คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : White Confession - Ch 2
- White Confession Ch.2 -
“ใช่........ชั้นเป็นนักแข่งรถ”
“โห แล้วตอนนี้นายยังแข่งอยู่มั๊ยอ่ะ”
“ไม่แล้วแหละ”
“ทำไมอ่ะ?”
“........มีปัญหานิดหน่อย”
สีหน้ามยองซูดูเศร้าลงไปนิดนึง คงเป็นเหตุผลส่วนตัวสินะ ซองยอลก็ไม่อยากคาดคั้น
“อ่อ.....โทษทีนะที่ถาม”
“ไม่เป็นไรๆ ไปกันเหอะ เดี๋ยวร้านอาหารจะคนแน่น”
มยองซูกลับไปยิ้มเหมือนเดิม ก่อนจะเดินนำซองยอลไปที่รถ Maserati สีดำคันสวยที่จอดอยู่ โดยซองยอลเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ
“เมื่อเช้ามันเปิดประทุนหนิ อีกคันหรอ”
“ดูดีๆนะ”
มยองซูกดปุ่มก่อนที่ระบบกลไกหลังคาจะทำงาน ตอนนี้บนหัวของซองยอลไม่มีอะไรผิดอยู่แล้ว กลไกการทำงานของรถคันนี้จัดการเปลี่ยนมันให้กลายเป็นรถเปิดประทุนเรียบร้อย
“เห้ย เจ๋งอ่ะ”
ซองยอลก็พอจะรู้บ้างแหละว่ามันทำแบบนี้ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นจริงๆ
“วันนี้อากาศดี เปลี่ยนมารับลมธรรมาชาติบ้างละกันนะ นายชอบหรอ”
“อืม ใช่ ชอบมากๆ ปกติเคยหนังแต่รถธรรมดา ไม่ได้เท่ห์แบบนี้”
“มานั่งบ่อยๆสิ”
“ได้จริงๆหรอ ไม่รบกวนนายหรอ”
“ไม่หรอก ชั้นไม่ได้มีงานประจำ ถ้าอยากออกไปไหนก็มาบอกได้”
“หึ้ย ขอบคุณนะ ก็ดี ขี้เกียจไปง้ออูฮยอน พอดีชั้นขับรถไม่เป็นอ่ะ”
ถึงจะอยู่มาตั้งแต่สมัยใช่ ช้าง ม้า วัว ควาย เรื่องการขับขี่ทุกสิ่งมันเป็นสิ่งที่ซองยอลทำไม่ได้เลย
“ใครหรอ อูฮยอน?”
“เพื่อนชั้นเอง เรา 2 คนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กอ่ะ ไว้วันหลังจะพาไปแนะนำ”
“โอเค”
ทั้ง 2 มาถึงที่หมายแล้ว ห้างนี้เป็นห้างแบบ open air อยู่ติดริมถนน พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว มยองซูขับรถเข้าไปจอดในที่ร่มก่อนจะจัดการปิดประทุนให้เรียบร้อย
“เพื่อเป็นการขอบคุณนาย ชั้นเลี้ยงนะ นายอยากกินอะไรมยองซู”
“อยากกินไก่อ่ะ ไปกินไก่ร้านนั้นกัน”
“โอเคเลย ชั้นชอบกินพอดี”
โฮ่งๆๆๆๆๆๆ
“โอ๋ เห่าอะไรคับ ไม่เอา ไม่เห่านะครับ”
มยองซูนั่งยองๆลงกับพื้นก่อนจะลูบหัวเจ้าหมาที่ดูเหมือนจะเดินหลงทางมา
“ไม่เอานะคับ ไม่เห่าน้า”
ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่น่ารักมากสำหรับซองยอล แต่นี้ไม่ใช่เวลาชื่นชมความน่ารัก เพราะหมามันกำลังเห่าเค้าอยู่ ก็เป็นแวมไพม์หนิ หมามันก็เลยเห่า ซองยอลอยากเลี้ยงหมาจะตายแต่ก็เลี้ยงไม่ได้ เวรกรรมอะไรของแวมไพม์เนี่ย
“เอ่อ มยองซู รีบไปกันเหอะ เดี๋ยวคนเยอะ”
“มีปลอกคอด้วย สงสัยวิ่งหนีเจ้าของมา งั้นเดี๋ยวชั้นไปประกาศตามหาเจ้าของก่อนนะ ไม่เอาครับ ไม่เห่านะ”
เจ้าหมาก็ยังคงไม่หยุดเห่า ที่สำคัญเห่าดังและแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
“งั้นชั้นไปจองโต๊ะก่อนนะ”
“โอเคเลยเดี๋ยวชั้นตามไป”
พอซองยอลเดินไปปุ๊บ เจ้าหมาก็หยุดเห่า เห้ออ ค่อยยังชั่ว เกิดมยองซูสงสัยขึ้นมาจะทำยังไงเนี่ย
โชคดีที่วันนี้แดดไม่ร้อนเท่าไหร่ พอกินอาหารเสร็จก็เลยออกมาเดินเล่นต่อได้ ซองยอลออกแดดได้เหมือนคนทั่วไป แต่ต้องไม่เกิน 35 องศา ไม่ใช่ว่าเกินแล้วจะไหม้แล้วกลายเป็นผงธุลีเหมือนในหนังนะ แต่ก็จะเป็นลมหมดสติไปเลยทันที
ไม่รู้ทำไมคนที่กลัวการผูกมิตรอย่างซองยอลถึงกล้าที่จะคุยกับมยองซู คงเป็นเพราะนิสัยสบายๆที่แอบแฝงความเป็นผู้ใหญ่ของมยองซู ที่ทำให้ซองยอลลืมเรื่องการสูญเสียไปเลย
“ของคุณมากนะมยองซู สำหรับวันนี้”
“ไม่เป็นไรหรอก ไว้เจอกันนะ”
“ใครหรอซองยอล”
อูฮยอนที่สามารถรับรู้การมาถึงของเพื่อนได้เดินออกมาตรงหน้าบ้าน
“อูฮยอนนี้ มยองซู มยองซูนี่ อูฮยอน”
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
“อืม นายด้วย”
“มยองซูเป็นเพื่อนบ้านของเราอ่ะ”
“อ๋ออ โอเคๆ คงได้เจอกันบ่อยๆนะ”
อูฮยอนยิ้มให้มยองซู จับมือเชคแฮนด์คงจะไม่ได้ เพราะอุณหภูมิร่างกายที่ต่างกัน
“อืม งั้นชั้นไปก่อนนะ มีปัญหาอะไรเรียกได้เลยนะ เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นซ่อมได้หมด บาย”
มยองซูกลับขึ้นรถไปอีกครั้งก่อนจะขับกลับเข้าไปจอดในโรงรถ
“ไหนบอกว่าออกไปแปปเดียว”
“พอดีว่ามยองซูชวนไปข้างนอกเลยยาวเลย แหะๆ ไปแก เข้าบ้าน เดี๋ยวชั้นเอาเลือดให้กิน”
ซองยอลดันหลังเพื่อนตัวเล็กให้เข้าบ้านไป ก่อนจะวิ่งเข้าครัวแล้วหยิบเลือดออกมารินใส่แก้ว
“ต้องกินไปอีกกี่ปีเนี่ย เบื่อเหมือนกันนะ”
อูฮยอนหยิบแก้วขึ้นมาก่อนจะหมุนแก้วให้เลือดไหลวนไปวนมาเหมือนไวน์
“ก็จนกว่าจะตาย......ก่อนจะตายก็ต้องหาคนคนนั้นให้เจอก่อน เราจะได้มีอายุขัย”
“แล้วถ้าคนคนนั้นเค้ารับสภาพเราไม่ได้หละ..............”
“แกจะมาพูดให้เครียดทำไม รีบดื่มเหอะ จะได้รีบนอน ช่วงนี้ช่วงแรม แรงก็ไม่ได้มีเยอะ จะได้พักผ่อนเยอะๆ”
ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของดงอูฮยองมันวนเวียนอยู่ในหัวของเขาทั้ง 2 ตลอด จากที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้ แต่อยู่ดีๆกลับคิด ซองยอลสะบัดหัวไล่ความคิดที่รบกวนจิตใจออกไปก่อนจะกระดกแก้วเลือดลงไปในคอ ตาสีแดงวาวโรจน์ขึ้นอีกครั้ง หลังจากได้รับเลือดเข้าร่างกาย
ซองยอลกลับขึ้นมาที่ห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง จัดการอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนจะขึ้นมานั่งบนเตียง
ซองยอลเอื้อมมือไปหยิบกล่องไม้ที่อยู่บนหัวเตียง ก่อนจะเปิดออกมา
ข้างในกล่องมีรูปของหญิงสาวที่ใส่ชุดฮันบกเหมือนในหนังย้อนยุค ภาพที่เก่าจนสีซีดและเลือนราง แต่สิ่งที่ยังเด่นชัดคือแววตาของผู้หญิงคนนั้น.........
“แม่ครับ......... ตอนที่แม่รู้ว่าพ่อไม่ใช่คนธรรมดา..........แม่รู้สึกยังไงครับ.............”
“ผมกลัว.........ว่าถ้าผมไปรักใครสักคน.........เค้าจะรับมันไม่ได้..........................”
“ผมคิดถึงแม่นะ.....คิดถึงพ่อด้วย......”
น้ำตาค่อยๆไหลออกจากตาสีแดงคู่นั้น ซองยอลใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกไปก่อนจะเก็บรูปใบนั้นใส่กล่องแล้ววางไว้ที่เดิมก่อนจะล้มตัวลงนอน
ใช่.......ซองยอลกลัวความรัก
หากวันหนึ่งเค้าเกิดรักใครขึ้นมา แล้วคนคนนั้นรับความจริงไม่ได้
ก็คงจะเป็นซองยอลนั้นแหละที่เป็นฝ่ายเจ็บปวด
เจ็บปวดที่ถูกมองเป็นตัวประหลาด
และเจ็บปวดที่ต้องมองคนนั้นจากไปตามกาลเวลา
มยองซูอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยแล้ว อยู่ชานเมืองก็ให้บรรยากาศอีกแบบ ถึงจะไม่มีแสงสีเสียงเหมือนย่านคังนัมที่เขาจากมา หรือว่าจะต้องอยู่คนเดียว แต่ในเมื่ออยู่หลายคนแล้วมันมีปัญหา ก็อย่าอยู่เลยดีกว่า.......................
มยองซูเดินไปที่หน้าต่างก่อนที่จะเปิดม่านและดูดาวบนท้องฟ้า วันนี้พระจันทร์เหลือเพียงนิดเดียว ถึงจะไม่ได้สวยแต่ก็มีเสน่ห์ลึกลับไปอีกแบบ เขามองไปที่หน้าต่างบานที่เมาเช้าเขาสบกันนัยน์ตาสีแดง มยองซูจำได้แม่นว่าเจ้าของตาคู่นั้นคือซองยอล แต่ทำไมวันนี้ที่ไปเที่ยวด้วยกัน หลังจากจ้องแล้วจ้องอีก มันก็เป็นสีน้ำตาล
“สงสัยแดดแรงจนเบลอแล้วมยองซู ตาสีแดงขนาดนั้นมันคงไม่มีหรอก”
ถ้ามีจริงๆคงเป็นคนที่เส้นเลือดในตาแตกชนิดที่ว่าหมอก็คงรักษาไม่ได้
มยองซูเดินกลับไปที่เตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน
ติ้ง!!!
ฮาอิน : มยองซู ชั้นขอโทษนะ
ไฟหน้าจอสว่างจ้าพร้อมกับข้อความที่ปรากฏขึ้นบนจอ มยองซูเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์ก่อนจะคว่ำมันลง
ลาก่อน.................................
“อูฮยอนอา ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องไปส่งของให้ลูกค้า”
“อืมม.......ง่วง.........”
“ย่าห์ ตื่นเดี๋ยวนี้เลยอูฮยอน”
ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนตัวเล็กของเขาถึงได้ตื่นยากตื่นเย็นขนาดนี้
“เออ เออ เออ เออ ลุกแล้วๆ ขอเวลา 15 นาที เดี๋ยวลงไป”
ซองยอลลงมาเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆให้ตัวเองและอูฮยอน อ่อ!! บางคนจะงง แวมไพม์กินข้าวได้ด้วยหรอ? ก็หิวเป็นเหมือนกันนะ เลือดอะไว้ให้ร่างกายเป็นอมตะ ส่วนอาหารก็ให้ร่างกายเจริญเติบโตไง หลังจากทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทาง
แคร๊ดด!!!!!!!!
“เชี่ยแล้วแก รถสตาร์ทไม่ติด”
อูฮยอนหันมาหาซองยอล หน้านี้ตกใจสุดขีด
“แกเช็คน้ำกลั่นเช็คอย่างอื่นยัง”
“เช็คแล้วนะ โถ่ว เป็นไรเนี่ยย”
แคร๊ดดด!!!!!!!!
ทำไงก็ไม่ติดสักที
“เออแก มยองซูบอกไว้ไม่ใช่หรอว่าซ่อมเป็น”
“เออว่ะ ชั้นลืมไปเลย เดี๋ยวไปเรียกให้”
ซองยอลเปิดประตูก่อนจะลงจากรถไปแล้วเดินไปที่บ้านของมยองซู
ติ้งต่อง........
“มีอะไรหรอซองยอล”
มยองซูยื่นหน้าออกมาจากประตู
“นายว่างมั๊ย พอดีรถชั้นเสียอ่ะ”
“ว่างๆ เดี๋ยวชั้นไปดูให้นะ รอแปปนึง”
มยองซูหายเข้าไปในบ้านก่อนจะกลับมาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ แล้วทั้ง 2 ก็เดินกลับไปที่บ้าน
“เครื่องยนต์มีปัญหาอ่ะ นายต้องส่งศูนย์”
“โอ้ยตายย แล้ววันนี้จะทำไงเนี่ย”
อูฮยอนบ่นกระปอดกระแปดตามนิสัยของเจ้าตัว
“นายสองคนจะไปไหนอ่ะ”
“เอาของไปส่งลูกค้าอ่ะ”
ซองยอลตอบพลางชี้ไปยังขวดโหลในรถ
“ไปรถชั้นก่อนก็ได้”
“จริงป่ะ เห้ยๆ ขอบคุณนะ”
แล้วทั้งสามก็ช่วยกันย้ายของที่จะไปส่งไปยังรถอีกคันกก่อนที่จะขึ้นไปนั่ง อูฮยอนนั่งอยู่เบาะหลังส่วนซองยอลนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ
“เอ่อ..มยองซู วันนี้นายหยุดเท่ห์สักวันแล้วปิดประทุนได้มั๊ยอ่ะ ชั้นร้อน”
อูฮยอนรีบบอกมยองซู เพราะดูจากอากาศวันนี้แล้ว ขืนเปิดประทุนทั้งซองยอลและตัวเขาอาจหมดสติได้
“ได้เลยๆ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวเร่งแอร์ให้นะ”
ติ้ง!!!!
“มยองซู โทรศัพท์นายมีข้อความเข้าอ่ะ”
เพราะมยองซูขับรถอยู่จริงไม่สามารถเล่นโทรศัพท์ได้
“นายดูหน่อยสิซองยอล ใครส่งมา”
“คนที่ชื่อ ฮาอิน ส่งมาว่าขอโทษ”
ฮาอิน.................................
“อืม”
“ให้ชั้นตอบอะไรมั๊ย”
“ไม่ต้องอ่ะ.......................”
อย่างที่บอก ลาก่อน.......................................
มาแล้วตอนที่ 2 #แอบกาก เราอาจจะไม่รู้เรื่องรถเท่าไหร่ (อายุยังสอบใบขับขี่ไม่ได้เลย -0-) ถ้าเราเขียนอะไรผิดบอกได้นะคะ
หลายคนอาจจะแบบ ได้ความคิดมาจาก Blood รึปล่าว โนค่ะ ไม่ได้ดู 5555
มันมาจากการที่เราอ่านฟิคแวมไพม์แล้วมันไม่จบซักเรื่อง (ใครมีจบแนะนำด้วยนะ 555) ก็เลยสนอง need ตัวเองอีกครั้ง
ส่วนการที่มยองเป็นนักแข่งรถ คือไปดู Fast7 แล้วมันปิ้งมันใช่ ก็เลยจับใส่เลยค่ะ 5555
อย่างที่เคยบอก เราอยากให้ทุกคนมีส่วนในเรื่องนี้ ใครมีข้อเสนอแนะติชมตรงไหนบอกเลยนะคะ จะได้ออกมาถูกใจ :)
พน.อาจจะไม่ได้ลง พอดีมีธุระทั้งวัน ไม่อยากฝืนเพราะเดี๋ยวมันออกมาไม่ดี
สุดท้ายก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ สวัสดีค่ะ ♥
ปล.เข้าไปเม้าท์กันได้นะคะ #ฟิคMaserati
ความคิดเห็น