ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามี ความโสดคืนให้แล้ว

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 67


    กวินที่รีบวิ่งเต้นมาที่เชียงใหม่ หวังว่าจะได้เจอหน้าของควีนกับลูก แต่พอเดินทางมาถึงที่หมายจริงๆ เขากลับไม่กล้าที่จะสู้หน้ากับควีน การที่ควีนหนีเขามาอยู่ไกลถึงที่นี่ก็คงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากเกลียดขี้หน้าเขา หรือเพราะไม่อยากให้เขาได้เจอกับลูก

    คิดย้อนไปในอดีตเขาละเลยหน้าที่ของสามี คิดแต่ว่าการแต่งงานมันเป็นแค่ธุรกิจเลยทำร้ายจิตใจควีนอยู่บ่อยครั้ง

    “มาขนาดนี้แล้ว ลองเสี่ยงดวงดูเอาแล้วกัน”

    เมื่อเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมเสร็จเขาก็ไม่รอช้าขับรถเช่าสุดหรูตรงไปบ้านของควีนทันที แต่เมื่อเขามาถึงที่บ้านเขาดันเป็นไอ้บื้อปอดแหกที่เอาแต่นั่งน้ำตาตกอยู่ในรถ ภาพที่ของหญิงสาวที่เขาไม่เคยคิดอยากจะมองก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับอยากนั่งมองมันไปนานๆ

    ควีนที่อุ้มเด็กน้อยในอ้อมแขนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนหน้าบ้าน มองรอยยิ้มที่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยได้รับมันเหมือนกัน เขาอยากจะเดินลงจากรถแล้วเอ่ยคำว่าขอโทษ แต่คิดว่ามันคงจะเห็นแก่ตัวเกินไปเธอคงไม่ยินดีที่จะเห็นเขาในตอนนี้ ร่างสูงใหญ่ทำได้เพียงนั่งมองภาพของสองแม่ลูกที่เดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างสิ้นหวัง

    หลังจากกลับมาที่โรงแรมเขาก็ได้เช็ครายละเอียดเอกสารการโอนเงินของปรางอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็แอบสงสัยอยู่เป็นนัยแต่ไม่ได้สนใจมันมากนัก จนเขาเลิกสนใจไปพักใหญ่ก่อนที่ปรางจะพาผู้ชายคนหนึ่งมาแนะนำให้เขารู้จักซึ่งนั่นก็คือไม้ เห็นว่าเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทป้าปริม เขาเลยรับบุคคลนั้นเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของเลขาของเขา

    เขาแอบสงสัยอยู่ว่าทำไมเขาถึงตามหาตัวควีนไม่เจอสักที ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าคนอยู่เบื้องหลังที่ปิดบังเรื่องนี้ตลอดหลายเดือนก็คือไม้ เขาเลยเดินเรื่องจ้างนักสืบเอกชนด้วยตัวเองโดยกำชับเลขาให้เก็บเงียบห้ามบอกใคร ซึ่งก่อนหน้านั้นงานโปรเจ็คของเขากำลังไปได้ดี ทำให้เลขาของเขาต้องทำงานหนักจึงให้ไม้เป็นธุระเรื่องการจัดหานักสืบตามหาควีน

    ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดครั้งที่เท่าไหร่แล้วในชีวิตเขา ที่ดันไม่ฟังคำเตือนของคนในครอบครัว แต่จะมานั่งผูกใจเจ็บตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาต้องรู้ว่าปรางกับไม้ทำไมถึงต้องคอยกันเขาไม่ให้เจอกับควีนให้ได้เสียก่อน

    แต่ไม่ทันได้คิดอะไรมากมายก็มีสายวิดีโอคอลโทรเข้ามาจากแฟนสาว เธอโทรมาหาเขาเพื่ออยากรู้ว่าก่อนที่เขาจะเดินทางไปทำงานทำไมถึงต้องถามหาเธอ ซึ่งเขาตอบได้เพียงแค่รอให้เขากลับไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน

    “แล้วลูกล่ะ?”

    เขาไม่ลืมที่จะถามถึงลูกสาวตัวน้อยของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะตามหาควีนแต่เขาก็จะไม่หมดรักลูกสาวของเขาอยู่แล้ว คิดแค่ว่าให้ความผิดพลาดมันเป็นเรื่องของอดีตไป

    (วีเวียนหลับไปแล้วค่ะ ปรางเพิ่งจะกล่อมนอนไป)

    “ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้วเราค่อยคุยกันก็แล้วกัน ปรางไปพักผ่อนเถอะ”

    (ค่ะ แล้วพี่กวินไปทำงานที่ไหนล่ะคะ?)

    “เชียงใหม่น่ะ”

    เขาลองพูดไปตามตรงเพื่อรอดูปฏิกิริยาของแฟนสาว ถ้าปรางรู้เรื่องของควีนผ่านไม้แล้วละก็จะต้องมีปฏิกิริยาอะไรบางอย่างแสดงให้เขาเห็นแน่

    (คะ เชียงใหม่? นี่พี่กวินอยู่ที่เชียงใหม่เหรอคะ?)

    ท่าทีร้อนรนของแฟนสาวทำให้เขาเริ่มแน่ใจในสัญชาตญาณว่าปรางต้องรับรู้เรื่องของควีนแน่ๆ

    แกล้งลองโยนหินถามทางดูดีไหมนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?”

    (เปล่าหรอกค่ะ แค่อยากลองไปเที่ยวเชียงใหม่บ้างน่ะค่ะ)

    “งั้นเหรอ ไว้ครั้งหน้าไว้พี่จะพามาเที่ยวที่นี่นะ ครั้งนี้กะทันหันเกินไปเลยไม่ได้บอก”

    (ค่ะ งั้นปรางไปนอนก่อนนะคะ รักพี่นะ)

    “อือ…”

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงได้ยินคำนี้แล้วหัวใจก็กระชุ่มกระชวยรีบตอบกลับว่ารักเหมือนกันไปแล้ว

    วันต่อมาชายหนุ่มก็ตื่นแต่เช้าขับรถออกมาจากโรงแรมเพื่อมาเฝ้าดูการใช้ชีวิตของควีนเช่นเคย ลึกๆ ในใจ เขาก็แอบหวังให้หญิงสาวยอมให้อภัยเขาและให้เขาได้เจอหน้าลูกบ้าง ป่านนี้ถ้าครอบครัวของเขารู้ข่าวที่ควีนตั้งท้องแล้วละก็คงดีใจกันยกใหญ่ แถมเด็กก็ยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก คงจะขึ้นแท่นเป็นหลานรักของคุณปู่มรดกที่ปู่เคยบอกจะให้เขาคงจะตกไปอยู่ที่ลูกเป็นแน่

    ก๊อก ๆ เสียงเคาะกระจกจากภายนอกเรียกความสนใจจากเขา

    “ครับ?”

    “ขอโทษค่ะ พอดีที่ตรงนี้ห้ามจอด เพราะถ้าจะซื้ออาหารที่จอดรถอยู่ฝั่งโน้นค่ะ”

    เด็กสาวท่าทางทะมัดทะแมงบอกเขา ทันทีที่เขามองไปตามที่เด็กสาวชี้จะเห็นว่ามีร้านอาหารเล็กๆ อยู่ตรงนั้นด้วย

    “ขอโทษนะครับ เดี๋ยวผมจะย้ายไปจอดรถตรงนู้น”

    “ขอบคุณค่ะ”

    หลังจากจอดรถเข้าที่แล้วเขาก็เดินลงจากรถตรงไปที่ร้านอาหารนั้นทันที เพราะตั้งแต่เช้าเขาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย

    “ยินดีต้อนรับค่ะ”

    เป็นเด็กผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาคล้ายกันกับเด็กคนก่อนหน้านี้

    “ครับ”

    “มากี่ท่านคะ?”

    “คนเดียวครับ”

    “เชิญด้านนี้ค่ะ คุณลูกค้าสามารถสแกนเมนูอาหารและกดสั่งได้เลยนะคะ”

    ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่ดูแล้วดีกว่าโรงแรมหรูที่เขาไปพักเสียอีก เพราะบริการสั่งอาหารยังต้องนั่งเปิดเมนูกระดาษอยู่ เจ้าของร้านคงจะเป็นคนหัวคิดสมัยใหม่สินะ

    เมนูอาหารถูกเรียงรายอยู่บนโต๊ะสองสามอย่างตามที่เขาได้กดสั่งอาหารไป เมื่อเทียบปริมาณที่ได้กับราคาแล้วถือว่าใช้ได้

    แถมรสชาติ….ถูกปากเขามากจริงๆ

    “เราเป็นเจ้าของร้านเหรอ?”

    “คะ? เปล่าค่ะ หนูเป็นพนักงานแต่เจ้าของร้านจะเข้ามาช่วงบ่ายนู่นแหละค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ? หรือว่าอาหารไม่ถูกปาก”

    กี้ถามด้วยท่าทางและสีหน้าร้อนรน จำได้ว่าเธอก็ทำงานตามสูตรอาหารที่พี่ควีนให้มาแบบเป๊ะๆ

    “เปล่าคือว่า อาหารอร่อยมากครับ แล้วก็รสชาติดีด้วย….”

    “อ๋อค่ะ พอดีเป็นสูตรของทางเจ้าของร้านน่ะค่ะ”

    “งั้นเหรอ….”

    ไม่ต้องเดาให้ยากว่าใครเป็นเจ้าของร้าน ร้านอยู่ใกล้บ้านขนาดนี้ทำไมเขาถึงคิดไม่ออกตั้งแต่ทีแรกนะ

    ถือว่าเป็นมื้อนี้เขาจะยกให้เป็นมื้ออร่อยที่สุดในรอบเดือนเลยก็ว่าได้ จากนั้นก็ตั้งใจกินอาหารตรงหน้าจนหมด

    “คุณลูกค้าจะชำระเงินสดหรือจะโอนดีคะ”

    “โอนครับ”

    “เดี๋ยวเชิญสแกนคิวอาโค้ดด้านนี้ได้เลยค่ะ”

    เขากดสแกนจ่ายเงินก่อนจะเดินออกจากร้านไป แต่ก็ไม่ได้จะกลับโรงแรมในทันหรอก เขามองกลับไปทางรั้วบ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้เขามองไม่เห็นสองแม่ลูกเลยคิดว่าคงจะกลับเข้าไปในบ้านกันแล้ว

    “น้องกันวันนี้ปิดรับออเดอร์ออนไลน์นะคะ แล้วก็เดี๋ยวมาเริ่มทำขนมกัน เย็นนี้เรามานอนที่บ้านพี่นะ พรุ่งนี้ต้องไปที่งานแต่เช้า…”

    เสียงหวานที่เขาคุ้นเคย เป็นเสียงของหญิงสาวที่เขาแอบดูอยู่ก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เธอจะอยู่ตรงหน้าของเขา ดีที่เธอไม่ทันสังเกตว่าเขาอยู่ตรงนี้ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงหลบหน้าเขาไปแล้ว

    ชายหนุ่มไม่คิดที่จะหันหลังกลับไปมอง เพราะเขายังไม่กล้าพอที่จะสู้หน้า ถึงแม้สาเหตุที่เขาเดินทางมาถึงที่นี่ก็เพื่อที่จะมาเจอเธอและขอโทษเธอก็ตาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×