ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ ว่าด้วยการมาเยือนของพันธมิตร...
  สวัสดีชาวโลกและมนุษย์ทุกคน กระผม ไอ้แมงกระพรุน หนึ่งในสมาชิก กลุ่ม “ไอ้แม” (ที่มีอยู่สองคน) จะขอล่วงล้ำเกินเลย สานต่อบางอย่างของ ไอ้แมวดำ หัวหน้ากลุ่ม (เราเปงรองน่ะ) แต่ก็ขี้เกียดเปรยมาก ก่อนอื่นอ่านแล้วไม่ได้เรื่องหรืออย่างไร เม้นไว้เพื่อติตเตียน และ ชมเชยด้วยละกาน ท่านแมวดำ อ่านแล้ว---....ด่าตามสบาย--!!! เริ่มก่อนเลยละกาน จบการแนะนำตัว ไอ้แมงกระพรุน ทูตบารามอสนอกรีต(ที่ไม่มีตัวตน) ฝากตัวไว้ด้วยน่ะครับ (ใจไห้คนอื่นไปแหล่วววว***)
เวลาล่วงเลยผ่านพ้นไป รุ่นพี่ปีเจ็ดจบไป ก็มีรุ่นน้องมาแทนเรื่อยๆ ตอนนี้เจ้าตัวยุ่งแห่งคาโนวาลก็อยู่ในชั้นปี 6 ชาวป้อมอัศวินปีหกทั้งหลายได้ครองตำแห่งสำคัญมากมายของป้อมด้วย ดังฉนี้...---
    หัวหน้าป้อมรับบทโดย   
                โร เซวาเรส ขอทาน(กำมะลอ) แห่ง ทริสทอร์
    เสนาธิการฝ่ายซ้าย       
                เจ้าชายคาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาล
    เสนาธิการฝ่ายขวา       
            คิลมัส ฟิลมัส นักฆ่าอารมณ์ดีจากซาเรส
    สี่ผู้คุมกฎรับบทโดย       
                เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งบารามอส หรืออีกนัย  เจ้าตัวยุ่งแห่งปริ๊นซ์ฮาร์ท
            เจ้าหญิงเรนอน ธีน็อท แห่งคาโนวาล
            เจ้าหญิงมาทิลด้า ซิลเวอร์ แห่งอเมซอน
            แองจิลิน่า โรมานอฟ แม่มดแห่งวิชท์
      (มันเล่นเอาสี่นางยักษ์[เย้ย !]มาเป็นผู้คุมกฎเลยวุ้ย)
    สามขุนผลรับโดย     
           
            ครี้ด ธันเดอร์ นักรบตาเดียวจากไนล์
            ซีบิล สเวน นักบวชจากบารามอส
            กัส โทนีย่า นักบวชแห่งกิลดิเรก
    สิบสองผู้พิทักษ์ป้อม   
                 
                    เอ็ดเวิร์ด โรเรนโซ่ นักบวช จาก กิลดิเรก
              นิกซ์ พรินส์วิล นักดนตรีจากเอเธนส์
              เจ้าชายอาชูร่า เอพริล แห่งซาเรส
              เดท  ไฟเออร์ นักรบแห่งซาเรส
              เจค สวอน โจรสลัด จากไนล์
              โคลว์ อาร์มสตรอง บาทหลวงจาก กิลดิเรก
              ซอร์โรว์ วันวิล นักดาบ จากแกรนด์ไลน์
              เจ้าชาย ทิวดอร์ วาโดรีล แห่งวิทช์
                              และว่าด้วยนักเรียนชั้นปีอื่นๆอีก (เอ...คุ้นๆน่ะ ทั้งหมดเนี่ยยย์)
  หลังจากการปรับเปลี่ยนตำแหน่งและการคัดเลือกผู้นำต่างๆได้ผ่านพ้นไป...โดยไม่แม้แต่จะวุ่นวาย แบบหลายๆปีที่ผ่านมาก็เถอะ เจ้าชายที่แท้จริงอย่าง โร เซวาเรส ผู้ที่ฉลาดไปซะทุกเรื่องจนไม่น่าแม้จะเป็นขอทาน ก็เปิดเผยตัว เพื่อที่จะมารับตำแหน่งเป็น หัวหน้าป้อม ส่วนไอพวกที่วันๆมัวแต่หึงหวง หรือแม้กระทั่ง ง้องอน ไปจนถึง นักฆ่าไร้อารมณ์ อย่างคิลมัส ฟิลมัส ก็ตกอันดับลดหลั่นกันมา แต่ถึงอย่างไรปัญหาเล็กๆน้อยๆแบบนั้น ดูท่าว่าจะพอกพูนขึ้นในไม่ช้าแล้วหล่ะ
 
  “น่าเบื่อ”
  “เช่นกัน”
  “มันมีเรื่องอะไรที่น่ารำคาญไปกว่านี้อีกมั้ย นอกจากที่ เฟริน เดอเบอโรว์คนนี้ ได้เป็นแค่สี่ผู้คุมกฎงี่เง่า แล้วไอ้ขอทานแห่งทริสทอร์อย่างไอ้โร ดันได้เป็น หัวหน้าป้อม”
 
  “มี”
“ว่ะ ยังจะมีอีก อะไรกันหล่ะ ไอ้เสนาธิการฝ่ายซ้าย ไอ้เจ้าชายงี่เง่าแห่งคาโนวาล - -”
“และกำลังจะได้เป็น ราชบุตรเขยแห่งบารามอสด้วย!”
“ไอ้บ้าคิล แกยังจะเล่นด้วยอีกหรือไงฟร่ะ ไอนักฆ่ากิ๊กก๊อก”
  หลังจบการสนทนาคร่ำเคร่งสั้นๆของเฟริน(- -โอน่า  อะจึ๊ย !) ต่อว่ากันตามภาษาตัวจุ้นแห่งป้อมอัศวิน ไอ้คนน่าเบื่อแห่งเดมอสที่หน้าแดงก่ำเป็นไฟก็กระโจนเข้าใส่ไอนักฆ่ากิ๊กก๊อกทันที แต่ไม่ทันจะเข้าถึงตัว คนที่มาขวางไว้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก ราชบุตรเขยแห่งสองอาณาจักรใหญ่นั่นเอง !
  “คาโล !”
  “ใช่ ฉันเอง คาโล วาเนบลี แล้วทำไมฉันจะขวางไม่ได้ เพื่อไม่ไห้เสนาธิการฝ่ายขวา ทำร้ายว่าที่ราชินีแห่งคาโนวาล ฉันจำเป็นต้องทำ”
  “ยังไม่เลิกพูดจาแบบนี้อีก คาโล นายหน่ะคิดหรือไง ว่านายพูดแค่นี้ แล้วฉันจะไปเป็นอะไรกับนายหน่ะ”
ว่าแล้วไม่ทันไร เจ้าชะ - - หญิ - - ฉิง แห่งบารามอส และ เดมอส ก็สะบัดหน้าหนี เชิดใส่เจ้าชายน้ำแข็งไป ก่อนจะปิดประตูตามหลังหลังดัง ปัง !
  “คาโล งั้นนายก็ต้องพูดให้มันมากกว่านี้สิ เขาจะได้ - -”
  ไม่ทันได้พูดอะไร  เสนาธิการคนสำคัญ ก็สะบัดหน้าเดินออกจากห้องไปเสียแล้ว
  “ไอ้คิลคนนี้ คงต้องหาคู่ครองไปเป็นคิลลิส แห่ง ซาเรสซะบ้างแล้ว เฮ้อ ! อิจฉาพวกมีความรักจริงๆ”
  แล้วนักฆ่าแห่งซาเรสก็เดินออกจากห้องด้วยความเหี่ยวเฉา หลังจากนั้นห้องนี้ ก็เหลือคนเพียงคนเดียวเท่านั้น....... !!!
..
  “นี่เป็นโอกาสพิเศษของโรงเรียนเรา ที่จะมีผู้มาเยี่ยมเยียน เนื่องมาจากความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างเรากับโรงเรียนมหาเวทย์จากต่างแดน ที่ปกปิดลึกลับจนไม่มีผู้ใดเคยได้พบเห็นถ้าไม่ได้ศึกษาที่โรงเรียนแห่งนั้น แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ มหาปราชญ์เลโมธีผู้ยิ่งใหญ่ ได้ค้นพบสถานที่แห่งนั้นเข้าโดยบังเอิญ - -”
  เสียงดังกึกก้องระหว่างรับประทานอาหารเช้าของป้อมอัศวินดังขึ้น ไม่ใช่เพียงที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น รวมทั้งปราสาทขุนนาง แผ่นดินประชาชน และปราการปราชญ์ด้วยเช่นกัน ผู้ที่แจ้งข่าวให้ทราบคือหัวหน้าของแต่ละป้อม โดยที่ผู้ที่ประกาศข่าวของป้อมอัศวินไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก - -
  “โร เซวาเรส เดอะ เบกการ์ ออฟ ทริสทอร์” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นแทรกการประกาศ ที่คงเรียกได้ว่า ‘สำคัญ’ “ทำไมต้องเอามันมาเป็นหัวหน้าป้อมด้วยฟร่ะ”
  “เฮ้ เฟริน นายเลิกบ่นเรื่องนี่ซักทีเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้วหน่า” เสียงกระซิบของนักฆ่าแห่งซาเรส อาจช่วยให้เจ้าตัวยุ่งแห่งป้อมอัศวินเงียบลงได้บ้าง (แค่บ้างน่ะ..เหะๆ)
  “อย่างน้อยนายก็เป็นสี่ผู้คุมกฎ” คราวนี้เป็นเสียงจากอีกฝากหนึ่ง คาโลนั่นเอง “นายก็เงียบๆซะบ้างก็ดี ฉันจะฟังเรื่องที่มันสำคัญนักหนา จนเสนธิการฝ่ายซ้ายไม่ได้ไปประชุมด้วย”
  “วะ อย่างนายก็เป็นได้แค่เส - -”
เสียงของเจ้าตัวยุ่งเงียบหายไปทันทีหลังจากเห็นสายตาจ้องเขม็งจากคาโล เจ้าชายคนเดียวที่คนอย่างเขาคิดจะ...
  “- - ด้วยเหตุนี้นั่นเอง อาจารย์ใหญ่แห่งสบาบันเวทมนต์แห่งนั้นจึงทำการผูกสัมพันธ์กับท่านเลโมธีทันที แทนที่จะขับไล่หรือต่อสู้ฆ่าฟันกัน ไม่นานก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน แล้วท่านเลโมธีกับอาจารย์ใหญ่ของสถาบันเวทมนต์นั้นก็แลกเปลี่ยนข่าวสารจากสถานที่อันไกลโพ้น หากันและกันตลอดมา.... แล้วโรงเรียนของเราก็ได้ข้อมูลการศึกษามาจากสถาบันแห่งนั้นด้วย ถึงแม้จะเป็นแค่ข้อมูลการใช้เวทมนต์บางอย่างเท่านั้น แต่สัมพันธไมตรีก็ยืดยาวจนถึงบัดนี้ เป็นเวลากว่าห้าสิบปี ทั้งสองโรงเรียนใหญ่อย่างเราจึงคิดหาวิธีที่จะให้นักเรียนของทั้งคู่รักใคร่และปรองดองกันด้วย จึงได้ส่งทูต และนักเรียนมายังเอเดนเบิร์ก และพวกเขาก็เดินทาถึงแล้ว......ขอให้ชาวป้อมอัศวิน ปรบมือให้เกียรติแก่ผู้มาเยือนด้วย...!!”
  หลังจากจบการปราศรัยอันยาวนานของหัวหน้าป้อมอัศวิน ประตูทางด้านหลังก็เปิดออก นักเรียนที่นั่งกันอยู่ต่างหันไปมอง โดยผู้ที่นำมาก็คือสิบสองผู้คุมกฎที่รู้จักกันดี แล้วผู้ที่ตามหลังมาเป็นหญิงชราคนหนึ่ง สวมผ้าคุมเขียวมรกต หน้าตาคร่ำเคร่งและเหี่ยวย่น สวมหมวกทรงสูงสีดำ ตามมาด้วยนักเรียนสามคนสวมผ้าคลุมสำดำเหมือนกัน มีตราประจำโรงเรียน เป็นหญิงหนึ่งคน ชายอีกสอง แล้วก็ปิดท้ายขบวนด้วยสามขุนพล...
  “คิล แกว่าเป็นไง” เฟรินกระซิบกระซาบกับเพื่อนนักฆ่าขณะที่ทุกคนรอบข้างก็กำลังทำแบบเดียวกัน
  “ก็งั้นๆ ฉันว่าน่ะ คงเก่งแต่เวทมนต์นั่นแหละ ก็โรงเรียนเวทย์ไม่ใช่หรอ ลองมาสู้กับคาโลดูสิ ฉันว่าแพ้แหงหว่ะ”
  “ฉันก็ว่างั้น แล้วนายหล่ะคาโล นายว่าเราจะชนะพวกนั้นได้มั้ยว่ะ” เฟรินถามเปรยๆก่อนหันไปดูเจ้าชายน้ำแข็งของเขา ซึ่งในขณะนี้กำลังจ้องเป๋งไปที่ใครซักคนในกลุ่มนั้น สายตาที่จ้องไปไม่กระพริบแม้ซักนิดไม่ว่าเฟรินจะเอามือไปปัดป้องเพียงไหน ไม่ทันที่เขาจะอ้าปากถาม โร เซวาเรส เดอะ เบกการ์ ออฟ ทริสทอร์ ก็เริ่มประกาศอีกครั้งหนึ่ง
  “....ขอให้ทุกท่านปรบมือต้อนรับคณะเดินทางจากโลกต่าง! ปรบมือเพื่อให้เกียรติ ผู้มาเยือนจากฮอกวอตส์! จากบ้านกริฟฟินดอร์ ได้แก่ อาจารย์ประจำบ้าน ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ตามด้วยเพื่อนนักเรียนที่จะมาศึกษากับพวกเราในชั้นปีที่หก! แฮร์รี่ พอตเตอร์! ผู้คร่าชีวิตคนที่หน้ากลัวที่สุดในโลกต่าง! เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์! หญิงสาวที่ไม่ว่าจะสอบในครั้งใดคะแนนอันดับหนึ่งจะต่องเป็นของเธอ และรอนัลด์ วีสลีย์! ผู้ที่มีความสามารถในการเดินหมากรุกเหนือกว่าใคร!”
  “วะ มีแต่พวกเจ๋งๆนี่หว่า! อยากลองเดินหมากกับไอเจ้าคนสุดท้ายจริงๆเลย คาโล นายว่าไงอยากจะลองสู้กับผู้คร่าชีวิตคนที่น่ากลัวที่สุดในโกลต่างมั้ยหล่ะ หืมม์”
  แต่คาโล วาเนบลีในขณะนี้ ยังคงใช้สายตาน้ำแข็งจ้องเขม็งไปยังหนึ่งในกลุ่มนั้น สายตาที่จับจ้องเฟรินรู้สึกคุ้นนักว่า เหมือนกับครั้งแรกที่คาโลเจอเขา ไม่ใช่ในร่างปกติตอนเป็นผู้ชายหรอกน่ะ แต่เป็นครั้งแรกที่เขาแปลงร่างเป็น เฟลิโอน่า เกรเดเวลต่างหากหล่ะ สายตาตอนนั้น เขายังจำมันได้ดี สายตาที่ใช้ชายตามองหญิงสาว คนที่เจ้าชายน้ำแข็งนั่นหลงรัก แต่กระนั้นก็เถอะ ความคิดนี้ต้องหยุดไปทันทีไม่ใช่เพราะโดนทุบหัวหรืออะไรหรอกน่ะ แต่เป็นเพราะคำพูดที่แผ่วเบาคำแรกที่เจ้านั่นพูดออกมาต่างหากหล่ะ คำพูดคำแรกนับจากที่พวกนั้นเดินเข้ามาของเจ้าชายแห่งคาโนวาล
  “เฮอรืไมโอนี่ .....เกรนเจอร์รึ ....เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า.......ข้าไม่ควรพลาดเจ้าไปงั้นสิ”
  ถ้าเป็นท่าน......ท่านก็คงคิดแบบเดียวกับเฟรินเอง ถ้าท่านได้เห็นเจ้าชายน้ำแข็งนั้นทำท่างทางใบ้หน้า รวมถึงด้วยตาที่เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก !!!!!
เวลาล่วงเลยผ่านพ้นไป รุ่นพี่ปีเจ็ดจบไป ก็มีรุ่นน้องมาแทนเรื่อยๆ ตอนนี้เจ้าตัวยุ่งแห่งคาโนวาลก็อยู่ในชั้นปี 6 ชาวป้อมอัศวินปีหกทั้งหลายได้ครองตำแห่งสำคัญมากมายของป้อมด้วย ดังฉนี้...---
    หัวหน้าป้อมรับบทโดย   
                โร เซวาเรส ขอทาน(กำมะลอ) แห่ง ทริสทอร์
    เสนาธิการฝ่ายซ้าย       
                เจ้าชายคาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาล
    เสนาธิการฝ่ายขวา       
            คิลมัส ฟิลมัส นักฆ่าอารมณ์ดีจากซาเรส
    สี่ผู้คุมกฎรับบทโดย       
                เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งบารามอส หรืออีกนัย  เจ้าตัวยุ่งแห่งปริ๊นซ์ฮาร์ท
            เจ้าหญิงเรนอน ธีน็อท แห่งคาโนวาล
            เจ้าหญิงมาทิลด้า ซิลเวอร์ แห่งอเมซอน
            แองจิลิน่า โรมานอฟ แม่มดแห่งวิชท์
      (มันเล่นเอาสี่นางยักษ์[เย้ย !]มาเป็นผู้คุมกฎเลยวุ้ย)
    สามขุนผลรับโดย     
           
            ครี้ด ธันเดอร์ นักรบตาเดียวจากไนล์
            ซีบิล สเวน นักบวชจากบารามอส
            กัส โทนีย่า นักบวชแห่งกิลดิเรก
    สิบสองผู้พิทักษ์ป้อม   
                 
                    เอ็ดเวิร์ด โรเรนโซ่ นักบวช จาก กิลดิเรก
              นิกซ์ พรินส์วิล นักดนตรีจากเอเธนส์
              เจ้าชายอาชูร่า เอพริล แห่งซาเรส
              เดท  ไฟเออร์ นักรบแห่งซาเรส
              เจค สวอน โจรสลัด จากไนล์
              โคลว์ อาร์มสตรอง บาทหลวงจาก กิลดิเรก
              ซอร์โรว์ วันวิล นักดาบ จากแกรนด์ไลน์
              เจ้าชาย ทิวดอร์ วาโดรีล แห่งวิทช์
                              และว่าด้วยนักเรียนชั้นปีอื่นๆอีก (เอ...คุ้นๆน่ะ ทั้งหมดเนี่ยยย์)
  หลังจากการปรับเปลี่ยนตำแหน่งและการคัดเลือกผู้นำต่างๆได้ผ่านพ้นไป...โดยไม่แม้แต่จะวุ่นวาย แบบหลายๆปีที่ผ่านมาก็เถอะ เจ้าชายที่แท้จริงอย่าง โร เซวาเรส ผู้ที่ฉลาดไปซะทุกเรื่องจนไม่น่าแม้จะเป็นขอทาน ก็เปิดเผยตัว เพื่อที่จะมารับตำแหน่งเป็น หัวหน้าป้อม ส่วนไอพวกที่วันๆมัวแต่หึงหวง หรือแม้กระทั่ง ง้องอน ไปจนถึง นักฆ่าไร้อารมณ์ อย่างคิลมัส ฟิลมัส ก็ตกอันดับลดหลั่นกันมา แต่ถึงอย่างไรปัญหาเล็กๆน้อยๆแบบนั้น ดูท่าว่าจะพอกพูนขึ้นในไม่ช้าแล้วหล่ะ
 
  “น่าเบื่อ”
  “เช่นกัน”
  “มันมีเรื่องอะไรที่น่ารำคาญไปกว่านี้อีกมั้ย นอกจากที่ เฟริน เดอเบอโรว์คนนี้ ได้เป็นแค่สี่ผู้คุมกฎงี่เง่า แล้วไอ้ขอทานแห่งทริสทอร์อย่างไอ้โร ดันได้เป็น หัวหน้าป้อม”
 
  “มี”
“ว่ะ ยังจะมีอีก อะไรกันหล่ะ ไอ้เสนาธิการฝ่ายซ้าย ไอ้เจ้าชายงี่เง่าแห่งคาโนวาล - -”
“และกำลังจะได้เป็น ราชบุตรเขยแห่งบารามอสด้วย!”
“ไอ้บ้าคิล แกยังจะเล่นด้วยอีกหรือไงฟร่ะ ไอนักฆ่ากิ๊กก๊อก”
  หลังจบการสนทนาคร่ำเคร่งสั้นๆของเฟริน(- -โอน่า  อะจึ๊ย !) ต่อว่ากันตามภาษาตัวจุ้นแห่งป้อมอัศวิน ไอ้คนน่าเบื่อแห่งเดมอสที่หน้าแดงก่ำเป็นไฟก็กระโจนเข้าใส่ไอนักฆ่ากิ๊กก๊อกทันที แต่ไม่ทันจะเข้าถึงตัว คนที่มาขวางไว้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก ราชบุตรเขยแห่งสองอาณาจักรใหญ่นั่นเอง !
  “คาโล !”
  “ใช่ ฉันเอง คาโล วาเนบลี แล้วทำไมฉันจะขวางไม่ได้ เพื่อไม่ไห้เสนาธิการฝ่ายขวา ทำร้ายว่าที่ราชินีแห่งคาโนวาล ฉันจำเป็นต้องทำ”
  “ยังไม่เลิกพูดจาแบบนี้อีก คาโล นายหน่ะคิดหรือไง ว่านายพูดแค่นี้ แล้วฉันจะไปเป็นอะไรกับนายหน่ะ”
ว่าแล้วไม่ทันไร เจ้าชะ - - หญิ - - ฉิง แห่งบารามอส และ เดมอส ก็สะบัดหน้าหนี เชิดใส่เจ้าชายน้ำแข็งไป ก่อนจะปิดประตูตามหลังหลังดัง ปัง !
  “คาโล งั้นนายก็ต้องพูดให้มันมากกว่านี้สิ เขาจะได้ - -”
  ไม่ทันได้พูดอะไร  เสนาธิการคนสำคัญ ก็สะบัดหน้าเดินออกจากห้องไปเสียแล้ว
  “ไอ้คิลคนนี้ คงต้องหาคู่ครองไปเป็นคิลลิส แห่ง ซาเรสซะบ้างแล้ว เฮ้อ ! อิจฉาพวกมีความรักจริงๆ”
  แล้วนักฆ่าแห่งซาเรสก็เดินออกจากห้องด้วยความเหี่ยวเฉา หลังจากนั้นห้องนี้ ก็เหลือคนเพียงคนเดียวเท่านั้น....... !!!
..
  “นี่เป็นโอกาสพิเศษของโรงเรียนเรา ที่จะมีผู้มาเยี่ยมเยียน เนื่องมาจากความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างเรากับโรงเรียนมหาเวทย์จากต่างแดน ที่ปกปิดลึกลับจนไม่มีผู้ใดเคยได้พบเห็นถ้าไม่ได้ศึกษาที่โรงเรียนแห่งนั้น แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ มหาปราชญ์เลโมธีผู้ยิ่งใหญ่ ได้ค้นพบสถานที่แห่งนั้นเข้าโดยบังเอิญ - -”
  เสียงดังกึกก้องระหว่างรับประทานอาหารเช้าของป้อมอัศวินดังขึ้น ไม่ใช่เพียงที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น รวมทั้งปราสาทขุนนาง แผ่นดินประชาชน และปราการปราชญ์ด้วยเช่นกัน ผู้ที่แจ้งข่าวให้ทราบคือหัวหน้าของแต่ละป้อม โดยที่ผู้ที่ประกาศข่าวของป้อมอัศวินไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก - -
  “โร เซวาเรส เดอะ เบกการ์ ออฟ ทริสทอร์” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นแทรกการประกาศ ที่คงเรียกได้ว่า ‘สำคัญ’ “ทำไมต้องเอามันมาเป็นหัวหน้าป้อมด้วยฟร่ะ”
  “เฮ้ เฟริน นายเลิกบ่นเรื่องนี่ซักทีเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้วหน่า” เสียงกระซิบของนักฆ่าแห่งซาเรส อาจช่วยให้เจ้าตัวยุ่งแห่งป้อมอัศวินเงียบลงได้บ้าง (แค่บ้างน่ะ..เหะๆ)
  “อย่างน้อยนายก็เป็นสี่ผู้คุมกฎ” คราวนี้เป็นเสียงจากอีกฝากหนึ่ง คาโลนั่นเอง “นายก็เงียบๆซะบ้างก็ดี ฉันจะฟังเรื่องที่มันสำคัญนักหนา จนเสนธิการฝ่ายซ้ายไม่ได้ไปประชุมด้วย”
  “วะ อย่างนายก็เป็นได้แค่เส - -”
เสียงของเจ้าตัวยุ่งเงียบหายไปทันทีหลังจากเห็นสายตาจ้องเขม็งจากคาโล เจ้าชายคนเดียวที่คนอย่างเขาคิดจะ...
  “- - ด้วยเหตุนี้นั่นเอง อาจารย์ใหญ่แห่งสบาบันเวทมนต์แห่งนั้นจึงทำการผูกสัมพันธ์กับท่านเลโมธีทันที แทนที่จะขับไล่หรือต่อสู้ฆ่าฟันกัน ไม่นานก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน แล้วท่านเลโมธีกับอาจารย์ใหญ่ของสถาบันเวทมนต์นั้นก็แลกเปลี่ยนข่าวสารจากสถานที่อันไกลโพ้น หากันและกันตลอดมา.... แล้วโรงเรียนของเราก็ได้ข้อมูลการศึกษามาจากสถาบันแห่งนั้นด้วย ถึงแม้จะเป็นแค่ข้อมูลการใช้เวทมนต์บางอย่างเท่านั้น แต่สัมพันธไมตรีก็ยืดยาวจนถึงบัดนี้ เป็นเวลากว่าห้าสิบปี ทั้งสองโรงเรียนใหญ่อย่างเราจึงคิดหาวิธีที่จะให้นักเรียนของทั้งคู่รักใคร่และปรองดองกันด้วย จึงได้ส่งทูต และนักเรียนมายังเอเดนเบิร์ก และพวกเขาก็เดินทาถึงแล้ว......ขอให้ชาวป้อมอัศวิน ปรบมือให้เกียรติแก่ผู้มาเยือนด้วย...!!”
  หลังจากจบการปราศรัยอันยาวนานของหัวหน้าป้อมอัศวิน ประตูทางด้านหลังก็เปิดออก นักเรียนที่นั่งกันอยู่ต่างหันไปมอง โดยผู้ที่นำมาก็คือสิบสองผู้คุมกฎที่รู้จักกันดี แล้วผู้ที่ตามหลังมาเป็นหญิงชราคนหนึ่ง สวมผ้าคุมเขียวมรกต หน้าตาคร่ำเคร่งและเหี่ยวย่น สวมหมวกทรงสูงสีดำ ตามมาด้วยนักเรียนสามคนสวมผ้าคลุมสำดำเหมือนกัน มีตราประจำโรงเรียน เป็นหญิงหนึ่งคน ชายอีกสอง แล้วก็ปิดท้ายขบวนด้วยสามขุนพล...
  “คิล แกว่าเป็นไง” เฟรินกระซิบกระซาบกับเพื่อนนักฆ่าขณะที่ทุกคนรอบข้างก็กำลังทำแบบเดียวกัน
  “ก็งั้นๆ ฉันว่าน่ะ คงเก่งแต่เวทมนต์นั่นแหละ ก็โรงเรียนเวทย์ไม่ใช่หรอ ลองมาสู้กับคาโลดูสิ ฉันว่าแพ้แหงหว่ะ”
  “ฉันก็ว่างั้น แล้วนายหล่ะคาโล นายว่าเราจะชนะพวกนั้นได้มั้ยว่ะ” เฟรินถามเปรยๆก่อนหันไปดูเจ้าชายน้ำแข็งของเขา ซึ่งในขณะนี้กำลังจ้องเป๋งไปที่ใครซักคนในกลุ่มนั้น สายตาที่จ้องไปไม่กระพริบแม้ซักนิดไม่ว่าเฟรินจะเอามือไปปัดป้องเพียงไหน ไม่ทันที่เขาจะอ้าปากถาม โร เซวาเรส เดอะ เบกการ์ ออฟ ทริสทอร์ ก็เริ่มประกาศอีกครั้งหนึ่ง
  “....ขอให้ทุกท่านปรบมือต้อนรับคณะเดินทางจากโลกต่าง! ปรบมือเพื่อให้เกียรติ ผู้มาเยือนจากฮอกวอตส์! จากบ้านกริฟฟินดอร์ ได้แก่ อาจารย์ประจำบ้าน ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ตามด้วยเพื่อนนักเรียนที่จะมาศึกษากับพวกเราในชั้นปีที่หก! แฮร์รี่ พอตเตอร์! ผู้คร่าชีวิตคนที่หน้ากลัวที่สุดในโลกต่าง! เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์! หญิงสาวที่ไม่ว่าจะสอบในครั้งใดคะแนนอันดับหนึ่งจะต่องเป็นของเธอ และรอนัลด์ วีสลีย์! ผู้ที่มีความสามารถในการเดินหมากรุกเหนือกว่าใคร!”
  “วะ มีแต่พวกเจ๋งๆนี่หว่า! อยากลองเดินหมากกับไอเจ้าคนสุดท้ายจริงๆเลย คาโล นายว่าไงอยากจะลองสู้กับผู้คร่าชีวิตคนที่น่ากลัวที่สุดในโกลต่างมั้ยหล่ะ หืมม์”
  แต่คาโล วาเนบลีในขณะนี้ ยังคงใช้สายตาน้ำแข็งจ้องเขม็งไปยังหนึ่งในกลุ่มนั้น สายตาที่จับจ้องเฟรินรู้สึกคุ้นนักว่า เหมือนกับครั้งแรกที่คาโลเจอเขา ไม่ใช่ในร่างปกติตอนเป็นผู้ชายหรอกน่ะ แต่เป็นครั้งแรกที่เขาแปลงร่างเป็น เฟลิโอน่า เกรเดเวลต่างหากหล่ะ สายตาตอนนั้น เขายังจำมันได้ดี สายตาที่ใช้ชายตามองหญิงสาว คนที่เจ้าชายน้ำแข็งนั่นหลงรัก แต่กระนั้นก็เถอะ ความคิดนี้ต้องหยุดไปทันทีไม่ใช่เพราะโดนทุบหัวหรืออะไรหรอกน่ะ แต่เป็นเพราะคำพูดที่แผ่วเบาคำแรกที่เจ้านั่นพูดออกมาต่างหากหล่ะ คำพูดคำแรกนับจากที่พวกนั้นเดินเข้ามาของเจ้าชายแห่งคาโนวาล
  “เฮอรืไมโอนี่ .....เกรนเจอร์รึ ....เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า.......ข้าไม่ควรพลาดเจ้าไปงั้นสิ”
  ถ้าเป็นท่าน......ท่านก็คงคิดแบบเดียวกับเฟรินเอง ถ้าท่านได้เห็นเจ้าชายน้ำแข็งนั้นทำท่างทางใบ้หน้า รวมถึงด้วยตาที่เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก !!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น