คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 23
ภาคินเอาแต่นั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนในห้องทำงานของเขาอย่างเงียบๆ คำพูดของแม่ที่เคยคอยบงการชีวิตเขายังดังก้องอยู่ในหัว เขาไม่อยากจบชีวิตลงแบบพี่ชาย
พี่ชายที่จากไปด้วยความทุกข์ใจ เพราะแม่พยายามควบคุมและเลือกสิ่งที่คิดว่าดีให้จนในที่สุดเขาคิดว่าชีวิตตัวเองไม่มีความสุขและตัดสินใจจากไปอย่างน่าเศร้า ภาคินรู้ดีว่าถ้าเขายอมตามที่แม่ต้องการไปเรื่อยๆ ชีวิตของเขาก็อาจจบลงเช่นเดียวกัน
ครั้งนี้เขาจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน นั่นคือการได้ลองทำตามหัวใจของตัวเอง แม้เพียงสักครั้งเขาก็อยากจะมีความสุขในชีวิตที่เกิดมาเพียงครั้งเดียวของตัวเองบ้าง
ภาคินได้จ้างนักสืบเอกชนเก่งๆ เพื่อออกตามหาควีน เขาไม่อยากให้เรื่องระหว่างเขากับควีนต้องจบลงเพียงเพราะความเข้าใจผิดและคำพูดของแม่
หลังจากที่นักสืบออกตามหาควีนอย่างสุดกำลัง ภาคินก็ยังรอคอยข่าวคราวอย่างใจจดใจจ่อ แต่ในขณะเดียวกัน แม่ของเขาที่เห็นลูกชายเอาแต่เก็บตัวเงียบ ไม่พูดคุยหรือมองหน้าเธอด้วยซ้ำก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดที่ทำลงไป
การกระทำของเธอที่ไปขัดขวางความรักของลูกชาย ทำให้ภาคินกลายเป็นคนเงียบขรึมและหมดความสดใส แม่ของภาคินที่ทนไม่ได้ที่ถูกลูกชายเมินเฉยก็รับความรู้สึกผิดนั้นไม่ไหว จึงตัดสินใจไปหาแม่บ้านของควีนอีกครั้งเพื่อถามว่าเธอรู้บ้างไหมว่าควีนอยู่ที่ไหน
ในตอนแรกแม่บ้านของควีนก็แสดงท่าทีไม่ต้อนรับ แต่เมื่อเห็นแม่ภาคินแสดงท่าทีร้อนรนและจริงใจ จึงตัดสินใจพูดสิ่งที่อัดอั้นในใจมานาน
“คุณหญิงเคยคิดบ้างไหมคะ ว่าการที่คุณมองคุณหนูของฉันแบบนั้น มันไม่ยุติธรรมเลย คุณหนูอาจจะเป็นผู้หญิงม่ายที่มีลูกติดก็จริง แต่เธอก็เป็นคนที่ดี มีความรับผิดชอบ คุณรู้ไหมว่าคุณหนูของฉันต้องผ่านอะไรมาบ้างในชีวิต?”
แม่ของภาคินฟังแล้วนิ่งไป ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในใจ เธอเริ่มฟังอย่างตั้งใจ และพยายามเข้าใจถึงมุมมองของอีกฝ่าย แม่บ้านของควีนบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“คนที่มีลูกติดไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไม่ดีค่ะ คุณหนูเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งที่ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง เธอมีเหตุผลที่ต้องเลือกทางเดินแบบนี้ ได้โปรดอย่าดูถูกเธอแบบนั้นอีกเลยค่ะ”
แม่ภาคินยืนฟังด้วยความรู้สึกผิดเป็นครั้งแรกและขอโทษด้วยความจริงใจ แม่บ้านจึงยอมบอกเบาะแสเล็กๆ ว่าควีนอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแน่
แม่ของภาคินรับฟังคำบอกเล่านั้นและกลับไปพร้อมด้วยความตั้งใจใหม่ เธอให้คนออกตามหาควีนในกรุงเทพฯ พอรู้ว่าอยู่ที่ไหนมันก็ง่ายต่อการตามหา เมื่อได้ข้อมูลมาบ้างแล้วก็พบว่าควีนเป็นผู้หญิงที่มีฐานะทางครอบครัวพอสมควรและการแต่งงานกับกวินในอดีตนั้นก็จบลงด้วยความเจ็บปวดเพราะถูกนอกใจ เธอยิ่งรู้สึกผิดเมื่อคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดที่เคยว่าร้ายควีน
เมื่อได้ข้อมูลชัดเจนแล้ว แม่ของภาคินจึงนัดควีนในนามของลูกค้าที่สนใจจะร่วมธุรกิจ
ด้วยความคาดไม่ถึง ควีนที่ตอบรับการนัดหมายในครั้งนี้และเมื่อถึงเวลานัด เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า
“ลูกค้าที่ต้องการคุยธุรกิจ” แท้จริงคือแม่ของภาคิน ควีนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาและระมัดระวังตัว
“คุณหญิงมีเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่ได้ติดต่ออะไรกับลูกชายคุณแล้ว”
แม่ของภาคินมองควีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครฟังมาก่อน
“ฉันรู้ดีว่าถ้านัดเธอตรงๆ เธอไม่คงไม่อยากคุยกับฉัน”
“ค่ะ ก็คุณหญิงเป็นคนพูดเองนี่คะ ว่าให้ฉันออกไปจากชีวิตลูกชายของคุณ”
“ฉันรู้ว่าเคยพูดจาไม่ดี แต่ที่ฉันมาวันนี้ ฉันอยากจะมาขอโทษ”
“ถ้าคุณหญิงขอโทษด้วยใจจริง ควีนก็ให้อภัยได้ค่ะ”
“ตาคินชอบเธอมาก ฉันเหลือลูกชายคนเดียว ฉันก็อยากให้เขามีชีวิตที่ดี”
“ควีนเข้าใจค่ะ เพราะควีนก็มีลูกชายคนเดียวเหมือนกัน”
“เมื่อก่อนตาคินเคยมีพี่ชาย เขาเคยมีพี่ชายอีกคน พี่ชายคนโตที่ฉันรักและหวังจะให้เขามีชีวิตที่ดีเหมือนกัน แต่เขาจากไปเพราะฉัน…”
ควีนฟังด้วยความตกใจ แม่ของภาคินเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่บีบคั้นหัวใจของเธออย่างไม่ปิดบัง
“พี่ชายของตาคินเองก็เคยมีผู้หญิงที่เขารัก แต่ฉันก็ทำทุกอย่างเพื่อกีดกันผู้หญิงคนนั้น พยายามหาผู้หญิงที่ ‘เหมาะสม’ ให้ แต่สุดท้ายลูกชายของฉันก็ไม่มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน จนกระทั่งเขาฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ไหว แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันพยายามหนักกว่าเดิมให้ตาคินมีความสุข แต่ฉันคิดว่าฉันอาจจะทำพลาดเหมือนพี่ชายเขา ฉันหวังว่าจะรักลูกแบบถูกต้องได้ในครั้งนี้ แต่ฉันก็ทำผิดพลาดไปอีก”
“ที่ฉันมาหาเธอครั้งนี้ฉันแค่อยากจะมาบอกว่าฉันจะไม่กีดกันเธอสองคนอีกต่อไปแล้ว”
ควีนฟังแล้วรู้สึกหน่วงในใจ เธอเงียบไปสักพักก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“คุณหญิงมีประสบการณ์แบบนั้นมาแล้วยังกล้าบังคับลูกชายแบบนั้นอยู่อีกเหรอคะ?”
แม่ของภาคินหลับตาลงและถอนหายใจ
“ฉันรู้ตัวเองดีว่าฉันพลาดไป แต่เพราะรักและห่วงเขามาก ฉันแค่อยากจะมาขอโทษเธอที่เคยพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจเธอ หวังว่าเธอจะให้อภัยฉันได้นะ ฉันกลัวจะสูญเสียลูกชายอีกคนหนึ่ง… ฉันเหลือเขาเพียงคนเดียวแล้ว”
ควีนมองดูผู้หญิงตรงหน้า เห็นถึงความอ่อนแอและความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ เธอเข้าใจดีถึงความรักและความห่วงใยที่แม่ของภาคินมีต่อเขา
ควีนยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง
“ควีนว่าคุณหญิงควรไปขอโทษลูกชายของคุณหญิงเองมากกว่าค่ะ เขาต่างหากที่เป็นคนที่คุณหญิงทำร้ายจิตใจ สำหรับควีนแล้วคุณภาคินเป็นคนที่ดีมากนะคะ อย่างน้อยคุณหญิงเองก็เลี้ยงลูกให้เติบโตมาได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว บางครั้งความสมบูรณ์แบบมันก็ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
แม่ของภาคินนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดนั้น คำพูดของควีนกระทบจิตใจของเธออย่างแรง ทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดที่เธอทำลงไปอย่างชัดเจนอีกครั้ง เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะขอโทษควีน และจากไปด้วยใจที่ตั้งมั่นว่าเธอจะไปปรับความเข้าใจกับภาคินได้
เมื่อแม่ของภาคินกลับถึงบ้าน เธอเฝ้ารอลูกชายที่กลับมาจากทำงานอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุด เมื่อภาคินกลับถึงบ้าน แม่ของเขารีบเดินเข้าไปหาลูกชายด้วยความรู้สึกผิดและยอมรับว่าเธอเป็นคนที่ทำลายความสุขของเขา
“ภาคิน แม่ขอโทษนะลูก แม่รู้แล้วว่าความรักที่แม่มีมันไม่สมควรจะบังคับลูกแบบนี้อีกแล้ว แม่อยากให้โอกาสลูกได้เลือกทางเดินของตัวเอง”
ภาคินฟังคำพูดของแม่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขามองแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า น้ำตาคลอในดวงตาของเธอ และในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเบาๆ
“ครับแม่ ผมไม่เคยโกรธหรือเกลียดแม่เลย บางครั้งตัวผมเองก็อยากให้แม่เข้าใจว่าผมแค่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ได้ ผมอยากได้โอกาสที่จะตามหาคนที่ผมรัก”
แม่ของเขายิ้มอ่อนๆ และพยักหน้า เธอขอโทษเขาด้วยใจจริงอีกครั้ง ก่อนจะสัญญาว่าจะไม่ขัดขวางความรักของลูกชายอีกต่อไป
หลังจากได้ปรับความเข้าใจกับแม่แล้ว ภาคินก็ออกตามหาควีนต่อไปด้วยความหวังที่เพิ่มขึ้น เขาตั้งใจว่าครั้งนี้จะทำทุกอย่างเพื่อได้กลับไปหาเธอ
ความคิดเห็น