คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
-เชียงใหม่-
“คุณหนูแน่ใจแล้วเหรอคะ ป้าว่ารอให้คลอดก่อนดีกว่าไหมคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกอย่างระหว่างนี้เอาแต่นั่งกับนอนอย่างเดียว ควีนชักจะเบื่อๆ”
“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะช่วยเอง เพราะฉะนั้นคุณหนูห้ามหักโหมนะคะ เกิดคุณหนูเป็นอะไรขึ้นมา คุณท่านได้โมโหจนหน้าดำหน้าแดงพอดี”
ป้านิ่มเอ่ยเตือนคุณหนูของตัวเอง เพราะคุณหนูดันอยากจะเปิดร้านอาหาร เพียงเพราะบอกว่าไม่อยากนั่งๆ นอนๆ
ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ มีพวกคุกกี้ เค้กที่ทำเองด้วยนิดหน่อย เมนูขนมก็ไม่ได้คิดจะทำทุกวัน แต่ว่าอยากทำเผื่อจะมีเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองอยากลองสั่งซื้อเพิ่ม
เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์จากวันแรกที่ขายได้แค่ไม่กี่กล่องจนตอนนี้ก็เริ่มมีออเดอร์สั่งเข้ามาเรื่อยๆ รวมไปถึงการจัดเซ็ตขนมและอาหารว่าง เป็นออเดอร์ของโรงแรมแถวๆ นี้ เห็นว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาเรียนรู้งานภายในโรงแรมถึงได้สั่งออเดอร์มากกว่าหนึ่งร้อยกล่องในช่วงเข้า และอาหารกลางวันสามถึงสี่เมนูในตอนกลางวัน ทำให้วันนี้วุ่นวายเป็นพิเศษ
ทั้งป้านิ่ม ลุงสม ต่างก็ยังไม่ได้หยุดพักกันตั้งแต่เข้ามืด ดีที่ว่าได้จ้างพนักงานพาร์ทไทม์เอาไว้ก่อนหน้านี้สามคน
“คุณหนูไปพักก่อนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จัดกล่องเสร็จแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวตาสมกับป้าจะทยอยเอาของขึ้นรถนะคะ”
“ค่ะ”
สองออเดอร์รวมกันก็ประมาณสองร้อยหกสิบกล่อง แยกเป็นของว่างหนึ่งร้อยสามสิบกล่อง และอาหารกลางวันอีกหนึ่งร้อยสามสิบกล่อง และคิดว่าวันนี้ทั้งวันฉันคงจะปิดร้านเพื่อให้ป้านิ่มกับลุงสมได้พักผ่อนกันสักหน่อย ทั้งช่วยเตรียมกล่อง เลือกซื้อวัตถุดิบ อีกทั้งยังช่วยทำอาหาร ทำขนม ตั้งแต่เมื่อวาน
“พวกหนูกลับก่อนนะคะพี่ควีน ไว้มีงานแบบนี้ก็จ้างพวกหนูใหม่ได้นะคะ”
เด็กๆ ทั้งสามคนที่อยู่ระแวกบ้านเห็นประกาศรับสมัครก็มาช่วยทำงานอย่างดี ถึงแม้จะต้องมาตั้งแต่เช้ามืดก็ตาม และแน่นอนว่าค่าตอบแทนที่ฉันเสนอให้ก็สมเหตุสมผลให้ยอมตื่นเช้าแน่ๆ
“ได้เลย ไว้พี่เปิดร้านเมื่อไหร่ถ้าเราอยากมาทำงานก็มาได้เลยนะ”
“ค่ะ พวกหนูไปนะคะ”
เด็กสามคนนั้นเป็นเด็กอายุแค่สิบเก้าปี เป็นวัยที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพอดี แต่ว่าพ่อแม่ของเด็กไม่ได้สนับสนุนให้เรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสนเรื่องเงินทอง เด็กสามคนนั้นก็ได้แต่รับทำงานตามสวน ตามไร่ หรืองานอะไรก็ตามที่ได้เงิน
ถ้าเธอสามารถช่วยได้ก็คงจะช่วยให้ได้เรียนต่อแน่ๆ แต่สถานการณ์ของเธอตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน ขนาดบริษัทก็ยังต้องหวังพึ่งบริษัทของครอบครัวของพี่กวินอยู่เลย
-โรงแรมในเชียงใหม่-
“ขอบคุณมากนะคะ คุณไอรีน”
“ขอบคุณคุณควีนมากกว่าค่ะ ทีแรกก็คิดว่าจะให้ทางโรงแรมจัดเตรียมอาหารเอง แต่ดันมีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อย ขอโทษด้วยนะคะที่สั่งออเดอร์กะทันหันเกินไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีเลย”
“แต่ไอติดใจรสมือคุณควีนมากเลยค่ะ ต้องได้กินทุกวันเลย อร่อยมากจริงๆ”
“เอาไว้ถ้าควีนเปิดร้านควีนอยากให้คุณไอรีนมานะคะ”
“จริงนะคะ ไอไม่พลาดแน่นอนค่ะ”
“งั้นควีนขอตัวก่อนนะคะ”
ระหว่างทางเดินกลับไปที่รถดันมัวแต่กดโทรศัพท์ดูภาพแปลนการออกแบบและดีไซน์ของร้านอาหารจนไม่ทันระวังเผลอเดินชนเข้ากับคนอื่น
“อ๊ะ…ขอโทษค่ะ ขอโทษ คุณเป็นอะไรไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ ห่วงแต่ผมคุณเองก็เกือบล้มแล้วนะครับ”
“ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีควีนไม่มองทางให้ดีเอง”
“ผมก็เหมือนกันครับ ว่าแต่โทรศัพท์คุณ…”
พูดพลางชี้ไปที่โทรศัพท์ที่กำลังตกอยู่กับพื้น
“อ๋อ…ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีเจ้านี่มันค่อนข้างอึด”
“ฮ่าๆ งั้นเหรอครับ แต่ถ้ามันพังหรือเสียหายตรงไหนติดต่อมานะครับ ผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ”
“ผมชื่ออลันนะครับ ส่วนนี่นามบัตรผม”
เขายื่นนามบัตรของตัวเองมาให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มแสนหวาน โถ…พ่อไมโครเวฟ
“อ้าว…คุณหนูอยู่นี่เอง ป้าก็เดินตามหาให้ทั่วเลย ส่งอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ กลับไปพักผ่อนกันเลยไหมคะ”
“ค่ะ… ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ”
รีบรับนามบัตรของเขามาจากนั้นก็รีบเดินกลับไปที่รถ เดินไม่มองทางว่ารู้สึกแย่แล้ว ดันไปเดินชนเขาแล้วเขาดันจะมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้อีก มันรู้สึกแย่ยิ่งกว่า ทั้งๆ ที่ตัวฉันเองไม่ได้ดูทางแท้ๆ
นามบัตรสีดำปรากฎตัวอักษรสีทอง แค่ดูแบบผิวเผินก็สามารถรับรู้ได้ว่าฐานะคงไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้สนใจเลือกที่จะเก็บนามบัตรนั้นเข้ากระเป๋าสตางค์ตัวเอง เพราะว่าคงไม่มีเหตุผลที่ทำให้ต้องใช้อีกและคงไม่มีทางเจอเขาอีกเป็นครั้งที่สองหรอก
พอกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานก็ต้องแปลกใจเพราะว่ามีรถคันหรูจอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเจ้าของรถเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นรถของพ่อเธอเอง
“คุณพ่อคะ ไหนว่าคุณพ่อจะมาอีกสองอาทิตย์ไงคะ ทำไมถึงมาไม่บอกควีนก่อนควีนจะได้เตรียมอาหารไว้รอ”
“ก็รอที่จะฟังสิ่งที่ยัยหนูบอกจะสารภาพนะสิ เล่นทำเอาพ่อทำงานนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย เพราะอยากรู้ ทำไมยัยหนูถึงบอกพ่อผ่านโทรศัพท์ไม่ได้ล่ะ”
“เอ่อคือเรื่องนั้น…”
“นี่พ่อรีบเคลียร์งานจนเสร็จเพื่อกลับมาฟังยัยหนูเลยนะ”
“คือว่าอันที่จริง หนูกำลังท้องค่ะ”
“โถ่…พ่อก็ว่าจะเรื่องอะไร ที่ไหนได้ เดี๋ยวนะเมื่อตะกี้ยัยหนูบอกว่า…ท้อง?”
หันหน้าไปมองป้านิ่มเพื่อที่จะถามหาความจริง แต่ไม่นานก็ได้รับคำตอบจากป้านิ่ม
“ค่ะนายท่าน คุณหนูควีนท้องจริงๆ ค่ะ”
“งั้นแสดงว่าอีกไม่นานพ่อก็จะได้เป็นคุณตาสินะ”
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าในอนาคตจะมีเด็กตัวเล็กๆ มาวิ่งเล่นที่บ้านเรียกหาตาจ๋า แค่คิดก็มีความสุขมากแล้ว
“คุณพ่อจะไม่บอกเรื่องนี้ให้คนที่บ้านนั้นรู้ใช่ไหมคะ”
“ถ้ายัยหนูของพ่อไม่ต้องการให้คนบ้านนั้นรู้ พ่อก็จะไม่พูดอะไร เหตุผลที่ยัยหนูหนีมาอยู่ที่ก็เพราะเรื่องนี้ พ่อคิดถูกไหมล่ะ”
“ค่ะคุณพ่อ”
“แต่ยัยหนูก็ใจร้ายกับพ่อเกินไปแล้วนะลูก ปิดเรื่องนี้เป็นความลับกับพ่อได้ยังไง”
“ก็หนูกลัวพ่อเสียใจนี่คะ หย่าโดยไม่ปรึกษาแถมตัวเองดันมาท้องอีก พูดไปแล้วก็จะมีแต่คนมองว่าไม่ดี มีแต่จะเสียหายนี่คะ”
“เรื่องนั้นพ่อไม่สนใจหรอกนะ คนที่คนอื่นจะมองว่าไม่ดีคืออดีตสามีของลูกมากกว่า ทำไปได้! หย่ากับเมียตบเมียแต่งเพราะทำผู้หญิงคนอื่นท้อง แบบนี้ถ้าชาวบ้านรู้เข้าคงเห็นใจฝ่ายยัยหนูมากกว่า”
“ช่างเถอะค่ะ ควีนจะดูแลเด็กคนนี้เองจะไม่ทำให้เด็กคนนี้รู้สึกขาดอะไร ถึงแม้เขาจะไม่มีพ่อก็ตาม”
“ต้องอย่างนั้นสิ พ่อน่ะไม่จำเป็นหรอก มีตาคนเดียวก็พอแล้ว”
“ขอบคุณนะคะที่พ่อเข้าใจควีน”
“แน่นอนสิ ก็พ่อมียัยหนูเป็นลูกสาวแค่คนเดียว”
กอดลูกสาวสุดที่รักพลางคิดทบทวนในใจ ถ้าเขาไม่ขอร้องให้ลูกสาวไปแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ละก็เรื่องราวมันคงไม่เป็นแบบนี้ ลูกสาวของเขาคงไม่ต้องมาเสียใจหรือทุกข์ใจอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เมื่อก่อนเขาคิดจริงๆ ว่าเงินทองมันคือทุกอย่างสำหรับเขาแต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปมาก มีเงินมีทองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีได้หรือสร้างครอบครัวที่มีความสุขได้ ถ้าเขาไม่โลภมากเขาคงเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักและมีครอบครัวที่ดี
ตอนนี้จะมาหวนคิดถึงอดีตก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่สามารถทำได้ตอนนี้คือการปกป้องและดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาให้มีความสุขให้ได้มากที่สุด
ความคิดเห็น