คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 | Unknown
01
Unknown นั้นคือชื่อของเธอที่ได้รับมาตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาหญิงสาวเกศาสีส้มสว่าง ท่ามกลางห้องมืดแสงไฟสลัวจากแสงดาวนับล้านและแสงไฟจากเทียนตั้งโต๊ะ เธอเลือกจะวางปากกาขนนกลงกับหนังสือเล่มหนึ่งเลื่อนใบหน้ามองออกไปที่หน้าต่าง "ยาวนานจังนะ..."
"เหตุการณ์นี้จะจบดีไหมนะ" เธอว่าแล้วหันมามองอักษรบนหนังสือที่เธอเขียนออกมา หน้าที่ ของเธอคือเขียนชะตากรรมของผู้หญิงคนหนึ่งในทุกพหุจักรวาลเพื่ออะไรสักอย่างหญิงสาวมักจะสงสัยในหน้าที่ของตัวเองทุกครั้งที่เขียนออกมา การกุมชะตาของคนๆ หนึ่งในทุกจักรวาลมันเกินมือของเธอด้วยซ้ำ "เหนื่อยจัง..."
"จูเลีย..." นั้นคือชื่อของหญิงสาวที่เธอต้องเขียนชะตากรรมให้กับหล่อน ความสามารถก็เลิศ ครอบครัวก็รักกันดี แม้หญิงสาวจะมีปมบ้างแต่ก็เข้มแข็ง น่าเอ็นดูนั้นคือสิ่งที่เธอคิดและคู่ชะตาของเธอ โลกิ แววตาของเธอหรี่ลงเขาต้องตายด้วยน้ำมือของธานอส เธอรู้ดีว่าไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้เพราะเธอไม่ใช่ผู้กุมชะตาของเขาจึงทำได้แค่มองผู้ที่เธอกุมชะตาแตกสลายนับครั้ง สูญเสียครอบครัว คนรัก คนสนิท ไปตั้งมากมายสุดท้ายก็จบชีวิตของตัวเองด้วยการเสียสละหรือไม่ ก็คอยดูทุกคนจากไปไม่มีทางไหนเลยที่จะช่วยได้
"ไม่ไหวแล้ว! พักเบรก" หญิงสาวตะโกนขึ้นดังลั่นห้องพลางดีดนิ้วร่างโคลนของเธอจึงปรากฏขึ้นมา เพื่อให้มาทำหน้าที่แทนเธอระหว่างไม่อยู่แต่ก่อนจะออกไปด้านนอกห้องนั้น หญิงสาวเลือกทิ้งตัวลงโซฟานุ่มหนุนหมอนนิ่มก่อนจะบิดขี้เกียจสุดตัว "ไว้ตื่นขึ้นมาค่อยไปหาพวกเขาละกัน"
"มีนรกกว่านี้แน่ ไว้เราค่อยไปเผาที่นั่นกัน" เสียงชายวัยชราว่าขึ้นกับอีกคนก่อนที่ตรงหน้าพวกเขามีประตูมิติปรากฏขึ้น เล่นเอาพวกเขาต้องหยุดเดินไว้ก่อน "โทษที หนูมาขัดอะไรรึเปล่าคะ โมเบียส"
"โอ้ ให้ตายนึกว่าใครยัยหนูนี่เองหายไปนานเลยนะ" โมเบียสว่าขึ้นกับหญิงสาว ชายหนุ่มที่มากับเขาเหมือนนิ่งชัวขณะเมื่อเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นมา "จูเลีย เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงหรือเจ้าก็โดนไอ้พวกนี้จับมา?!"
"จะ จูเลีย??"
"ขอโทษนะคะ คุณคือใคร" เธอเอ่ยถามเขากลับอย่างไม่เข้าใจอยู่ๆ ก็มาทักเป็นคนอื่น ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเสียแววตาของเขาสั่นไหว ใบหน้าของเธอแสดงสีหน้าไม่เข้าใจและสงสัยอย่างมากจนชายชราตรงกลางต้องแยกเขาและเธอออก "โทษทีๆ เขาพึ่งโดนคดีรุกล้ำเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์น่ะ"
"งั้นเองเหรอคะ ว่าแต่คุณโมเบียสคะพอชี้บอกได้ไหมว่าโรงอาหารไปทางไหน" เธอว่ากล่าวด้วยท่าทีเขินอายคนเป็นผู้ใหญ่กว่าได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราะออกมา ก่อนจะชี้และบอกทางกับเธอโดยไม่ลืมลงท้ายว่าด้วยเขาจะไปกินข้าวด้วยรอได้เลย "โอเคค่ะ ไว้เจอกันนะคะ"
"ได้เลย ยัยหนู!"
"ทำไมเรียกนางแบบนั้น นางมีชื่อนะ" ชายหนุ่มด้านข้างเขาว่าขึ้น โมเบียสเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินหายลับไปเขาก็หันกลับมาพร้อมบอกกับอีกคน "คือฟังนะ โลกิ ยัยหนูไม่มีชื่อ แล้วก็ไม่ได้ชื่อจูเลีย"
"ถ้างั้นจูล"
"นั้นก็ไม่ใช่ชื่อของหล่อน" ชายชราว่าแล้วจะเดินต่อไป โลกิจึงตั้งคำถามอีกครั้งจนเขาชะงักและหันมามองอีกคนอย่างเหนื่อยใจ "ถ้างั้นนางชื่ออะไร"
"ก็บอกไปแล้วว่าเธอไม่มีชื่อ"
"แล้วนางจะไม่มีชื่อได้ยังไง"
"เอาเป็นว่ามันซับซ้อนละกันนะ ไปเถอะ"
หญิงสาววางของว่างลงโต๊ะและนั่งลงก่อนจะเลื่อนสายตาสำรวจรอบๆ โรงอาหารจนกระทั่งเจอ B15 แวะมาหาเพราะหล่อนได้ยินมาจากโมเบียสว่าเธอมาที่ทีวีเอ "ไม่เจอกันนานเลยนะ ยัยหนู"
"พอดีงานเยอะน่ะค่ะ เลยหาเวลามาไม่ได้เลย"
"ตั้งนานเลยนะ พวกเราเป็นห่วงนึกว่าเธอจะเป็นอะไรไป" เธอว่าด้วยสีหน้าเป็นห่วงอันโนนไม่เอ่ยอะไรเธอยกมือขึ้นจับอีกฝ่ายไว้และเผยยิ้ม "หนูก็มานี่แล้วไงคะ จริงสิถ้างั้นเดี๋ยวไปหาคุณราวอนน่าด้วยดีกว่า"
"เธอนี่เหมาะจะเป็นยัยดวงอาทิตย์ตัวน้อยของทีวีเอจริงๆ"
"ดวงอาทิตย์ตัวน้อยอะไรล่ะคะ คุณ B15 ละก็" เธอว่าออกมาพร้อมขำแห้งจนกระทั่ง B15 ได้ขอตัวลุกออกไปทำหน้าที่ของหล่อน ว่าแล้วเธอก็ลุกเก็บส่วนเหลือของว่างไปทิ้งและมุ่งไปยังห้องของผู้พิพากษา
ก๊อก ก๊อก
"นั้นใคร"
"ตัวเล็กเองค่าา"
"เข้ามา" เมื่อประตูเปิดปรากฏให้เห็นหญิงสาวชุดระเบียบหันมามองผู้มาใหม่ภายในห้องของหล่อน อันโนนเดินยิ้มหน้าบานมาหาราวอนน่าพร้อมเข้าสวมกอดคนสูงกว่าเธอเล็กน้อย "ตายจริง ไม่เจอกันนานเลยนะตัวเล็ก"
"ขอโทษนะคะ พอดีงานมันเยอะเลยไม่ว่างมาหาทุกๆ คนเลยนะ"
"แค่เห็นเธอปลอดภัยฉันก็อุ่นใจแล้วล่ะ" ราวอนน่าพูดแล้วบีบแก้มอย่างเอ็นดู ทั้งสองสนทนาได้ไม่นานก็แยกกันไปทำธุระต่ออันโนนที่กำลังเดินเล่นอยู่ก็เจอ B15 และโมเบียสเดินผ่านเธอไปจนสงสัยจึงเดินกลับไปถามพวกเขาจนได้รู้ว่ามีคนหลุดออกมา "ยัยหนูอยู่กับโมเบียส ส่วนฉันจะไปทางนั้น"
"โอเค" โมเบียส
"เขาจะออกไปที่อื่นได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่มีเทมแพด" อันโนนหันไปถามกับโมเบียสระหว่างตามหานักโทษ "มันก็ใช่อยู่หรอก แต่หมอนี่จะว่าไงดี เขายังไม่รู้น่ะว่าทำได้"
"ว้าวเลยค่ะ ว่าแต่ถ้าเขายังอยู่ที่ห้องเดิมละคะ แบบว่าไม่มีทางหนีแล้วอะไรงี้"
"น่าสน งั้นไปดูกันดีกว่า"
เมื่อเปิดห้องขึ้นมาก็ปรากฏว่าเขาอยู่ในห้องนั้นจริงๆ โมเบียสและเธอค่อยๆ เดินเข้าหาอย่างช้าๆ จนกระทั่งได้เอ่ยถามขึ้นว่าเขานั้นไม่มีทางหนีไปจากที่นี่แล้วจริงๆ ใช่ไหม "นั้นก็ใช่"
"งั้นข้าขอถามอีกคำถาม ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้" ชายหนุ่มว่าแล้วมองมาทางหญิงสาวข้างๆ โมเบียส อันโนนจึงหลบสายตาเขาและไม่ตอบอะไรเป็นชายชราที่เอาร่างเขามาบังเธอไว้ "เอาเป็นว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้เพราะผู้พิทักษ์เวลาพาเธอมาที่นี่เอง"
"พวกเขาไม่ได้สร้างนางเหมือนพวกเจ้า"
"ก็ใช่ มิสมีนิตบอกว่าเธอเป็นทายาทสหายเก่าของผู้พิทักษ์เลยได้อภิสิทธิ์อยู่ที่นี่" โมเบียสอธิบายเพื่อคลายความสงสัยของโลกิ แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะจ้องหาร่างของเธอที่หลบด้านหลังคนตรงหน้าเขา หลังเรื่องที่โลกิหลุดจากห้องคุมเขาก็ได้เข้ามาในฐานะตัวแปรผู้ช่วย อันโนนจึงได้หาเวลามาคุยกันมิสมีนิตบ้างที่โต๊ะทำงาน "ถ้าเขารู้ว่าเธอออกมาคงตกใจแน่"
"รู้ค่ะ มิสมีนิตก็มันน่าเบื่อให้แช่อยู่ในห้องแล้วเขียนชะตากรรมอย่างเดียวให้หุ่นยนต์ทำเถอะค่ะ" เธอว่าแล้วเท้าคางกับโต๊ะก่อนจะฟุบหน้าลง จนเอไอนาฬิกามองเธอก่อนจะลูบหัวอีกคน "ถ้างั้นมิสมีนิตอย่าพึ่งบอกเขานะคะ"
"จ้าๆ ความลับระหว่างเราเนอะ"
"แน่นอนค่ะ!" เมื่อมิสมีนิตหายไปหญิงสาวกำลังลุกออกไปก็ต้องชนกับใครคนหนึ่งจนล้มลงกับเก้าอี้อีกครั้ง พอเงยหน้าขึ้นก็เป็นพ่อหนุ่มตัวแปรคนใหม่ของทีวีเอ "ดีค่ะ คุณโลกิดูคลิปเสร็จแล้วเหรอคะ"
"แน่นอนข้าดูเสร็จแล้ว ก็เลยมาหาเจ้า"
"ว้าว เป็นเกียรติจังค่ะ เทพแห่งความวุ่นวายเอ่อ หมายถึงโกลาหลหรือไม่ก็เจ้าเล่ห์" เธอว่าแล้วยิ้มเต็มมุมปากให้อีกคนตรงหน้าชายหนุ่มนั่งเก้าอี้ลงข้างเธอ "ข้านึกสงสัยทำไมโต๊ะโมเบียสถึงได้มีสองเก้าอี้"
"อ่อ เพราะว่าฉันชอบมานั่งที่เขา คุณโมเบียสเลยยกเก้าอี้สำหรับฉันมาไว้ที่ข้างโต๊ะเขาค่ะ"
"เหมือนเลี้ยงลูกเลย" ชายหนุ่มว่าแล้วมองมาทางเธอ ที่หัวเราะแห้งหลังเขาว่าจบ "เจ้ามีชื่อว่าอะไร"
"ไม่มีชื่อค่ะ ปกติทุกคนที่นี่เรียกฉันว่า ยัยหนู ตัวเล็กไม่ก็คุณหนูค่ะ" คำตอบของเธอทำเอาเขานั้นเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเอนตัวมาด้านหน้ามองเธออย่างจริงจัง ทำเอาหญิงสาวมีความกังวลเล็กน้อยเมื่อเขาใช้สายตาเหมือนกำลังพยายามล้วงความลับจากในใจเธอ "ข้าเรียกเจ้าว่า จูลได้ไหม"
"จูลเหรอคะ"
"ใช่"
"เป็นชื่อที่เพราะดีนะคะ" เธอกล่าวแล้วยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้กับชายตรงหน้า โลกิที่เห็นท่าทีแล้วใบหน้าที่แสดงแบบนั้นก็ทำเขานึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา เขาหวังว่าสักวันคงกลับไปในเส้นเวลาเดิมและสวมกอดเธออย่างโหยหา "เจ้านี่ชั่งสมเป็นเจ้าจริงๆ"
"คะ?"
"ชั่งเถอะ"
"เอาล่ะ เริ่มงานกันได้แล้ว มีเหตุเน็กซัสเกิดขึ้น อ่าวไง ยัยหนู" โมเบียสว่าขึ้นและเอาห่อเสื้อส่งให้กับโลกิก่อนจะหันมาทักทายหญิงสาวที่นั่งอยู่เธอจึงทักกลับให้เขา ก่อนทั้งสองจะเดินออกไปอันโนนนั่งคิดอยู่สักพักจึงคิดตามพวกเขาไป "ไม่เอาน่า ยัยหนูครั้งนี้อันตราย"
"คุณก็บอกอันตรายทุกรอบที่หนูขอนั่นแหละค่ะ โมเบียส"
"เอาน่า ให้นางไปด้วยจะเป็นไรไป" โลกิหันไปเอ่ยต่อกับโมเบียส เขายกมือชี้หมายจะว่าตอกอีกคนแต่ต้องหยุดก่อน "ก็ได้ แต่อยู่ให้ใกล้พวกเราเข้าไว้"
"ทราบค่ะ"
ยุค 1985
"ทำไมเจ้าถึงอยากมาด้วย" โลกิหันมาถามเธอ จนหญิงสาวสะดุ้ง "ก็แหม ปกติคุณโมเบียสเขาไม่ให้ฉันติดสอยห้อยตามมาแบบนี้อยู่แล้ว"
หญิงสาวเลือกจะเดินดูสำรวจพื้นที่เกิดเหตุอย่างจริงจังแน่นอนว่าไม่มีหลักฐานที่ส่อไปถึงอีกคนได้นั้นทำให้เธอโล่งอกออกมา จนกระทั่งเธอถูกดึงเข้ามากอดคอไว้โดยชายหนุ่มนามโลกิทำเอาเธอนั้นตัวแข็งทื่อ เขาพูดราวกับกำลังซื้อเวลาแต่จะซื้อไปเพื่ออะไรในเมื่อที่อยู่ตรงนี้เป็นแค่ซากไปแล้วส่วนผู้ก่อเหตุกับตัวประกันก็ไม่อยู่แถวนี้ให้โง่แน่นอน "เจ้าว่างั้นใช่ไหม จูล"
"คะ ค่ะ"
แน่นอนว่าภารกิจล่มไม่เป็นท่าโดยใครก็รู้กันอยู่ เธอมานั่งที่โรงอาหารอย่างเอื่อยเฉื่อยและเหม่อมองไปรอบๆ จนกระทั่งโมเบียสเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับเธอ "ไง ยัยหนูแซนด์วิชสลัดมายองเป็นไงบ้าง"
"อร่อยมากเลยค่ะ คุณน่าจะลองบ้างนะคะ"
"ว้าา คงต้องเป็นครั้งหน้าคราวนี้เป็นสลัดปกติ" เขาว่าอย่างเสียดายจนหญิงสาวเผลอขำออกมาเล็กน้อย "แล้วเธอคิดยังไงกับชื่อที่เขาเรียก"
"จูลเหรอคะ"
"ใช่" อันโนนหรี่สายตาลงมองมือของเธอก่อนจะเงยหน้ามองโมเบียสที่รอคำตอบจากเธอ "ชื่อเพราะดีค่ะ เหมาะแก่การเป็นชื่อเล่นมากเลย คุณอยากเรียกแบบนั้นเหรอคะ"
"ความจริงฉันเรียกยัยหนูจนติดปากก็จริง"
"แต่จะเป็นอะไรไปถ้าเรียกชื่อนี้เนอะ จูล"
"งั้นก็ตามสะดวกของคุณเลยค่ะ โมเบียส" เธอว่าแล้วยิ้มราวกับอนุญาตเขา จนกระทั่งโลกิปรากฏตัวขึ้นมาเขาลากเก้าอี้จากโต๊ะข้างๆ มาร่วมวงสนทนาและอธิบายทฤษฎีบางอย่างที่เขาเจอมานั้นคือเขารู้แล้วว่าจะหาคนก่อเหตุหรือตัวโลกิอีกคนได้จากที่ไหน หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นนั่งฟังเงียบๆ
เขาได้อธิบายว่าโลกิตัวนั้นจะซ่อนตัวในที่ๆ เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติตามธรรมชาติหรือตามสถานที่ที่วางไว้ถ้าเกิดเขาไปำอเหตุอะไรในช่วงมันก็จะไม่เกิดเหตุเน็กซัสขึ้นมานั้นทำให้เป็นที่ซ่อนตัวได้อย่างดี แต่เมื่อเขาจะขอโมเบียสไปทดสอบทฤษฎีก็ต้องถูกปฏิเสธทันที "เจ้าคิดว่าไง จูล"
"เอ่อ ก็ดูมีความเป็นไปได้สูงนะคะ โมเบียสไม่แน่เขาอาจจะซ่อนตัวในสถานการณ์ช่วงนั้นก็ได้"
"ก็ได้ จะลองดู"
"งั้นครั้งนี้หนูขอไม่เข้าร่วมนะคะ" โลกิที่จะถามเธออย่างสงสัยแต่เป็นโมเบียสที่ตอบรับเธออย่างรวดเร็วก่อนจะใช้เทมแพดไปทดสอบทฤษฎีกับโลกิแค่สองคน "ต้องไปเตือนเธอหน่อยแล้ว"
ความคิดเห็น