ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Milena สายเลือดต้องคำสาป

    ลำดับตอนที่ #6 : [RE]บทที่5 : ตลาดกลางนคร

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 51


    บทที่ 5 ตลาดกลางนคร

     

    เช้าตรูวันต่อมา มิเลน่าตื่นขึ้นอย่างงัวเงียตามเสียงปลุกของคาเรีย ตั้งแต่ท้องฟ้าภายนอกยังไม่สว่างดี แสงเรืองๆส่องแสงลิบขอบฟ้า  เธอตั้งใจจะฟุบหลับต่อแต่คาเรียรีบคะยั้นคะยอให้ตื่นเพราะมีอะไรจะให้

                    เนตรสีแดงเบิกโต เมื่อเห็นสิ่งที่คาเรียเรียกว่า 'กระโปรง' กระพือไปมาตรงหน้าราวกับอวดความสวย ตอนแรกเด็กสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากที่จะต้องใส่มัน จึงกล่าวปฏิเสธจะไม่ใสท่าเดียว จนในที่สุดคาเรียยอมแพ้ยอมให้มิเลน่าใส่กางเกงขาสั้นสีฟ้าตัวสวยและเสื้อสีขาวลายเปลือกหอยสีแดงแทน

                    มิเลน่าหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่มีเปลือกหอยเล็กๆประดับแซมอยู่อย่างสวยงาม เธอรู้สึกพิกลเล็กน้อยที่ได้ใส่เสื้อสวยๆและใหม่ มันเข้าได้ดีกับเธออย่างไม่น่าเชื่อ 

                    คาเรียกำลังง่วนอยู่กับการหารองเท้าที่พอดีกับขนาดเท้าของมิเลน่า  เธอใส่ชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มประดับลูกปัดสีโทนเย็นเป็นลายแปลกๆ  มิเลน่ามองพลางแอบอิจฉาลึก ๆ ที่เพื่อนสาวของเธอนั้นดูสวยโดดเด่นกว่า  พอดีกับที่คาเรียหันกลับมาพร้อมกับรองเท้าผ้าสีฟ้าอ่อนใบลายเรียบๆที่มีประกายวิบวับแปลบปลาบเมื่อกระทบกับแสงไฟ

                    เมื่อคาเรียเห็นเด็กสาวทำตาโต เธอจึงพูดยิ้มๆอย่างพออกพอใจ

                    "รองเท้าประกายเพชร  ใช้สีของแมงกระพรุนทะเลน้ำลึกสีน้ำเงิน พอสกัดออกมาก็จะได้สีฟ้าสวยแบบนี้แหละ ถูกใจใช่ไหมล่ะ" มิเลน่าหยักหน้าน้อยๆ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ชอบนักหรอกแค่เห็นมันสวยดีเท่านั้น

    เธอเก็บความคิดนี้ไว้ลึกๆ  ตอบกลับไปว่า

    "อื้ม ชอบมากเลย  เราจะไปกันหรือยังล่ะ"

    "เดี๋ยวนะ ฉันว่าเราไปชวนไนล์รีกับเรนดีไหม"

    "เอาสิ"

    ทั้งคู่เดินออกจากห้องพักโดยที่ไม่ลืมจะล็อคประตู  มิเลน่าเหลือบไปมองห้องพักข้าง ๆ ที่ปิดตายด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ เพราะเมื่อคืนเธอเกือบจะต้องไปนอนข้างถนนเพราะเจ้าห้องพักระบบรักษาความปลอดภัยจัดนั่นอยู่แล้ว

    ชั้นที่ไนล์รีพักอยู่คืออีก3ชั้นถัดลงมา ทีแรกคาเรียลองเคาะเรียกดู ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมาเธอจึงลองบิดลุกบิดประตูดู ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อค และเมื่อก้าวแรกที่เหยียบเข้าไปในห้องนั้นเอง มีถังน้ำใบหนึ่งลอยหวือมาพร้อมกับน้ำเย็นๆที่สาดใส่ทั้งคู่จนเปียกปอนไปทั้งตัว มิเลน่ายืนค้างด้วยความตะลึง ส่วนคาเรียนั้นยิ้มหวานให้ไนล์รีที่เดินออกมาจากที่ซ่อนด้วยสีหน้าจ๋อยๆ

    "เอ้อ...ขอโทษนะ เหะๆนึกว่าขโมยเข้ามาน่ะ"

    มิเลน่ากับคาเรียยิ้มแห้งๆกลับมาเป็นคำตอบ ทำให้ไนล์รีรีบกระวีกระวาดเชื้อเชิญให้ทังคู่เข้าไปเช็ดตัวให้แห้งเสียก่อน คาเรียรีบปฏิเสธไปพร้อมกับถามว่าจะไปซื้อของด้วยกันมั้ย

    ไนล์รีหูผึ่งขึ้นมาทันที  เจ้าตัวรีบบอกไปทันทีว่าจะไปด้วยแน่ ๆ และขอเวลาเตรียมตัวอีก 2-3นาที  ให้คาเรียกับมิเลน่าเข้ามานั่งพักข้างในก่อน แล้วหายวับไปในห้องน้ำ ในห้องของไนล์รีนั้นมิเลน่ามั่นใจว่าไนล์รีคงจะใช้เวทเคลื่อนย้ายเช่นเดียวกัน ภายในห้องแต่งแต้มไปด้วยสีโทนหวาน ๆ ระบายลูกไม้และตุ๊กตามากมายตามชั้นข้างฝา  เธอรู้สึกราวกับอยู่ในบ้านตุ๊กตาแล้วหางตาก็เหลือบไปเห็นหีบเล็กๆใบหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง

    ผ่านไปซักพัก ประตูห้องน้ำก็เปิดผ่างออก มิเลน่ากับคาเรียจ้องมองไปที่ประตูอัตโนมัติ ไนล์รีในเสื้อคอเต่ากระโปรงเอี๊ยมสีชมพูแป๋นเดินยิ้มก้าวออกมาพร้อมกับเรนที่ทำหน้าบูดซึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหนอีกคน

    "อ้าว เรน"

    "อย่าถาม" เรนชิงพูดอย่างหงุดหงิด แกะแขนที่คล้องตัวอยู่ออกไป ชี้ไปที่ไนล์รี

     "อยู่ๆเข้ามาลากไปอาบน้ำ คนกำลังฝันดีอยู่แท้ๆเชียว"

    "ไม่เอาน่า เรากำลังจะไปเที่ยวกันนะ" ไนล์รีจิ้มหน้าผากเพื่อนเบาๆ

    "ไปไหน?"

    "ตลาดน่ะ"(มิเลน่า)

    "จริงเหรอ ก็ดีเหมือนกัน" เรนลูบผมสีเพลิงของตัวเองท่าทีลอย ๆ "ฉันต้องไปตัดผมซะหน่อย เดี๋ยวนี้ชักยาวเกิน น่ารำคาญจริงๆ"

    ไนล์รีถลึงตาโต รีบส่ายมือ ส่ายหน้าพัลวัน

    "ไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด!"แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา จนในที่สุดคาเรียก็ต้องยกมือห้ามศึก ก่อนจะพากันไปลงชื่อออกจากหอเพื่อเดินทางไปตลาด

    ....ว้าย!!!!!ทำไม มันเร็วอย่างนี้!!!!!.....

    หมอกสีเทาขนาดที่คนสี่ยืนอยู่ได้สบายๆเคลื่อนที่ในอากาศด้วยความเร็ว มิเลน่ารู้สึกถึงสายลมเย็นๆปะทะหน้า นัยน์ตาสีโลหิตเหลือบมองเพื่อนอีกสองคนที่กอดกันกลม เรือนผมยาวสีน้ำเงินเข้มของคาเรียโบกไหวจนยุ่งเหยิง ไนล์รีหยีตาพยายามมองมิเลน่า แล้วตะโกนสุดเสียงว่า

    "มิเล!!! มาอยู่ด้วยกันสิ"

    แต่เสียงที่มิเลน่าได้ยินกลับเป็นเหมือนเสียงพูดเบาๆเท่านั้น เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเบจ ค่อยๆคลานไปหาไนล์รี แล้วนั่งลงใกล้ๆกัน 

    เรนผู้ที่เป็นคนบังคับหมอกหันมามองเพื่อนอีกสามคนแล้วยิ้ม

    "ใกล้ถึงแล้ว ทนอีกแป๊บก็แล้วกัน"เธอตะโกนฝ่าเสียงอื้ออึงของลมที่ดังอยู่ในหู ซึ่งอีกสามคนก็พยักหน้ารับ

    หมอกสีเทาค่อยๆลงจอดที่ลานจอดหมอกขนาดใหญ่ที่พลุกพลานไปด้วยผู้คน เรนกระโดดลงมาจากหมอก เดินไปหาผู้ชายใส่ชุดสีเหลืองซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆอย่างรีบร้อน

    "เรนไปทำอะไรน่ะ"มิเลน่าถามขึ้นลอยๆ พลางลงจากหมอก

    "อ๋อ ไปเอาบัตรที่จอดน่ะ"ไนล์รีเอ่ย แล้วกระพริบตาถี่ๆ "ให้ตายเถอะแสบตาชะมัด"

    "บัตรที่จอด???!!"

    "ก็บัตรไว้สำหรับแสดงว่าเราจอดอย่างถูกกฎหมายไง"คราวนี้เรนซึ่งเดินไปเอาบัตรแล้วเป็นคนตอบ

    "กฎหมายอะไร?"

    "เอ๋ มิเลน่าไม่ใช่คนเมืองนี้เหรอ??"เรนถาม

    "ไม่ใช่หรอก ฉันเป็นคนลาไอรี"

    "แต่ที่ลาไอรีก็มีกฎนี้เมื่อกันนะจ้ะ"คาเรียว่า

    "เหรอ? ฉันไม่รู้หรอก แล้วบัตรนี้มีไว้ใช่ทำอะไรละ"

    "ก็บอกไปแล้วไงไว้แสดงว่าเราจอดถูกกฎหมาย"เรนพูดฉุนๆ แต่พอเห็นมิเลน่าที่ทำท่าไม่เข้าใจอะไรเลยก็เลยเสริมว่า"เพราะว่าที่นี้มีคนใช้หมอกเยอะใช่มั๊ย เขาเลยตั้งกฎว่าไม่ให้จอดในที่สาธารณะ ยกเว้นได้รับบัตรที่จอด" มิเลน่าจึงพยักหน้ารับ

    ทั้งหมดเดินออกจากลานจอดหมอกที่กว้างใหญ่สุดหล้าฟ้าเขียวไปยังซอยใกล้ๆที่ดูเหมือนว่าคนที่มาจอดหมอกจะเดินเข้าไปมากเป็นพิเศษ มิเลน่าเดินรั้งท้ายกับเรน กวาดตามองดูนู่นดูนี่ในซอย ทั้งร้านขายเสื้อผ้า ขายหนังสือ ละลานตา 

    ตอนนี้รู้สึกว่าไนล์รีจะกระดี้กระด้าเป็นพิเศษ ชี้ชวนให้คาเรียดูโน่นนี่อยากเป็นสุขซึ่งแต่ละครั้งคาเรียก็ยิ้มรับเท่านั้น

    "เรน นี่คือตลาดที่ว่างั้นเหรอ"มิเลน่าถามเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆ

    "แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละ ตรงปลายซอยจะใหญ่กว่านี้ นี่โชคดีนะที่มาแต่เช้า ไม่งั้นต้องถูกอัดเป็นปลากระป๋องแน่ๆ"

    "แล้วฉันจะหาของที่ต้องการได้หมดทุกอย่างที่นี่แน่เหรอ"

    "แน่สิ"เรนว่า แล้วส่งยิ้มให้ ซึ่งมิเลน่าก็ยิ้มตอบ "เธอใส่ชุดคาเรียมาเหรอ" เรนถาม พลางกวาดตามองเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีขาว กับรองเท้าผ้าใบ

    "ใช่สิ ก็ฉันไม่มีของติดตัวเลยนี่หน่า เอ่อ...โดนโจรปล้นน่ะ"เรนพยักหน้ารับเมื่อมิเลน่าชี้แจงเสร็จ...

    ซอยเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งผู้คนก็มากขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจของแม่ค้าพ่อค้าขายของ รวมทั้งเสียงของไนล์รี...

    "ว้าว! เราเข้าร้านนี้กันเถอะ หรือว่าร้านนี้ดี เอ..ร้านนี้เถอะ"

    "ไนล์รี เลือกเข้าซักร้านหนึ่งเถอะ"เรนเอ่ยน้ำเสียงติดจะเซ็งๆ

    "ก็ได้ งั้น....เข้าร้านนี้"ไนล์รีว่าแล้วชี้ไปที่ตึกใหญ่ ซึ่งมิเลน่าคาดว่าน่าจะประมาณ 6 ชั้น ไนล์รีซึ่งกระดี้กระด้ากว่าใครเพื่อนก็คว้ามือเรนชุดเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว ทำให้อีกสองสาวที่เหลือเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้

    ภายใน ใหญ่กว่าที่มิเลน่าคิดไว้มาก แบ่งการจัดวางของเป็นส่วนๆอย่างมีระเบียบ ทางโซนซ้ายจะเป็นเสื้อผ้า ส่วนทางโซนขวาจะเป็นพวกเครื่องประดับ โดยมิเลน่าก็ไม่รู้ว่าชั้นอื่นๆจะเป็นเช่นนี้ด้วยรึเปล่า

    เด็กสาวทั้งหมดเดินเลียบไปที่โซนข้างขวาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย อาจจะเป็นเพราะแสงสีสะท้อนวิวับจากเครื่องประดับที่ล่อตาล่อใจผู้ที่เข้ามาเป็นอย่างมาก็เป็นได้ ไนล์รีเดินไปทางชั้นขายกำไลสีสวย ส่วนเรนก็ปลีกตัวไปทางแหวนแนวแฟชั่น ทำให้มิเลน่าที่ยืนมองอยู่ห่างอดอมยิ้มไม่ได้ 

    ...ยังไง ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ แม้แต่เรนก็เหอะ...

    สำหรับมิเลน่ากับคาเรียแล้วทั้งสองก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไรมาก เลยเดินเล่นมองดูนู่นนี่กันอยู่สองคน พลันนัยน์ตาสีโลหิตเหลือบไปเห็นสร้อยเส้นหนึ่งที่อยู่ในตู้กระจก สร้อยที่มีจี้ห้อยเป็นดาบอันเล็กๆที่มีลวดลายสวยงามหาอะไรมาเปรียบได้ มิเลน่ารู้สึกโหวงๆในหัว รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างดึงเธอเข้าไปหา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะวูบหายเข้าไปในกระจก!!!!

    คาเรียซึ่งไม่รับรู้การหายตัวไปของเพื่อน ก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนในที่สุด สายตาก็ตวัดไปเห็นสร้อยอีกเช่นกัน สร้อยลูกปัดสีชมพูผสมทอง เด็กสาวหยุดอยู่ตรงนั้น มองดูสร้อยด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างประหลาด ก่อนที่จะเกิดประกายแวบหนึ่ง แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงของไนล์รีดังแจ้วๆมา

    "คาเรีย ได้อะไรมาบ้างมั๊ย"

    "ไม่จ้ะ"เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีดำประกายน้ำเงิน ที่ค่อนๆไปทางสีครามเอ่น พร้อมรอยยิ้ม"แล้วไนล์รีละจ๊ะ"

    ไนล์รีฉีกยิ้มชูถุงใส่กำไลหลากสีให้คาเรียดู

    "ฉันซื้อกำไลมา โชคร้ายที่ไม่มีกำไลเก่าๆขาย กำลังสะสมอยู่เชียว"

    "อืม"คาเรียพยักหน้ารับ"เรนล่ะ"

    "อยู่แถวนี้แหละ นั่นไง ทางนี้เรน"

    ร่างสูงโปร่งของเรน ในชุดเด็กผู้ชายเต็มตัวเดินเข้ามาสมทบ ตามเสียงเรียกของไนล์รี

     เออนี่"ไนล์รีเปิดปาก ตามประสาคนพูดมาก "ฉันเห็นเธอยืนดูสร้อยนี้อยู่ สนใจเหรอ" คาเรียส่ายหน้าช้าเป็นคำตอบ

    "อือๆๆ"เด็กสาวผมสีม่วงว่า พลางก้มลงอ่านป้ายอธิบายสร้อย "เธออ่านป้ายที่ติดรึยังคาเรีย เมื่อกี้ฉันลองอ่านดู มันเป็นของที่เก็บได้จากทะเล แพงชะมัด แค่เก็บได้เฉยๆ เนี่ยนะ แพงจริงๆ"

    คาเรียมองสร้อยอีกครั้งคราวนี้ไม่ใช่เธอคนเดียวที่มองสร้อย แต่มีเรนด้วย...

    เรนซึ่งสังเกตกิริยาท่าทางของคาเรียตอนมองสร้อยเส้นนี้แวบหนึ่ง มันประหลาดเธอคิด นัยน์ตาสีอำพันจ้องสร้อยเพื่อที่จะสังเกตอะไรบางอย่าง ที่ทำให้คาเรียเป็นเช่นนี้ 

    ...สร้อยทำจากลูกปัดสีชมพูและทอง สีชมพูน่าจะทำมาจาก...อืม...เปลือกหอยเชลล์!!!...ใช่ ลักษณะเหมือนเปลือกหอยเชลล์พันธุ์สีชมพู ส่วนสีทองจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก...ทองคำ...

    เรนยังคงจ้องพิจารณาสร้อยอยู่จนสายตาไปสะดุดกับสัญลักษณ์บางอย่าง...

    ...หอยมุก...สัญลักษณ์เงือก!!!!

    สมองของเรนทำงานอย่างหนัก แต่ก็นึกไม่ออกว่าทำไมคาเรียถึงต้องมองสร้อยด้วยสายตาแบบนั้น จนกระทั่ง...

    "มิเลน่าล่ะ"ไนล์รีถามคาเรีย เด็กสาวเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินมองไปมา มิเลน่าล่ะ!!!!

    ส่วนมิเลน่าที่หลุดเข้ามาในกระจกนั้น มาโผล่ที่ทางเดินแคบๆมืดๆแห่งหนึ่ง

    ...ที่นี่มันที่ไหนกัน...

    เท้าสองข้างของมิเลน่าเริ่มก้าวเดิน เธอไม่อยากยืนอยู่เฉยๆ ร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงบันได ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เลย จึงก้าวเดินต่อไป

    กลุกๆๆๆๆ

    "โอ๊ย!!!"มิเลน่าร้องเสียงดัง นี่เธอตกบันไดมากี่ขั้นกัน ที่นี่มืดและวังเวงเธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

    แสงเรืองๆ เรืองท่จากกระเป๋ากางเกงของมิเลน่า ทำให้เด็กสาวสงสัย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วล้วงกระเป๋าออกมา

    ของที่มิเลน่าเห็นทำให้เธอตะลึง มัน คือ ลูกแก้ว จี้สร้อยคอ และเข็มกลัด ที่เธอเจอในเกวียน!!!! เธอไม่ได้เอามันใส่กระเป๋า แล้วมันมาอยู่ได้ยังไง แต่ก็ช่างเถอะอาศัยแสงเรืองๆของมันไปก่อนก็แล้วกัน จากนั้นเด็กสาวก็ออกเดินอีกครั้ง ลดเลี้ยวไปตามทางของมัน ขึ้นลงบันได ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มิเลน่าหอบหายใจ เธอเหนื่อย เหนื่อยมาก ป่านนี้เพื่อนๆคงเป็นห่วงกันแย่ มีหลายครังที่มิเลน่าคิดจะเดินย้อนกลับ แต่พลังบางอย่างก็ยังคงออกฤทธิ์ให้เธอต่อไป จนในที่สุด....

    "แสง! นั่นไงแสง อยู่ตรงนั่น ฉันเจอทางออกแล้ว"

    ___________________________________________________________

    จะอัพต่ออีกไม่นานนี้แหละ

     




     


                                                     
                                                      
                                        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×