ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามี ความโสดคืนให้แล้ว

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 67


    “เป็นยังไงล่ะ ฉันเคยเตือนแกแล้วใช่ไหม”

    กฤษรู้ดีว่าหลานชายจะมีจุดจบยังไง ในอดีตเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนกับหลานชายอย่างกับหนังม้วนเดียวกัน ถูกให้แต่งงานกับผู้หญิงเพื่อธุรกิจ ทำร้ายจิตใจเมียแต่งสารพัดวิธีที่จะทำได้

    เขาแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่อีกหลายบ้าน ดีกว่าหลานชายหน่อยคือเขาไม่ได้ทำผู้หญิงคนไหนท้อง และเมียที่แต่งงานกับเขาก็ใจเด็ดตามเช็ดตามล้างพวกผู้หญิงทั้งหมด ตัวเขาเกือบได้ลงเอยหย่าร้างกับภรรยาเหมือนกัน แต่โชคยังดีที่เขารู้หัวใจของตัวเองทัน สุดท้ายก็กลับมามีความสุขและมีครอบครัวที่ดีได้ก็เพราะเมียที่แต่งเพื่อธุรกิจนี่แหละ

    เขาเคยตามไปจัดการไอ้หลานชายตัวดีที่มันชอบหยามหน้าเขา มันมักจะมีข่าวเสียๆ หายๆ กับผู้หญิงบ่อยครั้ง และเขาก็มักจะจัดการด้วยวิธีที่ชาวบ้านชาวนาไปสักหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันดีเกินคาด จนพวกเพื่อนๆ ของมันกลัวเขาจนถึงทุกวันนี้

    อันที่จริงเขาก็ไม่ค่อยชอบนิสัยเมียแต่งของหลานชายตัวเองสักเท่าไหร่หรอก เพราะเธอดูอ่อนต่อโลกไม่ค่อยกล้าใช้อำนาจของเมียแต่ง มีที่ไหนยอมหย่ากันง่ายๆ ไม่เรียกร้องหรือฟ้องร้องค่าเสียหายสักแดง

    ส่วนเมียน้อยมันนี่เขาไม่ชอบหล่อนเป็นพิเศษเพราะดูหน้าตาก็ดีอยู่หรอกแต่ทรงเจ้าเล่ห์ นิสัยก็ไม่ต่างอะไรกับหน้าตา ในวันที่หลานชายตัวดีเอาลูกสาวมาที่บ้าน เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าโลกนี้จะมีคนโง่แบบหลานชายตัวเองอยู่ แอบมีอะไรกับเด็กในบ้านจนเขาท้อง ส่วนเมียที่แต่งงานมาห้าปีกลับไม่เคยมีลูกด้วยกัน

    “ปู่ครับ นี่ปรางแล้วก็ลูกสาวของผมวิเวียน”

    “ไปตรวจดีเอ็นเอหรือยังล่ะ” เป็นคำที่เขาพูดทันทีขณะที่หลานชายเอ่ยทักทาย

    “ไม่เอาน่าปู่ ดูสิครับหน้าตาออกจะเหมือนผม”

    “ไอวิน นี่เอ็งจะฉลาดทุกเรื่องแล้วจะมาโง่เรื่องแบบนี้เรอะ?”

    เขาก็ไม่รู้ว่าหลานชายเขาโดนของหรือว่ามันโง่จริงๆ กันแน่

    “คุณปู่คะวิเวียนเป็นลูกของเราสองคนจริงๆ นะคะ”

    “นี่เธอจะให้ฉันเชื่องั้นรึ ทีกับเมียมันเองแต่งงานตั้งห้าปีแล้วไม่ยักกะเห็นแม่หนูนั่นท้อง ถ้าอยากให้ฉันเชื่อแล้วเอ็นดูเด็กคนนี้ละก็ไปเอาหลักฐานมายืนยัน ไม่ใช่มายืนยันปากเปล่า”

    เขาทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ ไอหลานมันก็อยากได้อยู่หรอก ตอนนี้ก็อยากจะเข้าไปกอดไปอุ้มแทบแย่

    “ไป กลับไป แล้วไปเอาผลตรวจมาให้ฉัน”

    เรื่องที่หย่ากับแม่หนู่นั่นฉันเองก็เฉ่งมันไปหลายทีแล้ว เตือนก็แล้ว ด่าก็แล้ว ฉันล่ะอยากลาออกจากการเป็นปู่ของมันจริงๆ

    “ครับปู่ ผมเข้าใจทุกอย่างดีแล้วครับ”

    “แล้วหลานของฉันแกจะทำยังไง?”

    “ผมกำลังหาวิธีปรับความเข้าใจกับควีนอยู่ครับ”

    “ถ้าฉันเป็นแม่หนูนั่น ฉันไม่วนกลับมาหาแกหรอก”

    “คุณย่ายังวนกลับมาหาปู่เลยนี่ครับ ผมก็อาจจะโชคดีแบบนั้น”

    “ย่าแกบอกชอบเอาชนะฉัน เธอถึงไม่หย่าไง แต่เมียเก่าแกไม่ใช่”

    “….”

    “เอาเถอะ ถึงแม่หนูนั่นจะตัดสินใจยังไงฉันเคารพการตัดสินใจเธอ แต่ลูกของแม่หนูนั่นก็คือหลานฉัน ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังได้รับสิทธิ์ในการสืบทอดมรดกของฉัน”

    “ครับ”

    ตั้งแต่เหลนชายลืมตาดูโลกเขายังไม่เคยเห็นแม้แต่ปลายเส้นผม ชีวิตที่จะได้อยู่ดูเหลนวิ่งเล่นและตายไปอย่างสงบคงได้จบไปแล้ว ขนาดตัวเขาที่เป็นปู่ของมันยังไม่กล้าสู้หน้าหลานสะใภ้เลย เดินไปทางไหนก็อายชาวบ้าน

    “หมดเรื่องสักที หวังว่าต่อจากนี้แกคงใช้ชีวิตแบบฉลาดขึ้นมาบ้างนะ ฉันอยู่ตามด่าแกไปได้อีกไม่นานหรอก”

    “อย่าพูดแบบนั้นสิครับปู่ ปู่ต้องอยู่เจอลูกชายผมก่อนสิครับ”

    เขาไม่รู้จะบอกดีไหมว่าเขาก็แอบไปเจอหน้าเหลนมาแล้ว

    “ต่อไปพ่อแม่แกเตือนอะไรก็หัดฟังไว้เสียบ้าง”

    “ก็ทั้งตระกูลผมก็กลัวคุณปู่แค่คนเดียวนี่ครับ”

    “แกกลัวไม่ได้รับมรดกเรอะ”

    “พูดตามตรงก็…ใช่ครับ แต่เหตุผลหลักคือคุณปู่อายุเยอะที่สุดในบ้าน”

    พูดติดตลกนิดหน่อยเพราะกวินเองก็อยากผ่อนคลายลงบ้างหลังจากเจอเรื่องมากมาย

    “เอาเถอะ แต่ยังไงฉันก็ไม่อยากจะด่าแกยันเข้าโลงหรอก ต่อไปนี้ทำตัวให้ดีซะ”

    เขาแอบตามสืบเรื่องนี้ตั้งแต่หลานชายตัวดีก่อเรื่องที่ไปทำผู้หญิงท้องแล้ว ใจจริงอยากจะบินกลับตั้งแต่วันแรกที่รู้เรื่องอยู่หรอก แต่ดันติดปัญหาด่วนที่จะฝากคนอื่นแก้ไขก็ไม่ได้

    เขารู้มาว่าหลังจากหย่ายัยหนูนั่นก็กลับไปใช้ชีวิตในชนบท ถ้าเป็นคนอื่นคงเสพสุขไปกับกองเงินกองทองที่เรียกร้องมาจากการหย่าครั้งนั้นไปแล้ว เขาให้คนตามสืบต่อไปอีกจนได้รู้อีกว่าแม่หนูนั่นท้อง แถมเวลาที่ท้องก็ไล่เลี่ยกันอีกต่างหาก พยายามบอกมันให้รู้ผ่านวิธีการต่างๆ นาๆ มันก็ยังโง่ทนอยู่ได้เป็นปี ลูกตัวเองไม่เลี้ยงดันไปเลี้ยงลูกคนอื่น

    กฤษได้ส่งคนเลขาส่วนตัวไปหาควีนเพื่อทำการพูดคุยเรื่องของคราม ควีนก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่ากฤษต้องติดต่อเธอมาหลังจากที่รู้เรื่องการหย่าของควีน เพราะครามเป็นลูกชายคนแรกของหลานชายตัวเอง เขาเลยอยากที่จะขอพบเจอเด็กคนนั้นบ้างเพราะยังไงครามก็เป็นเหลนของเขา ซึ่งควีนก็เข้าใจในจุดนี้ดี

    “ถ้าคุณปู่อยากมาเจอครามคุณปู่ก็มาได้ตลอดนะคะ แต่ถ้าจะให้ควีนพาครามไปหาคุณปู่ ควีนขอปฏิเสธค่ะ”

    นั่นเป็นคำพูดของหญิงสาวที่บอกเขาผ่านเลขาคนสนิท แต่ก็เอาเถอะเขาเข้าใจดี หลังจากนั้นเขาก็ได้แวะเวียนไปหาเจ้าครามอยู่บ่อยๆ รวมทั้งช่วยสนับสนุนเลี้ยงดูทุกอย่าง

    ในทีแรกควีนก็ปฏิเสธแต่กฤษก็อยากให้เหลนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสมกับเป็นทายาทของตระกูลเขา เพราะในอนาคตเขาอาจจะต้องสืบทอดธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ควีนเลยเลือกจะรับการสนับสนุนมาแค่ในส่วนของลูกชายเธอเท่านั้น

    กฤษได้เห็นและพูดคุยหญิงสาวแล้วทำให้เขาคิดถึงภรรยาของตัวเองที่ด่วนจากไป รายนั้นตอนมีชีวิตอยู่ถึงเขาจะทำไม่ดีมามากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่เคยปล่อยมือเขา แต่กลับมาเสียชีวิตก่อนเขาในตอนที่เขากำลังมีความสุขที่สุดในชีวิต

    เขาได้เล่าเรื่องอดีตของตัวเองกับภรรยาให้ควีนฟัง ที่เล่าไม่ใช่ว่าอยากให้เธออภัยให้หลานชายหรอก แต่เล่าเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกในตอนนั้น ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเธอ ตอนนี้เขาไม่อยากไปบังคับเข็นใจใครอีกแล้ว เขาแค่อยากให้ชีวิตในฐานะปู่ทวดคอยเป็นแรงผลักดันให้หลานได้เติบโตมีชีวิตชีวาที่ดีเท่านั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×