ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Milena สายเลือดต้องคำสาป

    ลำดับตอนที่ #4 : [RE]บทที่ 3 : คนรับใช้ภายใต้กษัตริย์แห่งธารีเลส

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 51



    บทที่ 3 คนรับใช้ภายใต้กษัตริย์แห่งธารีเลส


                   มิเลน่ากับเด็กหนุ่มแปลกหน้าเดินลัดเลาะไปตามตึกรามบ้านช่อง  ผ่านตึกสีส้มแจ๊ดที่มีวงแหวนวงเบ้อเร่อลอยอยู่เหนือตึก  มิเลน่ามองอย่างสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเปิดหูเปิดตาในเมืองกรุงเพราะปกติเธอจะอยู่ในป่ากับมิเรียมและเมติส เด็กหนุ่มจับข้อมือบางๆของมิเลน่าไว้เพื่อไม่ให้คลาดสายตา ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่

                  
                  พวกเขาเดินเท้ามาจนถึงตลาดขนาดใหญ่กลางเมือง ผู้คนมากมายเดินอยู่จะเรียกว่าเดินคงจะไม่ถูก เพราะต่างคนต่างเดินเบียดกันจนแทบไม่มีที่ให้ก้าวเท้าสบายๆ ทุกคน “เลื่อนไหล” ไปตามกัน เด็กหนุ่มเห็นแล้วถอนหายใจเป็นครั้งที่ห้า เท่าที่มิเลน่านับไว้ได้ เธอสงสัยจริง ๆ ว่าเขาจะพาไปไหนกันแน่ ตอนแรกก็ไม่นึกว่าจะพาไปจริงๆ หรอก สงสัยจะว่างมากแฮะ เธอคิดขำ ๆ สายตามองไปที่ใบหน้าเฉยชาของเด็กหนุ่ม

                  ..นายนี่ไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไงนะ...แต่ช่างเถอะ...มันกงการอะไรของเราล่ะ

     
                 จู่ ๆ เขาก็กางแขนออกท่ามกลางผู้คนที่แออัด ท่องพึมพำอะไรบางอย่าง กลุ่มหมอกสีเทาจางๆเริ่มก่อตัวกันเป็นสีเทาใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนมีขนาดใหญ่พอที่จะยืนได้สองคน เจ้าของนัยน์ตาดำประกายน้ำเงินก้าวขึ้นไปบนหมอกแล้วยืนบนนั้น เหมือนกับคนอื่นๆ

     
               "ขึ้นมาสิ"เด็กหนุ่มยื่นมือให้มิเลน่า

            
               "ไม่ดีกว่า ฉัน.."เสียงถอนหายใจครั้งที่หกดังมาจากเด็กหนุ่ม ก่อนเอ่ยปากที่เริ่มจะรำคาญเธอแล้วนิดๆ

               "เชื่อใจฉันไหมล่ะ ?"

               "ไม่ ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลยด้วยซ้ำ"

               "ฉันชื่อ ไรเดล ชื่อไรเดล ส่วนนามสกุลไม่ต้องสนหรอกนะ"

             
               "ฉันชื่อมิเลน่า ทราซินลีน่า"

     
               "เอ้า ขึ้นมาได้รึยังล่ะ"เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงยั้ว

               "คงจะได้มั้ง"มิเลน่าทำหน้าตาลังเล ก่อนก้าวขึ้นหมอกสีเทาหม่นอย่างกล้าๆกลัวๆ

               หมอกสีเทาเริ่มลอยขึ้นเรื่อยๆ จนสูงประมาณตึกสิบชั้น มิเลน่าร้องเสียงหลงพร้อมกับยึดร่างสูงของไรเดลมากอดไว้ เมื่อมันลอยไปข้างหน้า ความเร็วเพิ่มขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น

               มิเลน่าหยีตาสู้กระแสลมแรงที่ปะทะใบหน้า ผมสีน้ำตาลเบจรกรุงรังสะบัดไหว ลมที่พัดมาอย่างแรงทำให้ไรเดลต้องสร้างเกราะกันลมจากพลังเวท ไอเวทค่อยๆประสานกันเป็นรูปครึ่งวงกลมสีเขียวขนาดใหญ่ พอๆกับกลุ่มหมอก มันครอบคลุมเด็กทั้งสองช้าๆลมเย็นเริ่มเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

     
              มิเลน่าค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ เธอรีบผวาออกจากร่างของเด็กหนุ่มทันที ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ

     
              "นายจะพาฉันไปไหน" มิเลน่าถามขึ้นมา พลางนั่งบนหมอกในท่าสบาย ๆ หลังจากยืนมานานพอควรแล้ว

              "ปราสาทดาก์คเร"เสียงตอบกลับอย่างไม่แยแส

              
              "แล้วทำไมต้องไปที่นั่นด้วยล่ะ"

           
              "ที่นั่นเป็นที่เดียวที่เธอจะอยู่ได้โดยไม่เสียเงิน"

              "แล้วจะให้ฉันไปทำอะไรที่นั่น"เธอไม่วายที่จะถามต่อ

              "สมัครผู้ทำงานไง"

               มิเลน่าพ่นลมออกมาทางจมูกอย่างเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่ซักไซ้อะไรไรเดลอีก ทั้งสองปล่อยให้ความเงียบคลอบคลุมไปทั่วหมอก  

     
               ประมาณ นาทีให้หลัง  หมอกเริ่มเคลื่อนตัวช้าลง มิเลน่าตื่นขึ้นจากห้วงภวังค์พอดีกับที่หมอกหยุดอยู่เหนือปราสาทสีดำทะมึนสูงตระหง่าน ระหว่างซอกเขาอันมีชื่อว่าโฟบอส และเดมมอส ไม่ใกล้ไม่ไกลกับหมู่บ้านคนเท่าไหร่

                มิเลน่าฟังไรเดลอธิบายการสมัครคร่าว ๆ ราวกับรู้เรื่องนี้ดี

     
               "แผนกที่เธอสมัครได้ในตอนนี้คือ คนรับใช้ แผนกนี้แบ่งเป็นสามสาย คือ 1.งานบ้านทั่วไป งานที่จะได้ทำก็อย่างเช่น ทำอาหาร ทำความสะอาด และบริการต่าง ๆ แก่เจ้านาย 2.ทำสวนทำไร่ทำนา เช่น ดูแลดอกไม้ แปลงผัก 3.ประยุทธ์ ซึ่งขอข้ามไปเลยก็แล้วกัน ใครจะสมัครสายไหนก็ได้ แต่ควรมีความรู้เกี่ยวกับสายนั้นๆเป็นพื้นฐานไว้ก็ดี ก่อนทำงานจริงจะมีการฝึกงานก่อนเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานจริง เป็นเวลา 1 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ " 

     
               "แล้วไอ้ประยุทธ์นี่คืออะไรล่ะ" มิเลน่าถาม หลังจากไรเดลร่ายยาวเสร็จ ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรมากเท่าไหร่นัก

     
              "มันคล้ายกับงานทหาร แต่จะยากกว่า และอันตรายกว่า"

              "มันเป็นยังไงล่ะ"เธอถามต่อด้วยความสนใจ

              "ที่ยากกว่าก็เพราะเอ่อ...มันยากน่ะ ...ยากก็คือยาก และก็มีทดสอบแบ่งย่อยด้วยศิลปะป้องกันตัวและต่อสู้ที่ผู้สมัครพอจะมีติดตัวอยู่ เช่น ในการใช้ดาบ การใช้ธนู การใช้พลอง การใช้เวท และการป้องกันตัวมือเปล่า แล้วก็ที่อันตรายกว่าเพราะต้องเจองานสมบุกสมบันเกือบทุกเดือน เดือนละประมาณ สองถึงสามสัปดาห์"

                มิเลน่าขมวดคิ้ว จะอะไรนักหนา เป็นทหารว่างั้นเหอะ จะเป็นนักรบหรืออะไรก็แล้วแต่ ยังไงมันก็พวกทหารยามนั่นแหละ

                "นายช่วยลดระดับเจ้าหมอกนี่ลงหน่อย ฉันจะได้รีบๆลงไปสมัคร"เธอสั่ง

                "นี่เธอคงไม่คิดจะไปสมัครสายประยุทธ์หรอกนะ แม่คนช่างสั่ง"

                "ไม่ใช่กงการอะไรของนาย รีบๆลดระดับสิยะ"    มิเลน่าเร้า ไรเดลถอนหายใจ แล้วค่อยๆลดระดับหมอกสีเทาลงจนถึงบริเวณที่ไว้สำหรับรับส่งกัน จากนั้นก็ถอนไอเวทกันลมออกครึ่งหนึ่ง มิเลน่ากระโดดลง เธอหันมายิ้มหวานเจี๊ยบที่น่ากลัวให้ไรเดล ก่อนกล่าวอำลาและขอบคุณ

                "แล้วเจอกัน" ไรเดลยิ้มจางๆให้เด็กสาว ..แล้วหมอกสีเทาค่อยๆลอยขึ้นฟ้าแล้วหายลับไป..

                 มิเลน่าวิ่งเข้าไปในปราสาท ตรงไปยังแถวเข้าคิวคนที่มาสมัครทำงานในห้องโถงขนาดใหญ่ ทุกคนต่างที่มาสมัครล้วนมีอายุไล่เลี่ยกับเธอ มันทำให้เธอสงสัยเป็นอย่างมาก

                ....ทำไม...

              คิ้วของเธอขมวดเมื่อถึงตาเธอที่จะลงชื่อสมัคร หญิงสาวสามคนนั่งอยู่หลังโต๊ะรับสมัครต่างยิ้มแช่มชื่นกันพร้อมหน้า คนแรกผมสีเงิน นัยน์ตามีประกายถึงความมีระเบียบ  แต่ดูไม่น่ากลัว คนที่สองมีร่างท้วมๆหน้าตาดูใจดีแบบป้าๆ คนที่สามนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย เรือนผมสีทองยาวสยายเต็มเผ่นหลัง ใบหน้าแม้อ่อนโยนแต่ดูเข้มแข็ง เธอสวมผ้าคลุมสีดำขลับกับเครื่องแบบสีขาว มีเข็มกลัดรูปดาวหกแฉกประดับอยู่ตรงกลางอก

              มิเลน่าอ่านหัวกระดาษที่อยู่ตรงหน้าของหญิงสาวแต่ละคน แผ่นแรกเขียนว่า ‘ใบรายชื่อผู้สมัคร สายงานบ้านทั่วไปในพระราชวัง ' แผ่นที่สองเขียนว่า'ใบรายชื่อผู้ที่สมัครสายทำสวนดูแลพืชในพระราชวัง'แผ่นสุดท้ายเขียนว่า'ใบรายชื่อผู้ที่สมัครสายประยุทธ์ภายใต้กษัตริย์แห่งธารีเลส' 

        
              เมื่ออ่านจบ มิเลน่าฉุกคิดถึงคำพูดของไรเดล...อันตราย และยาก...ต้องมีพื้นฐาน...งั้นก็เข้าล็อค 

        
               ... น่าสมัคร ... ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเธอ

              เธอจับปากกาขนนกแล้วจุ่มมันลงขวดหมึก  ลงชื่อ-นามสกุล และประเทศที่ตนอยู่ของตัวเอง ลงในกระดาษแผ่นที่สามอย่างไม่ลังเล

                 “เอาล่ะ...เดินไปทางขวามือนะ ตามทางอิฐสีขาว จนถึงโดมแก้ว รออยู่ในนั้น”หญิงผมทองกล่าว มิเลน่าสังเกตว่าแววตาของเธอคล้ายกับใครสักคน แต่นึกไม่ออก เธอเอ่ยขอบคุณ แล้วเดินไปตามทางอิฐสีขาว

               เส้นทางสีขาวนำมาถึงลานกว้างข้างในโดมแก้วใส ภายในมีชั้นวางอาวุธอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเธอเดินมาถึงจุดที่มีคนชุมนุมอยู่ เธอก็เห็นชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังยืนถกเถียงกับเด็กสาวสามคน กับเด็กหนุ่มอีกหลายคนที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างหวาดหวั่น

     
              "เกิดอะไรขึ้นน่ะ" สายตากว่าสิบคู่หันกลับมามองผู้มาเยือน  ชายร่างใหญ่บึกบึนที่ทะเลาะกับเด็กสาวทั้ง3คนหันมาทางเธอ แล้วเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่ดูเอาเรื่อง

              "มีหนูน้อยตัวกะเปี๊ยกหัวน้ำตาลมาอีกคนแล้ว"เขาเอ่ยน้ำเสียงเย้ยหยัน มิเลน่ากำมือแน่น สายตาเหลือบไปเห็นเด็กหญิงวัยเดียวกับเธออีกสามคนที่เพิ่งทะเละกับชายร่างยักษ์ไปเมื่อครู่  คนหนึ่งปากแตกเลือดไหลซิบๆ อีกสองคนทำหน้าวิตกกังวลพร้อมกับส่ายหน้าไม่ให้เธอไปยุ่งกับชายผู้นั้น ความโกรธนิด ๆ เริ่มเพิ่มทวีคูณขึ้นในจิตใจของมิเลน่า  พลางคิดอย่างโมโหว่า มีหรือใครจะมาดูถูกเธอได้


             "ถึงฉันจะเป็นหนูน้อยตัวกะเปี๊ยก แต่ฝีไม้ลายมือก็ไม่ด้อยกว่านายหรอก" ขาดคำมิเลน่ากำกำปั้นแน่น เล็งไปที่แก้มซ้ายของชายร่างยักษ์ แล้วกระแทกเข้าอย่างแรงจนชายตรงหน้าเซล้มไป 

             
             "หนอย...!!" ชายร่างยักษ์พูดรอดไรฟันด้วยความแค้นเคือง เขาคำรามลั่นก่อนปล่อยหมัดขวา หมายที่จะกระแทกใบหน้าขอเด็กสาว  แต่ความที่มิเลน่าเคยฝึกฝนมากับมิเนียมด้วยเหตุผลว่า... ซักวันจะได้ใช้ ....

               เธอเอี้ยวตัวหลบอย่างหวุดหวิด  หมัดยักษ์ตรงไปกระแทกกับรูปปั้นหินอย่างแรง จนรูปปั้นนั้นระเบิดแตกกระจาย  เหล่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอึ้งไปตาม ๆ กัน มิเลน่าได้จังหวะระหว่างที่ผู้คนและชายผู้นั้นเผลอ เท้าเล็กถีบเข้าที่พุงมหึมาของผู้ต่อสู้  แรงอัดมากเกินกว่ารูปร่างของตัวแด็กสาวดันร่างใหญ่ให้กลิ้งหลุนๆไปตามพื้นหิน แต่ก็ไม่วายที่จะลุกมาสู้ต่อ  คราวนี้เขาคว้าดาบใหญ่ที่วางอยู่บนชั้นมา รอยยิ้มเหยียดขึ้นที่มุมปาก เขาเอ่ยอย่างท้าทายว่า

     
            "ประลองฝีมือกันหน่อยเป็นไง ทำให้ฉันกลิ้งเหมือนลูกบอลได้อย่างนี้ ฝีมือคงไม่เลว"

            "ได้" คำตอบเรียบๆออกมาจากปากของเด็กสาว  ทันใดนั้นดาบก็ฟาดลงอย่างหนักหน่วง มิเลน่ากระโดดหลบ  เธอหยิบดาบคู่จากชั้นมากวัดแกว่งรับการโจมตีอย่างรวดเร็ว

     
             เคร้งๆ!

             เสียงดาบปะทะกันอย่างต่อเนื่อง  ดาบใหญ่ของชายหนุ่มตวัดวูบโดนแขนมิเลน่า  สร้างบาดแผลเป็นทางยาว  เลือดข้นไหลซิบๆทำให้มิเลน่าเพิ่มความโกรธแค้น ดาบข้างที่แขนได้รับบาดเจ็บถูกดาบของชายหนุ่มปัดออกจากมือ

            "แค่นี้ก็เท่าเทียมกันแล้ว"เขาเปรย ก่อนพุ่งดาบมาทางมิเลน่า  คราวนี้มิเลน่ากระโดดตีลังกากลางอากาศข้ามศีรษะล้านชายหนุ่มไป อย่างสวยงาม เมื่อเท้าแตะพื้นปุ๊บเธอก็ใช้ปลายเท้าเด้งตัวไปเตะก้านคอของเขา  ร่างใหญ่กระตุกเล็กน้อย แล้วล้มพับไป  ผู้ที่เห็นเหตุการณ์อ้าปากหวอก่อนปรบมือให้ลีลาการต่อสู้อันน่าประทับใจของเด็กสาว  

          
            "คราวหน้าถ้าคิดจะมาดูถูกเด็กผู้หญิงอย่างฉันอีกละก็  นายตายแน่!" มิเลน่าคาดโทษแก่ชายหนุ่มที่สลบไม่ได้สติอยู่บนพื้น

     เด็กหนุ่มนับสิบจ้องมองเธอเป็นตาเดียว  มิเลน่าสังเกตเห็นแล้วทำตาปริบๆ

            " มีอะไรอย่างงั้นเหรอ " เธอถาม  เด็กสาวสามคนที่ถูกชายหนุ่มแกล้งเดินมาหาเธอ  คนที่มีผมสีน้ำเงินเอ่ยปากขึ้น
        

            "สุดยอดมาก เธอทำได้ไง"

           "ก็ปกติของฉันน่ะ มันทำไมล่ะ"มิเลน่าถามต่อด้วยความสงสัย คราวนี้เหมือนมีเครื่องหมายคำถามปรากฏบนในหน้า

     
           "ไม่ปกติซักกะหน่อย ขนาดเพื่อนฉันเรน่า เอ่อ..เรนยังสู้ตายักษ์นั่นไม่ได้เลย"

           เด็กสาวผมสีม่วงไลแล็กตอบ พลางชำเลืองเด็กสาวชื่อเรน่าที่มีเลือดไหลซิบๆที่ปาก

     
           "เมื่อไหร่ เธอจะเรียกฉันว่าเรน อย่างถนัดปากเสียทีไนล์รี"เรน่าหรือเรนพูดอย่างไม่พอใจ

     
           "เอาเถอะๆ ไหนๆก็ไหนๆ เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีมั้ยจ๊ะ"เด็กสาวผมสีน้ำเงินขัดด้วยรอยยิ้มสดใส

     
           "เอ่อ ฉันชื่อ มิเลน่า มิเลน่า ทราซินลีน่า จะเรียกมิเลเฉยๆก็ได้นะ"

           "ฉัน เรน มาโร" เด็กสาวผมสีส้มออกแดงซอยประบ่า นัยน์ตาคมกริบสีอำพันเอ่ย

     
           "ฉัน ไนล์รี แกลนีเลีย"เด็กสาวผมสีม่วงไลแล็ก ถักเปียหลวมๆนัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์พูดน้ำเสียงสดใส

     
           "ฉันคาเรีย คารีเน่ เด็กสาวนัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเล ผู้มีผมลอนสีน้ำเงินยาวถึงกลางหลังเอ่ย

            เมื่อทั้งสี่ทำความรู้จักกันดีแล้ว ก็มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีอีกหลายเข้ามาแนะนำตัว เสียงจ้อกแจ้กดังไปทั่วโดมแก้วอย่างรื่นเริง 
     
    _______________________________

    เย้ ๆ ยุบลงไปตั้งเยอะ(บทนะบท)
    เจ๋งไหมคะ
    คงจะดีขึ้น
    ไม่เป็นปัญหาเรื่องอ่านไม่จุใจ
    น่าจะดีขึ้นทุก ๆ อย่าง.....



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×