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้ามีปัญหา!” หันกลับมาบอกพี่ก้อยที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนัก



         พี่ก้อยรีบโทรไปหาวิศวกรไฟฟ้าคนที่ประจำอยู่โรงงานนี้ เขาพึ่งกลับไปนอนได้ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่พึ่งซ่อมสายไฟที่ตรวจพบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าเสร็จ



         “เครื่องนี้ตรวจสอบและเช็กสภาพไปเเล้วนี่” ข้าวปุ้นครุ่นคิด เธอจำได้ว่าเธอพึ่งตรวจเช็กสภาพเครื่องไปเมื่อวานนี้เอง วันนี้ดันมีปัญหาซะได้



         วิศวกรเครื่องกลมีหน้าที่ออกแบบเครื่องจักรและรับผิดชอบในการดูแลเครื่องจักรการผลิตให้ดำเนินได้อย่างปกติ ยกตัวอย่างเช่น โรงงานการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ของกินของใช้ประจำวัน วิศวกรเครื่องกลก็จะไปอยู่ในเรื่องของการดูแล ควบคุมการผลิต ทำอย่างไรให้ผลิตสินค้าออกมาถูกต้อง ทำยังไงให้ไม่เกิดปัญหาระหว่างกระบวนการผลิต



         วิศวกรเครื่องกลมักจะทำงานร่วมกันกับวิศวกรไฟฟ้า วิศวกรคอมพิวเตอร์ วิศวกรเครื่องกลมีหน้าที่หลักๆดูแล Mechanic (ช่างเครื่อง) วิศวกรไฟฟ้ามีหน้าที่ดูแลวงจรไฟฟ้าต่างๆ


         วิศวกรคอมพิวเตอร์ ดูแลซอฟต์แวร์ (ทำยังไงถึงจะทำให้เครื่องกลเคลื่อนไหว)



         ผ่านไปไม่นาน ‘พี่ต้น’ วิศวกรไฟฟ้าผู้เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในโรงงาน พี่ต้นอายุเข้าเลขสี่มาแล้วหลายปี แกทำงานที่โรงงานแห่งนี้มาสิบปีถือเป็นคนที่ก่อร่างสร้างตัวมากับโรงงานแห่งนี้เลยก็ว่าได้


         “พี่ต้นเครื่องนี้มีปัญหา วงจรไฟฟ้าน่าจะขัดข้อง” ข้าวปุ้นเริ่มอธิบายเหตุผล



         เดิมทีข้าวปุ้นเรียกต้นว่าน้าต้นแต่ต้นรู้สึกว่าเขายังหนุ่มยังแน่น จึงให้เรียกตนว่าพี่ต้นแทน ซึ่งข้าวปุ้นก็ตกลง เธอเข้าใจดีไม่ว่าใครก็ไม่อยากแก่กันทั้นนั้นรวมถึงพี่ต้นด้วยโดนเรียกว่าน้าคงกระทบกระเทือกจิตใจของแก


         ใช้เวลาไม่นานก็แก้ไขปัญหาเสร็จ


         “ดูเหมือนว่าเกิดปัญหาไฟดับ (Black Out) เกิดจากความต้องการกระแสไฟฟ้าจากสายส่งการไฟฟ้าที่มากเกินไป ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายไฟจากการไฟฟ้าได้ แต่ไม่เป็นไรซ่อมเสร็จเเล้ว คงต้องทำการติดตั้งเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) พี่จะรองเสนอดูเพื่อในอนาคตเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” ต้นอธิบายให้รุ่นน้องที่เป็นวิศวกรเครื่องกลที่ยังคงตรวจเช็กเครื่องกลที่เขาพึ่งซ่อมเสร็จ



         สาวเจ้าที่เพิ่งเลิกจาก กลับมาจากโรงงานรู้สึกหิว
    เจ้าตัวจึงเลือกแวะตลาดเพื่อซื้อของมาตุนไว้ ข้าวปุ้นกำลังเดินซื้อของที่ตลาดนัดบางพลู วันนี้เป็นวันศุกร์ ผู้คนเดินพลุกพล่าน มีผู้ปกครองที่รับบุตรหลานกลับจากโรงเรียนพวกเขาก็แวะซื้อของสดในตลาดเข้าบ้าน คนวัยทำงานเองก็เลือกที่จะแวะเดินตลาดซื้อของหลังจากเลิกงานเช่นกัน ไม่แปลกที่จะเห็นผุ้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก



         ข้าวปุ้นมีแพลนว่าวันนี้เธอจะทำต้มจืดหมูสับกินแล้วก็รีบอาบนํ้านอนทันที เธอเหนื่อยมาทั้งวันต้องการพักผ่อนโดยด่วนนี่แหละชีวิตสาวโสดวัยทำงาน ไม่มีอะไรมาก มีแค่ทำงานกลับบ้านไปนอน ทำงาน นอน ทำงาน นอนวนลูปอยู่แบบนี้



         ข้าวปั้นยืนรอสัญญาณไฟจราจรของท้องถนนที่มีรถสัญจรพลุกพล่าน เมื่อเห็นไฟแดงขึ้น สาวเจ้าไม่ลังเลที่จะเดินข้ามทางม้าลายทันทีเหมือนทุกครั้ง 



         รถเก๋งสีขาวที่ดูก็รู้ว่าคนขับน่าจะเมาหรือมีอาการไม่ปกติ เนื่องจากรถที่ขับมาค่อนข้างซ่าย มันผิดปกติของรถที่ขับในพื้นที่ชุมชน



         ปัง!!!



         กรี๊ด!!!



         รถคันนั้นขับมาเร็วมากชนหญิงสาวที่เดินข้ามทางม้าลาย ร่างของสาวที่ถูกชนกระเด็นไปไกลหลายเมตร ส่วนคนขับรถขับต่อไปโดยไม่หยุดลงมาดูเลยสักนิด ว่าตนเองได้พรากชีวิตของคนคนหนึ่งไปแล้ว



         คนแถวนั้นบางคนกรีดร้อง บางคนถึงกับช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อเห็นคนโดนรถชนต่อหน้าต่อตาพวกเขา หลายคนมุงดู บางคนโทรเรียกรถพยาบาล แต่ไม่ทันเสียแล้วหญิงสาวผู้โชคร้ายเสียชีวิตระหว่างที่กำลังลำเลียงส่งโรงพยาบาล




         “ฉันจะตายเเล้วหรอ ตายไวจัง มันไวมาก ชีวิตนี้จบแล้วสินะ”  ตลอดเวลาตั้งแต่จำความได้ข้าวปุ้นเธอเสียแม่ไปตอนที่เธออายุสิบสี่ปี เสียพ่อตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี ภาพในตอนเด็กฉายภาพเรื่องราวของข้าวปุ้น ภาพตั้งแต่สมัยเด็ก ข้าวปุ้นติดแม่ของเธอมาก เธอมักจะเล่าถึงความฝันในการเป็นวิศวกรของเธอให้ผู้เป็นแม่ฟัง แม่ของเธอจะคอยให้กำลังใจเธอเสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามพอแม่เธอจากไป พ่อจะคอยให้กำลังใจเธอเสมอแทนแม่ พ่อบอกกับเธอว่า “พ่อจะทำหน้าที่แม่ให้หนูเองนะ” 



         พ่อส่งเสียเธอเรียนตามความฝันพอพ่อจากไปอีกคนข้าวปุ้นรู้สึกว่าโลกนี้ช่างว่างเปล่า รู้สึกโดดเดี่ยว เธอใช้เวลาทำใจอยู่นานพยายามเข้มแข็งรวมถึงความทรงจำตอนทำงาน ความทรงจำต่างๆฉายขึ้นมาภายในความทรางจำของดวงจิต





    [ระบบทำการติดตั้ง]



    [ติดตั้ง 0% 31% 59% 89% 99% 100% ระบบทำการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์]




    ฤดูฝน กรุงโซล


    คฤหาสน์ ตระกูลโช


         ซ่า! ซ่า! ด้านนอกฝนกำลังตกหนักเสียงตกกระทบโดนหลังคาของคฤหาสน์


         เสียงฝนยังคงดังต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ลมกระโชกแรงต้นไม้ต่างๆเอนเอียงไปมาตามแรงลมราวกับว่าต้องการจะกระชากถอนรากถอนโครนต้นไม้ให้มันล้มลงมา ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆสีคลํ้ามีแสงสีปรากฏขึ้นภายในเมฆหมอก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ราวกับฟ้ากำลังพิโรธ



         เด็กสาวร่างเล็กหน้าตาน่ารักนอนพักรักษาตัวจากการเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เปลือกตาสวยเริ่มขยับ ร่างเล็กลืมตาขึ้น เด็กสาวกำลังงงงวย ‘นี่ฉันยังไม่ตายอีกหรือ ก่อหน้านี้ฉันรู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน ความมืดมิด’



         ร่างเล็กเริ่มขยับแขนข้างขวาขึ้นมาดู ‘แขนเล็กจัง ผิวฉันขาวขนาดนี้เลยหรือเนี่ย’ คิดอยู่สักพักก็ขยับแขนข้างซ้ายขึ้นมาดู ‘อา เล็กและขาวทั้งสองข้างเลย’ พลิกหน้ามือหลังมือดูเพื่อความแน่ใจ



         “แขนฉั…..” มือทั้งสองข้างปิดปากตาโต ‘นี่เสียงฉัน..เสียงฉันเล็ก..ทำไม..ทำไมเสียงเล็กลง!!’ ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งอย่างไว สองเท้าเรียวขาวสวย หย่อนลงจากที่นอนเหยียบพรมปูพื้นสีชมพูBaby Pink เธอพลักประตูสีชมพูที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนํ้าเข้าไป 




         ร่างเล็กเบิกตาโตขึ้นไปอีก  ‘แม้แต่ห้องนํ้ายังชมพู!!’ เดินเข้ามายืนหน้ากระจกเงาสะท้อนคือเด็กสาวหน้ารูปไข่ตากลมโตนัยน์ตาสีนํ้าตาลดำ จมูกเชิดรั้น ปากเผยอเล็กน้อย




         ปล่อยผมสลวยยาวถึงกลางหลังสวมชุดผ้าซาตินสีขาวยาวคลุมเข่า “ฉันหรอเนี่ยทำไมถึงได้มีหน้าตาน่ารักและเด็กแบบนี้” ร่างเล็กเอามือจับๆทั่วหัวและใบหน้า



    [ท่านเสียชีวิตจากโลกเก่าด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ท่านเป็นผู้โชคดีได้ระบบมาครอบครองด้วยความบังเอิญ ดวงจิตของท่านได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ เนื่องด้วยเจ้าของร่างนี้ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกบันไดหัวโขกพื้น ดวงจิตของท่านเลยเข้ามาแทนที่]



         ‘เข้ามาอยู่ในร่างที่ตายพอดี แต่ระบบนี่คือเสียงที่ได้ยินรึเปล่า’



    [เป็นอย่างที่ท่านกำลังคิด ระบบคือระบบ ระบบสามารถช่วยท่านได้ ระบบแนะนำให้ท่านดูสเตตัสของท่าน ท่านสามารถดูได้เมื่อพูดว่าสเตตัส คนอื่นจะไม่สามารถเห็นสเตตัสของท่านได้]




    “สเตตัส”


    [โช มีโซ] อายุ10ขวบ กรุปเลือดB สูง1.25 เมตร นํ้าหนัก 20 กิโลกรัม

    ความแข็งแกร่ง12

    ความเร็ว10

    ทนทาน 8

    ปัญญา 11

    โชค 23

    ตั๋วสุ่มฟรี 1 ใบ

    ตั๋วสุ่มประจำแต่ละเดือน 1ใบ




         “เหมือนระบบในนิยายเลยนะ” ร่างเล็กฉีกยิ้มกว้าง มือเลื่อนขึ้นไปสำผัสจอโฮโลแกรมสี่เหลี่ยมสีฟ้าอ่อนที่ลอยอยู่ตรงหน้า


         ‘ระบบทำไมเงียบล่ะ’


    [ระบบจะตอบต่อเมื่อคำถามเกี่ยวกับระบบ ไม่มีการพูดเล่น หรือกวนกันเหมือนนิยายที่ท่านอ่าน]


         ร่างเล็กมุมปากกระตุกสองสามที “ฉันอยากลองสุ่มตั๋วสุ่มฟรีดู”


    [ระบบกำลังดำเนินการสุ่มตั๋วสุ่มฟรี 1 ครั้ง ตั๋วสุ่มฟรีเหลือ 0 ครั้ง]


    [ท่านได้รับทักษะเรียนรู้เร็วขั้นต้นติดตั้งเรียบร้อย]


         ‘อืม.. รู้สึกสมองปลอดโปร่งขึ้นนิดหน่อยแฮะ’ มือเท้าคางครุ่นคิด




    “สเตตัส”

    [โช มีโซ] อายุ10ขวบ ฯลฯ

    ความแข็งแกร่ง12

    ความเร็ว10

    ทนทาน 8

    ปัญญา 15

    โชค 23

    ตั๋วสุ่มประจำแต่ละเดือน 1 ใบ




         ฟุ๊บ ที่นอนยุบตามนํ้าหนักตัวของร่างเล็กที่พึ่งออกจากห้องนํ้ามานั่งลงบนที่นอนใหญ่สีชมพูพาสเทล  สรุปก็คือฉันตาย มาสิงร่างเด็กที่ชื่อมีโซ ได้ระบบมาหน้าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว! เด็กหญิงเป่าลมออกปาก เอนตัวลงบนที่นอนแล้วแล้วเผลอหลับไป



         เปลือกตาพริ้มค่อยๆลืมตาหันซ้ายไปก็สะดุดกับร่างๆหนึ่ง ชายคนนั้นนั่งอยู่ที่เก้าอี้สีชมพู ดูจากรูปร่างแม้ว่าจะยังไม่เห็นใบหน้าดี แต่ก็พอจะเดาได้ว่าชายคนที่นั่งอยู่นั้นยังมีอายุไม่มากดูได้จากผมที่ยังคงดกดำส่วนชุดที่ใส่เป็นชุดสบายๆไม่ได้แต่งตัวเนี๊ยบอะไร สายตาของชายคนนั้นกำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูในมือตน เมื่อชายคนนั้นเผลอมาสบตากับร่างเล็กของเด็กหญิงที่อยู่บนที่นอน เขาลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งมาหาร่างเล็กทันที



         “ลูกฟื้นแล้ว!..เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนไหม!”


         โช ชิลกี ประธานบริษัท โชจิวเวลรี่บริษัทเครื่องประดับรายใหญ่ของประเทศ โช ชิลกี รับช่วงบริษัทต่อจากพ่อของเขาตอนเขาอายุ 30ปีเขาใช้เวลาในการเรียนรู้งานของบริษัทตั้งแต่เขายังเรียนมหาลัยอยู่ ทำให้พอถึงเวลาที่เขารับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อมา เขาสามารถบริหารต่อจากผู้เป็นพ่อได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัดปัญหาอะไรนัก




         “คุณคือใครคะ?” หน้าตามึนงง ใครอะ มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกับเด็กเจ้าของร่างที่เธออยู่



         ชิลกีได้ยินอย่างนั้นเขาช็อก ร่างแข็งทื่อร่างกายชาไปหมด เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขามีประชุมด่วนเนื่องจากบริษัทกำลังจะมีผลิตภัณฑ์เครื่องประดับชิ้นใหม่  ระหว่างที่เขากำลังประชุมอยู่กับพนังงานอยู่นั้นเลขาของเขาได้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแจ้งกับเขาในระหว่างการประชุมว่ามีเรื่องด่วนลูกของเขาเกิดอุบัติเหตุตกบันได 




         ชิลกีไม่ลังเลเลยที่จะยกเลิกการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งทุกคนในห้องประชุมก็ไม่มีใครขัดข้อง ต่างรู้ดีว่าสำหรับประธานบริษัท เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก ในเมื่อลูกสาวเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บคนเป็นพ่อคงไม่มีสมาธิปล่อยให้ไปอยู่ดูลูกเสียจะดีกว่า




         ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนตกบันไดจนถึงตอนนี้ลูกของเขาก็ยังไม่ฟื้นสักที หมอเพื่อนของเขาบอกว่า ลูกของเขาควรจะฟื้นได้แล้ว อาการบาดเจ็บแผลต่างๆหายดีแล้ว น่าแปลกที่ตอนนี้ลูกสาวของเขาก็ยังไม่ฟื้นสักที นั่นทำให้ชิลกีและภรรยาเป็นกังวลมากกลัวว่าลูกจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก



         “พ่อไง พ่อของลูกอย่าพึ่งลุกไปไหนนะ เดี๋ยวพ่อไปตามแม่กับหมอมา” ชิลกีรีบวิ่งไปตามภรรยาของเขาและโทรหาเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยด้วยกันซึ่งเป็นหมอเจ้าของเศสมีโซ



         “พ่อ…” ‘พ่อของเด็กคนนี้..ฉันไม่มีความทรางจำของเด็กคนนี้เลยร่างของเธอไม่หลงเหนือความทรงจำเลยสักนิด’

         ปัง!!


         “มีโซลูก! เป็นอย่างไรบ้าง จำแม่ได้รึเปล่า” โช ซองอึน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วขณะที่เธอกำลังเดินช้อปปิ้งในห้างหรูได้มีสายเรียกเข้าจากแม่บ้านโทรมาบอกเธอว่ามีโซลูกสาวของเธอตกบันได ซองฮึนแทบทำอะไรต่อไม่ถูกพอตั้งสติได้ซองอึนก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์ทันที




         หมอบอกเธอว่าสมองของมีโซน่าจะกระทบกระเทือนตอนตกบันได ลูกสาวสลบไปเป็นอาทิตย์ คนเป็นแม่กังวลอย่างซองอึนร้อนใจมาก ลูกของเธอไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้มาก่อนมากที่สุดเจ้าตัวก็แค่หกล้ม ขนาดแค่หกล้มเข้าเป็นแผลเธอยังอยากจะเจ็บแทนลูกเสียให้ได้ แต่ครั้งนี้หลักหนากว่าอีกหัวใจคนเป็นแม่แทบแหลกสลายทำได้แค่รอให้ลูกของเธอฟื้นเท่านั้น



         วันนี้ขณะทำขนมอยู่ในครัวสามีชะโงกหน้าเข้ามาในครัว บอกด้วยหน้าตาตื่นว่า “ลูกสาวฟื้นเเล้ว!”  แต่ลูกจำสามีของเธอไม่ไ้ด้?



         ‘แม่หรอ คุณคือแม่ของฉัน?’ ทำหน้าตาสงสัยขณะนั่งมองดูผู้หญิงคนที่บอกว่าตัวเองเป็นแม่ของเจ้าของร่างนี้ที่ทำหน้าตาเหมือนกำลังจะร้องไห้  คือคุณพี่จะร้องทำไมคะ?



         “โอ้ว สวรรค์กลั่นแกล้งลูก” นํ้าตาอาบแก้มร้องไห้โฮ


         ‘เจ้าของร่างมีพ่อแม่ที่เเปลก’ คิ้วเล็กเลิกขึ้นนิดๆ เธอรู้สึกว่าจะโอเวอร์ไปนิด



         “คนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองความจำคงหายไปบางทีอาจจะจำได้หรือจำไม่ได้เลยคุณพ่อคุณแม่ควรจะเล่าเรื่องต่างๆให้น้องฟังเผื่อความจำจะกลับมา ทำเรื่องที่น้องทำเป็นประจำน้องอาจจะจำได้สักนิด ร้ายแรงที่สุดอาจจะจำเรื่องราวอะไรก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย” มีสีหน้าอึดอัดใจ



         “คุณพ่อคุณแม่ ต้องพยายามปรับตัวน้องจำอะไรไม่ได้รวมถึงนิสัยของน้องอาจจะไม่เหมือนเดิมนะครับ การดูแลจำเป็นที่จะต้องใส่ใจให้มากดูแลน้องอย่างใกล้ชิดนะครับ”  คุณหมอเดินไปจัดยาและอธิบายตัวยาที่เด็กน้อยต้องทานให้คุณพ่อของเด็กน้อยที่นั่งตาแป๊วฟัง



         หลังจากสั่งยาเสร็จเเล้วคุณหมอก็กลับไป “มีโซจำแม่ไม่ได้จริงๆหรือลูก” ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ นํ้าตายยังคงอาบแก้มของคนเป็นแม่ ในใจยังมีความหวังเผื่อลูกของเธอจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง



         “จำไม่ได้ค่ะ” มีโซซ่ายหน้าปฏิเสธ พยายามรีดเค้นค้นหาความทรงจำแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก



         “ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร ยังจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะแนะนําตัวและเล่าเรื่องมีโซตอนเด็กให้ฟังนะ” ชิลกีเดินผ่านออกประตูไป ไม่นานเดินกลับมาพร้อมแขนทั้งสองข้างที่กำลังโอบอุมสมุดรวมภาพมาด้วยหลายเล่ม



         หอบมากองกลางห้องชิลกีกับซองอึนนั่งบรรยายเรื่องราวชีวิตของ โช มีโซ ตั้งแต่เพิ่งเกิดให้ฟังพร้อมเปิดดูรูปภาพประกอบคำบรรยาย 



         หลังจากที่ชิลกีและซองอึนออกไปเพื่อปล่อยให้ลูกของพวกเขาพักผ่อน



         ‘ว่างมาก ทำอะไรดี’ ร่างเล็กเริ่มเดินสำรวจห้องพอสำรวจเสร็จก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวนอน เธอกลอกตามองบนเมื่อพบว่าโทรศัพท์ยังมีเคทสีชมพูอีก 




         ‘มีแต่สีชมพู!  ถึงฉันจะเฉยๆกับสีนี้ แต่เห็นมันตลอดเวลาทุกที่ ทุกทางอย่างงี้ฉันเองเริ่มที่จะเอียนแล้ว’ เธอเปิดเครื่องดูapplicationต่างๆ พบว่าแอ๊ปสีเขียวแอ๊ปสีฟ้าและแอ๊ปสีแดงยอดนิยมก็มีแล้ว เธอเลื่อนดูปีพบว่าย้อนกลับไปตั้งสิบหกปีดูเหมือนว่าจะเป็นอดีตของโลกคู่ขนานซะมากกว่า ใช่มั้ย?




         เพราะบางอย่างของโลกนี้โลกที่เธอเคยอยู่กลับไม่มี! มันเป็นอะไรไปได้อีกล่ะนอกจากเป็นอดีตของโลกคู่ขนาน นึกถึงทฤษฎีนี้ขึ้นมาได้พอดี




         จากการเล่าเรื่องเกี่ยวกับเธอโดยคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอในตอนนี้พบว่าคุณพ่อเธอทำงานเป็นประธานบริษัท โชจิวเวลรี่ที่สืบต่อมาจากคุณปู่ที่เป็นผู้ก่อตั้ง แม่เป็นนักข่าวและพิธีกรเก่าที่ปัจจุบันแต่งงานกับพ่อ ตอนนี้ท่านกำลังว่างงานเป็นแม่ครัวแทน (หน้าที่ทำงานบ้านเป็นหน้าที่แม่บ้าน)



         ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเด็กมีโซจะตามใจลูกสาวมากเด็กน้อยมักจะงอแงตั้งแต่เรื่องเรียน การกิน มีความเอาแต่ใจ เรื่องเรียนมักจะนอนหลับในห้องเรียนไม่ตั้งใจเรียนน่าจะมาจากปัญหาทางด้านการเรียนรู้หรืออาจจะเป็นเด็กสมาธิสั้น คะแนนของเด็กน้อยไม่ถือว่าดีนัก ตอนทำเป็นฝึกหัดต่างๆ



         ปัญหาการกินไม่กินนม ไม่กินผัก เลือกกิน ตอนนี้เลยมีปัญหาเรื่องนํ้าหนักและส่วนสูงที่น้อยกว่าเกณฑ์ ถึงแม้ว่าคุณแม่ของเด็กน้อยจะพยายามหาอาหารเสริมมาทดแทนก็ตาม  




         ส่วนเรื่องเอาแต่ใจเด็กหลายๆคนก็คงเป็นกัน แต่เด็กคนนี้พ่อแม่ตามใจอยากได้อะไรก็ประเคนให้หมดยกตัวอย่าง ห้องสีชมพูฟรุ้งฟริ้งนี่ หนูน้อยมีโซ บอกคุณพ่อกับคุณแม่ว่าอยากได้ห้องสีชมพู เธอชอบสีนี้มากเพราะมันน่ารัก สดใส มีโซก็ได้ห้องสีชมพูตามปรารถนาในเวลาต่อมา การตามใจเกินไปนี้ทำให้มีโซเป็นเด็กเอาแต่ใจไม่มีอะไรที่เด็กคนนี้อยากได้แล้วไม่ได้




         ร่างเล็กถอนหายใจ  “คงต้องลองเดินดูรอบบ้านสักหน่อย” ลุกเดินไปเปิดประตูพอออกจากห้องมาเธอรู้สึกว่าเธอหลุดออกมาจากห้องบรรทมเจ้าหญิงO⁠_⁠o


         แม่เจ้าโว้ย นี่คือบ้านติคือใหญ่คักแท้น้อ


         มีโซเดินหาทางลงบันไดจนเจอ บ้านหลังนี้หลังใหญ่มาก พอเดินไปเดินมารู้สึกว่าไม่ใช่บ้านเป็นคฤหาสน์ซะมากกว่าบ้าน ราวบันไดถูกออกแบบมาให้มีลวดลายสวยงามสละสลวยพื้นทางเดินสีขาวนวลผนังข้างสีขาวสะอาดตา




         บันไดปูพรมสีแดงสวยสดตัดกับสีพื้นขาวนวลอย่างลงตัวลาวจับสีนํ้าตาลแดงดูเรียบหรูสุดปลายทางลงบันไดก็มีพรมวงกลมสีแดงปักลวดลายดอกไม้ปูไว้

         

         เหมือนในละครมาก ‘โคตรรวย!!!’ สิ่งที่มีโซนอุทานในใจ






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×