คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [RE]บทที่2: จากบ้าน
บทที่ 2 จากบ้าน
เกวียนสีทองแล่นอย่างรวดเร็วด้วยแรงของปีศาจอัปลักษณ์ ตัวสีเขียวเป็นเมือก ๆ ดูคล้ายสาหร่ายออกจากป่าในเวลาไม่นาน ฉับพลันปีศาจทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นม้า สารถีรถม้า ไปโดยปริยาย
ร่างที่สลบไหลอยู่ในเกวียนเริ่มรู้สึกตัว มิเลน่าลืมตาขึ้น รู้สึกปวดไปทั้งตัวจากบาดแผลที่ได้รับมาจากเถาวัลย์ล่องหน นัยน์ตาสีโลหิตกวาดมองเพดานเกวียน แล้วลุกขึ้นกะทันหัน
“โอ๊ย!!”พิษแผลออกฤทธิ์ทันทีเมื่อเธอทิ้งน้ำหนักลงบนแขน
เกวียนนี้ไม่มีอะไรเลย...ว่างเปล่า...แต่เป็นสีทองทั้งหมด พลันสายตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่าง...ลูกแก้ว...เข็มกลัด...จี้สร้อยคอ...
หือ...มาอยู่นี้ได้ไง
สวยจัง...
มือบางคันยิบ ๆ อยากจะหยิบขึ้นมาชื่นชมใกล้ ๆ แต่กลัวเสียมารยาทกับผู้เป็นเจ้าของ
เป็นไงเป็นกันวะ...
มิเลน่าคว้าของมีค่าทั้งสามมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว
“เจ๋ง...เอาไปขายจะได้เงินเท่าไหร่เนี่ย พี่มิเรียมกับเมติสต้องดีใจแน่เลย”
มิเลน่ารู้สึกขอบตาร้อนผ่าว...พี่มิเรียมกับเมติส...ทำไมต้องทำแบบนี้กับเรากัน...มือขาว ๆ ปาดหยาดน้ำที่ตาออก แล้วตั้งใจมุ่งมั่น...ไม่สิ เราต้องเข้มแข็ง หากมัวมานั่งปาดน้ำตาเป็นเด็กอมมืออยู่ก็ถูกจับไปขายกันพอดี เริ่มแรกเราต้องถามสารถีก่อนว่าจะไปไหน เผื่อจะรู้ทางนี้ทีไล่บ้าง
เด็กสาวมองมือของตัวเองที่มีของสามสิ่งอยู่ พลางคิดว่าอาจจะเป็นของที่ไม่มีเจ้าของ และเธอก็รู้สึกประหลาดตั้งแต่ที่เธอสัมผัสมันแล้ว มิเลน่าตัดสินใจเอาของใส่กระเป๋าเสื้อ...ราวกับว่าถูกช็อตด้วยไฟฟ้า...หัวใจของเธอเต้นระรัวทันทีที่สิ่งของถูกกระเป๋าเสื้อ...รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างถูกถ่ายโอนเข้าไปในตัวเธอ แต่เพราะมีอะไรที่ต้องทำต่อ มิเลน่าจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
มิเลน่าค่อย ๆ แง้มหน้าต่างไม้ออก แล้วชะโงกหน้าไปถามสารถีร่างอ้วน
“ขอโทษนะคะ เรากำลังจะไปไหนกัน”ชายสารถีไม่ตอบอะไร เพียงแต่หัวเราะหึ ๆ เด็กสาวรู้สึกถึงรังสีความชั่วร้ายที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
“เฮ้ย! นี่จะพาข้าไปไหน!!!”
"...ธารี..." จู่ๆเกวียนก็ชักกระตุกอย่างแรง มิเลน่าโดนแรงกระแทกอัดทำให้กลับไปอยู่ในเกวียน เกวียนค่อยๆลอยเหนือจากพื้น สูงขึ้นๆ จนแทบจะเลยปลายต้นสน เสียงร้องของม้าดังสับสนวุ่นวาย สลับกับเสียงร้องอย่างหวาดหวั่นของชายผู้ขับเกวียน
เมื่อเด็กสาวชะโงกหน้าออกมาดูพื้นเบื้องล่าง ก็มีชายร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อคลุมสีเขียวกำมะหยี่ อกซ้ายมีตรารูปหมอกกับสายน้ำ เขายืนชูไม้เท้าขนาดใหญ่ที่มีลูกแก้วใสประดับไปในอากาศ
ใครกัน?
"ใครอยู่ในเกวียนบ้าง ลงมาให้หมด!" เสียงห้าวตะโกนจากชายหนุ่มในเสื้อคลุมกำมะหยี่เบื้องล่าง ชายขับเกวียนชูแขนที่สั่นระริกของตัวขึ้นช้าๆ เขาแผดเสียงโหยหวน แล้วกลายร่างเป็นปิศาจดังเดิม ชายหนุ่มเขม้นตาใต้เสื้อคลุมทีหนึ่ง เท่านั้นปิศาจก็รีบวิ่งชอนไชหายเข้าไปในป่าลึกทันที
มิเลน่ามองลงไปอย่างหวาดผวา พลางนึกในใจว่าคนๆนั้น ต้องเป็นยามเฝ้าเมืองที่อยู่ตรงหน้า ไม่ก็เป็นพวกตำรวจบริเวณชายแดนอะไรทำนองนั้นแน่ แต่เมื่อเด็กสาวมองลงไปอีกทีกลับกลายเป็นว่ามีร่างชายหนุ่มซึ่งไม่รู้มาจากไหนอีกสามคนรวมเป็นสี่คน เธอรีบหลบเข้าไปในเกวียน
"ข้ารู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน ยอมลงมาซะดีๆ"ชายในเสื้อคลุมสีฟ้าใสตะโกน มิเลน่ายิ้มมุมปาก แล้วตะโกนตอบ
"ขอโทษนะ แต่เกวียนมันลอยอยู่นี่นาจะให้ลงไปยังไงล่ะ" สิ้นคำ เกวียนไม้ก็ลั่นเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วค่อยๆลอยต่ำลง เมื่อล้อแตะพื้น เกวียนก็กลายเป็นปิศาจ5-6ตัว ชายอีกคนในเสื้อคลุมสีเขียวชี้ไม้คทาไปที่พวกมัน ปิศาจกลายไปเป็นดอกไม้และดอกเห็ดทันที
มิเลน่าลุกขึ้นปัดฝุ่นตามร่างกาย แล้วหันมาประจันหน้ากับผู้มาเยือนทั้งสี่ที่กำลังยืนทำหน้าบึ้งตึงล้อมเธออยู่
"เจ้าเป็นใคร? มาจากไหน? มาเพื่ออะไร?" ชายที่ใส่เสื้อม่วงแก่รัวคำถาม
"ข้าเป็นเพียงเด็กหญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง นามมิเลน่า ..ข้ามาจากกระท่อมบ้านของข้า ส่วนมาเพื่ออะไรนั้น.."มิเลน่าหยุดคิด สายตาเหลือบไปเห็นป้ายประกาศที่แปะอยู่ตรงประตูเมือง
... รับสมัครคนทำงาน ...
"เร็ว รีบๆตอบมาได้แล้ว "ชายในอาภรณ์สีแดงที่ดูท่าจะเป็นคนอารมณ์ร้อนเร่ง
"..สะ สมัครคนทำงาน!" เธอตอบเร็วปรื๋อ
"เด็กอย่างเจ้าน่ะรึ? อืม ดี ผ่านได้"สิ้นเสียง ประตูเมืองบานใหญ่เท่าภูเขาก็เปิดออก มิเลน่าเดินไปยังประตูอย่างประหม่า เธอหันไปยิ้มให้ชายในอาภรณ์หลากสีทั้งสี่ แล้วเดินเข้าเมืองไป..
ในเมืองนั้นสับสนวุ่นวาย ผู้คนต่างรีบร้อน เหนือหัวของมิเลน่าขึ้นไป มีบางอย่างแล่นหวือๆลอยข้ามหัวไปมา มันเป็นหมอกสีเมาหม่นๆ บ้างก็ใหญ่บ้างก็เล็ก แต่ที่น่าแปลกใจคือ กลุ่มหมอกนั้นมีคนยืนอยู่ หรือไม่ก็สิ่งของวางอยู่ทั้งนั้น สงสัยคนในเมืองคงใช้วิธีนี้เดินทางหรือส่งของนั่นเอง
มิเลน่าตื่นตาตื่นใจกับเมืองนี้มาก เธอมองไปรอบๆกาย ร้านขายของเกลื่อนท้องถนนต่างๆดูทันสมัย ผู้คนแต่งกายใส่ชุดดูดีกันทั้งนั้น แทบไม่มีใครใส่ชุดโหลๆที่เก่าอย่างเธอ ทุกคนใส่ชุดที่มีราคา แต่ละคนล้วนมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
แต่มันแปลกๆนะที่นี่ มีทหารยามวิ่งเพ่นพ่านเต็มเมืองเลยล่ะ ยังไม่ทันที่จะได้หาคำตอบ ก็มีใครไม่รู้วิ่งเข้ามาชนเธอเข้าอย่างจัง
"โอ๊ย!"
"อ๊ะ!"
"ขอโทษนะ"มิเลน่ารีบเอ่ยปากขอโทษเด็กหนุ่ม ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นผู้ที่วิ่งมาชนแท้ๆ เขามีสีผมดำสนิท นัยน์ตาคมเข้มสีดำเหลือบน้ำเงิน เมื่อเขาโซเซลุกขึ้นเธอก็เห็นว่า เขาสูงกว่าเธอมากทำให้ดูสง่าผ่าเผย ไม่เหมือนกับคนทั่วไป และหน้าตาดีสุดๆ
"อืม" เขาตอบรับ
"ท่าน! กลับเถอะ" เสียงของชายคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบเรียก พร้อมกับวิ่งมา
เด็กหนุ่มคว้าข้อมือมิเลน่า แล้ววิ่งฝ่าผู้คนไปหลบที่มุมตึกเก่าๆมุมหนึ่ง เด้กสาวยังคงงงงวยกับเหตุการณ์ชั่วครู่ เธอมองทหารวิ่งผ่านไป
"เฮ้อ.." มิเลน่าถอนหายใจ เธอทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น เด็กหนุ่มย่อตัวนั่งลงข้างๆเธอ เขาจ้องมองใบหน้าเธออย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วเอ่ยปากถาม
"ท่าทางเธอจะไม่ใช่คนประเทศนี้ แต่เป็นประเทศลาไอรีใช่ไหม?"
"ใช่.. เอ๋ ?"
ตาสีโลหิตเบิกกว้าง คนพูดส่ายหน้าเบาๆเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นแล้วเดินจากไป
เด็กสาวมองตามร่างสูงไป แล้วคำว่า 'ท่าทางเธอไม่ใช่คนประเทศนี้'ก็แล่นเข้ามาในหัว
"รอฉันด้วยสิ" มิเลน่าร้องเรียก เธอลุกขึ้นวิ่งไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากมุมตึก ร่างสูงหยุดเดิน เขาหันหลังกลับมา
"ตามมาทำไม ?" เขาเอ่ยปากถาม มิเลน่าหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตอบด้วยรอยยิ้มอันสดใสว่า
"นายก็รู้ไม่ใช่หรือว่าฉันไม่ใช่คนในประเทศนี้ ฉันก็เลยคิดว่าไหนๆนายก็เป็นเจ้าบ้านแล้วจะไม่สนใจผู้มาเยือนหน้าตาน่ารักๆอย่างฉันหน่อยรึไง?" เด็กหนุ่มยิ้มพูดหึๆในลำคอ แล้วถอนหายใจช้าๆ
"...ก็ได้ มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกมาเลย"เขาเอ่ย รอยยิ้มดีใจฉายขึ้นอย่างมีความหวังบนหน้ามิเลน่า
"ขอบใจจ้ะ อืม นายคิดว่าฉันควรไปไหนดี ระหว่างที่มาอยู่ที่นี่" เธอพูดขอความเห็นของคนที่ตอบตกลงไปเมื่อกี้เพราะไหนๆเธอก็ไม่รู้จะมาเมืองนี้ทำไม และไม่รู้จะกลับไปที่บ้านในป่าได้อย่างไรอยู่แล้ว เด็กหนุ่มมองเธอสักพักก่อนเบนสายตาไปทางอื่น
"งั้น...ตามฉันมา"
ความคิดเห็น