คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20
เมื่อภาคินกลับถึงบ้านหลังจากวันที่เต็มไปด้วยเรื่องราว เขาตัดสินใจโทรหาอลันทันทีเพื่อถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคราม ภาคินเล่าให้อลันฟังถึงความรู้สึกของครามที่เศร้าเพราะคำล้อเลียนเรื่องไม่มีพ่อในงานวันพ่อที่โรงเรียน อลันรับฟังด้วยความเห็นใจ และอธิบายให้ภาคินฟังถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ครามต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
“ขอโทษทีนะเพื่อน” อลันถอนหายใจ
“ครูคนนั้นเป็นคนที่แม่กูแนะนำมาเอง แล้วเหมือนจะชอบกูมากมั้ง ก็เคยรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นแสดงความสนใจในตัวกูอยู่บ้างนะ ก็ไม่คิดว่าจะนิสัยแบบนั้น… เพราะไม่ชอบควีนที่ดูสนิทกับกูมั้งก็เลยพาลแกล้งคราม แต่กูให้เธอลาออกไปแล้วนะขอ”
“เหรอ ถ้าครั้งหน้าเกิดเรื่องแนวนี้อีกฝากมึงจัดการหน่อยนะ”
ภาคินได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้น เพราะเขาไม่อยากให้ครามต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก เขาย้ำกับอลันให้ช่วยดูแลครามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอบคุณที่อลันจัดการเรื่องครูคนนั้นเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” อลันเอ่ยแซว
“พอดีว่ากูเองก็ตามจีบเพื่อนของควีนอยู่เหมือนกัน เราเป็นเพื่อนร่วมสู้กันแล้วนะงานนี้”
ทั้งคู่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน
แต่เรื่องราวดันไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เมื่อแม่ของภาคินได้ยินข่าวลือจากชาวบ้านที่พูดถึงว่าเขาไปงานวันพ่อที่โรงเรียนเพื่อเป็นตัวแทนพ่อให้เด็กคนหนึ่ง แม่ของเขาก็รู้สึกสงสัยจึงเรียกภาคินมาคุยทันทีเมื่อเขากลับถึงบ้าน
“ภาคิน เด็กคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมลูกถึงต้องไปเป็นพ่อให้เขาด้วย?” แม่ของเขาถามอย่างสงสัยและเข้มงวด
ภาคินมองแม่ด้วยสีหน้าที่จริงจัง เขารู้ดีว่าแม่ของเขามักเจ้ากี้เจ้าการกับทุกเรื่องในชีวิตของเขา แต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“เขาเป็นลูกชายของผู้หญิงที่ผมชอบครับแม่ คนที่ผมกำลังตามจีบอยู่ และผมอยากให้แม่ปล่อยให้ผมจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ไหมครับ แม่ไม่ต้องไปฟังเรื่องที่คนเขาพูดกันหรอกครับ ก่อนหน้านี้ผมทำตามที่แม่ต้องการมาตลอด แต่ตอนนี้ ผมอยากลองทำตามหัวใจตัวเองสักครั้งนะครับ”
แม่ของภาคินเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่ตอบอะไร เธอเริ่มเห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของลูกชาย เธอรู้ว่าในครั้งนี้ภาคินไม่ได้เพียงแค่ต้องการทำหน้าที่ตัวแทนพ่อแค่ในวันนั้น แต่เขาต้องการเป็นคนที่สำคัญในชีวิตของครามและควีนอย่างแท้จริง
ในขณะเดียวกัน กวินซึ่งเพิ่งกลับมาถึงไทยในช่วงเย็น ก็ตัดสินใจตรงไปหาควีนที่บ้านของเธอเพราะอยากอธิบายเรื่องราวและขอโทษ เขารู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับครามว่าจะไปร่วมงานวันพ่อที่โรงเรียน แต่ขณะที่กวินพยายามอธิบายว่าเขาติดงานที่ต่างประเทศอย่างกะทันหัน ควีนก็ขัดขึ้นพร้อมน้ำเสียงที่เจือด้วยความเจ็บปวด
“พี่กวิน พี่จะเลิกโกหกฉันเมื่อไหร่ ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว” ควีนพูดอย่างเยือกเย็น
“ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงรับโทรศัพท์แทนพี่ เธอบอกว่าพี่จะไม่กลับมาที่นี่อีก”
กวินอึ้งไป รู้สึกถึงความผิดหวังที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงจากควีน เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะรับโทรศัพท์แทนเขาตอนที่เขาหลับ และนั่นก็ทำให้เขาเข้าใจทันทีว่าไม่มีทางที่ควีนจะยอมให้โอกาสเขาอีกแล้ว
“ฉันขอร้องนะพี่กวิน” ควีนพูดต่ออย่างหนักแน่น
“อย่าติดต่อควีนกับลูกอีก ลูกชายของควีนไม่สมควรได้รับความเจ็บปวดจากคำสัญญาพล่อยๆ ของพี่อีก ที่ทำร้ายจิตใจฉันได้นะ แต่อย่าเข้ามาให้ความหวังและทำร้ายจิตใจลูกอีกเลย”
“พี่ขอโทษ…”
“พี่รู้ไหม ว่าครามตั้งหน้าตั้งตานับวันรออยู่ทุกวัน เขาเคยเกลียดงานวันพ่อมากๆ แต่เพราะพี่ให้สัญญาว่าจะกลับมา จากเด็กที่เคยเกลียดวันนั้นกลับเฝ้านับวันรอ ควีนขอเถอะนะ ออกไปจากชีวิตเราสองคนได้ไหม ควีนเลี้ยงครามมาคนเดียวมอบความสุขให้ครามมาตลอด พี่อย่าให้ครามมาเจอกับเรื่องทุกข์ใจอย่างวันนี้เลยนะ”
คำพูดของควีนทำให้กวินหมดแรงยืน เขารู้ว่าครั้งนี้มันจบสิ้นแล้วจริงๆ เขารู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับการกระทำของตนเองที่ผ่านมา ก่อนที่จะจากไป เขาพูดคำขอโทษด้วยเสียงเบาราวกับเป็นคำสุดท้าย และเดินออกไปด้วยใจที่เต็มไปด้วยความเศร้า
เมื่อกวินกลับถึงบ้าน เขาก็พบกับความโกลาหลครั้งใหญ่ในครอบครัว เมื่อผู้หญิงคนนั้นตามเขามาถึงบ้านโดยไม่ได้รับเชิญ เธอถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านราวกับเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับทุกคน โดยเฉพาะแม่ของกวินที่ยืนอยู่ในมุมหนึ่ง น้ำตานองหน้าอย่างไม่สามารถซ่อนความผิดหวังและอับอายได้อีกต่อไป
กวินถูกปู่ด่าเสียงดังลั่นบ้าน
“แกไปเอาผู้หญิงแบบนี้มายุ่งกับชีวิตทำไม! รู้ไหมว่าบริษัทคู่แข่งที่โจมตีเราอยู่ตอนนี้คือบริษัทของพ่อผู้หญิงคนนี้!”
คำพูดของปู่ทำให้กวินรู้สึกเข่าทรุดลงในทันที เขาเพิ่งรู้ความจริงที่เจ็บปวดว่าผู้หญิงที่เขามีสัมพันธ์ด้วยคือคนของบริษัทคู่แข่งที่กำลังโจมตีธุรกิจของครอบครัวเขาอยู่ เธอไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตส่วนตัวของเขาพัง แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นที่ครอบครัวมีต่อเขาด้วย
ปู่ไล่กวินออกจากบ้านประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์ในบริษัทและทรัพสมบัติของเขาอีก
“ถึงแม้กวินจะไม่มีเงินทองสักบาท ฉันก็เลี้ยงดูเขาได้” ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเสียงดัง
“ถ้าไม่มีใครต้องการให้กวินอยู่ที่นี่ งั้นฉันขอพาตัวเขากลับไปต่างประเทศกับฉันทันที”
แม่ของกวินพยายามจะเข้าไปห้าม แต่มือของเธอสั่นเกินกว่าจะหยุดผู้หญิงคนนั้นได้ กวินมองแม่ของเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ นอกจากยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองสร้างขึ้น เขาเดินออกจากบ้านไปกับผู้หญิงคนนั้น รู้ดีว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ก้าวเข้าบ้านนี้
ขณะเดียวกัน ชีวิตของควีนและครามก็เดินหน้าต่อไปอย่างสงบ โดยมีภาคินคอยอยู่เคียงข้าง คอยเป็นที่พึ่งและเป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่ ในใจของควีนเริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการที่มีภาคินเข้ามาช่วยเหลือดูแลเธอและลูกชายอย่างเต็มใจ ภาคินไม่เคยหายไปหรือทำให้เธอรู้สึกผิดหวัง และนั่นทำให้เธอเริ่มเปิดใจให้กับเขามากขึ้นทีละน้อย
เคยมีวันหนึ่งภาคินบอกกับควีนว่า “ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ผมจะอยู่เคียงข้างควีนและครามเสมอ”
ควีนมองภาคินด้วยความซาบซึ้งใจและรู้สึกว่าในที่สุดชีวิตเธอเริ่มกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้ง ความหวังและความสุขที่เธอเคยคิดว่าสูญเสียไปกลับเข้ามาสู่ครอบครัวของเธอใหม่พร้อมกับลูก ส่วนภาคินเองก็เลือกที่จะยืนยันคำสัญญาที่จะดูแลเธอและลูกชายไม่ว่าจะต้องเจออุปสรรคใดๆ ก็ตาม
ความคิดเห็น