ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามี ความโสดคืนให้แล้ว

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 24

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 67


    บ่ายวันหนึ่ง ในท้องทุ่งนาอันกว้างขวางในเนื้อที่เกือบห้าไร่ มีหญิงวัยชรายืนเกี่ยวข้าวอย่างขะมักเขม้น เธอเหงื่อซึมเต็มใบหน้า แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความภูมิใจ

    ยายเลี้ยงหลานเพียงลำพังมานาน ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อให้วิเวียนได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะมอบให้ได้ ความตั้งใจเดียวของเธอคืออยากให้หลานมีอนาคตที่สดใส ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นเดียวกับปราง แม่ของวิเวียนอีก

    เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง หญิงชราเงยหน้าขึ้นมองเห็นวิเวียนที่รีบวิ่งมาในชุดนักเรียนเก่า ๆ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

    “ยายจ๋า วันนี้หนูสอบได้ที่หนึ่งด้วย!”

    เสียงของหลานสาวเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล วิเวียนกระโดดโลดเต้นวิ่งหน้าตั้งอย่างดีใจ ปริมยิ้มออกมาเต็มใบหน้า แต่ยังห้ามหลานไว้

    “อย่าเพิ่งมากอดยายสิลูก ยายเหงื่อเต็มไปหมด เพิ่งเกี่ยวข้าวมา เดี๋ยวจะคันเอานะ”

    วิเวียนส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะตอบอย่างร่าเริง

    “ไม่เป็นไรเลย เดี๋ยววิเวียนเก็บกระเป๋าก่อนแล้วจะมาช่วยยายเกี่ยวข้าวนะ”

    “ไม่ต้องหรอกจ้ะ ไปทำการบ้านรอยายหรือไม่ก็ออกไปเล่นกับเพื่อนเถอะลูก ไม่ต้องมาช่วยยายหรอก”

    ปริมเอ่ยเสียงนุ่ม พยายามให้หลานสาวได้ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างที่เด็กควรจะเป็น

    วิเวียนหันไปทำการบ้านในกระท่อมข้างนาอย่างที่ยายบอก แต่ในใจยังแอบห่วงและอยากช่วยยายอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เธอมองยายทำงานหนัก เธอรู้สึกได้ว่าต้องเป็นเด็กดีเพื่อให้ยายภูมิใจ และยิ่งเมื่อยายบอกเรื่องการย้ายโรงเรียนในปีหน้าเพราะโรงเรียนวัดที่เธอเรียนอยู่มีถึงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่หกเท่านั้น วิเวียนก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เธอไม่อยากไปเรียนที่ไกลบ้าน ยิ่งยายบอกว่าจะซื้อจักรยานให้ เธอยิ่งอยากรีบปฏิเสธเพราะรู้ว่ายายต้องเก็บเงินส่วนนี้ไว้ซื้อกับข้าว เธอเลือกที่จะเดินไปเรียนใกล้ๆ บ้าน เพราะสะดวกกว่าและยังได้กลับบ้านไวแถมยังอยู่ใกล้ยายด้วย

    วิเวียนเป็นเด็กขยันและมีมารยาทดี เธอได้รับทุนเรียนฟรีจากโรงเรียนตั้งแต่ตอนอนุบาลเพราะเป็นเด็กเรียนดีและช่วยกิจกรรมของโรงเรียนมาตลอด และตอนนี้พอขึ้น ป.1 เธอก็ได้ทุนยากจนเพิ่มมาอีกด้วย นั่นทำให้ปริมรู้สึกดีใจ เพราะเงินชดเชยที่กวินเคยให้มา รวมถึงเงินที่ประหยัดจากค่าเล่าเรียนสามารถเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาต่อของวิเวียนได้ในอนาคต

    ชีวิตของปริมและวิเวียนดำเนินไปอย่างเรียบง่าย

    กระทั่งวันหนึ่งปริมได้รับข่าวที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับปราง ลูกสาวของเธอเองที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดีคิดว่าหายไปหลังจากออกมาจากบ้านของกวิน

    มีพยาบาลติดต่อเธอ มาบอกว่าปรางป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวเมืองที่กรุงเทพเลยโทรมาสอบถามว่าใช่ญาติไหม เพราะคนไข้แจ้งเบอร์โทรศัพท์นี้

    หญิงชราไม่รีรอ เธอรีบพาวิเวียนเดินทางจากต่างจังหวัดไปเยี่ยมทันที แม้จะไม่มีเงินมากพอจะช่วยเรื่องการรักษา แต่ความเป็นแม่ก็ทำให้เธอต้องไปดูแลลูกสาวของตน

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ปริมเดินเข้าห้องพักผู้ป่วย เห็นปรางนอนซูบผอมอยู่บนเตียง หน้าตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและท่าทางดูอ่อนล้า วิเวียนมองผู้หญิงที่นอนอยู่ด้วยสายตาสงสัย หันไปถามยายด้วยน้ำเสียงเบา ๆ

    “ยายจ๋า ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ? ทำไมดูน่ากลัวจัง?”

    ปรางได้เห็นหน้าลูกสาวชัดเจน แต่จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอจ้องมองวิเวียนอย่างเต็มตา นี่คือลูกสาวที่เธอเคยทิ้งไปเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้วิเวียนโตขึ้นมากแล้ว เธอไม่อาจพูดความจริงออกมาได้ จึงหันหน้าหนีอย่างเจ็บปวดและพูดเสียงแผ่วเบา

    “ป้าเอง…”

    หญิงชราเห็นสายตาอัดอั้นของปรางขณะบอกวิเวียนว่าเป็นเพียงแค่ป้า หัวใจของเธอก็เจ็บแปลบเมื่อเห็นภาพนี้

    เมื่อวิเวียนผล็อยหลับไปในคืนนั้น ผู้เป็นแม่จึงนั่งคุยกับปรางด้วยความห่วงใย พยายามพูดคุยให้รู้ว่าลูกสาวของเธอกำลังเผชิญกับอะไรอยู่

    ปรางพูดน้ำเสียงเบาและเศร้า

    “แม่…ปรางขอโทษนะ แต่ปรางคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว แม่…ปรางโดนพี่ไม้หลอกไปขายตัวอยู่หลายปี แต่ตอนนี้พวกเขาปล่อยปรางออกมาคงเพราะปรางป่วยหนักเป็นโรคร้ายที่คงรักษาไม่หาย”

    ปริมฟังลูกสาวเล่าด้วยความสงสาร จับมือปรางเอาไว้แน่น พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

    “ปรางรู้ว่าตัวเองไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ตอนที่ทำงานอยู่ที่นั่น ปรางก็แอบเก็บเงินเอาไว้ได้ก้อนนึง ปรางตั้งใจจะให้แม่เก็บเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายของวิเวียน ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ปรางสามารถให้วิเวียนได้ในฐานะแม่…ปรางขอโทษนะคะแม่ ที่ไม่ได้เลี้ยงดูลูกของตัวเองเลย”

    ปรางพูดจบก็หันมองวิเวียนที่นอนหลับ ใบหน้าของลูกสาวใสบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาว ทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิดและปวดใจในสิ่งที่เธอเคยกระทำ เธอเอื้อมมือสั่นๆ ไปจับมือลูกสาวเบาๆ แล้วบอกกับแม่ของเธอ

    “แม่เอาเงินนี่ไปเถอะนะ เอาไว้ดูแลวิเวียนต่อ…วิเวียนไม่ควรรับรู้ว่ามีแม่ที่เป็นแบบนี้ ปล่อยให้เธอคิดว่าปรางเป็นแค่ป้าก็พอนะแม่”

    ปริมฟังลูกสาวด้วยความเจ็บปวดในใจ ไม่ว่าปรางจะเคยทำผิดพลาดอะไร เธอก็ยังคงเป็นลูกที่ปริมรักและห่วงใยมาตลอด

    “ปราง ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง แต่ลูกก็ยังเป็นลูกสาวที่น่ารักของแม่เสมอ พักผ่อนนะ คืนนี้แม่จะอยู่เฝ้า ปรางไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ”

    วันต่อมา ปริมตัดสินใจทำเรื่องขอย้ายให้ปรางกลับมารักษาตัวใกล้บ้าน เพื่อที่เธอจะได้ดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด ปริมรู้ดีว่าวันเวลาของปรางอาจเหลือน้อยเต็มที เธออยากให้ปรางได้รับการดูแลอย่างดีและมีครอบครัวเคียงข้างในวันสุดท้าย

    และในทุกๆ วัน อย่างน้อย ปรางจะได้เห็นวิเวียนเติบโตขึ้นด้วยตาของตัวเอง

    ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อยู่เฝ้ามองการเติบโตของลูกสาวในฐานะแม่ แต่สำหรับปรางแล้วเธอเต็มใจที่จะอยู่เฝ้าดูในฐานะนี้ คงจะดีกว่าถ้าให้วิเวียนรู้ว่าเธอไม่ใช่แม่ เพราะการกระทำของเธอก่อนหน้านี้มันน่าอับอายเกินไป

    “ป้าปรางสวัสดีค่ะ หนูจะไปโรงเรียนแล้วนะคะ”

    ปรางที่นั่งมองลูกสาวด้วยสายตาที่ชื่นชม เป็นเพราะแม่ของเธอ เลี้ยงวิเวียนให้เติบโตมาได้ดีมากจริงๆ เธอคิดว่าถ้าตัวเองเป็นคนเลี้ยงวิเวียนเอง คงเลี้ยงได้ไม่ดีแบบนี้แน่ๆ

    “จ๊ะ ไปโรงเรียนดีดีนะ กลับมาก็อย่าลืมมาเล่าเรื่องสนุกที่โรงเรียนให้ป้าฟังอีกล่ะ”

    “ค่ะ ไปนะคะ”

    แม่ของเธอเดินไปส่งวิเวียนที่โรงเรียนด้วยตัวเองทุกวัน ส่วนเวลาเลิกเรียนถ้าแม่ไม่ติดงานก็จะเป็นคนไปรับวิเวียนเอง แต่ถ้าวันไหนมีงานแม่ก็จะฝากเพื่อนบ้านให้ไปรับวิเวียนแทน ดีที่โรงเรียนอยู่ไม่ใกลจากที่บ้านสักเท่าไหร่

    ปรางก็ภูมิใจในตัวลูกสาวมาก มองเห็นรางวัลมากมายที่แปะอยู่ข้างผนังห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดที่วิเวียนวาดและได้คะแนนสูงๆ หรือเป็นภาพที่ส่งเข้าประกวดทั้งนั้น ถึงแม้ในชีวิตนี้เธอจะไม่มีอะไรให้ภาคภูมิใจเลย แต่เธอกลับมีลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ…
     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×