ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2??”?〰
~ผีน่ารัก~
"เมื่อคืนมึงหายไปไหนมา?ไอ้จงอินโทรหาก็ไม่รับ" คำถามของฮยองตัวสูงทำเอาคนที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปากหยุดชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ
"มึงไปฟันหญิงมาอีกแล้วอะดิ?กูบอกให้เพลาๆลงบ้าง มึงไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนะเว้ยอย่าลืม โดนBlackmailขึ้นมาจะงานเข้าไม่รู้ตัว"
มือหนาวางตะเกียบลงบนจานเสียงดังแล้วช้อนตาคมกริบขึ้นมองฮยองด้วยสายตาเบื่อหน่าย "ฮยองขี้บ่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?ผมบอกแล้วว่าอย่าสนิทกับแบคฮยอนให้มาก ฮยองรู้ตัวป่ะว่าตอนนี้ฮยองกับแบคฮยอนฮยองน่ารำคาญพอๆกันเลยว่ะ"
"อ้าวๆกูอุตส่าห์เสือกเงียบๆแล้วนะ" คนที่ถูกพาดพิงโวยวายขึ้นมาพร้อมกับทุบลงกลางแผ่นหลังน้องชายไปเต็มแรง เซฮุนสั่นหัวไปมาอย่างเอือมระอากับนิสัยที่ไม่ยอมโตของฮยองตัวนุ่มนิ่ม
"ทำไมมึงไม่รับสายกูวะ?ไม่พอใจกูเรื่องอะไรก็บอกดิ"
อยู่ๆบรรยากาศครื้นเครงบนโต๊ะอาหารก็เงียบลงจนรู้สึกเย็นขึ้นมาแปลกๆ ทุกสายตาต่างจดจ้องมาที่มักเน่ไลน์ขาวดำ ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองใบหน้าตึงเครียดของเพื่อนสนิทแล้วแสะยิ้มออกมาอย่างกวนอารมณ์
"กูทำกิจกรรมบนเตียงอยู่ไม่ว่างรับว่ะ"
คำตอบที่พูดด้วยน้ำเสียงติดตลกทำให้จงอินคลี่ยิ้มอย่างโล่งใจ เซฮุนเป็นพวกเสพติดความสนุกจากการมีเซ็กส์ ที่โมโหเมื่อคืนคงเพราะหงุดหงิดงุ่นง่านที่ไม่ได้ปลดปล่อย เขากับเซฮุนอายุเท่ากันก็จริงแต่เขาไม่เคยออกไปหาความสุขข้างนอกเหมือนเพื่อนสนิท ไม่ใช่เพราะไม่มีอารมณ์อย่างว่าหรอกฮอร์โมนเขาก็พลุ่งพล่านไม่ต่างกันแต่เป็นเพราะฮยองตาโตที่นั่งข้างๆเขาตอนนี้ต่างหาก
"สนุกสิท่ากลับมาสว่างเลย อย่าลืมป้องกันด้วยนะเว้ย"
"เรื่องแบบนี้กูไม่เคยพลาดครับ" เซฮุนยักคิ้วให้เพื่อนสนิทในขณะที่ตาก็สอดส่องมองหาร่างเล็กที่เขาเปิดประตูห้องทิ้งไว้ให้ตั้งนานแล้วแต่ไม่เห็นโผล่มาวอแวซักที
"กูกลัวเอดส์แดกมึงชิบหาย"
"กูก็เลือกนะครับแหม" มือหนาฟาดลงกลางหน้าผากเพื่อนผิวแทนไปหนึ่งทีแต่เต็มแรงแล้วลุกจากโต๊ะอาหารหายเข้าไปในห้องนอนเงียบๆคนเดียว
ร่างเล็กของผีหนุ่มยังคงหลับสนิท เปลือกตาที่ปิดลงทำให้เห็นแพรขนตางอนยาวอย่างชัดเจน ปากสีชมพูระเรื่อเคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆเหมือนเด็กอนุบาลนอนกลางวัน ใบหน้าขาวใสมีเลือดฝาดแบบคนสุขภาพดี ดูไปดูมาก็น่ารักไม่น้อยถ้าเขาเป็นประเภทที่ชื่นชอบเพศเดียวกันอย่างจงอินคงตกหลุมรักผีตัวนี้ได้ไม่ยาก
แล้วถ้าจงอินมองเห็นลู่หานมันจะตกหลุมรักผีตัวนี้ไหมนะ?
เซฮุนสะบัดหัวไล่ความคิดประหลาดบนหัวทิ้ง
"นี่ตื่นๆ" ชายหนุ่มสะกิดที่ข้างลำตัวอีกฝ่ายเบาๆแต่ก็ยังไร้การตอบสนอง ลู่หานยังหลับตาพริ้มไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมา ร่างสูงเลยโน้มตัวลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูแทน
"เห้ยทำไรเนี่ย" ผีน่ารักแหวเสียงดังพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมใบหน้า
"ก็ปลุกดีๆแล้วไม่ตื่น" เซฮุนยักไหล่ทำท่าไม่ทุกข์ร้อนกับท่าทางหวาดระแวงของผีร่างเล็ก
"กี่โมงแล้ว?" ใบหน้าน่ารักโผล่จากผ้าห่มออกมาถาม กวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เตียงนอนหกฟุตไร้ร่างเมมเบอร์อีกสองคน ถ้าให้เดาตอนนี้คงสายเต็มทีแล้ว
"เที่ยงกว่า"
ตากลมโตเบิกโพลงรีบดีดตัวขึ้นจากเตียงนอนหนานุ่ม ลู่หานมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนที่มีนิสัยนอนกินบ้านกินเมือง ปรกติเขาไม่เคยนอนนานขนาดนี้แต่นั่นก็คงเป็นเพราะกว่าจะนอนหลับสนิทจริงๆก็ตอนสว่างมากแล้ว นอนเตียงเดียวกับเซฮุนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยซักนิด ขนาดไม่ใช่เมนยังทำใจเขาเต้นแรงขนาดนี้ไม่อยากคิดว่าถ้านอนเตียงเดียวกับจงอินจริงๆจะเป็นยังไง ไม่เหนื่อยตายก่อนเหรอ?
เรียวขางามก้าวลงจากเตียงไปหยุดยืนหย้าประตูอย่างครุ่นคิด ถ้าเกิดเขาเปิดประตูออกไปตอนนี้แต่เซฮุนไม่ตามออกมาด้วยทุกคนต้องสงสัยว่าประตูเปิดออกได้อย่างไรแน่
"จะไปไหน?กลับมาก่อน" เสียงทุ้มเข้มสั่งพลางชี้นิ้วไปที่เตียงนอนเละเทะ "มาจัดการให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันกับเมมเบอร์จะออกไปทำงานกลับมาอีกทีคงค่ำเลย กับข้าวอยู่ในครัวค่อยออกไปทานทีหลังละกัน อย่าลืมทำความสะอาดให้เหมือนเดิมด้วย อ้อแล้วอีกอย่างนายต้องอาบน้ำแปรงฟันป่ะวะ?"
ลู่หานพ่นลมหายใจจากปากออกมาดมพร้อมกับยกแขนขึ้นเพื่อดมกลิ่นรักแร้แต่ก็ไร้กลิ่นเหม็น กลิ่นตัวเขายังหอมเหมือนเดิม ผีหนุ่มเลยสรุปเอาเองว่านี่คือพลังวิเศษของสูญญากาศคือไม่ต้องอาบน้ำก็มีกลิ่นหอม ใบหน้าหวานส่ายไปมาเพื่อปฏิเสธก่อนจะเดินเข้าไปหาไอดอลหนุ่มแล้วพ่นลมหายใจใส่ใบหน้าหล่อเหลาหนึ่งทีเพื่อให้อีกฝ่ายพิสูจน์
"เล่นบ้าอะไรเนี่ยไอ้ผีติงต๊อง" ร่างสูงผลักหัวผีหนุ่มเต็มแรงก่อนจะส่งสายตาอาฆาตแค้น
"ก็ให้นายพิสูจน์ไง ฉันตัวหอมไม่ต้องอาบน้ำจริงๆนะ"
คำตอบของผีน่ารักทำเอาเซฮุนอยากทึ้งผมที่ถูกเซ็ตอย่างดีของตัวเองซักสามสี่ทีเพื่อระบายอารมณ์ ใครเขาพิสูจน์ด้วยการพ่นกลิ่นปากใส่หน้ากันแบบนี้วะหรือจะเป็นวัฒนธรรมแปลกๆของแดนมังกร
ถึงมันจะหอมอย่างที่เจ้าตัวว่าแต่เขาตั้งตัวรับพฤติกรรมประหลาดๆนี้ไม่ทันและไม่ได้จริงๆ
"ทีหลังอย่าเล่นพิเรนทร์แบบนี้อีก" ดวงตาคมเหลือบมองอย่างตำหนิ
"ก็กลัวนายไม่เชื่อไง" ผีหนุ่มเถียงพร้อมยกมือขึ้นมากอดอกอย่างอวดดี ใบหน้าน่ารักบึ้งตึง จ้องใบหน้าสมบูรณ์แบบด้วยสายตาไม่พอใจ
"อย่าใช้สายตาแบบนี้มองฉันนะ ต่อให้นายจะตัวหอมแต่ไปทำแบบเมื่อกี้ใส่ใครก็ไม่มีใครชอบใจแน่" เซฮุนพูดเสียงอ่อนลงเมื่อใบหน้าหวานเง้างอ มือหนาจับหัวทุยโยกไปมา "อย่าลืมทำเตียงให้น่านอนเหมือนเดิมด้วยนะ" สิ้นประโยคขายาวก็เดินออกไปทิ้งให้อีกฝ่ายใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกแปลกๆเพียงลำพัง
"ยะย๊าส์!โอเซฮุน" สติที่กระเจิงเพิ่งกลับมาเป็นปรกติเมื่อแผ่นหลังกว้างลับตา ฝ่ามือขาวยกขึ้นมากุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเอง ร่างสูญญากาศกลิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพลางกัดเล็บอย่างคิดหนักกับอาการแปลกประหลาดของตัวเอง
หรือโอเซฮุนจะเป็นคู่แท้ของเขาจริงๆ?
หอพักที่เคยเสียงดังน่ารำคาญหูเงียบสนิท ลู่หานแง้มประตูออกไปสอดส่องข้างนอกแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า รอยยิ้มกว้างประดับขึ้นมาบนใบหน้าผีน่ารักเปิดประตูออกไปอย่างอิสระ ท้องที่ส่งเสียงร้องประท้วงเรียวขางามเลยพาตัวเองไปยังห้องครัวอย่างถือวิสาสะ กลิ่นหอมของสปาเก็ตตี้ฝีมือคยองซูทำให้ลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายอึก ร่างเล็กตักสปาเก็ตตี้ครีมซอสจนพูนจานก่อนจะเดินดุ๊กดิ๊กมานั่งทานเงียบๆบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้ถึงแปดตัว
ความอร่อยที่เคยจินตนาการไว้จากการอ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสารทำเขาแอบคาดหวังไว้นิดหน่อย หลังจากกลืนเข้าปากคำแรกเขาก็รู้ว่ามันไม่ผิดจากที่เมมเบอร์อวยเลยซักนิด สปาเก็ตตี้ของคยองซูอร่อยที่สุดในโลก บางทีนี่อาจเป็นข้อดีของสูญญากาศที่ยังต้องพึ่งอาหารเพื่อให้มีชีวิตรอดไปจนถึงวันที่จะตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตปรกติอีกครั้ง ว่าแต่ถ้าตื่นขึ้นมาน้ำหนักเขาจะเพิ่มขึ้นไหมนะ?
หลังจากกินอิ่มจนพุงกางผีหนุ่มก็แอบสำรวจห้องนู้นห้องนี้ตามประสาแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปิน ห้องของคิมจงอิน โดคยองซูและปาร์คชานยอลเป็นระเบียบที่สุดอาจเพราะคยองซูเป็นคนเจ้าระเบียบห้องนี้เลยสะอาดเอี่ยมอ่องน่านอนที่สุด เตียงนอนถูกดึงจนเรียบตึงเขาแอบขึ้นไปนอนทับที่จงอินด้วยแหละ รู้สึกดีสุดๆไปเลย ห้องของเมเนเจอร์อย่างคิมจงแดกับคิมมินซอกก็สะอาดไม่แพ้กัน ส่วนห้องที่เขานอนรกรุงรังที่สุดโดยเฉพาะฝั่งของซูโฮกับแบคฮยอน สำรวจทุกซอกทุกมุมจนหนำใจแล้วลู่หานก็นั่งเท้าคางดูวิวกรุงโซลเงียบๆที่ระเบียง ที่ปักกิ่งตอนนี้จะเป็นไงบ้างนะ?ป๊ากับม๊าจะเป็นห่วงจะร้องไห้ขนาดไหน?เขาเป็นลูกชายคนเดียวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมไม่แปลกที่ป๊ากับม๊าจะรักเขามากกว่าอะไรทั้งหมด ตอนแรกเขาก็รู้สึกแย่ที่ต้องกลายเป็นสูญญากาศเร่ร่อนแต่ตอนนี้เหมือนว่าความรู้สึกเขาจะเปลี่ยนไป ที่โซลทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ป๊ากับม๊ารอผมหน่อยนะครับอีกสามเดือนผมจะกลับไป
ผีหนุ่มนั่งมองตึกสูงระฟ้าไปเรื่อยๆจนท้องฟ้ามืดสนิทถึงได้รู้ตัวว่าควรกลับเข้าไปข้างในก่อนที่เมมเบอร์คนอื่นจะมาเห็นว่ากระจกริมระเบียงถูกเปิดทิ้งไว้ ร่างอรชรเหมือนสตรีเพศทิ้งตัวนั่งบนโซฟาด้วยใบหน้าที่ติดเบื่อหน่ายนิดๆ เขาอยู่เฉยๆมาครึ่งค่อนวันแล้วอยากเปิดทีวีดูข่าวสารบ้านเมืองก็ทำไม่ได้เกรงว่าจะปิดไม่ทันก่อนเมมเบอร์กลับ นาฬิกาบนผนังกระดิกวนรอบอย่างอ้อยอิ่งจนกระทั่งเข็มสั้นชี้ไปที่เลขเก้าและเข็มยาวชี้ไปที่เลขสองเสียงกดรหัสหน้าห้องจึงดังขึ้น ตากลมโตเบิกกว้างอย่างดีใจใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มเฝ้ารอไอดอลสุดหล่อที่กำลังเดินเข้ามาอย่างใจจดใจจ่อ แบคฮยอนเดินมาคู่กับชานยอลปากเล็กบ่นขมุบขมิบเบาๆที่เขาไม่สามารถจับใจความได้ คิมจงอินผู้ชายในฝันของเขาเดินเข้ามาพร้อมกับคนตัวเล็กที่เขานึกอิจฉาอยู่บ่อยๆ ซูโฮเดินตามมาติดๆและร่างสูงที่คุ้นเคยเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย
เซฮุนกลอกตามองร่างเล็กของผีน่ารักอย่างไม่สนใจก่อนจะถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆร่างสูญญากาศอย่างเหนื่อยล้า
"เหนื่อยเหรอ?งานอะไรอ่ะ?" ลู่หานสะกิดถามอย่างสงสัยแต่คนถูกถามกลับเมินแล้วหันไปสั่งแบคฮยอนที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในตู้เย็นให้เอาน้ำมาให้
"ใช้ฮยองแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ"
ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ฟังจงแดฮยองบ่นมาทั้งวันกลับมายังต้องฟังผีหนุ่มบ่นอีกไม่ใช่เรื่องบันเทิงเริงใจเลยนะ
"ลุกไปกินเองสิ คิมจงอินเต้นแรงกว่านายแท้ๆยังเดินไปกินเองเลย"
เซฮุนหันมาเหยียดยิ้มก่อนจะตบลงบนโซฟาเต็มแรงแล้วเดินหนีเข้าห้องไปด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาเกลียดการถูกเปรียบเทียบที่สุดโดยเฉพาะกับคิมจงอินที่อายุเท่ากัน เต้นเก่งไม่เท่าแล้วไง?เขาก็เต้นดีกว่าหลายคนแล้วกัน ชอบไอ้จงอินก็ชอบไปดิวะแต่ทำไมต้องเอาเขาไปเปรียบเทียบด้วย
"มันเป็นอะไรอีกวะ?หรือจะโกรธที่มึงเอาน้ำไปให้มันช้า" ชานยอลถามพลางมองตามแผ่นหลังน้องชายด้วยความงุนงง
"กูก็กำลังจะเอาไปให้เนี่ย" คนตัวเล็กกลอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เซฮุนเป็นคนสี่มิติ เข้าถึงยาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆตามไม่ค่อยทันแต่ก็น่ารักจนมองข้ามข้อเสียทั้งหมด
"มันเสี้ยนอีกแล้วรึเปล่า?" จงอินพูดติดตลกแล้วพ่นหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นคยองซูมองมาอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าน่ารักเวลาเง้างอทำให้เขาอารมณ์ดีจนอยากแกล้งบ่อยๆ "คยองไม่รู้เหรอว่าไอ้ฮุนมันเสพติดเซ็กส์ ถ้าไม่ได้ปลดปล่อยก็หงุดหงิดแบบนี้แหละ"
"ขาดซักวันไม่ได้เลยหรือไง" คยองซูบ่นพึมพำจนจงอินหลุดขำหัวเราะออกมาเสียงดัง ทำไมถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้นะ เขาชักเป็นห่วงฝีมือการแสดงของคนรักว่าอาจแสดงคิสซีนออกมาไม่สมจริงแล้วสิเห็นทีต้องสอนบ่อยๆเสียแล้ว
"หุบปากไปเลยนะ" ตาโตถลึงมองอย่างดุๆแต่ใบหน้าคมคายยังฉีกยิ้มให้อยู่ดี ตาโตๆของคยองซูดูน่าเอ็นดูมากกว่าน่ากลัวเสียอีก
"ดุแบบนี้ระวังไอ้ฮุนจะชวนจงอินไปหลีหญิงตอนมึงไปถ่ายละครต่างจังหวัด" แบคฮยอนเอ่ยแซวขำๆแต่คนน่ารักกลับไม่ขำด้วยซักนิด คยองซูรู้สึกหวั่นใจไปชั่วครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มจนปากเป็นรูปหัวใจเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง
"ฮยองอย่าพูดแบบนี้สิวะ" จงอินกดเสียงต่ำบอกแบคฮยอนหลังลอบมองใบหน้าน่ารักเขาเห็นความไม่มั่นใจในแววตาของคนรัก คนถูกตำหนิเดินปึงปังออกไปอย่างหงุดหงิดไม่ลืมหยิบขวดน้ำติดมือไปให้มักเน่ที่หายเข้าไปในห้องด้วย
ร่างบางเดินขวักไขว่ไปมาอยู่หน้าประตูห้อง จะเปิดเข้าไปตรงๆก็กลัวเมมเบอร์คนอื่นจะตกใจได้แต่ภาวนาให้ใครซักคนเปิดประตูเข้าไปหาเซฮุนซักทีเขาจะได้แทรกตัวเข้าไปอย่างเนียนๆ ใบหน้าหวานยกยิ้มเมื่อเห็นแบคฮยอนถือขวดน้ำเปิดประตูเข้าไป สูญญากาศรีบแทรกตัวเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะหยุดยืนยิ้มแป้นหน้าชายหนุ่มขี้โมโห
"อะเอาน้ำมาให้ ช้านิดช้าหน่อยทำเป็นเหวี่ยง"
เซฮุนกลอกตามองผีหนุ่มไร้ความสามารถแล้วเบนสายตาไปมองฮยองตัวนุ่มนิ่มแทน มือหนายื่นไปรับขวดน้ำมาถือไว้เองก่อนจะสะบัดข้อมือไล่ให้ออกจากห้องไปหลังเสร็จธุระ
"ฮยองออกไปก่อน ผม อยาก อยู่ คนเดียว" เสียงเข้มเน้นประโยคหลังเสียงดัง แบคฮยอนออกไปแล้วแต่อีกร่างที่ไม่ใช่คนยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
"ฉันบอกว่าฉันอยากอยู่คนเดียวไม่ได้ยินหรือไง?" ไอดอลหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงติดโมโห เซฮุนยอมรับว่าตัวเองกำลังหงุดหงิด คำพูดอวยจงอินของผีตัวนี้ทำเขาเสียความรู้สึกจนพาลไม่อยากเห็นหน้าอีก เขาโดนเปรียบเทียบกับจงอินมาตลอดเพียงเพราะอายุเท่ากัน ฝึกมาพร้อมๆกันและเป็นเมนแดนซ์เหมือนกัน เขาไม่ได้อยากเก่งที่สุดเพื่อให้ทุกคนชื่นชมแต่การที่จงอินมักถูกชมอยู่คนเดียวเสมอก็ทำให้เขาอดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน หลายครั้งที่เขาท้อแท้จนอยากเลิกเป็นไอดอลแล้วกลับไปเป็นโอเซฮุนคนธรรมดา
"โกรธฉันเหรอ?" ลู่หานถามหลังเงียบมานาน
"เออโกรธ"
ดวงตาคมกริบจ้องมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ ร่างบางเม้มปากแน่นใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความกังวล ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกแย่แค่เพราะทำเซฮุนโกรธ ความคิดฟุ้งซ่านที่วิ่งพล่านอยู่ในหัวทำให้หัวใจเต้นถี่ขึ้นจนอยากควักออกมาบีบให้แหลกคามือจะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไรอีก
"ชอบไอ้จงอินก็ชอบไปดิวะแต่อย่าเอามาเปรียบเทียบกับฉันเพราะฉันคือโอเซฮุน"
ทำไมถึงบีบหัวใจจนหน่วงขนาดนี้ก็ไม่รู้ทำไมคำพูดเหล่านี้ถึงได้มีอิทธิพลมากขนาดนี้ก็ไม่รู้
"ขอโทษ" ลู่หานเอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาตัดพ้อของอีกคนแต่ก็ถูกมือหนาดันคางขึ้นให้สบตากันอีกครั้ง
"ฉันคือโอเซฮุนที่ไม่อยากเหมือนคิมจงอิน"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สองชั่วโมงกว่าแล้วมั้งที่ผีน่ารักนั่งจ้องหน้าเขาอยู่แบบนี้ แต่คำขอโทษและใบหน้าจ๋อยสนิทของลู่หานก็ไม่ได้ทำให้เขาหายหงุดหงิดได้อยู่ดี เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เขาเข้าไปตอบราวกับอีกฝ่ายกำลังรอเขาตอบอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว เซฮุนละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูเวลาก็พบว่ามันยังไม่ดึกจนเกินไปที่จะออกไปหาความสุขตามคำชักชวนของหญิงสาวรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อคืน
"จะออกไปไหน?" คำถามห้วนๆจากสูญญากาศที่จ้องมาทางเขาตาเขม็งทำเอาทำร่างสูงสมส่วนในชุดหล่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนนี้ต้องหันไปมองตามเสียงด้วยความรู้สึกรำคาญ
"อย่ายุ่ง" เสียงเข้มตอบลู่หานอย่างขอไปทีก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินไปหยุดหน้าประตูแล้วหันมามองร่างสูญญากาศที่เดินตามมาติดๆ "จะตามมาทำไมวะ?"
"จะไปด้วย" ร่างเล็กตอบคำถามของเซฮุนหน้าตายพร้อมเดินเข้ามาประชิดตัว ตากลมโตจดจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาจริงจังเพื่อบ่งบอกให้ร่างสูงทราบว่าตัวเองไม่ได้ล้อเล่น
"ว่างมากก็ไปเฝ้าไอ้จงอินสิวะ อีกสามเดือนก็ไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้แล้วนะเว้ย" คนพูดสวนกลับพร้อมเพ่งสายตาจ้องใบหน้าซื่อๆนั่นอย่างไม่ลดละ
"เออว่างแล้วก็มีเวลาเฝ้าจงอินอีกตั้งนาน ตอนนี้ขอตามนายก่อนละกัน" ผีหนุ่มตอบด้วยท่าทีสบายๆก่อนจะคว้าข้อมือคนขี้โมโหที่ชอบทำหน้าบูดบึ้งตลอดเวลาเปิดประตูออกไปข้างนอกไม่สนใจแรงขัดขืนของอีกคนแม้แต่น้อย ใบหน้าน่ารักผุดยิ้มกว้างผิดกับใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนลิบลับ
"ไอ้ฮุนจะออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอวะ?มานั่งแดกเหล้ากับพวกกูบ้างเหอะ กูขอ" เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยทักเป็นคนแรกก่อนที่คนอื่นๆจะรีบเออออเห็นด้วย ลู่หานลอบสังเกตสีหน้าของเซฮุนอยู่เงียบๆ เขาเห็นความกังวลในสายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยว ดูท่าทางแล้วตอนนี้เซฮุนคงกำลังลังเลกับคำชวนของแบคฮยอนอยู่ไม่น้อย ดวงตาคมเข้มกลอกไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนที่ดวงตาคู่เดิมคู่นี้จะหันมามองร่างที่ไม่มีใครเห็นแล้วสะบัดข้อมือให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมอย่างไม่ใยดี
"ขอเวลาแปปเดี๋ยวออกมานั่งดื่มด้วย" เซฮุนเดินเลี่ยงออกมาที่บริเวณระเบียงห้อง มีผีน่ารักตามมาด้วยความอยากรู้ ลมหายใจถูกพรูทิ้งก่อนที่ร่างสูงจะดึงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงกดโทรออกหาใครบางคนที่ตอนนี้อาจจะกำลังรอเขาอยู่ที่คลับเดิม
"โทษทีนะ ผมไม่ว่างจริงๆอะ" เซฮุนถลึงตามองร่างเล็กที่เขย่งตัวเอาหูแนบมือถือแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์อย่างเสียมารยาท สะบัดหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจกับพฤติกรรมที่เริ่มก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวเขามากขึ้นทุกวัน "ไว้วันหลังนะครับ อย่าโกรธเลยนะครับ ผมคิดถึงนูน่านะ"
"อ๋อที่แท้นัดสาวไว้" ปากบางเบะออกอย่างเคยตัว มือก็ยกขึ้นมากอดอกอย่างอัตโนมัติ เพ่งสายตามองอีกคนอย่างท้าทาย เซฮุนปรายตามองท่าทางน่าหมั่นไส้ของสูญญากาศที่ถือวิสาสะมาแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์ด้วยความเอือมระอาก่อนจะกระแทกไหล่เล็กกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่อล้อมวงดื่มเหล้ากับเมมเบอร์อย่างที่บอกเอาไว้
เซฮุนนั่งเท้าคางมองคิมจงอินที่หยอกล้อกับคยองซูด้วยสีหน้าระรื่นเปื้อนสุขโดยมีแขกไม่ได้รับเชิญจ้องไปที่ใบหน้าคมคายด้วยสายตาเป็นประกาย ไม่รู้ว่าเพราะสมเพชหรืออะไรกันแน่เขาถึงได้เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทน เครื่องดื่มดีกรีแรงแก้วแล้วแก้วเล่าถูกกรอกลงปากอย่างไม่กลัวเมา ความขมปร่าของแอลกอฮอล์ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบและสติที่ค่อยๆเลือนหายไปทีละน้อย เสียงเพลงที่เปิดจนดังลั่นกระตุ้นต่อมความเป็นเมนแดนซ์ในตัวจนต้องออกมาวาดลวดลายแดนซ์ออนเดอะฟลอร์กับจงอินคู่แข่งตลอดกาล
คิมจงอินดึงมือคนรักตัวเล็กเข้ามากลางวงที่ถูกเปลี่ยนเป็นฟลอร์ประลองการแข่งขันชั่วคราวก่อนจะลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลจนคยองซูสั่นระริก เสียงโห่แซวจากเหล่าเมมเบอร์ไม่ได้ทำให้สเต็ปที่แสนเร่าร้อนหยุดลงได้ จงอินยังคงขยับร่างกายคลอเคลียกับคยองซูอยู่ไม่ห่าง เซฮุนเหลือบมองเจ้าของใบหน้าน่ารักที่มักมีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ใบหน้าหวานสลดลงคล้ายคนผิดหวังกำลังอกหักยังไงยังงั้น มุมปากยกยิ้มด้วยความสมเพชปนสะใจเล็กน้อย เป็นอีกครั้งที่เขาแพ้จงอินแบบราบคาบแต่แปลกที่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกดี โอเซฮุนรู้สึกดีที่เห็นลู่หานเสียใจเพราะคิมจงอิน
"ปิดเพลงๆกูเกลียดอิสองผัวเมียขาวดำนี่ว่ะแม่ง" แบคฮยอนเบาเพลงลงให้เหลือความดังอยู่ในระดับปรกติก่อนจะดึงแขนเพื่อนตัวเล็กให้นั่งลงด้วยท่าทางหมั่นไส้แกมหงุดหงิดหรืออิจฉาก็คงไม่มีใครดูออกเพราะหลังจากเจ้าตัวอกหักก็ไม่เคยมีใครเดาอาการแบคฮยอนออกอีกเลย
"คืนนี้ออกมานอนข้างนอกด้วยกันดิแบคฮยอน กูว่ากูเห็นเค้าว่าจะโดนเนรเทศออกนอกห้องลางๆแล้วว่ะ" ชานยอลบ่นอย่างหัวเสียโดยตัวการอย่างจงอินกับคยองซูทำเพียงยักไหล่อย่างไม่ยี่หระเท่านั้น
"มึงนอนกับซูโฮฮยองเลย แม่งทำตัวสกปรกเกินกูรับไม่ได้" เจ้าของเสียงพูดพร้อมกับเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาก่อนจะคว้าข้อมือรูมเมทตัวสูงเดินเข้าห้องนอนไปท่ามกลางความงุนงงของคนอื่นๆ แน่นอนว่าผีน่ารักก็รีบแทรกตัวเข้าห้องทันก่อนที่ประตูจะปิดอย่างหวุดหวิด
ลู่หานหอบหายใจเหนื่อยเท้าสะเอวมองแบคฮยอนที่เมาเหมือนหมาอย่างหงุดหงิด ร่างสูงถอดเสื้อถอดกางเกงออกจนเหลือแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวนอนขำอยู่บนเตียง ตาโตตวัดมองอย่างเอาเรื่องแล้วเดินไปชะโงกหน้ามองแบคฮยอนที่ทิ้งตัวนอนบนเตียงทั้งที่ยังอยู่ในชุดเต็ม เปลือกตาที่ปิดสนิทและจังหวะการหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับฝันดีไปเรียบร้อย ลู่หานเลยเดินกลับมาที่เตียงของไอดอลหนุ่มที่ตัวเองสามารถโต้ตอบได้อีกครั้ง
"ฉันนอนไหนอ่ะ?"
คนตัวสูงที่เปลือกตาเริ่มหนักอึ้งเพราะความง่วงปรือตาขึ้นมามองช้าๆ ตบลงบนเตียงที่ว่างข้างๆตัวสองสามทีแล้วปิดตาลงอีกครั้ง ร่างเล็กเม้มริมฝีปากแน่นเดินวนไปวนมาเพราะกำลังคิดไม่ตกเรื่องที่นอน ใจนึงอยากไปนอนห้องเดียวกับคิมจงอินแต่เพราะคำพูดของชานยอลเมื่อครู่ทำให้เขาคิดหนัก ถ้าเห็นจงอินมีความสุขกับคยองซูเขาจะทนได้ไหม เรียวขางามยังเดินไปเดินมาไม่หยุดจนคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงต้องดีดตัวขึ้นมาจ้องหน้าด้วยสายตาไม่พอใจ
"รำคาญจะเดินอะไรนักหนา ไม่อยากนอนห้องนี้ก็ออกไปนอนข้างนอก"
น้ำเสียงติดรำคาญและใบหน้าตึงเครียดของเซฮุนช่วยให้ความลังเลชัดเจนมากขึ้น ลู่หานเลือกที่จะเปิดประตูออกไปเงียบๆก่อนจะหยุดยืนที่ประตูหน้าห้องจงอินอย่างชั่งใจ แนบใบหูลงชิดติดกับประตูแต่ก็มีเพียงความเงียบ อากาศถูกสูดเข้าไปเต็มปอด ทำใจกล้าค่อยๆเปิดประตูเข้าไปช้าๆท่ามกลางความมืดมิด สองร่างนอนกอดก่ายอยู่บนเตียงขนาดหกฟุตแต่แปลกที่ทั้งคู่กับใช้พื้นที่เพียงครึ่งนึงของเตียงเท่านั้นยังมีพื้นที่ว่างมากพอให้เขาขึ้นไปนอนด้วยอีกซักคน แม้จะหลับสนิทแต่ใบหน้าของจงอินกับคยองซูกลับเปื้อนรอยยิ้มระคนฝันดี ลู่หานอมยิ้มน้อยๆตามทั้งคู่ก่อนจะนอนลงบนเตียงของชานยอลที่เจ้าของนอนสลบเหมือดอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่หน่วงหัวใจเหมือนที่เขาเคยกังวลแม้แต่น้อย คิมจงอินไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแย่แบบที่ควรจะเป็น
เสียงเปิดประตูดังขึ้นในความเงียบ ตาโตเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนจะกลอกไปมาราวกับคนมีความผิดติดตัวเมื่อเสียงฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ร่างเล็กห่อไหล่หลบอยู่มุมเตียง ไม่มีใครเห็นแต่ก็อดใจเต้นไม่ได้ เสียงฝีเท้าหยุดยืนอยู่บริเวณปลายเตียง ลู่หานเพ่งสายตามองก่อนที่ลมหายใจจะถูกถอนออกมาเมื่อเจ้าของร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือโอเซฮุน อากาศรอบตัวเย็นลงชวนให้รู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
"กลับไปนอนที่ห้อง" น้ำเสียงห้วนๆบ่งบอกอารมณ์คุกรุ่นได้อย่างดี โอเซฮุนตัดสินใจออกมาตามผีน่ารักกลับไปนอนด้วยกันหลังพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับอยู่หลายตลบทั้งที่ตอนแรกง่วงจนตาปิดแล้วแท้ๆ พยายามหาสาเหตุที่ทำให้ตัวเองนอนไม่หลับอยู่นานจนเหลือบไปเห็นหมอนข้างตัวโปรดที่ถูกแบคฮยอนยึดไปเรียบร้อยถึงได้เข้าใจ เขาต้องการหมอนข้าง และถึงเมื่อวานไม่มีหมอนข้างก็จริงแต่เขามีลู่หานเลยหลับสนิทได้ วันนี้เขาเลยต้องการลู่หานอีกครั้ง ตราบใดที่แบคฮยอนไม่คืนหมอนข้างให้เขาลู่หานต้องเป็นหมอนข้างให้เขากอดแทน
"เอ่อไปสิ" บรรยากาศเย็นเยือกหลังจบประโยคของเซฮุน ไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาต้องทนมองจงอินนอนกอดคยองซูในเมื่อคนตัวสูงมาตามเขาถึงที่ ลู่หานยิ้มแห้งๆรีบกระโดดลงจากเตียงแล้วฉุดแขนของเซฮุนเดินออกจากห้องที่เต็มไปด้วยความรักอย่างระมัดระวัง
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้หลังจากที่เขาและเซฮุนออกจากห้องของจงอินมานอนจ้องหน้ากันแบบนี้ ลู่หานคลี่ยิ้มพยายามคลายความอึดอัดรอบตัวลง "นอนไม่หลับเหรอ?" ใบหน้าน่ารักเอียงคอถามอย่างสงสัย
"อะเอ่อเอ่ออืมมั้ง" เซฮุนกระพริบตาปริบๆเพื่อขับไล่ความรู้สึกดีแปลกๆ ไม่รู้ทำไมถึงได้เผลอใจเต้นแรงกับอากัปกิริยาเมื่อกี้ของสูญญากาศ
"เมาอะดิ ดื่มเข้าไปยังกะน้ำเปล่า"
"แค่นี้จิ๊บๆเหอะ ใครเขาเมาด้วยเบียร์ไม่กี่กระป๋องกัน"
ร่างเล็กกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย เรื่องแบบนี้สมควรพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจขนาดนี่เลยเหรอ? มันอาจดูเท่หรือเปล่าที่เป็นผู้ชายคอแข็งดื่มเก่ง ลู่หานก็เป็นผู้ชาย เขาดื่มไม่เก่งแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเท่อยู่ดี ผีหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเบะปากบางออกด้วยความหมั่นไส้ในท่าทางภูมิอกภูมิใจของเซฮุน
"เคยฟันหญิงบ้างป่ะ?"
ลู่หานนิ่งค้างราวกับถูกแช่แข็ง คำถามที่อีกคนถามออกมาอย่างง่ายดายราวกับถามสภาพดินฟ้าอากาศทำให้คนถูกถามเป็นใบ้ไปชั่วขณะ สติกระเจิงไร้ทิศทาง นัยน์ตาโตช้อนมองคนตรงหน้าที่นอนรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อด้วยความสับสน
"ไม่เคย ไม่คิดจะทำด้วย" ผีตัวเล็กพยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นในขณะเดียวกันก็ภาวนาให้ใบหน้าที่ร้อนผ่าวไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงจนเซฮุนสังเกตเห็น
"บ้าเหอะไม่เคยจริงอ่ะ?"
"อือจริงเดะ"
"จูบล่ะเคยมั๊ย?"
"ไม่เคยทั้งนั้นแหละ"
นิ้วเรียวยาวเกลี่ยใบหน้าขาวเนียนราวกับกำลังหลงใหลและต้องมนต์สะกดก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ทาบริมฝีปากบางของตัวเองลงบนอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย
ใช่เขากำลังลองจูบกับผี
ตากลมโตเบิกโพลงเมื่อลิ้นร้อนชื้นที่มีรสขมปร่าของแอลกอฮอล์ติดอยู่ที่ปลายลิ้นนิดๆแทรกเข้ามาในโพรงปาก จูบอุ่นๆรสเบียร์ทำเอาคนที่เพิ่งสัมผัสกับความวาบหวามเป็นครั้งแรกมัวเมาจนขาดสติ แขนทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนหรือต่อต้านลู่หานปล่อยมันทิ้งข้างลำตัว หัวสมองขาวโพลนเกินจะคิดออกว่าสถานการณ์แบบนี้ควรทำอย่างไรต่อไปดี ทุกสิ่งรอบตัวยังเงียบงันมีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นระส่ำแข่งกับเสียงกรนเบาๆของแบคฮยอน
ร่างสูงผละริมฝีปากออกก่อนจะจ้องดวงหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ ริมฝีปากบางที่เขาเพิ่งลิ้มลองพ่นลมหายใจเข้าออกไม่เป็นจังหวะเพราะความเหนื่อยหอบและหายใจไม่ทันหลังถูกเขาริดรอนลมหายใจไปจนหมดหากแต่มันกลับดูเซ็กซี่จนต้องข่มความต้องการไว้ส่วนลึกที่สุดอย่างยากลำบาก ตอนแรกก็แค่อยากพิสูจน์ว่าผีตัวนี้พูดจริงหรือเปล่าก็แค่นั้นไม่คิดว่ามันจะทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะได้ขนาดนี้ มันไม่ใช่จูบร้อนแรงแบบที่เขาเคยฉกชิมแต่วินาทีแรกที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสเบาๆบนกลีบปากของลู่หานกลับยากที่จะผละออกได้ง่ายๆ ลู่หานไม่เคยจูบมาก่อนและเขาคือจูบแรก ใบหน้าหล่อเหลาสั่นไปมาไล่ความฟุ้งซ่าน
ทำไมเขาถึงนึกหวงริมฝีปากของคนตรงหน้าขึ้นมา
"ซะเซฮุน" สูญญากาศอ้ำๆอึ้งๆหลังริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
"ชอบอะดิ อยากลองอีกซักรอบดูมั๊ย?" เซฮุนยักคิ้วถามแต่น้ำเสียงทุ้มเข้มกลับสั่นผิดปรกติก่อนจะเบนสายตาหนีใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาจ้องเพดานว่างเปล่าแทน เขาเสพติดเซ็กส์และใบหน้าไร้เดียงสาของลู่หานตอนนี้ก็ปลุกอารมณ์ดิบในตัวได้เป็นอย่างดี ความอดทนเรื่องอย่างว่าของเขามันต่ำเตี้ยเรี่ยดินโดยเฉพาะเวลาที่เลือดในกายพลุ่งพล่านไปด้วยแอลกอฮอล์และมีคนนอนกอดตัวหอมนุ่มนิ่มแบบนี้
"ไปนอนกับแบคฮยอนเลยนะ" เสียงหวานแหวขึ้นมาเสียงดังลั่นทำเอาคนตัวสูงที่นอนอยู่ข้างๆหัวเราะชอบใจออกมาอย่างลืมตัว
"ฮื้ออิผีบ้ามึงไปหลอกไอ้ชานยอลกับซูโฮฮยองข้างนอกแทนได้มั๊ย?อย่ามาหลอกไอ้ฮุนมันเส้นตื้น มันหัวเราะเสียงดัง กูง่วงนอนมึงเข้าใจไหม? กูเพิ่งได้นอนตอนตีสาม มึงดูนาฬิกาด้วยตอนนี้เพิ่งตีสี่กว่าๆ กูง่วง กูเมา กูอยากนอน ไปหลอกไอ้พวกนอนข้างนอกโน่นไป๊" แบคฮยอนลุกขึ้นมาบ่นก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ไม่นานเสียงกรนเบาๆก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ลู่หานกับเซฮุนหันมายิ้มขำๆให้กันแล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมกลั้นเสียงหัวเราะไม่ให้ดังออกไปรบกวนคนที่นอนเตียงข้างๆ ใบหน้าเรียวเล็กซุกอยู่บริเวณอกแกร่งอย่างลืมตัว มือหนาของเซฮุนก็เผลอกอดเอวบางไว้แน่นด้วยความไม่รู้ตัวเช่นกัน
หากแบคฮยอนตื่นขึ้นมาอีกรอบคงได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานอนอมยิ้มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่
*P.S*
จบไปอีกตอนแล้ว เย่!จุดพลุฉลอง
เราดำเนินเรื่องเร็วไปมั๊ยคะ?มีใครไม่เข้าใจมั๊ยเอ่ย
ติได้เลยนะคะเราจะได้นำไปปรับปรุง
เราอาจไม่ค่อยได้เข้ามาต่อบ่อยๆนะคะเราะมีอีกเรื่องนึงที่เราต้องอัพประจำ
แต่ถ้ากระแสดีเราจะรีบมาต่อให้อย่างรวดเร็วเลย
ให้กำลังใจเรากันด้วยนะคะ
@jintaoh94
#ผีน่ารักhh
ขอบคุณค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น