ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ORDER OF ROYALTY

    ลำดับตอนที่ #12 : หนูทดลองยา

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 58


    ขอโทษที่มาช้านะครับ จะพยายามทำให้ได้ตามกำหนดนะครับ

    สะกดผิด ไม่เข้าใจ หรืออยากแนะนำ เชิญที่คอมเม้นต์เลยครับ จะไปตอบแน่นอน(ช้าหน่อย)
    _______________________________________________________________

    “นั้นเจ้าใส่ดอกไลโมเยอะเกินไปแล้ว”

    “เถ้ากระดูกติ้งจอกหางแดงเจ้าบดยังไม่ละเอียดพอ”

    “เจ้าใช้ไฟเยอะไปแล้ว เดี๊ยวหม้อรุงยาก็ระเบิดหรอก”

    ครับ ผมกำลังโดนว่าเป็นชุดๆจากอาจารย์เฟลดัสอยู่ นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วหลังจากที่ผมตอบตกลงกับอาจารย์นาตาชา และหลังจากนั้นผมก็ตกลงมาเรียนกับอาจารย์เฟลดัสอีกคนด้วยกลายเป็นว่ากิจวัตรประจำวันของผมมีแค่ตื่น ออกกำลังกายตอนเช้า อาบน้ำ เรียนทำยาวิเศษ ตกบ่ายเรียนทำพิษ ตอนเย็นกลับมาที่โบสถ์ อ้อ! หลังจากที่ผมสำรวจเมืองอย่างละเอียด ในตอนแรกๆที่เริ่มเรียนปรุงยาวิเศษกับอาจารย์นาตาชาทำให้ผมรู้ว่าเมืองแห่งนี้มีร้านค้าอะไรบ้างและร้านไหนสินค้าชนิดใดถูกกว่าและมีคุณภาพดีกว่า เพราะอาจารย์นาตาชาสั่งให้ไปหาหม้อเบอร์ใหญ่มาตราฐาน ที่ทนความร้อนสูงแต่มีน้ำหนักเบา ถึงจะมีสร้อยคอเก็บของอเนกประสงค์แต่มันก็แค่ลดขนาดกับทอนน้ำหนักส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ผมก็ต้องแบกหม้อเบอร์ใหญ่นี้ไปมาระหว่างอาจารย์นาตาชากับอาจารย์เดัส

    อ้อ! ผมลืมบอกสินะว่าสร้อยคอเก็บของอเนกประสงค์เป็นยังไง จริงๆสินค้าตัวนี้ชื่อว่า’สร้อยเก็บของ’เฉยๆครับ แต่สำหรับผมมันอเนกประสงค์มาก เพราะมันสามารถลดขนาดของของที่บรรจุลงไป แถมยังลดน้ำหนักได้ส่วนหนึ่งในขณะที่อยู่ในสร้อยได้ด้วย แถมยืดอายุของของที่บรรจุลงไปได้ระยะหนึ่ง แต่สินค้าแบบนี้จะมีมูลค่าค่อนข้างสูง(มาก)เลยที่เดียวครับ แต่ให้เป็นเกรดต่ำที่บรรจุของได้น้อยชิ้นก็ตาม เพราะมันต้องทำมาจากโลหะหรืออัญมณีที่รองรับเวทย์สายอักขระได้ ส่วนมากจะเป็นมิลธิล หรือพวกแซฟไฟน์ ส่วนของผมสามารถบรรจุของน้ำหนักรวม 1,000 กิโลกรัมครับ โดยจะถูกทอนน้ำหนักเหลือเพียง 10 กิโลกรัม และได้มาจากอาจารย์เฟลดัสหน่ะครับ แกบอกว่าของ’เหลือๆ’ก้นหีบ

    สร้อยที่ผมได้มา ตัวสายสร้อยเป็นโซ่สีเงินขนาดเล็ก มีอักขระลงอยู่เต็มไปหมด ส่วนตัวจี้ที่เก็บของทำจากโกเมนขนาดเท่าหัวแม่มือ ตอนที่ผมได้รับมาอาจารย์เฟลดัสบอกว่าอย่าให้ใครเห็นเป็นอันขาด ส่วนเหตุผลหน่ะหรอครับ

    “ข้าไม่อยากให้ใครมาดูแคลนข้า เป็นเจ้าแห่งพิษแต่ให้ของเกรดต่ำแก่ลูกศิษย์ เอาไว้เจ้าอยากได้อันใหม่ค่อยไปซื้อเอง ตอนนี้ใช้เส้นนี้ไปก่อนเถอะ”

    นั้นแหละครับ แถมผมลองไปดูราคาสร้อยเก็บของ ที่บรรจุได้ 100 กิโลกรัม ราคายังสูงถึง 200 เหรียญทองเลยที่เดียว แต่ผมก็ทำตามที่อาจารย์บอกนะครับ แถมมันเป็นสร้อยเส้นยาวทำให้เห็นแค่สายสร้อนครับ ตัวจี้ลงไปอยู่ในเสื้อของผมแล้ว 

    และการที่ผมเดินเข้าออกเมืองไปป่าตะวันออกบ่อยๆ ทำให้ผมเริ่มสำรวจป่าโดยรอบ โดยเปลี่ยนเส้นทางจากเมืองที่จริงๆแล้วเดินตรงไปก็ถึงบ่อน้ำที่นัดเจอกับอาจารย์ ผมก็เดินอ้อมไปเหนือ ใต้ บ้างเพื่อสำรวจเส้นทางครับ ดังนั้นในสร้อยของผมเลยมีหม้อยา อุปกรณ์สำหรับทำยาพิษและยาวิเศษ นอกเหนือจากนั้นจะเป็นพืชแปลกๆทั้งเป็นพิษและไม่เป็น แต่ส่วนมากจะเป็นพิษนะครับ เพราะว่าป่าแถบตะวันออกนี้มีแหล่งพิษอยู่เยอะมากๆ เลยไม่แปลกที่จะมีแต่พืชที่ใช้ปรุงยาพิษล่ะนะครับ

    ส่วนเรื่องการเรียนทำยาวิเศษกับยาพิษ มันค่อนข้างละเอียดมากๆเลยครับ อย่างยาสลบที่ต้องใช้ดอกไลโมเป็นหลักในการปรุง จะได้ใช้แค่ส่วนเกษรตัวผู้ที่อยู่โคนดอกเท่านั้น และน้ำในหม้อต้องมีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่งั้นยาสลบจะระเหยช้าหรือเร็วเกินไป อาจารย์เฟลดัส(สอนยาพิษ)บอกว่านี่เป็นเพียงยาพื้นฐานของผู้ที่จะเป็นนักปรุงพิษ ตามมาด้วยการโม้สรรพคุณของตนเองที่สามาารถทำยาสลบดอกไลโมเพียง สามครั้ง (ผมต้องทำยาสลบห้าหม้อในการทำให้อาจารย์เฟลดัสพูดว่า ‘ใช้ได้’ )

    ส่วนการยาวิเศษเรียกได้ว่าเรียนทำแค่ยาพื้นฐานจำนวนน้อยมากๆ(เมื่อเทียบกับยาพิษ) เพราะผมต้องหาสมุนไพรเอง อุปกรณ์เอง แต่ที่ทำยาพิษได้เยอะเพราะเจอพืชมีพิษในป่าในปริมาณมหาศาล ถ้าอาจารย์เฟลดัสไม่ได้บอกให้ผมเหลือเอาไว้กอล่ะ 2 ต้น เพื่อทำพันธ์ต่อ คงมีการสูญพันธ์กันล้างแหละครับ และยาที่ผมทำพิษที่ผมทำได้จะโดนอาจารย์เฟลดัสยึดไปเพื่อนำไปขายหรือใช้ประโยชน์เอง ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ เพราะถ้าให้เด็กอย่างผมไปเร่ขาย คงขายไม่ออกหรอกครับ แถมรายได้จากการขายยาพิษผมก็ได้รับด้วยครับ แถมราคาต่อหม้อถือว่าดีเลยที่เดียว อย่างหม้อที่อาจารย์เฟลดัสบอกว่าใช้ได้ หม้อนั้นผมได้ถึง 10 เหรียญทองเลยที่เดียว ส่วนหม้ออื่นๆก็ลดหลั่นกันไป 

    ส่วนเงินก็ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ต้องมาซื้อสมุนไพรสำหรับทำยาวิเศษ ซึ่งร้านที่ของอาจารย์นาตาชา เรียกได้ว่า ซื้อร้านตัวเอง ปรุงร้านตัวเอง และขายร้านตัวเอง ส่วนยาวิเศษที่ตอนนี้ผมกำลังพยายามเรียนปรุงอยู่คือยาที่ช่วยในการผ่อนคลายครับ เป็นยาที่ไว้ใช้ช่วยในการรักษาแผลสดหรือสำหรับผู้มีปัญหาในการนอนเพราะคุณสมบัติของมันคือช่วยสมานแผลและให้กลิ่นผ่อนคลาย โดยส่วนประกอบหลักก็ดอกไลโมแหละครับ แต่เป็นส่วนของรังไข่ของดอก กับเถาวัลย์กินเลือด เรียกได้ว่าเป็นยาวิเศษที่ทำจากพิษขนาดแท้ เพราะเถาวัลย์กินเลือดชื่อก็ตามตัวครับ มันกินเลือดสัตว์อสูรต่างๆเป็นอาหาร โดยพวกนี้จะอยู่ตามต้นไม้ หากสัตว์ตัวไหนไม่ระวังก็มีโดนตอดบ้าง แต่ถ้าเผลอไปโดนเมือกที่อยู่ตรงปากของมันจะสลบไป เรียกได้ว่าโดนที เตรียมไปสบายได้เลย 

    ส่วนการเตรียมนั้นยากมากๆเลยล่ะครับ เพราะต้องลอกผิวชั้นนอกของเถาวัลย์จากนั้นก็เริ่มรอกผิวชั้นใน และขูดเมือกที่ติดอยู่กับผิวชั้นในออกมา ส่วนเมือกนี้แหละครับที่ช่วยในการสมานแผล ผมไปเจอเถาวัลย์นี้ตอนมันกำลังเขมือบตระต่ายอยู่ ผมเลยซัดมีดพกไปตัดมันครับ (แน่นอนว่าหลายครั้งมากกว่าจะโดน และหลายร้อยครั้งกว่าจะขาด) แต่ได้มาเมตรนิดๆเพราะเถาวัลย์พวกนี้อยู่เป็นกอ แต่ที่ผมไปเจออยู่เพียงไม่กี่เถาเลยตัดมาได้ 

    จนมาถึงปัจจุบัน ผมเรียนปรุงยาพิษได้เกือบร้อยชนิดแล้ว แต่ยาวิเศษนั้นเรียนได้แค่ไม่กี่สิบชนิด แต่ส่วนมากเป็นยาวิเศษที่มีผลครอบคลุมโรคต่างๆอยู่ ไม่เหมือนยาพิษที่ชนิดนึงจะเป็นเฉพาะทางในการใช้เท่านั้น ตอนนี้ผมก็ได้แต่เรียนไปเรื่อยๆครับ รออีกไม่ถึง 2 เดือน เหล่าคณะจากมหาวิทยาลัยต่างๆก็จะมาแล้ว ผมชักจะตื่นเต้นอีกแล้วสิ ว่าตัวเองจะใช้เวทย์ได้รึเปล่า และถ้าใช่ได้ผมจะได้เป็นธาตุอะไรกันน้า

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ครั้งแรกๆที่ข้าสอนเจ้าลูกศิษย์คนใหม่ที่ยัยแม่มดส่งมาให้ ข้าก็กะว่าจะแกล้งเจ้าหนูนี่แก้เบื่อเสียหน่อย และก็ถือเป็นการฝึกเล็กน้อยๆไปด้วย ถึงแม้ว่าเท่าที่ดูรูปร่างของเจ้าหนูนี่จะสูงใหญ่เกินวัยไปแล้ว แต่พื้นฐานที่ดีย่อมดีกว่าเดิมย่อมไม่เสียหายอะไรนี่

    “ถ้าเจ้าอยากเรียนการปรุงยาจากข้า เจ้าต้องหาพืชและอุปกรณ์เอง ข้าจะไม่ช่วยอะไรกับเจ้าทั้งนั้น”

    หลังจากนั้นทุกๆครั้งเจ้าหนูนี่จะแบกห่อผ้าขนาดใหญ่พอๆกับตัวของมันไว้กลางหลัง ข้าถามว่าสิ่งนั้นคืออะไร เจ้าหนูก็คลี่ห่อผ้ายักษ์นั้นให้ข้าดู

    “ส่วนมากก็เป็นพืชมีพิษที่อาจารย์ให้ผมไปหาอ่านมา กับพืชแปลกๆที่ผมเห็นว่ามันน่าสนใจดีครับ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมเหลือไว้กอละ 2 ต้น ตามที่อาจารย์บอกเลย”

    ไม่พูดเปล่า เจ้าเด็กนี่ยิ้มแฉ่งกลับมา เหมือนไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเลย แล้วนี่อะไรกัน ดอกไลโม หญ้าคริมซัม เถาวัลย์กินเลือด หญ้าน้ำตาสวรรค์!!!

    “เจ้าหนู เอาหญ้านี่มาจากไหนและเก็บน้ำค้างของมันมาไหม”
    “อ้อ เก็บมาครับ เห็นสีมันสวยดี แต่ว่ามันมีน้อยไปหน่อยนะครับ ผมเอามาดูเล่นแล้วเผลอทำหก”

    เจ้าหนูยื่นขวดแก้วขนาดเล็กมาให้ ของเหลวข้างในเป็นสีฟ้าสว่างอมม่วงชมพู น้ำตาสวรรค์จัดว่าสิ่งล้ำค่าและขยะในเวลาเดียวกัน ถ้าปรุงมันดีๆละก็ จะเสริมสมรรถภาพของผู้ดื่มได้เป็นอย่างมหาศาล แต่มันมีข้อเสียอย่างมหาศาล เพราะมันต้องใช้ส่วนในส่วนหนึ่งของร่างกาย อย่างเช่นเลือด เนื้อหรืออย่างเจ้าหนูนี่คงเป็นเขา และถ้าร่างกายไม่อาจรับประโยชน์ไว้ได้ ยานี่จะกลายเป็นยาพิษที่คร่าชีวิตผู้ดื่มได้ในทันที ของอันตรายแบบนี้ไม่ควรเก็บไว้กับเจ้าหนูนี่ มันอันตรายเกินไป

    “ถ้าข้าจะขอน้ำค้างนี้จะได้ไหม แต่ข้าไม่ขอเปล่าหรอกนะ เจ้าอยากได้อะไรรึเปล่าละ”
    “จริงๆแล้วอาจารย์จะเอาไปก็ได้นะครับ ผมไปดูสรรพคุณในหนังสือมาแล้ว น้ำค้างนี่มีดีแค่สีสวยแหละครับ แต่ถ้าอาจารย์เสนอผมก็ขอรับไว้ล่ะนะครับ หึหึ”

    ดูท่าเจ้าหนูนี่จะไม่รู้สรรพคุณที่แท้จริงของน้ำตาสวรรค์สินะ นั่นก็ไม่แปลกเท่าไหร่ คนที่รู้เรื่องสรรพคุณของน้ำตาสวรรค์ มีแทบนับหัวได้ แต่ก็ดีแล้วละ รู้ไปจะยุ่งยากเปล่าๆ

    “เจ้าต้องการอะไร เงินทอง หรือสมุนไพรหายาก ว่ามา”
    “ไม่เอาหรอกรับของพรรณ์นั้น ข้าขอให้อาจารย์สอนทุกๆอย่างแก่ผมแค่นั้นแหละครับ”
    “ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้น แต่ข้าให้ของอีกอย่างหนึ่งละกัน”
    “อะไรหรอครับ?”
    “สร้อยเก็บของ ของข้าเอง พอดีมันเก่าแล้ว เป็นของเก่าของข้าเอง พอดีไม่อยากให้ใครมาว่าข้าได้ว่าให้ลูกศิษย์ตัวเอง ทำตัวแบกของเหมือนพวกบ้าหอบฟาง”

    สร้อยที่ข้าให้เจ้าเด็กนั้นเป็นสร้อยที่ข้าลงมือทำเองกับเพื่อนสนิทของข้า แต่มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หลังจากเกิดเรื่องนั้น ตัวสายสร้อยเป็นแร่อดาเมนเทียม แร่ที่ปกปิดร่องรอยและส่งเสริมเวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี ข้าไปเจอแร่ก้อนนี้เข้าตอนหลบหนีจากพวกทางการ เลยเอามาให้’ดอมม์’เพื่อนของข้า แต่ไปๆมาๆกลายเป็นสร้อยลงอักขระของข้าซะงั้น แถมมีโกเมนสุดยอดแร่กักเก็บพลังเป็นของแถม

    “ขอบคุณมากครับ ผมลองไปดูที่ตลาดมา เก็บของได้ 100 กิโลกรัม แต่ก็ยังแพงสุดๆไปเลย ว่าแต่เส้นนี้ใส่ได้กี่กิโลฯหรอครับ”
    “ไม่รู้สิ ข้าเองก็จำไม่ได้แล้ว เอ้อ! จะว่าอะไรไหมถ้าข้าขอเศษเขาของเจ้าหน่อย”
    “ได้ครับ ยังไงผมก็ต้องเหลามันหน่อยแล้ว ตอนนี้ชักทื่อๆแล้วเหมือนกัน”
    “เดี๋ยวนะ เจ้าใช้เขาต่อสู้ด้วยรึ”
    “อ่อ เปล่าครับ แต่ข้าชอบให้มันดูแหลมมากกว่า ดูสวยดี”

    ก็ยอมรับตามตรงว่าเขามีเข้ม รวมๆกับสีผิวและหูที่ยาวของเอลฟ์ รวมๆกันแล้วเจ้าหนูนี่ก็ดูดีเหมือนกัน 

    ตอนนี้ก็มีคนลองยาแล้ว ที่เหลือก็ปรุงยาแก้พิษเผื่อเอาไว้ ว่าแล้วไปทำเลยดีกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×