JetAime_JC
ดู Blog ทั้งหมด

Breaking Dawn

เขียนโดย JetAime_JC

Breaking dawn (Twilight saga book 4) - Book 1: Bella

หนังสือเล่มนี้จะแบ่งออกเป็นสามส่วนดังนี้ค่ะ

book 1 : Bella

book 2 : Jacob

book 3 : Bella

สำหรับบุ๊คแรก - เบลล่า ในส่วนนี้อ่านไปก็ยิ้มไปนะคะ ยังน่ารักกุ๊กกิ๊กดี มีบทแต่งงานและฮันนีมูนที่น่ารักน่าชังเชียวค่ะ อ่านจบบุ๊คนี้ไป ความรู้สึกที่ได้รับก็ยังคงรู้สึกชอบงานเขียนซีรีย์ชุดนี้เหมือนเดิม (ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าถ้าอ่านบุ๊ค 2-3 แล้วจะอยากเผาหนังสือทิ้งแบบแฟนๆชาวต่างชาติหรือเปล่า อันนี้ไว้จะมาบอกอีกทีในรีวิวบุ๊คต่อไปนะคะ)

ต่อจากนี้จะเป็นการรีวิว เวอร์ชั่นสปอยล์อย่างแรงเหมือนเดิม หากไม่ประสงค์จะรับทราบเรื่องราวก่อน รบกวนข้ามส่วนนี้ไปนะคะ

เริ่มต้นเรื่องด้วยบทแรก "การหมั้นหมาย" บทนี้ก็จะกล่าวถึงชีวิตของเบลล่าที่เปลี่ยนไปหลังจากการหมั้น ตอนนี้น้องหนูเบลล่าของเราแทบจะกลายเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป เนื่องด้วย ณ บัดนาว รถที่น้องหนูขับก็กลายเป็นเมอร์ซิเดสสุดหรูที่ยังไม่มีขายในท้องตลาด เครดิตการ์ดที่ใช้ก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ (ประมาณว่าขับรถไปเติมน้ำมันแล้วมีคนมาขอถ่ายรูปคู่กับรถเลยทีเดียว ...อิอิ...คนอ่านอยากได้บ้าง) มิหนำซ้ำรถคันนี้ยังเป็นรถที่เอ็ดเวิร์ดให้ใช้สำหรับก่อนแต่งงานเท่านั้น คิดดูว่าหลังจากแต่งงานรถอีกคันที่รออยู่จะหรูขนาดไหน แต่สำหรับตัวเบลล่าเอง เธอรู้สึกอึดอัดกับการที่ดูเหมือนจะเป็นจุดสนใจ จนได้แต่ปลอบตัวเองว่าไม่มีใครสนใจหรอก

ในระหว่างนี้ก็เป็นช่วงเวลาระหว่างการรอวันแต่งงานซึ่งใกล้เข้ามาทุกที อลิซเป็นคนจัดเตรียมงานทุกอย่างให้ ทั้งเป็นแม่งานด้านพิธีการสถานที่ ทั้งด้านเสื้อผ้าหน้าผมของเจ้าสาวและครอบครัว อลิซจะมาที่บ้านของเบลล่าบ่อยๆ คอยดูแลหลายๆอย่าง สำหรับตัวเบลล่าเองนอกจากช่วงนี้จะยุ่งวุ่นวายกับการเป็นเจ้าสาวแล้ว ใจก็ยังคงพะวงกับการหายตัวไปของเจคอบจนต้องโทรไปหา Seth ที่ลาพุชบ่อยๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีข่าวใดๆ คืบหน้า เบลล่าชวน Seth มาร่วมงานแต่งงานด้วย ซึ่ง Seth ก็ยินดี เนื่องด้วยเห็นถึงน้ำใสใจจริงของทั้งเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า เมื่อคราวร่วมใจกันล่าวิคตอเรีย (สนิทใจกับเอ็ดเวอร์ดมากพอที่จะกล้ามาร่วมงานที่มีแวมไพร์เต็มไปหมด)

กล่าวย้อนไปถึงคราวที่เอ็ดเวิร์ดและเบลล่ามาขออนุญาตชาร์ลีแต่งงานกัน ตอนนั้นเบลล่ารู้สึกถึงความหนักอึ้งของแหวนหมั้นที่นิ้ว วิตกกังวลไปหมดว่าจะพูดยังงไง ทั้งสองคนรอการกลับมาบ้านของชาร์ลีอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งชาร์ลีกลับมาถึงเห็นทั้งสองคนนั่งด้วยกันแบบมีพิรุจก็ชักเอะใจ พอเบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดขอคุยด้วยก็ชักซีเรียสขึ้นมานิดๆ และยิ่งเมื่อทั้งสองคนมานั่งต่อหน้าหลังจากเอ็ดเวิร์ดบอกว่ามีข่าวดีจะบอก ชาร์ลีก็เริ่มคิดไปเองและโพล่งออกมาว่า "เบลล่าท้องหรือ" (ประมาณว่าคุณพ่อก็กลัวเรื่องความสัมพันธ์ของสองคนนี้มาตั้งแต่เล่ม 3 แล้ว เลยวิตกกังวลเรื่องนี้เอามาก) ได้ยินดังนั้นเบลล่าก็รีบปฏิเสธ จนในที่สุดเอ็ดเวิร์ดตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกเสียเองว่าเขาได้ขอเบลล่าแต่งงานและเธอก็ตกลง และก็ขอโทษที่เขาไม่ได้ขอชาร์ลีก่อนตามธรรมเนียม ดังนั้นพวกเขาอย่างจะขอคำอวยพรจากชาร์ลีสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ (คล้ายๆกับการขออนุญาตนั่นแหละค่ะ)

พอได้ฟังดังนั้นชาร์ลีก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะจนหน้าเปลี่ยนสีไปมา แต่พอตั้งสติได้ก็เป็นฝ่ายถามว่าทำไมถึงรีบร้อนกันนัก เอ็ดเวิร์ดเลยอ้างเรื่องที่ว่าพวกเขาทั้งสองคนต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน (ประหนึ่งว่าออกไปอยู่ด้วยกันจริงๆแล้วนะ) ก็เลยอยากทำอะไรๆให้มันถูกต้องเสียก่อน ชาร์ลีก็นิ่งคิดหาวิธีตั้งรับก่อนจะหัวเราะและบอกว่าคิดแล้วว่าสักวันเรื่องนี้มันต้องมาถึง แต่งงาน โอเค แต่ง แต่... แต่ว่าเบลล่าจะต้องเป็นคนบอกแม่เอง (ประมาณว่าชาร์ลีคิดว่านี่เป็นไม้ตายแล้วเชียว ก็เพราะเรเน่เคยแต่งงานกับชาร์ลีเมื่อครั้งยังเด็กมากๆ และก็ผิดหวัง หย่าร้างกันมาแล้ว เลยค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องการแต่งงานเมื่ออายุน้อยอยู่มาก) แต่กลับผิดคาด เมื่อเรเน่เองกลับบอกว่า แม่รออยู่แล้ว เพราะแม่รู้ตั้งแต่ครั้งที่เบลล่ามาหาครั้งที่แล้ว (ครั้งที่เอ็ดเวิร์ดไปเฝ้าที่ ร.พ.) และเรเน่ก็อนุญาต (หึหึ... น่าสงสารคุณพ่อชาร์ลีจริงๆ คิดว่าแม่จะขัดขวาง แต่ดันพลิกโผ)

หลังจากคืนวันก่อนแต่งงานที่เอ็ดเวิร์ดมาหาเบลล่า ทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกตามธรรมเนียมที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวห้ามเจอกันก่อนแต่งงาน เช้าวันแต่งอลิซมารับเบลล่าไปบ้านคัลเลน แต่...ปิดตาเบลล่าเอาไปจนไปถึงห้องน้ำ จากนั้นก็จัดการขัดสีฉวีวันให้เบลล่า แล้วก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้ โดยมีโรซาลีมาช่วยทำผมให้ด้วย อลิซพึงพอใจกับการเนรมิตเบลล่าเป็นเจ้าสาวที่งดงามมากๆ (แต่เบลล่าไม่ได้ส่องกระจกดูตัวเองเลยไม่รู้) พอเรเน่มาถึงก็มาหาเบลล่า น้ำตาคนเป็นแม่ก็ไหลด้วยความยินดี ชาร์ลีก็แต่งตัวด้วยชุดที่อลิซจัดหาให้ก็ดูหล่อเหลาเอาการไม่เบา ทั้งสองคนสวมกอดเบลล่าและให้ของขวัญกับลูกสาว ก่อนที่จะผละไปเมื่อเริ่มใกล้เวลางาน

เบลล่ารู้สึกตื่นเต้นมากๆ พาลเอาหูตาลายหายใจไม่ออก ไม่มีแรง จนพ่อและอลิซต้องยืนขนาบข้าง และให้กำลังใจว่าเอ็ดเวิร์ดรออยู่ข้างล่าง ทั่วทั้งบ้านถูกเนรมิตให้งดงามสมกับเป็นสถานที่แต่งงานด้วยดอกไม้และริบบิ้นมากมาย เบลล่าพยายามมองหาคนที่ใจคิดถึงจนในที่สุดก็พบกับเอ็ดเวิร์ดที่สุดทางเดินสู่พิธี และไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ (บทนี้แนะนำให้อ่านนะคะ ได้อรรถรสมากๆ ประมาณว่าอ่านไปยิ้มไป แบบว่ารอวันนี้มานานมาก) เบลล่ามึนงงอีกครั้งด้วยรอยยิ้มละลายใจของเจ้าบ่าวตัวเอง...อิอิ ทั้งสองกล่าวตอบรับคำปฏิญาณที่ถูกขอให้บาทหลวงปรับเปลี่ยนให้นิดหน่อยจาก "จวบจนความตายจะมาพรากเราจากกัน" เป็น "ตราบนานเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน" และจูบกันปิดท้าย คราวนี้ล่ะสิที่เบลล่าของเราเอาอีกละ...เบลล่าประมาณว่าจูบแล้วเคลิ้มไม่สนใจคนรอบข้าง แบบว่าจูบกันซะนาน จนเอ็ดเวิร์ดเป็นคนที่มีสติและหยุดการจูบลงซะก่อน ผู้ร่วมงานเลยได้โอกาสปรบมือเสียที

พองานเลี้ยงกลางคืนก็มีการให้เจ้าบ่าวก้มลงถอดสายรั้งถุงน่องของเจ้าสาวด้วยปาก (เล่นเอาเบลล่าสยิว...ซะง้าน) เต้นรำเปิดฟลอร์ แล้วก็เต้นกับแทบทุกคนที่รู้จัก และรับคำอวยพรจากทุกคน นอกจากนั้นก็ตัดเค้กแจกจ่าย (อันนี้ฝนก็ชอบมากๆ แบบว่าจัดงานได้แบบรักษาขนบธรรมเนียมดีจัง ทำครบทุกอย่างแบบในหนังเลย - ปกติก็อาจแต่งกันอย่างนี้อยู่แล้วก็ได้นะคะ แต่ฝนเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์...ฮา) และเอ็ดเวิร์ดเองก็มีของขวัญสุดพิเศษมอบให้เบลล่า แต่ของขวัญชิ้นนี้สำหรับฝนซึ่งเป็นคนอ่านคนนึงไม่อยากให้เบลล่าได้รับเลยเชียว- ของขวัญชิ้นนั้นคือ.....เจคอบ

เอ็ดเวิร์ดเปิดโอกาสให้เจคอบและเบลล่าได้อยู่กันตามลำพังในมุมหนึ่งของสวน (มุมมืด ไม่มีใครรู้) เบลล่าก็แบบแหม...แสดงความห่วงใยซะ... อันนี้เป็นความหมั่นไส้ส่วนบุคคล ตามจริงไม่มีอะไรมากค่ะ ...และเบลล่าก็ได้พลั้งปากไปว่าจะไปฮันนีมูนกับเอ็ดเวิร์ดแบบเป็นการฮันนีมูนจริงๆ (ประมาณว่าจะมีอะไรกัน) คราวนี้เกิดเรื่องเลยค่ะ เจคอบก็เลือดขึ้นหน้าเลย หาว่าเบลล่าบ้าไปแล้วหรือไง แล้วเขย่าตัวเบลล่าซะเจ็บ เอ็ดเวิร์ดก็มาทันทีเลยค่ะ มาบอกให้ปล่อยเบลล่าซะ ประมาณว่าเกือบมีเรื่องกัน เจคอบแบบจะฆ่าเอ็ดเวิร์ดให้ได้ แต่ดีที่เพื่อนๆชาวหมาป่ามาแยกตัวเจคอบไปเสียก่อน ทุกอย่างเลยกลับเป็นปกติอีกครั้ง และเอ็ดเวิร์ดก็ยังคงใจดีเหมือนเดิม คิดจะเปิดโอกาสให้เบลล่าอีก แต่เบลล่าก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร และเก็บกักความรู้สึกต่อเจคอบไว้ภายใน ทั้งสองกลับไปร่วมงานต่อ จนเมื่อถึงเวลาอลิซก็มาจัดแจงให้ทั้งสองคนไปฮันนีมูนในสถานที่ที่ไม่มีใครยอมบอกเบลล่าว่าเป็นที่ไหน

ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่ง - Isle Esme ชื่อแม่เอ็ดเวิร์ดเชียว---ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเกาะส่วนตัว เกาะนี้อยู่ในเขตร้อน กลางเกาะมีบ้านหลังโอ่โถงเชียวค่ะ ฝนชอบเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันจัง อิอิ... ถึงคราวที่อยู่ลำพังหลังแต่งงานจะมีเรื่องอะไรได้อีกนอกจาก.... อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งคิดไปไกล ทั้งเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าก็ยังกระดากอายนิดหน่อย เอ็ดเวิร์ดเรียกเบลล่าว่า "คุณนายคัลเลน" น่ารักมากเลยค่ะ เล่นเอาเบลล่าถึงกับสะดุ้ง ประมาณว่ายังไม่คุ้นชิน คราวนี้ถึงการตัดสินใจในเรื่องของคนสองคนซะที เอ็ดเวิร์ดถามเบลล่าว่าอยากไปว่ายน้ำตอนดึกอย่างนี้กับเขามั้ย อากาศร้อนที่นี่ทำให้ตอนกลางคืนน้ำอุ่นดี ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็ให้เวลาเบลล่าตัดสินใจเอง ส่วนตัวเขาถอดเสื้อทิ้งไว้ที่พื้น แล้วเดินออกไปที่ชายหาด

คราวนี้ถึงตาเบลล่าแล้วสิ เกิดมาก็เพิ่งเคยรู้สึกอย่างนี้ ไม่รู้จะตัดสินใจทำอะไรดี เลยตัดสินใจอาบน้ำคลายเครียดเสียก่อน พอไปเปิดกระเป๋าก็เจอแต่เสื้อผ้าแบบเซ็กซี่ (อลิซจัดให้ ...เข้าใจทำนะเนี่ย) พออาบน้ำไปก็คิดไปจะเอาไงดี ถึงขั้นนั่งคิดในห้องน้ำอยู่นาน จนคิดว่าไม่ไหวแล้วล่ะ ถ้านั่งอยู่แบบนี้ไม่ไปสักทีถ้าเอ็ดเวิร์ดกลับเข้ามาเจอคงเสียใจและเจ็บปวด คิดได้อย่างนั้น เบลล่าก็ลุกเดินออกไปยังชายหาดทั้งๆที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวนั่นแหละค่ะ ...คงแบบคิดว่า เอาไงเอากันวะงานนี้

ที่ชายหาดขาวสะอาดสะท้อนแสงจันทร์เบลลามองเห็นเอ็ดเวิร์ดยืนหันหลังให้อยู่ในน้ำทะเล เงยหน้ามองดวงจันทร์ เสื้อผ้าส่วนที่เหลือที่เขาใส่ออกมาก็ถูกพาดอยู่ที่ต้นไม้ เบลล่าก็กลั้นใจถอดผ้าเช็ดตัว ค่อยๆย่องลงน้ำไปหาเอ็ดเวิร์ด จากนั้นอะไรๆก็เกิดขึ้น.....

รุ่งเช้าเบลล่าตื่นมาอย่างมีความสุขต่างกับเอ็ดเวิร์ดที่รู้สึกผิด เนื่องด้วยตามเนื้อตัวของเบลล่าเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ เบลล่ายืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้น-เธอสบายดี แต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี และบอกว่าจากนี้เขาจะไม่มีอะไรๆกับเบลล่าอีกจนกว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์เสียก่อน

เบลล่าพยายามหลายต่อหลายวิธีที่จะทำให้เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ในขณะเดียวกันเอ็ดเวิร์ดก็พยายามหักเหความสนใจของเบลล่าโดยพาออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกวันจนเบลล่ากลับมาแล้วเหนื่อยอ่อนหลับคาโต๊ะกินข้าวแทบทุกวัน ในระหว่างนั้นเบลล่าก็ฝันร้ายซ้ำไปซ้ำมาถี่ขึ้น - ฝันถึงโวลตูรี ฝันว่าพวกนั้นจะฆ่าเด็กน้อยดวงตาสีเขียวสดใส เด็กน้อยแวมไพร์ที่นั่งอยู่บนกองซากศพของคนที่เบลล่ารู้จัก ทั้งเพื่อนฝูงและครอบครัว จนในที่สุดในวันหนึ่งที่เบลล่าฝันอีกครั้ง เบลล่าตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตา เอ็ดเวิร์ดตกใจมากและต้องการให้เบลล่าเล่าให้ฟัง แต่ดันยังไม่ทันได้เล่าเบลล่าก็พาเอ็ดเวิร์ดเข้าสู่โหมดเกินหักห้ามใจ และในที่สุดเบลล่าก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ..หุหุ

จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยในยามค่ำคืน (ให้คิดเอาเองว่าเรื่องไหน งิงิ) และเมื่อคิดถึงความฝันในครั้งนั้น การที่เบลล่าร้องไห้ไม่ใช่เพราะมันเป็นฝันร้าย แต่สำหรับเธอมันคือฝันดี - เบลล่าพร้อมจะปกป้องเด็กน้อยคนนั้น โดยไม่หันหลังให้เหมือนทุกครั้ง และในคืนหนึ่ง เบลล่าที่ช่วงนี้เริ่มเหนื่อยง่าย และนอนหลับมากขึ้น ตื่นมาในยามดึก และพบว่าเอ็ดเวิร์ดออกไปล่า เบลล่ารู้สึกร้อนจนนอนต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจมาอบไก่กิน กินแล้วก็รู้สึกว่ารสชาติมันแปลก ลองชิมหลายคำก็ไม่อร่อยจึงเททิ้งทั้งตัว แล้วมาทิ้งตัวนอนในโซฟาในห้องดูทีวี โดยเปิดหน้าต่างเอาไว้ จนในที่สุดแสงแดดก็ส่องมาที่ตัว เบลล่าค่อยๆรู้สึกตัว แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้ทำตื่นก็คือสัมผัสเย็นๆจากตัวเอ็ดเวิร์ดต่างหาก เอ็ดเวิร์ดขอโทษที่ทิ้งไปปล่อยให้เบลล่านอนร้อนๆอย่างนี้ คราวหน้าก่อนจะออกล่าอีกคงต้องติดแอร์เสียแล้ว แต่เบลล่ารู้สึกพะอืดพะอมจึงขอตัวไปอาเจียน เล่นเอาเอ็ดเวิร์ดตกใจ แต่เบลล่าก็บอกว่าอาหารคงเป็นพิษ

จากนั้นเอ็ดเวิร์ดก็หาอะไรให้เบลล่ากินและมาดูทีวีกัน เบลล่าผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็มีอาการเดิมอีก เอ็ดเวิร์ดเลยชวนไปหาหมอ แต่เบลล่าไม่ไป แล้วไปค้นหายาในกระเป๋า แต่สิ่งที่ปะทะสายตากลับทำให้เบลล่าต้องหยุดคิด เอ็ดเวิร์ดที่เมียงมองอยู่ถามว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เบลล่าจึงถามกลับไปว่าเรามาฮันนีมูนที่นี่กี่วันแล้ว คำตอบที่ได้มาคือ 17 วัน นั่นเองที่ทำให้เบลล่าคิดได้ว่าเธอไม่น่าจะเจอกับอาการอาหารเป็นพิษแล้วล่ะ เมื่อเอ็ดเวิร์ดถามว่าเกิดอะไรขึ้น เบลล่าจึงบอกว่า เธอคิดว่าเธอท้องแล้ว และนั่นเองที่นำมาซึ่งความช็อคของทั้งสองฝ่าย

เอ็ดเวิร์ดนิ่งค้างไปเหมือนรูปปั้น ขณะที่เบลล่าคิดหาความเป็นไปได้ และในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของเอ็ดเวิร์ดดังขึ้น แต่เอ็ดเวิดยังคงนั่งในท่าเดิม จนในที่สุดเบลล่าก็รวบรวมเรี่ยวแรงไปควานหาโทรศัพท์ในตัวเอ็ดเวิร์ด และพบว่าอลิซโทรมา เบลล่าขอคุยกับคาลิสเซิล ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเธอน่าจะท้องจริงๆ ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็ค่อยๆดึงสติกลับมาได้ เขาขอพูดกับผู้เป็นพ่อด้วยความเคร่งเครียด และในที่สุดก็วางหูและบอกเบลล่าว่าเราต้องกลับบ้านกันแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวนะ คาลิซเซิลจะจัดการกับสิ่งนั้นเอง ว่าแล้วเอ็ดเวิร์ดก็รีบร้อนเก็บข้าวของอย่างบ้าคลั่ง พร้อมโทรศัพท์จองเที่ยวบินด่วน

ณ ตอนนั้นเองที่เบลล่าคิดได้ว่าเด็กในท้องคงไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ภายในท้องนี้เป็นลูกของเธอกับคนที่เธอรัก เหตุใดเธอจะต้องยอมสูญเสียเขาไป ก่อนกลับแม่บ้านที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดไม่ใช่มนุษย์ได้มาที่บ้าน และโต้เถียงบางอย่างกับเอ็ดเวิร์ดด้วยภาษาที่เบลล่าไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ดูจากสีหน้าแล้วเอ็ดเวิร์ดคงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย เมื่อแม่บ้านกลับไป เอ็ดเวิร์ดก็เก็บของไปลงเรือ และในขณะนั้นเองเบลล่าก็เห็นโทรศัพท์มือถือที่เอ็ดเวิร์ดวางทิ้งไว้ เธอจึงอาศัยจังหวะนั้นตัดสินใจกดเบอร์ๆหนึ่งซึ่งเธอไม่เคยโทรหามาก่อน - "โรซาลี นี่เบลล่านะ ขอร้องล่ะ เธอต้องช่วยฉันนะ"

จบในส่วนของบุ๊ค 1 -เบลล่า ด้วยประการละฉะนี้ค่ะ โดยรวมแล้วอ่านถึงตรงนี้ แตมยังรู้สึกตื่นเต้นและชอบอยู่มากเชียวค่ะ แม้ว่าจะพอเดาเรื่องทั้งหมดทั้งมวลได้แล้วก็ตาม และแม้ว่าบุ๊ค 2 จะเป็นเรื่องของเจคอบที่ชวนให้ขัดใจยังไงพิกล แต่ก็จะอ่านไปเรื่อยๆค่ะ เพราะอยากรู้อยู่เหมือนกันว่าทำไมแฟนๆ ของสเตเฟนี่ถึงแอนตี้ Breaking dawn กันมากเหลือเกิน จะว่าเป็นเพราะเรื่องที่ดูเหมือนว่าคนเขียนจะขาดความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องที่ให้ตัวเอกของเรื่องแต่งงานกันขณะที่อายุยังน้อย มิหนำซ้ำยังให้นางเอกมีลูกอีกต่างหากนั้นถูกยกมาเป็นหัวข้อหนึ่งในการโจมตี แต่ฝนว่านิยายเป็นการสร้างความบันเทิงนะคะ ถ้าคนอ่านแยกแยะได้สักหน่อยก็คงไม่เป็นปัญหา แต่อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามต่อไปว่าบุ๊ค 2 และ 3 พล็อตเรื่องต่างๆ จะแย่ลงจนเหมือนแฟนฟิคอย่างที่เค้าว่าจริงหรือไม่ ไว้ยังไงแตมจะมารีวิวต่อให้เร็วๆนี้ค่ะ

หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ


ความคิดเห็น

Ariana
Ariana 6 เม.ย. 52 / 21:01

อ๊ากกกกกกกก

อยากดูภาค 2 สุดๆ

tpoanig
tpoanig 8 เม.ย. 52 / 18:31
ขอบคุณนะคะ คลั่งเหมือนกัน ไปซื้อมาอ่านเกือบครบแล้ว ขาดเล่มเดียว เล่ม3
rainny_may23
rainny_may23 12 เม.ย. 52 / 00:17
แงๆๆๆๆๆๆ

อยากอ่านกะดูเร็วๆจาง
Prim-Potter ^^
Prim-Potter ^^ 21 เม.ย. 52 / 23:52

อยากอ่าน เล่ม4.2เร็วๆ(ถึงแม้จะยังไม่ได้อ่าน4.1ก้อตาม5555)

เบลล่าจะได้เป็นแวมไพร์หลังจากคลอด(ใช้คำนี้ได้รึป่าว)  เรเนสเมรึป่าวอ่ะค้ะ
พอจะรู้มั้ยอ่ะ???
อยากรู้ว่าเมื่อไรเบลล่าจะได้เป็นแวมไพร์ซะทีอ่า

แวะมาคุยเรื่องนี้ได้นะคะ (อยากคุยมากกกกกกกกก)

Prim-Potter ^^
Prim-Potter ^^ 9 ก.ค. 52 / 20:05
ทไวไลท์ 4.2 จะออกแล้วววววววววววว


กรีสสสสสสสสสสส
yainim
yainim 27 ส.ค. 52 / 15:21
อยากอ่าน midnightsun อะ ยังไม่แปลเป็นไทยเยย
ความคิดเห็นที่ 7
Balla โคตร น่า รัก เรย อะ คับ
5555
5555 17 พ.ย. 56 / 14:47
ภาษาวัยรุ่นนี่ ใช้ได้นะ แต่ต้องใช้แค่กับเพื่อนหรือคนสนิทเท่านั้นนะครับ
อย่าไปใช้กับผู้ใหญ่นะ มันไม่ถูก