ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Heart is Beating

    ลำดับตอนที่ #13 : My Heart is Beating - Chapter 13

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 58


    16.50 น.

    ตายแล้วอีก 10 นาที จะทันมั๊ยเนี่ย ฝนก็ดันตกอีก เห้ออ


    นี้ก็ 1เดือนที่อูฮยอนไปทำงานให้ซองกยู สำหรับอูฮยอนนั้น ซองกยูก็ถือว่าเป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่งเลยละ ตามสัญญาที่เขียนไว้คือเขาขอเลิกงานเวลา 3 ทุ่ม แต่ที่ผ่าน 3 ทุ่ม คือเวลาที่อูฮยอนถึงห้องของตัวเอง เป็นโชคดีของอูฮยอนที่เจ้านายคนนี้อาศัยอยู่ที่เดียวกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องลำบากกลับเอง อูฮยอนทำงานอย่างเต็มความสามารถซึ่งซองกยูก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะกัดกันค่อนข้างบ่อยก็เหอะ


    แต่ตอนนี้อูฮยอนผู้ไม่เคยเข้างานสายกำลังติดฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ตรงข้ามที่ทำงานของซองกยู

    เอาว่ะ วิ่งไปนิดเดียว เดี๋ยวสาย


    ว่าแล้วอูฮยอนก็วิ่งฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างบ้าระห่ำ ถึงจะมีร่มอยู่ในกำมือ แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้มาก



    16.59 น.

    ยังมาทันเวลาใช่มั๊ย

    หลังจากทุลักทุเลตากฝนมา อูฮยอนก็แบกร่างเปียกของตัวเองมาถึงห้องทำงานของซองกยูสำเร็จ


    ทำไมตัวเปียกแบบนี้หล่ะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก

    ทำไมหน้าเครียดอ่ะ มีงานไรให้ทำบ้างฮะ

    วันนี้ซองกยูดูจะเครียดเป็นพิเศษ จากสีหน้าและแววตาที่ไม่ได้มีแววเล่นเหมือนทุกครั้ง


    มีโปรเจคด่วนอ่ะ ต้องส่งภายในคืนนี้ งานเก่าก็ยังไม่เสร็จ

    เดี๋ยวผมช่วยเคลียงานเก่าให้ คุณทำงานใหม่ไปเลย พรุ่งนี้ไม่มีเรียนเลิกช้าก็ได้นะ

    ได้แน่นะ

    ถ้าไม่ใช่เพราะงานวันนี้มันรุมเร่าขนาดนี้ซองกยูก็คงไม่ขอความช่วยเหลือจากคนตรงหน้าหรอก


    อืม แค่คุณไปส่งผมเหมือนเดิมก็พอ ดึกแค่ไหนก็โอเค

    งั้นกลับไปทำงานที่คอนโดละกัน


    สุดท้ายผมก็หอบงานทั้งหมดกลับมานั่งทำที่คอนโด มยองซูไม่อยู่ห้องเหมือนเดิม คงไปเรียนทำขนมกับซองยอลสินะ ช่วงนี้หลังเลิกเรียนทุกวัน มยองซูก็จะไปอยู่ที่ห้องของซองยอลตลอด กลับมาอีกทีก็นอนเลย ด้วยความที่เป็นห้องที่มี 2 ชั้น 2 พี่น้องจึงไม่รุกรานเขตแดนของกันและกัน ซองกยูพาอูฮยอนไปยังชั้นของตัวเองก่อนจะแบ่งงานให้อูฮยอนไปนั่งทำที่โต๊ะทำงานอีกตัว วันนี้ไม่มีการกัดกัน แต่แทนที่ด้วยบรรยากาศของการทำงานอย่างจริงจังแทน


    19.00น.

    อูฮยอน นายหิวมั๊ย

    “………………….”





    อูฮยอน

    “………………….”





    อูฮยอน นายได้ยินชั้นมั๊ย

    “………………………..”





    เงียบ.....เงียบจนน่าสงสัย






    ซองกยูจึงหันไปยังโต๊ะทำงานที่อูฮยอนนั่งอยู่แล้วก็พบว่าคนตัวเล็กฟุบไปกับโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

    เห้ย! อูฮยอน เป็นอะไรไป!”


    เพิ่งจะ 1 ทุ่ม มันไม่ใช่เวลาที่จะง่วงแน่นอน ซองกยูจึงรีบลุกไปหาเจ้าตัวเล็กก่อนจะจับตัวอูฮยอนหวังจะปลุกให้ตื่น แต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะคนตัวเล็กนั้นตัวร้อนจัด แถมยังตัวสั่นอีกด้วย


    อูฮยอน นายได้ยินชั้นมั๊ย นายไหวมั๊ย



    ผม.........ผม.....ปวดหัว.....ปวดหัว.....มาก......


    เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากช่างนั้นทั้งแผ่วเบาและสั่นจนซองกยูใจหาย เมื่อเย็นคนตัวเล็กพึ่งจะวิ่งฝ่าฝนมาจนตัวเปียกปอน แถมตอนนี้ที่นั่งรถกลับมาที่คอนโด ในรถของเข้ายังหนาวอีกรวมถึงห้องนี้ด้วย คนตัวเล็กจึงไข้ขึ้นแบบนี้


    นายกลับห้องไหวมั๊ย

    อ่....อื่ม....แล้วงาน.........ละ

    ไม่ต้องทำแล้ว นายป่วยขนาดนี้ ไป เดี๋ยวชั้นไปส่งที่ห้องนายนะ



    ซองกยูค่อยๆพยุงคนตัวเล็กให้เดินไปข้างหน้า แต่ก้าวได้เพียงสองสามก้าว คนตัวเล็กกลับล้มพับลงไปกับพื้น


    อูฮยอน! นายได้ยินชั้นมั๊ย! อูฮยอน!”


    ไร้ซึ่งการตอบสนอง อูฮยอนสลบไม่ได้สติไปแล้ว จะให้ซองกยูแบกไปที่ห้องของเจ้าตัวเล็กก็คงไม่ไหว จะโทรให้พี่ของอูฮยอนมารับไปก็นึกขึ้นได้ว่าพี่ชายอูฮยอนไปดูงานต่างประเทศ สงสัยคืนนี้คงต้องให้อูฮยอนนอนที่ห้องรับรองแขกและหละ ซองกยูช้อนร่างไร้สติของอูฮยอนไปวางลงบนเตียง ก่อนจะไปเอาปรอทมาวัดอุณหภูมิของคนป่วย


    ไข้ขึ้นตั้ง 40 องศาแหนะ เดี๋ยวชั้นเช็ดตัวให้ละกันนะ


    ยังดีที่เสื้อผ้าของอูฮยอนแห้งแล้ว ไม่งั้นซองกยูก็คงต้องมาเปลี่ยนเสื้อให้อูฮยอน

    แผ่น cool fever ถูกแปะลงบนหน้าผากของคนตัวเล็ก ก่อนที่ซองกยูจะเอาอ่างที่ใส่น้ำอุ่นพร้อมผ้ามาเช็ดตัวให้คนตัวล็ก


    นายรู้มั๊ย ชั้นยังไม่เคยเช็ดตัวให้ใครเลยนะ ขนาดมยองซูยังไม่เคยเลย

    ซองอยูค่อยเช็ดไปตามแขน ขา คอ และใบหน้าของอูฮยอนอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าคนป่วยจะไม่สบายตัว ก่อนจะจัดการห่มผ้าให้คนตัวเล็กจนมั่นใจแล้วว่าจะไม่หนาวสั่นอีก ซองกยูวางอ่างน้ำลงที่ข้างเตียงก่อนจะกลับไปทำงานต่อดังเดิม แต่ก่อนที่ซองกยูจะพ้นห้องไป

     

    “..........ยอด.....ส่งออก.....




    อยู่ดีๆคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ละเมอขึ้นมา นี้ตั้งใจทำงานจนละเมอออกมาเป็นงานนี้ถือว่าไม่ธรรมดาละ ซองกยูเดินกลับไปที่เตียง สีหน้าของคนที่นอนอยู่ดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด สงสัยจะยังกังวลเรื่องงานจนฝัน ซองกยูค่อยๆลูบหัวอูฮยอนเบาๆ หวังว่าจะช่วยผ่อนคลายความเครียดของอีกฝ่ายลง



    ไม่ต้องคิดมากนะเด็กน้อย นายพักผ่อนเถอะ

    ถึงจะไร้การตอบสนอง แต่สีหน้าของอีกฝ่ายก็กลับมาเป็นปกติ คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก ราวกับเจ้าตัวรับรู้สิ่งที่ซองกยูพูดไป คงจะกังวลมากสินะ


    ซองกยูกลับไปทำงานต่อดังเดิม จากที่มีตัวช่วยก็กลับไม่มี แต่เค้าก็ไม่ใจร้ายเกินไปที่จะขยั้นคยอให้คนป่วยลุกขึ้นมาช่วย เฮ้อ...............คืนนี้คงไม่ต้องนอนแล้วแหละ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------


    ซองยอล วันนี้ออกไปเที่ยวข้างนอกดีมั๊ย

    อืม ไปสิ วันนี้ไม่มีการบ้าน นายอยากไปไหนอ่ะ

    ไปสวนสาธารณะใกล้ๆนี้กัน

    โอเค งั้นเดี๋ยวชั้นทำแซนวิชแปปนึงนะ นายไปนั่งรอตรงโซฟาละกัน


    มยองซูกลายเป็นแขกประจำของห้องนี้ไปแล้วเพราะว่ามาทุกวัน บางวันก็มาสอนการบ้านซองจง บางวันก็มาเรียนทำขนมกับซองยอล หรือบางวันก็แค่มานั่งเฉยๆ คอยมองคนอีกคนที่ตอนนี้กำลังทำแซนวิชอยู่ในครัว


    อ่าว มยองซูฮยอง สวัสดีฮะ วันนี้จะไปไหนรึปล่าวฮะ

    ซองจงเป็นตัวช่วยที่ดีเสมอมา เพราะซองจงมักจะปล่อยให้เขาและซองยอลอยู่กันตามลำพัง


    จะออกไปสวนสาธารณะกับซองยอลอ่ะ

    อ๋อ.....ตามสบายเลยฮยอง เดี๋ยวผมเฝ้าห้องให้เองไม่ต้องห่วง ไปนานๆก็ได้นะ 55555


    คุยอะไรกันอยู่อ่ะ ชั้นทำแซนวิชเสร็จแล้ว ไปกันเถอะก่อนที่จะค่ำ ซองจงไปด้วยกันมั๊ย

    ไม่อ่ะฮะ เดี๋ยวเยอินกับมิจูจะแวะมาหา ฮยองไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะ เดี๋ยวผมเฝ้าห้องให้

    โอเคๆ งั้นฮยองไปละนะ

    คร้าบบบบบบบบบ

     


    สวนสาธารณะที่มยองซูและซองยอลมาเป็นสวนสาธารณะที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง บรรยากาศที่ร่มรื่นบวกกับอากาศสบายๆ ยิ่งเพิ่งความสวยให้กับสถานที่แห่งนี้ มยองซูไม่ลืมที่จะหยิบกล้องตัวโปรดออกมาถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ของสถานที่แห่งนี้ และถ่ายคนน่ารักที่ตอนนี้กำลังปูเสื่อและนำแซนวิชที่เตรียมมาออกมาจัดวาง ทั้ง 2 เลือกมุมที่คนไม่เยอะนัก เป็นเนินเตี้ยๆที่อยู่ริมทะเลสาบ ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว แสงสีส้มของมันที่กระสบกับผืนน้ำช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก

     

    แชะ!

    ถ่ายชั้นทำไม ถ่ายพระอาทิตย์สิ นายดูดิๆ สวยมากๆเลยอ่ะ

    อืมจริงด้วย................แต่ชั้นว่านายดูดีกว่า............



    เหอะๆๆๆ กินแซนวิชไปเลยไป



    ซองยอลที่เริ่มจะตั้งรับกับการจู่โจมของมยองซูได้บ้างแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดอะไรที่ทำให้ตัวเองเขินไปมากกว่านี้





    ป้อนหน่อย

    มีมือก็กินเองสิ

    เดี๋ยวมือเลอะ แล้วกล้องเลอะ

    เออๆๆๆ ก็ได้ๆ อ้าปาก………อ้า!!! ”

    อร่อยมาก :)”

    ไม่ต้องบอกก็รู้ อ่ะ อีกคำ อ้า!!!”

    อร่อยที่สุดเลย อยากกินแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลย

    เว่อร์

    มาเดี๋ยวชั้นป้อนให้นายบ้าง อ้าปาก อ้า!!”

    ไหนบอกว่าเดี๋ยวมือเลอะไง

    อ้าปากเร็ว อ้า!!!”

    งั่ม.........อร่อยเนอะ

    ชมตัวเองด้วย

    แน่สิ คนเราถ้าดูถูกตัวเองมันก็ไม่มีความสุขหรอก แต่อันนี้ความจริง


    แชะ!

    เห้ย ถ่ายตอนนี้ทำไมแหงสิ ก็เมื่อกี้เพิ่งจะอ้าปากหวอ

    ว้าย ใครน้า ปากกว้างยังกะฮิปโป

    เอากล้องมานี้เลยนะ ย่าห์! คิมมยองซู วิ่งไหน ย่าห์!”


    กลายเป็นเด็กโข่งสองคนวิ่งแย่งกล้องกันไปกันมา ซองยอลก็พยายามจะแย้ง มยองซูก็พยายามจะถ่ายชอตหลุดๆของซองยอลเก็บไว้ วิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อยก็กลับมานั่งพักที่เดิม


    ไหน เอามาดูเลย ถ่ายอะไรไว้บ้างเนี่ย

    ก็รูปนายสวยๆทั้งนั้น ฮ่าๆๆ

    เอามาดูเดี๋ยวนี้เลย เอามา


    มยองซูยื่นกล้องให้ซองยอลอย่างจำยอม


    ดีมากกก ให้มันน่ารักแบบนี้สิ คิมมยองซู



    ซองยอลค่อยๆกดดูรูปไปเรื่อย มีทั้งรูปที่ตัวเองดูดี และดูแย่ผสมกันเยอะมาก มีทั้งรูปวิวของสวนสาธารณะ รูปพระอาทิตย์ตก ซองยอลนั่งดูรูปไปเรื่อยๆ รูปที่มยองซูแอบถ่ายซองยอลไว้เยอะมากๆ ทั้งตอนทำกับข้าวที่คอนโด ตอนเรียนหนังสือ ตอนทานข้าวที่โรงเรียน ตอนที่อยู่กับซองจง ตอนที่อยู่กับเพื่อน แม้กระทั่งตอนหลับในห้องเรียน





    นี่นายแอบถ่ายชั้นเยอะขนาดนี้เลยหรอ นายถ่ายทำไ...................


    อยู่ดีๆ มยองซูก็เดินมาข้างหลังแล้วก็ใส่หูฟังให้กับซองยอล

     







    가슴이 뛴다 아무 못하게
    คาซือมี ตวินดา นา โต อามู มัล โมทาเก
    ใจมันเต้นตึกตัก ตัวฉันพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

    오늘을 위해 준비했던 모든 말들
    โอนือรึล วีแฮ จุนบีแฮทตอน โมดึน มัลดึล
    ทุกอย่างที่ฉันเตรียมมาบอกเธอวันนี้

     

    기억 속에 사라져
    คีออก โซเก ซาราจยอ กา
    มันหายไปจากหัวของฉันหมดเลย

    가슴이 뛴다 지나쳐가네
    คาซือมี ตวินดา นอน โต นัล จีนาชยอกาเน
    ใจมันเต้นตึกตัก เธอเดินผ่านฉันไปอีกแล้ว

    이제와 단지 추억일 뿐이라며
    อีเจวา ดันจี ชูออกิล ปูนีรามยอน
    ถ้ามันจะกลายเป็นแค่ความทรงจำ

    이대로 보낼 없어
    อีแดโร โบแนล ซุน ออบซอ
    ฉันก็ปล่อยเธอไปแบบนี้ไม่ได้

    I’ll Be There For You My Love
    ฉันจะอยู่ตรงนี้เพื่อเธอนะที่รักของฉัน

     

    .........................................

    ทุกอย่าง มันอยู่ในเพลงนี้แล้วนะ

    “……………………………...”

    ความรู้สึกของชั้นที่มีให้นาย

    “…………………………….”

    ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไรกันถึงทำให้ชั้นเป็นแบบนี้ แล้วก็อะไรกันที่ทำให้ชั้นกล้าที่พูดกับนายในวันนี้

    “…………………………….”

    วันนึงก็มีโทรศัพท์สีขาวของคนคนนึงมาอยู่ในมือของชั้น มันนำพาให้ชั้นได้มารู้จักและเจอคนคนนึง คนที่มีนิสัยเหมือนเด็กประถม คนที่อ่อนโยน คนที่มองโลกในแง่ดี คนที่แบกรับภาระหลายๆอย่างไว้ด้วยตัวเอง คนที่คิดถึงแต่คนอื่นเสมอ

    “…………………………….”

    คนที่คิมมยองซู อยากจะดูแลและปกป้อง ไม่ให้ต้องเสียใจ 

    .........................................

    และคิมมยองซูก็อยากจะทำให้คนคนนั้นมีความสุขตลอดไป

    “……………………………”





    ชั้นรักนายนะ อีซองยอล..........เรามาคบกันมั๊ย

    ........................................

     

    ซองยอลไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา ไม่มีคำพูดใดๆออกจากริมฝีปากสวยนั้น ซองยอลยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

     




    ไม่เป็นไร...........ถึงนายจะไม่คิดเหมือนกับชั้นก็ไม่เป็นไร แต่ชั้นจะอยู่ตรงนี้เสมอนะ.......

     



    มยองซูค่อยๆถอดหูฟังออกจากซองยอล ก่อนจะค่อยๆลุกแล้วหันแล้วเดินออกไป ถึงจะเจ็บ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเค้าได้พูดมันออกไปแล้ว ไม่ว่าต่อจากนี้ซองยอลจะหลบหน้าก็ไม่เป็นไร ขอให้มยองซูคนนี้ได้มองอยู่ห่างๆก็พอ

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติ้ด!

    우리 만날래 내가 지금 말이 있어
    อูริ มันนัลแร แนกา จีกึม ฮัล มัลรี อิซซอ
    มาเจอกันหน่อยได้ไหม ฉันมีอะไรจะบอก

    우리 만나자 물어볼 있으니까
    อูริ มันนาจา มุลรอบล เก อีซซือนีกา
    ออกมาพบกันเถอะ ก็ฉันมีอะไรจะถามเธอ

    용기 내서 하는 말이야 그러니 솔직하게 대답해줘
    ยงกี แนซอ ฮานึน มัลรียา กือรอนี ซลจิกฮาเก แททับแฮจวอ
    ในเมื่อฉันกล้าบอกแล้ว เธอก็ช่วยตอบอย่างจริงใจด้วยนะ

    우리 만날래 오랫동안 기다려왔어
    อูริ มันนัลแร โอแรททงงัน กีดารยอวาซอ
    มาเจอกันหน่อยได้ไหม? ฉันรอเธอมานานแล้ว

    우리 만나자 그냥 이런 친구 말고
    อูริ มันนาจา คืนนยัง อีรอน ชินกู มัลโก
    ออกมาเจอกัน ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อน

    저기 말야 내가 있잖아 많이 사랑해
    ชอกี มัลยา แนกา อิซจันนา นอล มันนี ซารังแฮ
    เธอน่ะ เคยเห็นบ้างไหมว่าฉันรักเธอเพียงใด

     





    คำตอบมันอยู่ในเพลงแล้วนะ

    “…………………………”

    ขอบคุณที่รักชั้นนะ

    “………………………….”







    เรามาคบกันนะ มยองซู

    “……………………….”


    เป็นไรอ่ะ ทำไมไม่ตอบ

    “……………………….”



    ด้วยความสงสัยสัยซองยอลเลยวิ่งไปข้างหน้ามยองซู แล้วสิ่งที่ผมคือ มยองซูกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา


    ไม่เอาๆ ไม่ร้องๆ นะ โอ๋ๆๆๆๆ แค่ตอบช้าไปนิดเดียวถึงกับน้ำตาแตกเลยหรอ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคนดี

    ก็นายตอบช้าอ่ะ

    แหะๆ โทดที พอดีมัวแต่เลือกเพลงอยู่อ่ะ ไม่รู้ว่าจะใช้เพลงอะไรตอบนายดี

    แล้วทำไมไม่ตอบตรงๆอ่ะ

    ก็มัน........เขินอ่ะ............ย่าห์! ทำอะไรอ่ะ

    มยองซูจัดการหอมแก้มของคนตัวบางไปแล้วเรียบร้อย ในขณะที่อีกคนยังจ้ออยู่




    นี้เป็นการลงโทด สำหรับที่นายตอบช้า

    ลงโทษบ้า โทษบออะไรกัน ไม่คุยด้วยแล้ว

    โอ๋ๆๆๆ อย่าพึ่งงอนผมเลยนะครับ มาถ่ายรูปคู่กันดีกว่า

     

    มยองซูคงไม่รู้หรอกว่าซองยอลรู้สึกยังไงตอนที่ได้ฟังเพลงนั้น ใช่ ซองยอลรักมยองซู รักจนหมดหัวใจ อาจจะไม่ได้รักตั้งแต่วันแรก แต่ก็จะรักจนวันสุดท้าย ทางเดินข้างหน้าของชีวิตจะเป็นอย่างไร แต่ซองยอลก็รู้ว่าจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว ต่อไปนี้มีคนเคียงข้าง คนที่คอยรับฟังทุกอย่าง คนที่ รักกัน

     

    ทั้งสองคนกลับมาถึงห้องของตัวเองเรียบร้อยแล้ว




    ติ้ง!

    L : ฝันดีนะซองยอล ชั้นรักนายนะ

    ซองยอล : อืม ชั้นก็ด้วย ฝันดีนะ




    แบร่! เห็นคอมเมนแล้วชื่นใจ มาลงเลยกัน คาดว่าพรุ่งนี้กลับถึงบ้านอาจจะนอคไปเลย 5555
    ฟินมั๊ย? อาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่ อยากจะบอกว่าตอนหาชื่อให้เรื่องนี้ อยากให้มันเป็นชื่อเพลงของ อฟน แล้วก็นึกึงเพลง Heartthrob 
    มันก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละ ขายของให้อุลลิมหน่อย อิ้อิ้ อยากรู้จริงๆว่าฟินกันมั๊ย จะได้ไปปรับปรุงต่อๆไป ช่วยเม้นบอกด้วยนะ
    ทอล์ควันนี้ยาวหน่อย 555 ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ยังอ่านกันอยู่ เราสัญญา ลงทุกวันคือทุกวัน ไปละบาย ♥

    ปล. ไปคอมเม้นใน #ฟิคลูกอมฮาร์ทบีท ก็ได้นะ :)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×