ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destination of Love #1

    ลำดับตอนที่ #3 : Destination #3

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 49


    สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง  มันคือวันเปิดเรียนวันแรกของฉัน วันแรกของชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย  หลังจากผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มา 2 สัปดาห์  ฉันไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย  เพราะกลัวมากจริง ๆ  ..........แต่เพราะเปิดเรียนวันแรกฉันจึงยอมออกจากบ้าน

              มหาวิทยาลัยของฉันเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง  กว่าฉันจะสอบเข้ามาได้เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน  นักศึกษามากมายเดินกันขวักไขว่ไปมา  อาคารเรียงติด ๆ กัน มีสนามฟุตบอล มีม้าหิน เรียงกันเต็มไปหมด แต่ที่นี่ร่มรื่นย์จริง ๆ ฉันเริ่มรักที่นี่ซะแล้วสิ   ตารางเรียนวันนี้มีแค่ 5 วิชา คณะที่ฉันเลือกคือคณะศิลปศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ  ดังนั้นวิชาเรียนส่วนมากจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เรียนร่วมกับผู้ชายทำให้ฉันอดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ฉันเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด 

    "นี่ ชื่อะไรน่ะ"  เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกตัว หลังจากเหม่อลอยมานาน

    "หวาน  เธอล่ะ"  ฉันอดยิ้มไม่ได้  เพราะคนที่ถามฉันหน้าตาน่ารักจิ้มริ้มมาก ๆ

    "ส้มโอ เราชื่อส้มโอ หวานจบจากที่ไหนเหรอ"

    "เซนโยเซฟ" ฉันตอบ ในขณะที่ยังมองหน้าผู้หญิงที่ชื่อส้มโออยู่  หล่อนดูน่ารักมากจริง ๆ ในสายตาฉัน  หน้าเล็กๆ ปากนิด จมูกหน่อย ออกสไตล์หมวย ๆ ผมส้มโอยาวประบ่า  ส้มโอผิดกับฉันลิบลับ  ฉันผิวออกเหลือง ๆ ตาโต และผมฉันยาวกว่าส้มโอมาก ผมส้มโอสีน้ำตาเข้ม แต่ฉันดำสนิท

    "เราจบจาก  อัญสัม"  ส้มโอยิ้มตาหยี "เอ๊  เซนโย  ความจริง เซนโย กับอัญสัมมีงานร่วมกันบ่อยๆ  ทำไมเราไม่เห็นจะเคยเห็นหวานเลยล่ะ หน้าอย่างหวาน เราต้องจำได้สิ" ส้มโอทำท่าครุ่นคิด จนเราอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

    "ทำไมส้มโอคิดว่า จะจำหน้าเราได้ล่ะ"

    "ก็หวานออกจะสวย เราจำคนหน้าตาดีได้เสมอแหล่ะ"  ส้มโอยักคิ้ว ฉันได้แต่อมยิ้ม

    "ส้มโอจะเห็นเราได้ยังไงล่ะ เราไม่ได้อยู่เซนโย กรุงเทพ เราอยู่ประจำที่ระยอง"  ฉันกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ใช่แล้ว ฉันถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็ก

    "ไม่เบื่อแย่เหรอ อยู่กินนอน"

    "ไม่" ฉันสั่นหน้า "อยู่กินนอน สนุกกว่าอยู่บ้านอีก" ฉันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้นมาหน่อย เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

    หลังจากที่เราทั้งสองต่างพากันเล่าเรื่องราวของแต่ล่ะคนได้สักพัก อาจารย์ก็เข้ามา แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรมาก ได้แต่พูดคร่าว ๆ ในเรื่องของรายละเอียดวิชา การให้คะแนน รายงานที่จะต้องทำส่งก่อนสอบ อาจารย์กล่าวแค่นั้น ก็ให้แยกย้ายกลับบ้านได้..........ทุกวิชาเหมือนกันหมด  วันนี้ อาจารย์ ยังไม่ได้สอนอะไร นอกจากจะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ

    "นี่หวาน บ้านอยู่แถวไหนเหรอ"

    "สุขุมวิท แล้วส้มโอล่ะ"

    "อยู่ลาดพร้าว  ไกลกันคนละโลกเลยเนอะ"

    "อืม"

    "นี่เพิ่งจะ 4.30 เอง ไปไหนกันดีล่ะ"

    ฉันมองส้มโอแล้วยิ้ม  ส้มโอนี่ดูไฮเปอร์จังเลย ถ้าเทียบกับฉัน ส้มโอดูสดใสตลอด แต่ฉันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงหน้าฉันดูอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา คนส่วนมากมักบอกว่าฉันตาเศร้า

    "ลองเดินดูรอบ ๆ มหาวิทยาลัยดีมั้ย"

    "ไปสิ เราเองก็อยากเห็นเหมือนกัน"  ส้มโอตอบและก็ฉุดมือฉันไปทันที  เราสองคนคุยกันถูกคอ เหมือนรู้จักกันมานาน อย่างน้อยโลกนี้ก็ไม่โหดร้ายเสมอไป วันใหม่ ชีวิตใหม่ในมหาวิทยาลัย ฉันได้รู้จักคนอย่างส้มโอ  แค่นี้ก็พอแล้ว

    "มหาวิทยาลัยเรานี่ใหญ่เนอะ แต่ตอนนี้ เราเริ่มเหนื่อยแล้วล่ะหวาน"  ส้มโอบ่นออด ๆ แอด ๆ ก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปนั่งที่โต๊ะม้าหินแถวนั้น "นี่หวาน  เธอจะอยู่ชมรมไหนเหรอ"

    "ชมรมอะไร" ฉันทำหน้างง

    "อย่าบอกน่ะว่ายังไม่รู้  อาทิตย์หน้า เด็กใหม่อย่างเราจะต้องเลือกชมรมอยู่  มีเวลาแค่อาทิตย์เดียวในการเลือกชมรม"

    "ยังไม่รู้เลย  ว่าแต่มันมีชมรมอะไรบ้างล่ะ"

    "เราก็ยังไม่รู้หรอก  เอาไว้อาทิตย์หน้าค่อยว่ากันแล้วกัน"  ส้มโอทำเสียงเหนื่อย ๆ

    "นี่ส้มโอ ตึกข้างหน้ามันเป็นหอสมุดนี่  ไปกันเถอะ"

    "อะไรน่ะ"

    "ก็ไปหอสมุดกัน ฉันอยากดูหนังสือ"

    "หวาน หนังสือกันเราไม่ถูกกัน เราไม่ชอบห้องสมุด"  ส้มโออวดครวญ พร้อมกับทำหน้าแต่แหย ๆ ฉันพอจะรู้จักส้มโอขึ้นมาอีกนิดแล้ว รู้ว่าส้มโอดไม่ชอบอ่านหนังสือ

    "เอาน่าส้มโอ รู้รึเปล่า เราเสียเงินค่าบำรุงหอสมุดไปเท่าไหร่ ไม่เข้าไปใช้บ้าง ขาดทุนน่ะ" 

    "เอาเหอะ ฉันไม่งกขนาดนั้น" ส้มโอมองฉันแล้วยิ้ม ๆ

    "น่ะ  ไปด้วยกัน หวานแค่ไปดู ๆ เท่านั้น เอางี้ เดี๋ยวเลี้ยงขนมหวานที่โรงอาหาร โอเคมั้ย"  ส้มโอทำหน้าชั่งใจ ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้

    "งั้นก็ไปได้แล้ว" ฉันกล่าวแล้วรีบฉุดหวานไปทันที

              ห้องสมุดที่นี่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับที่โรงเรียนเก่าฉัน มันก็แน่อยู่แล้วเพราะนี่ไม่ใช่ห้องสมุด แต่เป็นหอสมุด หอสมุดมี 3 ชั้น มีมุมคอมพิวเตอร์ไว้ให้ค้นคว้า มีห้องโสตอีก 4-5 ห้อง และก็มีอินเตอร์คาเฟ่ ไว้บริการฟรี ตอนนี้ฉันเดินดูอยู่คนเดียวที่ชั้นสอง ส้มโอขอรออยู่ที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่ชั้นล่าง  ฉันเลือกหนังสือไปมาอยู่สักพักก็ได้มา 3 เล่ม ส่วนมากมันเป็นหนังสือเกี่ยวกับเปียโน แต่ละเล่มใหญ่พอสมควร  ฉันเดินหอบหนังสือไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจะยืม แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องกระเด็นลงไปกองกับพื้น เพราะใครถูกใครบางคนชนเข้าอย่างแรง

    "โอ๊ย"  ฉันร้องด้วยความเจ็บ  ฉันพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่มันก็ยากเหลือเกิน ฉันมองไปข้างหน้า กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เก่า ๆ รองเท้าผ้าใบสีหม่น ๆ ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ไอ้คนบ้า จะเอ่ยคำขอโทษสักคำก็ไม่ได้ "  ฉันคิดอย่างโมโห ในที่สุดฉันก็จ้องมองหน้าเขา ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ นอกจากไม่ขอโทษแล้ว ยังไม่คิดจะช่วยฉันเก็บหนังสือเลยสักนิด ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย "บ้า" ฉันพึมพำเบา ๆ แต่ผู้ชายคนนั้นก็หาไม่สะทกสะท้านไม่  ฉันไม่โกหกตัวเองเลยว่าผู้ชายตรงหน้าฉันหน้าตาดี ผิวเขาไม่ขาวจัด ผมค่อนข้างยาว มันถูกเสยไปอย่างลวก ๆ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว พับแขนมาจนถึงข้อศอก ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางกาง "แต่งตัวผิดระเบียบชัด ๆ"  ในเมื่อมองหน้าขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะช่วยฉันอีก เห็นทีจะหวังน้ำใจจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้  ฉันจึงพยายามช่วยตัวเอง ฉันเก็บหนังสือที่กระจัดกระจาย และยันตัวเองให้ลุกขึ้นช้า ๆ แล้วฉันก็ยืนได้สำเร็จ เราทั้งสองคนยืนประจัดหน้ากัน แววตาที่เขามองฉันมีแต่ความว่างเปล่า แล้วเขาก็เดินจากไป

    "ไอ้คนบ้า ชนแล้วยังไม่ขอโทษ นึกว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน" .............................................................................

    "เป็นอะไรหวาน เราเห็นเธอหน้ามุ่ยตั้งแต่ออกจากหอสมุดแล้ว"

    "เปล่าหรอก เซ็งคนนิดหน่อย ชนหวานซะกระเด็น แต่ไม่ขอโทษสักคำ"

    "อย่าไปเสียเวลากับคนพวกนี้เลย เดี๋ยวนี้คนเรามันไม่มีน้ำใจหรอก"  ส้มโอพูดพลางดึงหนังสือที่ฉันยืมมาไปเปิดดู

    "ชอบเปียโนเหรอ"

    "เคยเรียน  แต่เรียนยังไงก็ไม่ได้ เลยอยากจะฝึกใหม่น่ะ"

    "อืม  ดีแล้วแหล่ะ เราว่าเท่ห์ดีออกเรียนเปียโน  ฉันเองก็เล่นไม่เป็นเลย ตอนเด็ก ๆ เคยเรียนแต่ระนาด แม่บังคับน่ะ"  ส้มโอเล่นหน้าเล่นตา ทำให้ฉันยิ้มออกหายเครียดไปได้บ้าง

    "นี่ส้มโอรอตรงนี้น่ะ เดี๋ยวหวานไปซื้อขนให้กิน" ส้มโอพยักหน้าไปเรื่อยเปื่อย

    ฉันได้ขนมมา 2 ถุง พร้อมกับน้ำแดง อีก 2 แก้ว

    "ทำไมเขามองหน้าเราแปลก ๆ" ฉันได้แต่ถามตัวเอง เรื่องผู้ชายที่ชนฉัน แววตาที่มองฉันมันเฉยชา ว่างเปล่า "พอแล้วหวาน"  ฉันบอกตัวเองพร้อมกับสลัดหัวขับไล่ความคิดเหล่านั้น โดยไม่ทันที่จะระวังตัว ฉันชนกับใครบางคนอีกแล้ว ที่นี้ฉันไม่ล้มลงไปกองกับพื้น แต่น้ำแดงทั้งสองแก้ว หกราดตัวฉัน เสื้อสีขาวกลายเป็นสีแดงไปหมด

    "โห" ฉันถอนหายใจ พร้อมกับก้มลงมองเสื้อตัวเอง "ทำไมมันซวยอย่างนี้เนี่ย" มัวสนใจแต่ตัวเอง พอคิดได้ฉันรู้สึกผิดมาก เพราะครั้งนี้คนที่ผิดคือฉัน มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย เลยทำให้ไม่ได้มองทาง

    "ขอโทษจริง ๆ น่ะค่ะ" และทันทีที่ฉันเห็นว่าเป็นใครฉันก็ต้องตกใจ "คุณ" คนที่ฉันชนคือผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่หอสมุด คนที่ชดฉันซะกลิ้ง  แววตาที่เขามองฉันยังคงเหมือนเดิม ว่างเปล่าและเฉยชา

    "อะไรกันน่ะหวาน"  ส้มโอรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาที่ฉัน

    "หวานชนกับผู้ชายคนนี้" ฉันตอบส้มโอในขณะที่ยังจ้องหน้าเขาอยู่

    "เปื้อนหมดเลย" ส้มโอควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้ฉัน "นี่คุณ เดินยังงะ......พี่ปอนด์"  ส้มโอพึมพำเบา ๆ ในประโยคสุดท้าย ส้มโอทำท่าตกใจมากที่เห็นผู้ชายคนนี้

    "ส้มโอ"  ฉันเรียก ดูเหมือนตอนนี้ส้มโอจะยังตาค้างอยู่ ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นยังคงนิ่งเฉย เขาหันไปมองส้มโอแล้วก็เดินจากไปทันที

    "เลว"

    "พี่ปอนด์ ในที่สุดก็ได้เจอ หวาน เธอรู้มั้ย เพราะพี่ปอนด์นี่แหล่ะ ทำให้เราดิ้นรนสอบเข้าที่นี่  เราเครซีเขามาก ๆ เลย  เขาเป็นรุ่นพี่ที่อัญสัม ตอนเรียนน่ะ เขาดังมากกกกกก  มีแต่คนชอบเขา เรายังเป็นแฟนคลับคนรักพี่เขาเลย" ส้มโอพูดไปเรื่อยเปื่อยแต่ฉันไม่ได้สนใจฟัง ได้แต่เช็ดเสื้อตัวเอง

    "พี่ปอนด์น่ะ ไปไหนก็มีแต่สาวกรี๊ด แต่เสียอย่างเดียวไม่ค่อยยิ้ม เป็นคนที่ลึกลับเขาถึงยากมากกกกก"ส้มโอลากเสียงซะยาวในประโยคสุดท้าย

    "เธอก็รู้ดีนี่ ทำไมยังไม่ชอบเขาอีกล่ะ"

    "แหม ก็คนมันชอบนี่น่า เขายังหล่อเหมือนเดิมเลย ยิ่งดูยิ่งเท่ห์ มันคุ้มค่าจริง ๆ ที่ฉันได้เรียนที่นี่"

    "ส้มโอ  ถึงแม้จะหน้าตาดี แต่ถ้านิสัยแย่ หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม และก็อารมณ์เดียวเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบนี้ อย่าไปชอบเลย หวานว่าน่ะคนประเภทนี้น่ะ เห็นแก่ตัว รักใครไม่เป็นหรอก"  ฉันพูดจบก็เดินไปทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×