คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : G A N G S T E R - 00 | is beginning
G A N G S T E R 0 0
ในเวลาเย็นตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ถนนใจกลางเมืองกำลังคร่าคร่ำไปด้วยผู้คน
เพราะเป็นเวลาหลังเลิกงาน และหลังจากที่หยาดฝนได้กระหน่ำลงมาเป็นเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมง
ถ้ามองจากมุมสูงล่ะก็ สิ่งที่แปลกตาไปอย่างชัดเจนคงไม่พ้นร่มคันสีหวานลายเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่เด็กๆหลายคนหลงใหลกำลังเคลื่อนผ่านคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยๆ
เจ้าของร่มคันนั้นหวังเพียงแค่จะกลับบ้านให้ได้ก่อนมืด เพียงเพราะตนต้องจำใจรอฝนหยุดอยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นเวลานาน
เขายกนาฬิกาขึ้นเป็นระยะเพื่อดูให้แน่ใจว่าเขาจะไม่กลับไปช้ากว่าเจ้าของบ้าน
จริงๆเขาก็ไม่ได้รีบอะไรมากมายหรอก แต่เพราะวันนี้ที่บ้านหลังใหม่จะมีงานฉลองเล็กๆตอนรับเขาที่มาจากต่างประเทศ
เจ้าภาพงานจะไปช้ากว่าเจ้าของบ้านก็คงจะดูเสียมารยาท
ตุบ ตุบ ตุบ ผลัก
แต่แล้วก็มีเสียงๆหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะฝีเท้าของเขาให้ชะงัก
ร่างบางขมวดคิ้วด้วยความสงสัยพลางหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาว่าต้นตอของเสียงมาจากที่ใด
เขาคิดว่ามาจากซอกตึกตรงนั้นนะ...
คราแรกก็คิดจะเดินผ่านไปเฉยๆแต่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาเปลี่ยนจุดหมายเป็นซอกตึกนั้นแทน
ทั้งที่ในใจคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีและคงไม่น่าปลอดภัย แต่ร่างกายก็ไม่ยอมฟังคำค้านเท่าไหร่นัก
สิ่งที่เขาได้เห็นมีเพียงความมืดมิดเนื่องจากอาทิตย์กำลังตกดินทีละน้อยและแผ่นหลังของใครสองสามคนที่วิ่งหนีออกไปอีกทางแล้ว
แต่ยังไม่ทันจะหันหลังเดินจากไปดวงตาหวานก็เหลือบเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งนิ่งพิงกำแพงอยู่กับพื้นด้วยรังสีน่ากลัวจนเขาไม่กล้าเข้าใกล้เลย
แต่ด้วยความใจกล้าสุดท้ายคนตัวเล็กก็เดินเข้าไปหาพร้อมนั่งยองๆตรงหน้าอีกคนอย่างช้าๆ
แม้ว่ามันจะมืดจนเกือยมองไม่เห็น แต่ก็น่าแปลกที่เขาสามารถมองเห็นแววตาของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
แววตาแบบนั้นมันคืออะไร....ทำไม...
"นาย... เป็นอะไรรึเปล่า" เสียงหวานปนแหบเอ่ยขึ้นขัดกับความเงียบสงัดที่มีมาตั้งแต่แรกเริ่ม
และเขาคิดว่ามันก็คงยังมีต่อไปเมื่อไร้คำตอบจากคนตรงหน้า
มันเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นความอึดอัดเมื่อไม่มีเสียงอะไรต่อขึ้นหลังจากนั้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างประหม่าระคนลำบากใจ เขาควรจะทำเช่นไรกับสถานการณ์แบบนี้ดีนะ
"นี่..."
แม้ว่าจะพยายามพูดคุยแต่ก็ไม่ได้ผล เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมาก่อนจะเปิดโหมดไฟฉายขึ้นเพื่อที่จะเห็นอะไรๆได้ชัดมากกว่านี้
แต่แล้วเขาก็ต้องคิดผิด เมื่อภาพตรงหน้าเขามันกำลังสั่นคลอนหัวใจของเขาอย่างแรง
ใบหน้าคมคายราวกับรูปปั้นที่ถูกรังสรรค์ด้วยความประณีต
ผมสีเทาควันบุหรี่ช่วยขับให้หน้าเขาสว่างมากขึ้นเป็นเท่าตัว คิ้วหนาสีเดียวกับผมรับกับดวงตาเรียวที่มีแววตาของความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวแต่กลับซ่อนความเศร้าปะปนไปด้วย
ซึ่งดวงตาคู่นั้นก็กำลังจ้องมองที่เขาอย่างไม่วางตา ยิ่งทำให้ร่างกายคล้ายว่าจะถูกสาปกลายเป็นหิน
ไหนจะจมูกโด่งเป็นสันกับริมฝีได้รูปนั้นอีกเล่า... แม้ว่าจะมีรอยฟกช้ำกับคราบเลือดก็ไม่ช่วยให้ความหล่อเหลาลดน้อยลงเลย
ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เอื้อมออกไปหวังจะจับที่ใบหน้าคมแต่ก็ถูกเบือนหน้าหนี
คนตัวเล็กชักมือกลับ ก่อนจะเอ่ยพูดอีกครั้ง
"ไปทำแผลมั้ย เดี๋ยว...ฉันพาไป"
อย่าว่าแต่เจ้าของใบหน้าหวานนี่เลยที่รู้สึกแปลกกับความรู้สึกและการกระทำของตัวเอง
เจ้าคนตัวสูงคนนี้ก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ใช่....มันแปลก
เพราะปกติ คนส่วนใหญ่คงเลือกเมินเฉยแล้วเดินจากไปโดยไม่คิดจะหันหลังกลับมา
แต่มันไม่ใช่สำหรับผู้ชายตัวเล็กที่กำลังเปลี่ยนโลกของเขาไปทีละนิดด้วยรอยยิ้มซึ่งแสดงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน
ความห่วงใยแสนจริงใจที่เขาไม่ได้รับมันมานานมาก....มากจนแทบเลือนลาง
ตามจริงเขาจะลุกหนีออกไปตั้งแต่ตอนแรกเลยก็ได้ด้วยซ้ำ
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังนั่งให้อีกฝ่ายจ้องมองอยู่แบบนี้
อาจเป็นเพราะความต้องการของเขา ...หรืออาจเป็นเพราะหัวใจที่สั่งแบบนั้นก็ได้
ราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
และหัวใจของคนทั้งสองก็เริ่มเต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกัน
ความคิดเห็น