ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามี ความโสดคืนให้แล้ว

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 67


    -เชียงใหม่-

    “คุณหนูแน่ใจแล้วเหรอคะ ป้าว่ารอให้คลอดก่อนดีกว่าไหมคะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกอย่างระหว่างนี้เอาแต่นั่งกับนอนอย่างเดียว ควีนชักจะเบื่อๆ”

    “ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะช่วยเอง เพราะฉะนั้นคุณหนูห้ามหักโหมนะคะ เกิดคุณหนูเป็นอะไรขึ้นมา คุณท่านได้โมโหจนหน้าดำหน้าแดงพอดี”

    ป้านิ่มเอ่ยเตือนคุณหนูของตัวเอง เพราะคุณหนูดันอยากจะเปิดร้านอาหาร เพียงเพราะบอกว่าไม่อยากนั่งๆ นอนๆ

    ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ มีพวกคุกกี้ เค้กที่ทำเองด้วยนิดหน่อย เมนูขนมก็ไม่ได้คิดจะทำทุกวัน แต่ว่าอยากทำเผื่อจะมีเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองอยากลองสั่งซื้อเพิ่ม

    เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์จากวันแรกที่ขายได้แค่ไม่กี่กล่องจนตอนนี้ก็เริ่มมีออเดอร์สั่งเข้ามาเรื่อยๆ รวมไปถึงการจัดเซ็ตขนมและอาหารว่าง เป็นออเดอร์ของโรงแรมแถวๆ นี้ เห็นว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาเรียนรู้งานภายในโรงแรมถึงได้สั่งออเดอร์มากกว่าหนึ่งร้อยกล่องในช่วงเข้า และอาหารกลางวันสามถึงสี่เมนูในตอนกลางวัน ทำให้วันนี้วุ่นวายเป็นพิเศษ

    ทั้งป้านิ่ม ลุงสม ต่างก็ยังไม่ได้หยุดพักกันตั้งแต่เข้ามืด ดีที่ว่าได้จ้างพนักงานพาร์ทไทม์เอาไว้ก่อนหน้านี้สามคน

    “คุณหนูไปพักก่อนไหมคะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ เหลืออีกนิดเดียวก็จัดกล่องเสร็จแล้ว”

    “งั้นเดี๋ยวตาสมกับป้าจะทยอยเอาของขึ้นรถนะคะ”

    “ค่ะ”

    สองออเดอร์รวมกันก็ประมาณสองร้อยหกสิบกล่อง แยกเป็นของว่างหนึ่งร้อยสามสิบกล่อง และอาหารกลางวันอีกหนึ่งร้อยสามสิบกล่อง และคิดว่าวันนี้ทั้งวันฉันคงจะปิดร้านเพื่อให้ป้านิ่มกับลุงสมได้พักผ่อนกันสักหน่อย ทั้งช่วยเตรียมกล่อง เลือกซื้อวัตถุดิบ อีกทั้งยังช่วยทำอาหาร ทำขนม ตั้งแต่เมื่อวาน

    “พวกหนูกลับก่อนนะคะพี่ควีน ไว้มีงานแบบนี้ก็จ้างพวกหนูใหม่ได้นะคะ”

    เด็กๆ ทั้งสามคนที่อยู่ระแวกบ้านเห็นประกาศรับสมัครก็มาช่วยทำงานอย่างดี ถึงแม้จะต้องมาตั้งแต่เช้ามืดก็ตาม และแน่นอนว่าค่าตอบแทนที่ฉันเสนอให้ก็สมเหตุสมผลให้ยอมตื่นเช้าแน่ๆ

    “ได้เลย ไว้พี่เปิดร้านเมื่อไหร่ถ้าเราอยากมาทำงานก็มาได้เลยนะ”

    “ค่ะ พวกหนูไปนะคะ”

    เด็กสามคนนั้นเป็นเด็กอายุแค่สิบเก้าปี เป็นวัยที่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยพอดี แต่ว่าพ่อแม่ของเด็กไม่ได้สนับสนุนให้เรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสนเรื่องเงินทอง เด็กสามคนนั้นก็ได้แต่รับทำงานตามสวน ตามไร่ หรืองานอะไรก็ตามที่ได้เงิน

    ถ้าเธอสามารถช่วยได้ก็คงจะช่วยให้ได้เรียนต่อแน่ๆ แต่สถานการณ์ของเธอตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน ขนาดบริษัทก็ยังต้องหวังพึ่งบริษัทของครอบครัวของพี่กวินอยู่เลย

     

    -โรงแรมในเชียงใหม่-

    “ขอบคุณมากนะคะ คุณไอรีน”

    “ขอบคุณคุณควีนมากกว่าค่ะ ทีแรกก็คิดว่าจะให้ทางโรงแรมจัดเตรียมอาหารเอง แต่ดันมีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อย ขอโทษด้วยนะคะที่สั่งออเดอร์กะทันหันเกินไป”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีเลย”

    “แต่ไอติดใจรสมือคุณควีนมากเลยค่ะ ต้องได้กินทุกวันเลย อร่อยมากจริงๆ”

    “เอาไว้ถ้าควีนเปิดร้านควีนอยากให้คุณไอรีนมานะคะ”

    “จริงนะคะ ไอไม่พลาดแน่นอนค่ะ”

    “งั้นควีนขอตัวก่อนนะคะ”

    ระหว่างทางเดินกลับไปที่รถดันมัวแต่กดโทรศัพท์ดูภาพแปลนการออกแบบและดีไซน์ของร้านอาหารจนไม่ทันระวังเผลอเดินชนเข้ากับคนอื่น

    “อ๊ะ…ขอโทษค่ะ ขอโทษ คุณเป็นอะไรไหมคะ?”

    “ไม่เป็นไรครับ ห่วงแต่ผมคุณเองก็เกือบล้มแล้วนะครับ”

    “ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีควีนไม่มองทางให้ดีเอง”

    “ผมก็เหมือนกันครับ ว่าแต่โทรศัพท์คุณ…”

    พูดพลางชี้ไปที่โทรศัพท์ที่กำลังตกอยู่กับพื้น

    “อ๋อ…ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีเจ้านี่มันค่อนข้างอึด”

    “ฮ่าๆ งั้นเหรอครับ แต่ถ้ามันพังหรือเสียหายตรงไหนติดต่อมานะครับ ผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง”

    “ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ”

    “ผมชื่ออลันนะครับ ส่วนนี่นามบัตรผม”

    เขายื่นนามบัตรของตัวเองมาให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มแสนหวาน โถ…พ่อไมโครเวฟ

    “อ้าว…คุณหนูอยู่นี่เอง ป้าก็เดินตามหาให้ทั่วเลย ส่งอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ กลับไปพักผ่อนกันเลยไหมคะ”

    “ค่ะ… ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ”

    รีบรับนามบัตรของเขามาจากนั้นก็รีบเดินกลับไปที่รถ เดินไม่มองทางว่ารู้สึกแย่แล้ว ดันไปเดินชนเขาแล้วเขาดันจะมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้อีก มันรู้สึกแย่ยิ่งกว่า ทั้งๆ ที่ตัวฉันเองไม่ได้ดูทางแท้ๆ

    นามบัตรสีดำปรากฎตัวอักษรสีทอง แค่ดูแบบผิวเผินก็สามารถรับรู้ได้ว่าฐานะคงไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้สนใจเลือกที่จะเก็บนามบัตรนั้นเข้ากระเป๋าสตางค์ตัวเอง เพราะว่าคงไม่มีเหตุผลที่ทำให้ต้องใช้อีกและคงไม่มีทางเจอเขาอีกเป็นครั้งที่สองหรอก

    พอกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานก็ต้องแปลกใจเพราะว่ามีรถคันหรูจอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเจ้าของรถเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นรถของพ่อเธอเอง

    “คุณพ่อคะ ไหนว่าคุณพ่อจะมาอีกสองอาทิตย์ไงคะ ทำไมถึงมาไม่บอกควีนก่อนควีนจะได้เตรียมอาหารไว้รอ”

    “ก็รอที่จะฟังสิ่งที่ยัยหนูบอกจะสารภาพนะสิ เล่นทำเอาพ่อทำงานนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย เพราะอยากรู้ ทำไมยัยหนูถึงบอกพ่อผ่านโทรศัพท์ไม่ได้ล่ะ”

    “เอ่อคือเรื่องนั้น…”

    “นี่พ่อรีบเคลียร์งานจนเสร็จเพื่อกลับมาฟังยัยหนูเลยนะ”

    “คือว่าอันที่จริง หนูกำลังท้องค่ะ”

    “โถ่…พ่อก็ว่าจะเรื่องอะไร ที่ไหนได้ เดี๋ยวนะเมื่อตะกี้ยัยหนูบอกว่า…ท้อง?”

    หันหน้าไปมองป้านิ่มเพื่อที่จะถามหาความจริง แต่ไม่นานก็ได้รับคำตอบจากป้านิ่ม

    “ค่ะนายท่าน คุณหนูควีนท้องจริงๆ ค่ะ”

    “งั้นแสดงว่าอีกไม่นานพ่อก็จะได้เป็นคุณตาสินะ”

    ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าในอนาคตจะมีเด็กตัวเล็กๆ มาวิ่งเล่นที่บ้านเรียกหาตาจ๋า แค่คิดก็มีความสุขมากแล้ว

    “คุณพ่อจะไม่บอกเรื่องนี้ให้คนที่บ้านนั้นรู้ใช่ไหมคะ”

    “ถ้ายัยหนูของพ่อไม่ต้องการให้คนบ้านนั้นรู้ พ่อก็จะไม่พูดอะไร เหตุผลที่ยัยหนูหนีมาอยู่ที่ก็เพราะเรื่องนี้ พ่อคิดถูกไหมล่ะ”

    “ค่ะคุณพ่อ”

    “แต่ยัยหนูก็ใจร้ายกับพ่อเกินไปแล้วนะลูก ปิดเรื่องนี้เป็นความลับกับพ่อได้ยังไง”

    “ก็หนูกลัวพ่อเสียใจนี่คะ หย่าโดยไม่ปรึกษาแถมตัวเองดันมาท้องอีก พูดไปแล้วก็จะมีแต่คนมองว่าไม่ดี มีแต่จะเสียหายนี่คะ”

    “เรื่องนั้นพ่อไม่สนใจหรอกนะ คนที่คนอื่นจะมองว่าไม่ดีคืออดีตสามีของลูกมากกว่า ทำไปได้! หย่ากับเมียตบเมียแต่งเพราะทำผู้หญิงคนอื่นท้อง แบบนี้ถ้าชาวบ้านรู้เข้าคงเห็นใจฝ่ายยัยหนูมากกว่า”

    “ช่างเถอะค่ะ ควีนจะดูแลเด็กคนนี้เองจะไม่ทำให้เด็กคนนี้รู้สึกขาดอะไร ถึงแม้เขาจะไม่มีพ่อก็ตาม”

    “ต้องอย่างนั้นสิ พ่อน่ะไม่จำเป็นหรอก มีตาคนเดียวก็พอแล้ว”

    “ขอบคุณนะคะที่พ่อเข้าใจควีน”

    “แน่นอนสิ ก็พ่อมียัยหนูเป็นลูกสาวแค่คนเดียว”

    กอดลูกสาวสุดที่รักพลางคิดทบทวนในใจ ถ้าเขาไม่ขอร้องให้ลูกสาวไปแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ละก็เรื่องราวมันคงไม่เป็นแบบนี้ ลูกสาวของเขาคงไม่ต้องมาเสียใจหรือทุกข์ใจอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เมื่อก่อนเขาคิดจริงๆ ว่าเงินทองมันคือทุกอย่างสำหรับเขาแต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปมาก มีเงินมีทองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีได้หรือสร้างครอบครัวที่มีความสุขได้ ถ้าเขาไม่โลภมากเขาคงเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักและมีครอบครัวที่ดี

    ตอนนี้จะมาหวนคิดถึงอดีตก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่สามารถทำได้ตอนนี้คือการปกป้องและดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาให้มีความสุขให้ได้มากที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×