ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝ่าบาทอย่าทำร้ายหม่อมฉันเลย (อีโรติก)

    ลำดับตอนที่ #1 : อดีตสู่กบฏ 1-1

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 65


    บทที่ 1-1

    อดีตสู่กบฏ

    กองกำลังทหารกล้านับแสนนายมุ่งหน้าจากเหนือลงใต้สู่วังหลวงแห่งแคว้นต้าฉิน ด้วยจุดม่งหมายเดียวกัน นั่นก็คือการชิงบัลลังก์โอรสสวรรค์ นำโดยองค์ชายฉินหย่งเยี่ยน ผู้กระหายอำนาจ

    "ทูลองค์ชาย พรุ่งนี้เราก็จะถึงด่านหน้าของเมืองหลวงฉีโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ ส่วนกองกำลังเสริมของท่านแม่ทัพฮุ่ยหมิ่นถึงเขาชิงอู๋รอสมทบทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

    เสียงเขร่งขรึมของฉางหยวนองค์รักษ์คนสนิทขององค์ชายฉินหย่งเยี่ยน รายงานสถานการณ์ล่าสุดของกองกำลังก่อกบฏ

    "ดี! เราจะรีบมุ่งหน้าสู่ฉีโจว และพรุ่งนี้เราจะเคลื่อนทัพเพื่อชิงบัลลังก์มังกร กำชับทหารของเราที่แฝงตัวอยู่ในวังหลวงด้วยว่าให้คอยปกป้องราษฎรให้ดี ข้าไม่ต้องการทำร้ายประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทุกคนจะต้องปลอดภัย"

    "พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย"

    ร่างสูงบนอาชาสีขาวใบหน้าหล่อเหลาล่มเมืองของฉินหย่งเยี่ยนสั่งการต่อลูกน้องของเขา ถึงแม้ในตอนนี้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นกบฏแต่ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อบ้านเมือง

    องค์ชายฉินหย่งเยี่ยน หรือองค์ชายหนึ่งเขาเป็นโอรสองค์แรกของอดีตฮ่องเต้ฉินมู่กง ทว่ากลับโชคร้ายเกิดจากนางกำนัลชั้นต่ำ แรกเมื่อเขาเกิดมาฮ่องเต้ดีพระทัยอย่างมากแต่งตั้งมารดาของเขาเป็นกุ้ยผิน ดูแลเขาอย่างดี ประทานของให้ทุกอย่าง

    จนกระทั่งเขาอายุได้ห้าขวบ ฮองเฮาประสูติโอรส ความสำคัญของเขาได้ถูกเปลี่ยนไปนับแต่นั้น หย่งเยี่ยนไม่ได้รับการเอาใจใส่อีกเลย อีกทั้งฮ่องเต้และฮองเฮากลัวว่าเขาจะทำให้วังหลวงสั่นครอน จึงเนรเทศมารดาของเขาออกนอกวังไป ส่วนเขาก็ถูกขังอยู่ในตำหนักเล็กๆ

    ฮองเต้ไม่เคยเหลียวแลเขาอีก และยังดูถูกว่าเขานั้นเป็นสายเลือดสกปรก ฮองเฮาก็ส่งยาพิษมาให้เขาดื่มทุกเดือนเพื่อทำลายกำลัง ส่วนฉินมู่หรง น้องชายที่เกิดจากฮองเฮาเมื่อเติบโตขึ้น เรียนรู้การต่อสู้ก็มักจะบังคับให้เขามายืนเป็นเป้านิ่งให้เขาได้ชกต่อยอย่างสบายใจอยู่เสมอ

    ฉินหย่งเยี่ยนเจ็บปวดทั้งกายใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากร่างกายอ่อนแอไร้กำลังอีกทั้งไม่เคยเรียนวรยุทธต่อสู้เลย ได้แต่ถูกขังไว้อย่างโดดเดี่ยวในตำหนัก ท่านแม่เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้ ทว่าจิตใจที่บอบช้ำยังกร้าแกร่งหวังล้างแค้น

    คืนหนึ่งในวังหลวงอันอ้างว้างในตอนที่เขาอายุสิบหกปี ฮ่องเต้ฮองเฮารวมถึงฉินมู่หรงที่ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วออกไปล่าสัตว์ที่เขตป่าสงวนของวังหลวง องค์รักษ์เกือบหมดวังตามไปอารักขา ไม่มีใครคาดถึงว่าองค์ชายตกอับไร้เรี่ยวแรงอย่างฉินหย่งเยี่ยนจะคิดหลบหนี

    ฉินหย่งเยี่ยนใช้ข้ออ้างว่าปวดท้องจนทนไม่ไหวเรียกองค์รักษ์เข้ามาหา และอ้อนวอนให้พาหมอมาพบ องค์รักษ์ถึงแม้จะแปลกใจแต่ก็ได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ว่าไม่ให้องค์ชายตายเป็นอันขาด องค์รักษ์จึงยอมให้หมอหลวงมาพบฉินหย่งเยี่ยน

    ในจังหวะที่หมอเข้ามาพบ ฉินหย่งเยี่ยนจึงทำการวางยาสลบหมอเสีย และเปลี่ยนชุดตนเองไปใส่เครื่องแบบหมอหลวงเพื่อง่ายต่อการออกนอกวัง และค่อยๆ แอบองค์รักษ์ออกไปโดยใช้ผ้าปิดปากมอมยาสลบองค์รักษ์เช่นเดียวกันกับหมอ

    ถึงแม้เขาจะถูกขังไว้ในตำหนัก แต่ในตอนเด็กแม่ของเขาก็เคยสอนเรื่องยาสมุนไพรต่างๆ และให้ตำราปรุงยากับเขาเอาไว้ เขาแอบซ่อนตำราและศึกษามาตลอดสิบปีจนเชี่ยวชาญและแอบผสมยาบรรเทายาพิษที่ฮองเฮาให้เขาดื่มกินทำให้เขาไม่ได้มีอาการหนักอย่างที่ควรจะเป็น

    เมื่อฉินหย่งเยี่ยนหลบหนีออกมาได้เขาก็รีบตามหามารดาของเขาแต่กลับพบว่ามารดาของเขาถูกคนของฮองเฮาสังหารตายไปตั้งแต่เมื่อปีก่อนแล้ว เขาตระโกออกมาอย่างคุ้มครั่ง เขามาสายเกินไปทุกอย่างล้วนผ่านไปแล้วไม่ย้อนคืน เขาจึงกีดเลือดสาบานต่อหน้าหลุมศพของมารดาว่าเขาจะสู้รบและทวงบัลลังก์กลับมาให้ได้

    ฉินหย่งเยี่ยนหลบหนีขึ้นไปทางเหนือและได้พบเจอกับสำนักวรยุธกลางหุบเขา ฉินหย่งเยี่ยนจึงขอถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนรู้ฝึกฝนวรยุทธและฝึกลมปรานให้กล้าแกร่ง ใช้เวลาหกปีเขาก็นับเป็นยอดคน เขาจึงขอลาอาจารย์เพื่อกลับไปแก้แค้นความเจ็บช้ำที่เสด็จพ่อและฮองเฮาทำไว้กับเขาและมารดา

    ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปีที่เปรี่ยมด้วยพลังแห่งการแก้แค้นเดินทางออกหาซ่องสุมกองกำลังใช้เวลาอีกสามปีเต็ม จากกองทัพเล็กๆ ก็กลายเป็นใหญ่ เขาใช้สำนักวรยุทธของอาจารย์เพื่อเป็นฐานทัพเนื่องจากที่แห่งนี้เดินทางมายากเหมาะแก่การหลบซ่อน

    อีกทั้งเมื่อฮ่องเต้ฉินมู่กงได้สละบัลลังก์ให้แก่ฉินมู่หร่งในวัยเพียงยี่สิบปี ฉินมู่หรงเหิมเกริมยิ่งนักเป็นฮ่องเต้ที่ไร้คุณธรรมเมามายในสุราและนารี บ้านเมืองระส่ำระสายย่อยยับ ภาษีแพงขึ้นอย่างมหาศาล ประชาชนยากจน โจรปล้นสะดมมากมายไม่อาจต้านได้หมด

    เมื่อฉินหย่งเยี่ยนรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดจึงคิดว่าถึงเวลาที่จะโค่นบัลลังก์และเอาความสงบสุขกลับมาสู่บ้านเมืองแล้ว เขาจึงสมทบกองทัพเข้ากับกองทัพปกปักอุดรของแม่ทัพฮุ่ยหมิ่นเพื่อเข้าตีเมืองหลงทวงคืนบัลลังก์

    แม่ทัพฮุ่ยหมิ่นถึงแม้จะภัคดีต่ออดีตฮ่องเต้ฉินมู่กง ทว่าฮ่องเต้ฉินมู่หรงนี้ช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก เขาจึงคิดว่าควรเชิดชูและเข้าข้างผู้ที่มีความเหมาะสมมากกว่า

    ฉินหย่งเยี่ยนและแม่ทัพฮุ่ยหมิ่นรวมถึงองค์รักษ์ฉางหยวนที่ขอติดตามองค์ชายมาตั้งแต่สำนักฝึกวรยุทธเนื่องด้วยนับถือในฝีมือ จึงร่วมวางแผนก่อการใหญ่กันอย่างรอบครอบและระมัดระวัง

    ความแค้นก็ส่วนความแค้นแต่สำคัญที่สุดคือการคืนความสงบให้แก่ประชาราษฎร์


    #เรื่องนี้ไม่ซีเครียสนะคะเอ๊ะหรือว่าซี พี่เยี่ยนดุๆเด็ดๆ >.< ฝากเอ็นดูนักเขียนหน้าใหม่ กดเฟบหรือเม้นให้กันด้วยนะคะจะอัพบ่อยๆเลยค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×