ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction My Gang ภาคแรก

    ลำดับตอนที่ #3 : ข่าวร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 55


    ก๊อก ก๊อก~

    “ขออนุญาตครับ”

    “เชิญ” เสียงของชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ เข้ากับโต๊ะไม้อย่างดีขานรับ

    “รายงานการประชุม...” ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลกล่าวขึ้นทันทีหลังจากมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน

    “แล้วคดีในความรับผิดชอบของคุณไปถึงไหนแล้วล่ะ สารวัตรฮยอนจุง”

    “เอ่อ...ผมกำลังสืบค้นข้อมูลอยู่ครับ คาดว่าคงไม่เกินเดือนหน้า”

    “มันจะไม่นานไปเหรอคุณ กว่าจะจับตัวได้ ของมีค่าคงหมดโลกก่อน” ชายวัยกลางคนที่มียศสูงกว่าเปรยหน้าเครียด สร้างความอึดอัดขึ้นภายในห้อง

    “ผม...”

    “เอาล่ะ ผมว่าคดีนี้คงหนักไปสำหรับคุณ ผมได้ประสานงานกับทาง FBI เมื่อไม่นานมานี้ คาดว่าอีกไม่นานคงจะส่งกำลังเสริมมา”

    “เอ่อ... ครับ”

    ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรมากนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้รับคำอนุญาต ชายหนุ่มสองคนในชุดไปเวทก็เข้ามาในห้อง คนหนึ่งมีผมสีดำและนัยน์ตาสีเหลืองดูเย็นชา อีกคนมีผมสีทองและนัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์แลดูหงุดหงิดชอบกล(?)

    “พูดถึงก็มาพอดี เชิญนั่งก่อน” พูดพร้อมกับผายมือไปยังโซฟาชุดภายในห้อง

    “คุณก็มาด้วย สารวัตร”

    “ครับ”

    เมื่อทั้งหมดนั่งลงที่โซฟาชุดแล้ว การสนทนาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

    “ผมจะให้คุณมาสมทบการปฏิบัติงานของสารวัตรฮยอนจุง พวกคุณคิดว่าอย่างไรบ้าง”

    “ผมทำคนเดียวได้” ชายหนุ่มผมดำที่เงียบอยู่นาน เอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรกในการสนทนา

    “ผมคิดว่าเราควรแยกกันปฏิบัติงานมากกว่า ถ้าเห็นท่าไม่ดีค่อยมาสมทบทีหลัง” ชายหนุ่มผมสีทองออกความเห็น

    “คุณคิดว่าไง สารวัตร”

    “ผมเห็นด้วยกับ คุณ...” เขาพูดพร้อมกับพยักเพยิดไปทางชายหนุ่มนัยน์ตาสีม่วง

    “ลอเรนซ์ ดอร์น”

    “ครับ ผมเห็นด้วยกับคุณ”

    ชายวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยสรุป

    “งั้นตกลงตามความเห็นของคุณลอเรนซ์”

    “ครับ” ฮยอนจุงตอบรับ

    “ผมฮยอนจุง คิมฮยอนจุงครับ” เขาบอกพร้อมกับโค้งตัวน้อย ๆ

    “ลอเรนซ์ ดอร์นครับ”

    “เต๋า เร็น” ชายหนุ่มผมดำพูด

     

    ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านเข้ามานภายในห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย ชายหนุ่มผมดำที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงมองดูกระดาษ 6-7 แผ่นในมือด้วยสายตาไร้อารมณ์

    “ฉันจะจับพวกเธอให้ได้ภายในคืนพรุ่งนี้” เขาเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มเย็น

     

    “ฮัลโหล นามิ เป็นไงบ้าง”

    //สัญญาณของจีอุนหายไป เราเลยว่าจะให้แกไปดูมันอีกที//

    “แล้วเอมิล่ะ”

    //กำลังไปตรวจสอบสถานที่ที่สัญญาณของจีอุนขาดไป พีโกะกำลังไปหาจาวิ ทางนั้นรายงานมาว่าเจอแมวที่มีปลอกคอเขียนว่า L1JK//

    “งั้นจะให้เราไปทำอะไรอ่ะ”

    //ไปหาทางเข้าทางอื่นนะเสะ เอาอเมทิสต์ L1JK มาให้ได้//

    “เออ ๆ จะรีบไป” เจนนี่กดตัดสายจากนามิ เดินไปเปลี่ยนชุดเป็นสีดำสนิท เตรียมอาวุธให้พร้อมลุยเต็มที่

     

    “เอ้านี่ อุปกรณ์ส่วนของแกนะ” นามิพูดพลางยื่นหูฟังให้ “แกไปทางปีกตะวันตกของคฤหาสน์นะ ไปดูทีว่าพอจะลักลอบเข้าไปได้บ้างมั้ย”

    “อืม” บทสนทนาสั้น ๆ หลังเจนนี่ที่รีบมาถึงภายในเวลาชั่วโมงครึ่ง และตอนนี้เธอก็กำลังสวมอุปกรณ์อย่างเร่งรีบ

    “เอาล่ะ เราไปเลยนะ”

    “อืม ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะส่งข่าวให้”

    “รับทราบ” เจนนี่หันหลัง พุ่งตัวไปยังคฤหาสน์ปีกตะวันตก และปีนกำแพงรั้วเข้าไปอย่างเงียบเชียบ

    หญิงสาวในชุดสีดำอำพรางไปกับความมืดเร่งฝีเท้าอย่างแผ่วเบา ก็พบว่ามีหน้าต่างชั้นสองของคฤหาสน์เปิดอยู่ เธอตัดสินใจเหวี่ยงเชือกไต่เข้าไปในคฤหาสน์

     

    ทางด้านพาเอมิที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ก็ยังคงสำรวจสถานที่และความเป็นไปได้ที่จีอุนจะหายไป

    “ปัง!!” กระสุนปืนเฉียดเส้นผมของเอมิไป เธอหันขวับมาทันที หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะ

    “ปืนกล!!” เธอวิ่งหลบไปทางขวา พร้อมกับที่กระสุนสาดไล่มาตามทางที่เธออยู่ ร่างบางกระโดดข้ามแนวกระสุนไปทางซ้าย ก่อนจะยิงปืนตรงเข้าที่เซนเซอร์ด้านบนกระบอกปืน

    เมื่อเซนเซอร์เสียไปแล้ว ปืนกลก็ค้างนิ่งอยู่กับที่ แม้ว่าจะยังคงสาดกระสุนใส่ แต่เอมิก็สามารถเดินอ้อมไปด้านหลัง และกดปิดที่สวิตช์ฉุกเฉินได้

    นัยน์ตาสีน้ำตาลของเอมิกวาดมองไปรอบ ๆ พลางบ่นในใจ ‘ไหงเมื่อกี้ไม่เห็นมีปืนกลเลยนี่ มาจากไหนเนี่ย’ มือบางกดเรียกสัญญาณติดต่อถึงนามิ

    “แม่ เค้ามาสำรวจที่นี่แล้ว ไม่เจอร่องรอยอะไรเลย นอกจากปืนกลอ่ะ”

    //สัญญาณของจีอุนหายไปที่นี่จริง ๆ อ่ะ พีโกะซามะก็บอกว่าจีอุนติดต่อไปบอกว่าเจอ L1JK ที่นี่อ่ะ//

    “เค้าไม่เจออะไรเลยนะ”

    //ลองดูอีกที เผื่อเจอร่องรอย//

    “อือ ๆ” แล้วนามิก็ตัดสัญญาณ เอมิถอนหายใจ ไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริง ๆ เธอก้มลงมองบนพื้น แล้วก็เจอรอยอะไรบางอย่าง

    พื้นหญ้ามีอยู่บริเวณหนึ่งที่มีบางจุด ยอดใบปักลงพื้นดินเหมือนถูกพื้นดินหนีบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปไม่ได้

    พาเอมิรีบตรงไปยังจุดนั้น ลองใช้ปืนกระแทกพื้นแรง ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้พื้นหญ้าตรงนั้นเคลื่อนที่เลย

    ปัง! ปัง! ปัง! กระสุนปืนถูกยิงไปยังรอยต่อที่ดูมีพิรุธ แต่กระนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “ชักโมโหแล้วนะ! ฮึ่ยยะ!!” ร่างเล็กกระโดดเหยียบลงบนพื้นหญ้าสุดแรง ทันใดนั้นพื้นหญ้าบริเวณนั้นก็ยุบลงไป พลันร่างของพาเอมิก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมเล็ก ๆ นั้นทันที...

    ครืด~ แผ่นหญ้าแผ่นใหม่ถูกเลื่อนมาปิดปากหลุมอย่างมิดชิดเหมือนเช่นเดิม

    โชคดีที่พาเอมิตั้งสติทัน เธอจึงตั้งท่าลงกระทบพื้นได้โดยไม่บาดเจ็บอะไร

    “ดีนะที่เป็นเรา ถ้าเป็นจาวิหรือเจนนี่คงตายคารูไปแล้ว”

    เธอเดินไปตามทางที่ค่อนข้างมืดสลัว และพบกับประตูห้องที่มีแสงสาดส่องออกมา เอมิค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างใคร่รู้ พร้อมตั้งท่าถือปืน ฟึ่บ!

    “หยุดนะ!!”

    บุคคลในห้องหันมาจ่อปืนใส่พาเอมิในท่าเดียวกัน แต่แล้วต่างคนก็ต้องตะลึง

    “จีอุน!!”

    “พาเอมิ!!”

    ทั้งสองทำหน้าเหวอ ก่อนจะค่อย ๆ ลดปืนลง

    “นี่มันอะไรกัน!!” เอมิพูดอย่างตกใจก่อนจะมองสำรวจไปรอบห้อง มันเป็นห้องปฏิบัติการเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์ที่ฉายภาพกราฟ แผนภูมิ ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมของคฤหาสน์ พร้อมกันนั้นยังมีคอมพิวเตอร์อย่างดีตั้งอยู่อีก 2 เครื่อง

    “ฉันโดนผู้คุ้มกันคฤหาสน์ทำร้ายแล้วส่งมายังที่นี่ แต่รู้มั้ย ที่นี่มีข้อมูลของคฤหาสน์ รวมทั้ง L1JK เพียบเลย ฉันกำลังแฮกระบบเอาข้อมูลออกมาอยู่”

    “แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่กับดัก” เอมิเริ่มกังวล

    “ฉันดูข้อมูลแล้ว มันเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ฉันเคยทำภารกิจมาก่อนหมดทุกอย่าง เชื่อถือได้แน่” จีอุนพูดอย่างมั่นใจ

    “แต่เราจะทำอะไรได้ ในเมื่อติดต่อคนอื่นไม่ได้ เราก็เหมือนถูกขังอยู่ในนี้นั่นแหละ!”

    “เออว่ะ” จีอุนทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

    “ชีวิตเหอะ!”

    “เดี๋ยวสิ ดูนั่น!” จีอุนชี้ไปยังจอภาพจากกล้องวงจรปิด

    “นั่นพีโกะ! ส่วนนั่นเจนนี่ อ้ะ จาวิด้วยนี่นา” ทั้งสองสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของทุกคนได้หมดจากห้องควบคุมนี้ ว่าใครอยู่ที่ไหนบ้าง

    “แล้วนี่...” จีอุนกดแผงควบคุมสองสามที ก็ปรากฏภาพห้องลับห้องหนึ่ง บริเวณกลางห้องคือ L1JK ของแท้ที่ตั้งโชว์ตระหง่านอวดความงดงามท่ามกลางห้องที่มืดมิด

    “ถึงเราจะติดต่อคนอื่นไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุมทุกอย่างจากห้องนี้ได้ และเราจะต้องทำให้คนอื่นหา L1JK ให้เจอ เพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จโดยสมบูรณ์!”

     

    “แล้ว L1JK มันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย!!”

    เจนนี่พูดพลางทำหน้าสงสัย ห้องก็เต็มไปหมด มันห้องไหนล่ะ หญิงสาวพูดพลางเดินมาเรื่อย ๆ จนสุดทางและพบกับห้องหนึ่ง

    ประตูมีขนาดใหญ่มาก สูงประมาณ 3 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นของยุคสมัยโบราณ แบบกรีกผสมโรมัน ลูกบิดของประตูมีลักษณะแปลกตา

    “ข้างในมีอะไรน่ะ ลองดูหน่อย เผื่อจะเป็น L1JK “

    เจนนี่พูดเสร็จ บิดลูกบิดประตูออก

    “ว้าว สวยจัง”

    ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย หลากสีสัน (เอ๊ะ กลางห้องมี?) และกลิ่นหอมของดอกไม้ทำให้หญิงสาวรู้สึกง่วงนอน

    “อ่ะ... นี่มัน ยาสลลนี่”

    และหญิงสาวก็ล้มลง และความมืดได้ควบคุมเธอเสียแล้ว

     

    ร่างของหญิงสาวผมดำ นามว่า พีโกะ ได้ตรงไปทางด้านข้างของคฤหาสน์เพื่อพบจาวิ ‘ตามที่จาวิสงสัย มันจะใช่แมวตัวนั้นเหรอ’

    ในที่สุดเธอก็มาถึง

    พบจาวินั่งกอดแมว ที่คอของแมวนั้นมีปลอกคอที่เขียน L1JK

    “พีจัง แมวตัวนี้อ่ะ ที่เราบอก”

    “ไหน เอาปลอกคอมาดูสิ”

    ว่าแล้วจาวิก็นำปลอกคอให้พีโกะดู

    “นี่มันของปลอมน่ะ แกดูไม่ออกหรอ”

    พีโกะพูดพลางอารมณ์เสีย และโยนปลอกคอทิ้ง

    “แต่ยังไงเค้าว่าแมวตัวนี้น่ารักดีนะ” จาวิพูดพร้อมกอดแมว

    “เออ... แกก็รับเลี้ยงไปละกัน”

    “แล้วเราจะทำไงดีอ่ะ”

    “แกลองติดต่อนามิดูสิ”

    “อือ”

    “แล้ว... คนที่ใส่ชุดสีดำตรงใครน่ะ”

    “อ๋อ นี่น่ะหรอ ศัตรูน่ะ ฉันจัดการไปแล้วล่ะ”

    “อืม งั้นแกติดต่อหานามิแล้วกัน เราจะตามไปสมทบกับเอมิซะหน่อย” หญิงสาวผมดำขลับพูดก่อนที่เธอจะหายไปยังหลังคฤหาสน์อีกครั้ง

     

    ในขณะนั้นเอง ก็มีการติดต่อจากบอสถึงทุกคน

    “ไงสาว ๆ ภารกิจไปถึงไหนแล้วเอ่ย?” โชเซเอ่ยอย่างรื่นเริง

    “จะไปถึงไหนได้ล่ะ สัญญาณของเอมิกับจีอุนก็หายไปที่เดียวกัน หาสาเหตุก็ไม่ได้ ส่วนเจนนี่ติดต่อไปก็ไม่ตอบกลับ” นามิที่เป็นศูนย์กลางการสื่อสารบ่นอย่างอารมณ์เสีย

    “บอส ฉันว่าถอนกำลังกันก่อนดีไหม” จาวิกะพูด

    “ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกน้า~ เพราะผู้ว่าจ้างบอกว่า ถ้าเอา L1JK มาไม่ได้ จะเรียกค่าจ้างที่จ่ายมาแล้วคืนตั้ง 10 เท่าแหนะ แล้วค่าจ้างส่วนนั้นโชเซก็ใช้ซื้ออุปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจให้พวกเธอไปหมดแล้วด้วย” จบคำพูดของบอสตัวยุ่ง โจรสาวทั้ง 3 ก็ได้แต่คิดสิ่งเดียวกัน

    “(ไอ้บอสบ้าเอ๊ย)”

    “ยังไงก็พยายามกันต่อไปละกัน อ่อ มีข่าวร้ายจะบอกอีกข่าว ตอนนี้ทางตำรวจได้เชิญ FBI มาร่วมในภารกิจเปิดโปงองค์กรของเราแล้ว ระวังตัวให้ดีล่โชคดีล่ะสาว ๆ ... ตื้ดดด”

    หลังเสียงสัญญาณถูกตัดไป ผู้ที่ได้ยินข่าวร้ายทั้งสามคนก็ได้แต่นิ่งเงียบ จนหญิงสาวผมสีน้ำตาลแดงต้องพูดขึ้น เพื่อทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น

    ''สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก จาวิกะตกลงที่ปลอกคอแมวมีL1JKไหม" นามิพูดเสียงเคร่งเครียด

    "ไม่อ่ะ มันเป็นของปลอม"

    "งั้นเอางี้ พีโกะอยู่ที่สวนหลังคฤหาสน์ใช่ไหม แกลองหาตามพื้นหรือผนังดูให้ดีล่ะ มันอาจมีประตูกลซ่อนอยู่ก็ได้"

    "โอเค" พีโกะรับคํานามิ และเริ่มหาทางไปหลังคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว

    "ส่วนเราจะไปตรวจดูตรงที่เจนนี่หายตัวไป จาวิแกไปรอสมทบเราตรงห้องริมสุดด้านในของคฤหาสน์ชั้นสอง"

    "หม่าา ไม่ต้องออกมาจากรถหรอก เผื่อมีความคืบหน้าอะไรเกิดขึ้นอีก เดี๋ยวเค้าไปเอง" จาวิกะพูด

    "อืม ก็ได้"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×