ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ORDER OF ROYALTY

    ลำดับตอนที่ #8 : วิชาเวทมนตร์เบื้องต้น (BOM101) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 58


    ขอโทษที่มาช้าครับ ตอนนี้อาจจะน้อยไปบ้างนะครับ 
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ผมได้แต่แกล้งนอนหลับไป เพราะผมไม่รู้ว่าควรจะทำสีหน้ายังไงดี ในเมื่อสิ่งที่ผมรู้ในวันนี้มันช่างน่าเศร้า นิทานที่ถูกเล่าออกมา ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำให้เรื่องเล่านี้เป็นแค่นิทาน หรือเรื่องเล่าของหญิงสาวที่ถูกสามีทอดทิ้งกันแน่ เพราะผู้หญิงที่เล่าเรื่องนี้ออกมา เธอคือแม่ของผม เธอช่างเข้มแข็งเกินไป สดใสเกินไป แต่ผมกลัวว่าแม่ของผมแท้จริงแล้วเป็นแค่แก้วบาง ที่ถูกสะกิดก็แตกสลายแล้ว 


    เช้าวันต่อมา

    อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนผมนอนดึกกว่าปรกติไปมาก เลยทำให้เช้าวันนี้ผมตื่นสายโด่งขนาดนี้ ไม่สิ ตอนนี้น่าจะเที่ยงแล้วต่างหาก ที่ปลายเตียงมีกล่องของขวัญขนาดใหญ่พอๆกับตัวของผมเลยทีเดียว ข้างในกล่องคือเสื้อผ้าจำนวนมาก! เท่าที่ผมลองสัมผัสดู มันมีเนื้อผ้าที่ดีมาก เหนียวไม่ขาดง่าย แต่ก็นุ่มจนเหมือนผ้าฝ้ายเลย 

    เสื้อผ้าทั้งหมดถูกจัดอย่างเรียบร้อย ส่วนมากเป็นโทนสีเข้มเป็นส่วนใหญ่ แต่มีบ้างที่เป็นสีขาวหรือสีครีมแต่สีจำพวกนี้จะเป็นเสื้อคลุมที่มีฮู้ดคลุมหัวเปิดใบหน้าอยู่ด้วย หลังจากออกกำลังกายประจำวันเรียบร้อย ผมเลยส่วมใส่ชุดที่เล็งเอาไว้ตอนเปิดกล่อง

    วันนี้ผมเลยใส่เสื้อเชิ้ตขาวส่วมด้วยเสื้อกั๊กสีดำทับไว้ กางเกงขาสั้น พร้อมรองเท้าทรงโบ๊ทชูคู่เก่ง เรียกได้ว่าวันนี้ผมเป็นนายแบบน้อยได้เลย แม่ผมนี่ก็รสนิยมดีนะเนี่ย วันนี้จุดหมายของผมคือห้องทำงานของบาทหลวงไลท์โอแนล เพราะผมอยากรู้เรื่องของนักบวช!

    'ก็อก ก็อก'

    "หลวงพ่อไลท์โอแนลครับ นี่ผมฮิปนอสครับ"
    "อ้าวฮิปนอสเองหรือ เข้ามาเลย เชิญ เชิญ"

    ผมเห็นหน้าของหลวงพ่อที่ไรก็รู้สึกแปลกใจทุกครั้งเลยหล่ะครับ คนอะไรไม่รู้ แก่แต่หน้าเด็ก ตอนนี้ท่านอายุคง 46 ปี เท่าที่แม่ของผมบอกนะครับ แต่ใบหน้าของท่านนี้ สามสิบนิดๆเอง ตอนผมอายุสี่สิบนี่ ตีนกากับรอยเหี่ยวเต็มหน้าเลย

    "แล้วมาหาพ่อมีอะไรรึเปล่าละ"
    "ผมอยากรู้ว่าจะเป็นนักบวชนี่ต้องทำยังไงครับ"
    "หืม? ถามทำไมหรือฮิปนอส"
    "ผมรู้มาว่านักบวชขั้น 3 จะสามารถเรียนการเป็นเซซาดอล(ผู้ที่สื่อสารกับพระเจ้า)ได้หน่ะครับ"
    "อย่างนี้นี่เอง อย่าบอกนะว่าลูกอยากจะเป็นเซซาดอล"
    "ครับ ผมอยากเป็นเซซาดอล"
    "แล้วลูกใช้เวทมนต์ธาตุพื้นฐานได้หรือยัง?"
    "แหะๆ ผมก็ไม่รู้หน่ะครับว่าใช้ได้ไหม แต่เวทย์ในชีวิตประจำวันผมใช้ได้แล้วนะครับ แล้วการเป็นนักบวชเกี่ยวอะไรกับเวทมนต์ธาตุละครับ?"

    หลวงพ่อไลท์โอแนลยังไม่ตอบคำถามของผม แต่ท่านเดินไปที่โต๊ะทำงานของท่าน แล้วเชิญให้ผมไปนั่งทางฝั่งตรงข้าม

    "ฮิปนอสรู้รึเปล่าว่าเวทมนต์คืออะไร"
    "ไม่ทราบครับ แหะๆ"
    "ไม่แปลกหรอกที่จะไม่รู้ หากรู้สิแปลก เวทมนต์คือพลังงาน เป็นพลังธรรมชาติ คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา"
    "หลวงพ่อจะบอกว่า พลังเวทย์คืออากาศหรอครับ"
    "ก็ไม่เชิงหรอกนะ แล้วรู้ไหมเวทธาตุพื้นฐานมีอะไรบ้าง"
    "ก็ ดิน น้ำ ลม แล้วก็ ไฟ ใช่ไหมครับ"
    "ถูกต้อง แล้วสังเกตุเห็นอะไรไหม ที่ธาตุพวกนี้มีสิ่งหนึงที่ทุกธาตุต้องมี"
    "... เอ่อ พวกมันเจอได้ทั่วไปใช่ไหมครับ"
    "ถูกต้อง! เจ้านี่หัวไวนะ เวทธาตุพื้นฐานหน่ะคือสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติ และเวทมนตร์ปรกติ กับเวทมนต์ธาตุต่างกันอย่างไรละ"

    โอย~ แค่มาถามคำถาม แต่ทำไมโดนถามกลับเนี่ย แถมแบบรัวๆเลย

    "ไม่ทราบครับ"
    "ฮ่า ฮ่า เวทธาตุหน่ะคือพลังธรรมชาติ ส่วนเวทมนตร์เรียกอีกอย่างหนึงคือพลังวิญญาณ  พลังวิญญาณที่อยู่ในตัวของพวกเราทุกคน มากหรือน้อย ก็ตามแต่ละบุคคล นี่เป็นเหตุผลที่ทุกคนสามารถใช้เวทมนต์ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่านักเวทย์แตกต่างจากคนทั่วไปคือ พลังวิญญาณของพวกเราสามารถติดต่อกับธาตุต่างๆเพื่อหยิบยืมพลังของธาตุนั้นมาโดยแลกเปลี่ยนกับพลังวิญญาณ"
    "แล้วถ้าเราใช้พลังงานวิญญาณจนหมดเราไม่ตายหรอครับ"
    "ถ้าใช้จนหมดก็ตายแหละนะ เดี๋ยวสิอฮิปนอสอย่าทำหน้าซีดอย่างนั้น ฟังพ่อให้จบก่อน ฮิปนอสเคยเห็นคนที่วิ่ง วิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพักจนตายไหมละ"
    "ม่ะ..ไม่ครับ"
    "เห็นไหม นั้นเพราะว่าร่างกายของพวกเราเป็นแหล่งสร้างพลังงานวิญญาณ และพวกพลังวิญญาณจะคอยปกป้องสิ่งที่สร้างมันขึ้นมา ถ้าฮิปนอสไม่ได้โดนดูดพลังวิญญาณจนหมดก็ไม่ตายหรอก อย่างมากก็แค่สลบเท่านั้น"

    หมายความว่ามันมีโอกาศตายจากการโดนดูดพลังงานวิญญาณหรอเนี่ย! น่ากลัวเกินไปแล้ว

    "แล้วอย่างการรักษานี่เป็นของธาตุอะไรล่ะครับ ผมเคยอ่านในหนังสือ ว่ามันเป็นเวทย์ธาตุแสง แต่มันไม่อยู่ในเวทย์พื้นฐาน อย่างงี้ก็ต้องรบกวนนักเวทย์หมดสิครับ"
    "ช่างสังเกตุนี่ ธาตุแสง และธาตุมืด จัดเป็นธาตุเอกลักษณ์ เป็นธาตุที่ไม่ข้องเกี่ยวกับธาตุอื่นๆ และธาตุแสงนี่แหละที่เหล่านักบวชจำเป็น'ต้อง'สามารถใช้ได้"
    "แล้วถ้าผมไม่สามารถใช้ธาตุแสงได้ ผมก็ไม่สามารถเป็นเซซาดอลได้สิครับ"
    "ไปอ่านมาจากที่ไหนละนั้น เซซาดอลสามารถเรียนได้ตอนเป็นนักเวทย์ขั้น 3 ได้เช่นกัน แต่นักบวชจะสื่อสารกับพระเจ้าได้ง่ายที่สุดเท่านั้นเอง"
    "แล้วผมจะรู้ได้ยังหรอครับว่าผมสามารถใช้ธาตุอะไรได้บ้าง"
    "งั้นพ่อขอถามฮิปนอสก่อนว่ารู้รึเปล่าว่าปรกติแล้วใน 1 คนสามารถใช้ได้กี่ธาตุ"
    "3 ธาตุหรือเปล่าครับ"
    "ผิดแล้ว ปรกติจะได้เพียงคนละ 0-2 ธาตุ  3 ธาตุก็มีให้เห็น แต่มากที่สุดที่พ่อเคยเจอคือ 4 ธาตุ"
    "แล้วคนที่ใช้ธาตุได้น้อยก็เสียเปรียบสิครับ"
    "ทั้งใช่และไม่ใช่ ใช่ในที่นี้คือคนที่มีปริมาณพลังวิญญาณสูงมากๆ และไม่ใช่ในคนที่มีปริมาณพลังวิญญาณน้อย"

    คืออะไร ทั้งใช่และไม่ใช่ แถมยังเกี่ยวกับปริมาณพลังวิญญาณอีก 

    "ผมไม่เข้าใจครับ"
    "อืม ไม่เข้าใจจริงๆด้วย งั้นเอาอย่างนี่แล้วกัน"

    พูดจบหลวงพ่อก็แบมือออก แล้วค่อยท่านก็พูดพึมพัม ผมคิดว่านั้นน่าจะเป็นบทร่าย พอร่ายจบก็มีลูกไฟอยู่ที่มือ ผมอยากจะถามว่าไม่รู้หรอนั้น

    "ฮิปนอสเห็นลูกไฟนี่ไหม ถ้าพ่อเอาไปใกล้เราจะเกิดอะไรขึ้น"
    "ร้อนไงครับ"
    "แล้วถ้าพ่อเอาลูกไฟนี้ไปจ่อกับกระดาษละ"
    "กระดาษก็ไหม้ไงครับ"
    "แล้วถ้าพ่อ..."

    พูดไม่ทันจบหลวงพ่อก็เสกลูกบอลน้ำขนาดพอๆกับลูกไฟมาที่มืออีกข้าง

    "ถ้าพ่อเอาลูกไฟลูกนี้กับลูกบอลน้ำลูกนี้มาประกบกันอย่างรวดเร็วละ"
    "เอ่อ ไม่ทราบครับ"
    "เปรี้ยง!!!!"
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

    'วิ้งงงง'
    โอย~ ในหูของผมดังวิ้งๆๆ ไม่ยอมหยุดเลย ตอนนี้ผมมีสภาพเหมือนตัวเองกำลังหูหนวกอยู่เลย  จนผ่านไปซักพักนั้นแหละถึงได้กลับมาเป็นปรกติ

    "ฮิปนอส ฮิปนอส เป็นอะไรไหมหรือเปล่า ฮิปนอส!"
    "โอย~ ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับ ว่าแต่นั้นมันคืออะไรครับน้ัน"
    "ธาตุดัดแปลง 'สายฟ้า' ยังไงละ จริงๆพ่อว่าจะทำขนาดเล็กเท่านั้น แต่พ่อเผลอไปหน่อยหน่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ"
    "สายฟ้า? มันไม่ใช้กระแสไฟฟ้าหรอกหรือครับ"
    "ใช่ในแง่ของการตั้งชื่อ แต่ไม่ใช่ในการใช้เวทมนตร์ ฮิปนอส เวทธาตุนี่คือพลังธรรมชาติถูกไหม แล้วพลังธรรมชาติคืออะไรรู้ไหมว่าคืออะไร"
    "ไม่ครับ"
    "พลังธรรมชาติกล่าวอีกอย่างคือปรากฏการธรรมชาติหรือปฏิกิริยาระหว่างสิ่งสองสิ่งนั้นแหละ เข้าใจไหม"

    หลวงพ่อคงเห็นว่าหน้าของผมประดับไปด้วยเครื่องหมายคำถามละมั้งครับ ท่านเลยยิ้มๆแล้วอธิบายต่อ

    "ฮิปนอส ไฟเกิดจากอะไร"
    "ไฟ เกิดจาก ไฟ ละมั้งครับ"
    "นั้นเป็นคำตอบแบบกำปั้นทุบดินนะ ไฟหน่ะเกิดจากการเสียดสีอย่างเร็วระหว่างอณุภาค โดยมีเชื้อเพลิงเป็นตัวนำ ถูกไหม"
    "มั้งครับ"
    "นั้นแหละพลังธรรมชาติหรือพลังเวทธาตุ ลูกอย่ายึดติดว่าไฟต้องเป็นไฟไฟจะต้องแพ้น้ำเสมอไป"
    "ผมไม่เข้าใจอยู่ดีแหละครับ"
    "งั้น... อย่างนี้ดีกว่า"

    พอหลวงพ่อพูดจบการเสกน้ำมาจากฝ่ามืออีกครั้ง แบบไม่ต้องร่ายเวทย์เลย ผมถอยหลังมาหนึ่งก้าวอัตโนมัติเลยครับ กลัวมีอะไรแผลงๆอีก  แต่ครั้งนี้เหมือนหลวงพ่อจะเข็ดมั้งครับ เลยไม่ได้เสกอะไรออกมาอีก แต่เอาน้ำไปใส่ในแก้วคริสตัวสทรงสูงไว้

    "ฮิปนอสลองดูเองดีกว่า"
    "...???" ผมมองหน้าหลวงพ่อ จะให้ผมมองอะไรละ ก็เห็นแค่น้ำเนี่ย
    "อ้อ พ่อลืมไปเลย ฮิปนอสจับกระแสเวทย์ไม่เป็นใช่ไหม?"
    "ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นนะครับ แล้วมันคืออะไรหรอ"
    "กระแสเวทย์หรือสายลมแห่งธรรมชาติ คล้ายๆอากาศหน่ะฮิปนอส เวทย์บริสุทธ์หรือพลังวิญญาณจะมีอยู่ทุกที่ เป็นเหมือนอากาศที่เราหายใจเข้าออก แต่สายลมธรรมชาติหน่ะคือกระแสของธาตุชนิดต่างๆ อย่างสถานที่ใกล้ภูเขาไฟที่ร้อนระอุจะมีกระแสของธาตุไฟปริมาณมาก ธาตุดินรองลงมา และที่น้อยที่สุดคือธาตุน้ำ พอเข้าใจไหม"
    "พอเข้าใจแล้วครับ"
    "ส่วนการมองกระแสพลังไม่ใช่มีประโยชน์แค่นี้หรอกนะ แต่ก่อนหน้าที่จะรู้ถึงกระแสเวทย์ ต้องใช้การผนึกเวทย์ให้เป็นเสียก่อน ส่วนการเรียนนั้น ลูกต้องมีความสามารถในการใช้เวทยมนตร์ในระดับนักเวทย์ก่อน โดยที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์จะสอนลูกเอง อย่าเพิ่งรีบร้อนเลยนะ เด็กน้อย"
    "แล้วถ้าผมไม่สามารถใช่เวทมนตร์ได้ในระดับนักเวทย์ผมก็ไม่มีสิทธ์เรียนที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์สินะครับ"
    "เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น"

    ตายห่านแล้วสมมติว่าผมไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้จริงๆ ผมก็ไม่ได้คุยกับพ่อเลยอ่ะดิ ไม่นะ ไม่ได้แล้ว

    "แล้วมีทางอื่นที่จะเป็นเซซาดอลไหมครับ ไม่สิ ผมแค่ขอให้ติดต่อพระเจ้าได้แค่นั้นก็พอ"
    "ทำไมลูกถึงอยากติดต่อพระเจ้านักหล่ะ?"
    "เอ่อ... ผมศรัทธาในพระเจ้ามากๆเลยหน่ะครับ เลยอยากลองสนทนากับพระองค์ดู"
    "พ่อเข้าใจลูกนะ แต่หากไม่ใช่เซซาดอลก็ไม่อาจติดต่อพระเจ้าได้"
    "งั้นหรอครับ...ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ"
    "แต่อย่าหมดหวังไปเลย ลูกยังไม่ได้ตรวจพลังเวทย์ของลูกเลย รออีกไม่เกิน 3 เดือน เหล่าคณะของมหาวิทยาลัยต่างๆก็เดินทางมาถึงที่นี้แล้วละ"
    "ครับ ผมจะอดทน"
    "นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ลูกกลับที่พักเถอะ เดี๋ยวอารีอานน่าจะเป็นห่วง"
    "ครับ งั้นผมลาละครับ"

    คืนนั้นผมถามแม่ว่ามีทางติดต่อพระเจ้านอกจากการเป็นเซซาดอลไหม แล้วคำตอบก็ทำให้ผมผิดหวังอีกครั้ง เพราะท่านแม่ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×