คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีตสู่กบฏ 1-2
รุ่งเช้าของวันต่อมากองทัพขององค์ชายฉินหย่งเยี่ยนเดินทางมาถึงด่านหน้าของเมืองหลวงและเข้าโจมตีจนได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย เนื่องจากทหารประจำด่านมิได้ระวังตัว
กองทัพจึงเดินทางต่อไปเพื่อตีกำแพงเมือง กองทัพของท่านแม่ทัพฮุ่ยหมิ่นเข้าสมทบประกบทิศเหนือใต้ของเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในตัวเมืองทหารที่ทำการแฝงตัวอยู่ก็ส่งสัญญาณออกมาว่าได้คุ้มกันประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ฉินหย่งเยี่ยนจึงนำทัพตีกำแพงเมือง
ในตอนนี้เองที่ฉินมู่หรงพึ่งจะรู้ตัวว่าถูกตีกำแพงเมืองโดยพี่ชายสายเลือดสกปรกนั่น เขารีบพานางบำเรอมาหลบในวังหลังซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าจะถูกตีแตกได้ยากที่สุด และบัญชาการออกไปเพียงแค่ว่าต้องรบให้ชนะ ไม่มีการวางแผนอย่างอื่นแม้แต่น้อย แขนก็พลอยโอบกอดนางบำเรอคนโปรดหาได้ใส่ใจบ้านเมืองไม่
ส่วนอดีตฮ่องเต้ฉินมู่กงในตอนนี้ ได้แต่นอนป่วยหนักติดเตียงไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก ทันทีที่รู้เรื่องว่าไอลูกเลวมันก่อกบฎหวังชิงบัลลังก์ก็ได้แต่ก่นด่าในจิตใจ เอาแต่โมโหที่ตอนนั้นชะล่าใจปล่อยให้หนีไปและซ่องสุมกองกำลังถึงเพียงนี้อีกทั้งยังมีแม่ทัพฮุ่ยหมิ่น ที่เคยเป็นแม่ทัพคนโปรดร่วมก่อกบฏอีกด้วย
ไม่นานนักกองทัพก่อกบฏของฉินหย่งเยี่ยนก็ตีกำแพงเมืองจนแตกมุ่งหน้าเข้าสู่วังหลวงอย่างเหิมเกริม อีกทั้งยังแบ่งกองกำลังออกไปช่วยดูและประชาชน
เมื่อถึงวังหลวงซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางเมืองก็พบว่าทัพร่วมของแม่ทัพฮุ่ยหมิ่นก็ตีกำแพงเมืองสำเร็จแล้วเช่นกันจึงรวมทัพเพื่อเข้าสู่วังหลวงจับทุกคนเป็นตัวประกัน และมุ่งหน้าล่าฮ่องเต้
ฉินหย่งเยี่ยนตามหาฮ่องเต้ฉินมู่หรงผู้เป็นน้องชายต่างมารดาในทุกตำหนักตั้งแต่ตำหนักด้านหน้าเข้าไป เขาเปิดดูในทุกตำหนักเพื่อค้นหา
จนกระทั่งเมื่อเขาเดินทางเข้ามาในวังหลังและเปิดเข้าไปในตำหนักเหมยฮวาก็พบกับหญิงสาวโฉมสะคราญผู้หนึ่งกับนางกำนัลอีกสองคนที่กำลังกอดกันกลม คงเป็นเพราะความกลัว
"ฮือออ องค์ชายอย่าทำร้ายพวกเราเลยนะเพคะ พวกเรายังไม่อยากตาย"
นางกำนัลหนึ่งในสองคนพูดขึ้นด้วยท่าทีหวาดกลัวถึงขีดสุด ร้องไห้ฟูมฟายมือก็กอดเจ้านายของตนเอาไว้แน่น ฉินหย่งเยี่ยนได้แต่เลิกคิ้วสงสัยว่าพวกนางรู้ได้อย่างไร ว่าเขาเป็นองค์ชาย สงสัยคงประกาศกันทั่วแล้วกระมัง
"เชื้อพระวงศ์หรือ"
ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยถาม เนื่องด้วยเห็นหน้าแล้วไม่รู้จักนาง แต่ถ้าไม่ใช่เชื้อพระวงศ์แล้วจะมาอยู่ที่ตำหนักเหมยฮวาแห่งนี้ได้อย่างไร
"ไม่ใช่เพคะๆ คุณหนูหลินเป็นคู่หมั้นของฮ่องเต้ เป็นว่าที่ฮองเฮาเพคะ"
นางกำนัลอีกคนรีบตอบฉินหย่งเยี่ยนไปอย่างหวาดระแวงไม่แพ้กัน ที่แท้นางก็คือผู้ที่ถูกฉินมู่หรงหมายตาเอาไว้ว่าจะให้เป็นฮองเฮาเองสินะ ชายหญิงก็คงศีลเสมอกัน น่าสมเพชนัก
ฉินหย่งเยี่ยนจ้องหน้าว่าที่ฮองเฮาเพียงครู่เดียวก็หันหลังออกจากตำหนักเพื่อตามหาฮ่องเต้ต่อไป ส่วนหญิงสาวทั้งสามคนก็นับว่าเป็นคนในวังหลวงจึงถูกจับกุมไว้เป็นตัวประกันไปรวมกับคนอื่นๆที่โถงว่าการตำหนักผิงอาน
ไม่นานนักฉินหย่งเยี่ยนก็พบเจอกับฮ่องเต้ ภาพที่เขาเห็นช่างน่าละอายนัก ในยามที่บ้านเมืองระส่ำระสายเช่นนี้ฮ่องเต้เอาแต่กอดปลอบนางบำเรอเช่นนั้นหรือ ดูไม่ได้เอาเสียเลย นี่หรือโอรสสวรรค์
องครักษ์นับสามสิบคนที่คุ้มกันฮ่องเต้ก็เข้ามาต่อสู้กับฉินหย่งเยี่ยนอย่างไม่กลัวตาย ทว่ากลับสู้เขาไม่ได้เลยสักคน นอนตายเกลื่อนไปหมดเหลือเพียงฮ่องเต้กับนางบำเรอที่กอดไว้เท่านั้น
"อย่าเข้ามานะ!! กบฏอย่างเจ้าจะต้องไม่ตายดี"
ฮ่องเต้ฉินมู่หรงขู่ฉินหย่งเยี่ยน แต่ก็ได้แค่ขู่เพียงเท่านั้นไม่สามารถทำอะไรได้ ฉินหย่งเยี่ยนรู้ดีว่ามู่หรงสู้ได้มากสุดก็แค่ต่อยตี จับดาบไม่แข็งสู้รบไม่เป็น
"เหอะ ใครกันแน่ที่จะไม่ตายดี เป็นถึงโอรสสวรรค์กลับไร้น้ำยา ไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้ คนอย่างเจ้าต้องชดใช้ให้ข้าด้วยชีวิต!"
"อย่าาาาา"
ฉับ!!!
ฉินหย่งเยี่ยนไม่รอช้าผลักนางบำเรอออกและสังหารฮ่องเต้ผู้นี้ทิ้งเสีย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามแผนเขาจึงไปพบเสด็จพ่อที่นอนป่วย หลังจากเขาออกจากตำหนังอดีตฮ่องเต้ฉินมู่กงผู้เป็นบิดา อดีตฮ่องเต้ก็ตรอมใจจนเสียชีวิตลง เขาเยือกเย็นไร้ซึ่งความโศกเศร้าสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้คนใหม่ ไม่ต้องทำพิธีมากมาย
คนในวังทุกคนรวมถึงขุนนางที่ถูกจับเป็นตัวประกันไว้ ถ้าหากยอมสวามิภักดิ์ต่อฉินหย่งเยี่ยน เขาก็จะปล่อยตัวกลับไปแต่ถ้าหากใครคัดค้านเขาก็จะประหารทิ้งเสียให้หมดและทำการจัดสอบคัดเลือกขุนนางใหม่
ท่านแม่ทันฮุ่ยหมิ่นถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน ส่วนองครักษ์ฉางหยวนก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าองครักษ์แห่งวังหลวงต่อไป
หลายวันต่อมาฉินหย่งเยี่ยนเดินทางมายังตำหนักเหมยฮวาอีกครั้ง เขาจำได้ดีว่านี่คือที่อยู่ของคู่หมั้นอดีตฮ่องเต้ เขาเข้ามาในตำหนักอย่างบู่มบ่าม ไม่สนใครทั้งสิ้นแม้นางกำนัลจะบอกกับเขาว่านางอยู่ในห้องนอน เขาก็ไม่ฟังและจะพบนางให้ได้ เร่งฝีเท้าเข้ามาในห้องนอนของนางอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ฝ่าบาท! ใยจึงเข้ามาในห้องนอนของหม่อมฉันเช่นนี้เพคะ”
หญิงสาวโฉมสะคราญที่กำลังแต่งตัวอยู่เมื่อเห็นชายแปลกหน้าเข้ามาในตำหนักนาง ไม่สิเข้ามาถึงห้องนอนนางเลยทีเดียว นางตกใจมากจึงรีบดึงเสื้อผ้าเพื่อให้ปิดบังร่างกายของตน ใบหน้าแดงเห่อด้วยความอับอาย
“เจ้า! หลินจินเยว่ บัดนี้ข้าคือฮ่องเต้แห่งต้าฉินเจ้าต้องแต่งงานกับข้าในเดือนหน้านี้แหละข้าจะให้เจ้าเป็นเพียงซูเฟย[1] นี่คือบัญชาของข้า!”
“ว่าอย่างไรนะเพคะ”
[1] ซูเฟย คือ “พระราชเทวีผู้บริสุทธิ์และดีงาม” เป็นตำแหน่งชั้นเฟยของพระชายาลำดับที่ 2 รองจากกุ้ยเฟย
ความคิดเห็น