คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การข่มขืน (2)
ต่อค่ะๆๆ ยาวมากมาย = ="
คำจำกัดความของการข่มขืน
ในการตัดสินคดีความ อาชญากรรมต่อการข่มขืนถูกให้นิยามเมื่อมีการร่วมประเวณีเกิดขึ้น (หรือพยายามทำให้เกิด) โดยไม่มีการยินยอมโดยสมควร เมื่อมีคนใดคนหนึ่ง (ไม่ยอม) มาเกี่ยวข้องด้วย และมักจะมีคำจำกัดความของการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดหรือทวารหนักโดยอวัยวะเพศชาย ในบางการตัดสิน การสอดใส่ไม่จำเป็นต้องใช้องคชาติ แต่สามารถเป็นอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย (เช่น นิ้วหนึ่งนิ้วหรือมากกว่านั้น หรือการสอดใส่ทางอื่นๆ เช่น ทางปาก ร่องอก หรือร่องก้น) หรือ โดยวัตถุ (เช่น ขวด) หรืออีกนิยามคือการผลักดันโดยใช้อวัยวะเพศหญิงหรือทวารหนักบนองคชาติของเพศชาย โดยผู้กระทำเป็นผู้หญิง
คำตัดสินอื่นขยายความว่า คำว่า ข่มขืน หมายถึงกิจการใดๆที่กระทำโดยใช้อวัยวะเพศ ของคนหนึ่งคนหรือสองคน ในเวลานั้น ตัวอย่างเช่น การใช้ปากหรือใช้มือสำเร็จความใคร่ให้กับผู้อื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกกระทำ
คำตัดสินอื่นขยายความว่า คำว่า ข่มขืน หมายถึงกิจการใดๆที่กระทำโดยใช้อวัยวะเพศ ของคนหนึ่งคนหรือสองคน ในเวลานั้น ตัวอย่างเช่น การใช้ปากหรือใช้มือสำเร็จความใคร่ให้กับผู้อื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกกระทำ
1.ภายใต้การขู่บังคับประเภทต่างๆ (การใช้กำลัง, ความรุนแรง, การแบล็คเมล์ และอื่นๆ)
2.การวินิจฉัยอ่อนแอลง หรือไร้ความสามารถ โดยแอลกอฮอล์ หรือยาชนิดอื่นๆ ไม่ว่ายานั้นจะถูกหรือผิดกฎหมายก็ตาม
3.การตัดสินใจอ่อนแอลง อาจจะมาจากความป่วยไข้ หรือไม่มีพัฒนาการตามวัยสมควร
4.อายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะให้การยินยอม ที่นับว่าถูกตามกฎหมายได้
การข่มขืนที่ชอบด้วยกฎหมาย นับการมีการสัมพันธ์ทางเพศว่าเป็นการข่มขืน โดยไม่จำเป็นว่า มีการใช้อำนาจบังคับหรือเป็นอีกฝ่ายพร้อมใจหรือไม่ กฎหมายแบบนี้ เป็นเรื่องปกติและมีขึ้นเพื่อป้องกันผู้ใหญ่ที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถให้การตัดสินใจที่มีรอบคอบ
กิจกรรมทางเพศที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด จะเป็นที่รู้จักกันในนามของ การข่มขืนที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ Statutory Rape แม้ว่าผู้พิพากษาบางท่านอาจจะใช้คำว่า “การประพฤติผิดทางเพศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดในการตีความหมายตามตัวอักษรก็ตาม
ในบทลงโทษของกฎหมายบราซิล กล่าวถึงการข่มขืนว่า ต้องเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดเท่านั้น ดังนั้น จึงไม่เหมือนในยุโรปและอเมริกาส่วนมาก ผู้ชายข่มขืนผู้ชาย, การข่มขืนทางทวารหนัก และการข่มขืนทางปาก ไม่นับว่าเป็นอาชญากรรม ในกรณีนี้ จะนับว่าเป็น “ความพยายามอย่างรุนแรงต่อสู้ความอ่อนน้อมของคนๆหนึ่ง” เท่านั้น บทลงโทษเองก็เช่นเดียวกัน
ในสก็อตแลนด์ การข่มขืนเป็นการระบุเพศลงไป หมายความว่ามันสามารถทำได้โดยผู้ชายต่อผู้หญิงเท่านั้น ปาก, ทวารหนัก จะไม่นับว่าเป็น “การข่มขืน” รวมถึงการสอดใส่ทางอื่นๆ ด้วย คำจำกัดความถูกใช้โดยศาลสากลของรวันดาตามท้องที่ในปี 1998 ว่า “การบุกรุกทางร่างกายในความเป็นธรรมชาติในเรื่องเพศ กระทำโดยบุคคลภายใต้สถานการณ์ที่ใช้กำลังบังคับ” ในการตัดสินอย่างเจาะจงลงไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินว่ามีความผิด ระหว่างคู่สามีภรรยา เพราะต่างก็อยู่บนพื้นฐานของ “ความยินยอมโดยนัย” หรือ (ในกรณีของอาณานิคมอังกฤษก่อนหน้านี้) เพราะข้อเรียกร้องของการเห็นชอบด้วยกฎหมาย ว่าการร่วมประเวณี ถือเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ซึ่งอยู่นอกขอบข่ายของการแต่งงาน) อย่างไรก็ตาม ในหลายๆการตัดสิน สามารถที่จะนำการฟ้องร้องดำเนินคดีได้ โดยระบุลงไปว่ามันคือการขู่บังคับ
สาเหตุของการข่มขืน
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการใช้สิ่งเสพติด มักจะเกี่ยวข้องกับการข่มขืน ใน 47% ของการข่มขืนทั้งเหยื่อและผู้กระทำผิดจะดื่มเหล้า มีเพียง 17% ที่ผู้กระทำผิดเท่านั้นดื่ม 7% ของเหยื่อทั้งหมดเท่านั้นที่ดื่ม การข่มขืนที่ไม่มีการดื่มเหล้าทั้งผู้กระทำและเหยื่อมีเพียง 29% ของทั้งหมด สาเหตุที่เป็นแรงจูงใจของผู้ข่มขืนจะมีแตกต่างกันไป
นักวิจัยส่วนใหญ่พบว่า มูลเหตุของการข่มขืนคือ ความปรารถนาที่ก้าวร้าวที่ต้องการจะอยู่เหนือฝ่ายตรงข้าม มากกว่าต้องการที่จะได้รับความสุขทางเพศ “เราสามารถคิดได้ว่าไม่มีคำอ้างอื่นใดที่ดีกว่านี้ในทางสังคมศาสตร์ ได้มีการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลักฐานที่มีเหลืออยู่น้อยมากๆ” เขียนโดย Felson และผู้แต่งร่วม Tedaschi ผู้เริ่มมุมมองที่ขัดแย้งกันของการปะทะทางสังคม ที่กล่าวว่า ความปรารถนาทางเพศอาจเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งของเท่านั้น พวกเขาระบุว่า การข่มขืนนับเป็นการกระทำของความทารุณมากกว่าการเผชิญหน้ากันทางเพศ คันดิฟ (2004) แย้งว่านั่นคือความไม่ปรากฏของทางออกอื่นของความใคร่ของผู้ชาย ตัวอย่างเช่น การขายบริการทางเพศ อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ชักนำสู่การข่มขืน
นักข่มขืนส่วนมากไม่มีการเลือกว่าจะข่มขืน ต่อเมื่อมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ประมาณ 90% ของนักข่มขืนคนที่เข้าร่วมทดลองกับ Baxter et al ในปี 1986 กล่าวว่า จะถูกกระตุ้นโดยภาพที่ดีงามของการพึ่งพาอาศัยกันและมีความสุขในเรื่องเซ็กส์ มากกว่าการข่มขืนที่ต้องใช้ความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างรูปแบบของการกระตุ้นอารมณ์ของนักข่มขืนและผู้ที่ไม่ใช่
ประเภทของการข่มขืน
มีประเภทของการข่มขืน 6 7 อย่าง โดยมากจะถูกจำแนกออกโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุคลิกของเหยื่อ และบุคลิกของผู้ก่อเหตุ ประเภทที่แตกต่างของการข่มขืนรวมอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่านั่นคือจบ เช่น การข่มขืนขณะออกเดท, การข่มขืนแบบกลุ่ม, การข่มขืนในสมรส, การข่มขืนในห้องคุมขัง, การข่มขืนโดยคนรู้จัก และการข่มขืนระหว่างสงคราม
แม้ว่าคนพยายามจะทึกทักเอาเอง แต่การข่มขืนโดยคนแปลกหน้าเกิดขึ้นน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบอื่นของการข่มขืน อย่างไรก็ตามการข่มขืนรูปแบบนี้พบได้บ่อยในข่าวอาชญากรรม
การข่มขืนโดยผู้กระทำการ
ผู้กระทำการ | ความถี่ |
คู่เดทสม่ำเสมอ | 21.6 % |
เพื่อนๆ | 16.5 % |
แฟนเก่า | 12.2 % |
คนคุ้นเคย | 10.8 % |
เพื่อนสนิท | 10.1 % |
คู่เดทบางครั้งบางคราว | 10.1 % |
สามี | 7.2 % |
คนแปลกหน้า | 2 % |
ผลการวิจัยทางการข่มขืนและการแจ้งความระบุว่า การข่มขืนส่วนใหญ่มีคำจำกัดความว่าฝ่ายชายกระทำต่อฝ่ายหญิงเท่านั้น งานวิจัยของชายกระทำต่อชายและผู้หญิงต่อผู้ชายกำลังดำเนินการ ใกล้จะเสร็จ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการวิจัยใดเลยที่กล่าวว่ามีผู้หญิงข่มขืนผู้หญิง แม้ว่าผู้หญิงส่วนมากจะสามารถต้องข้อหาว่าข่มขืนได้ก็ตาม
การข่มขืนแบบกลุ่ม
คำว่า tournante เป็นคำคุณศัพท์ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “เปลี่ยน” และใช้เป็นคำสแลงในความหมายของการข่มขืนหมู่ สืบเนื่องมาจากประสบการณ์ของเหยื่อที่นับได้ ผู้หญิงมุสลิมต้องถูกขับออกจากวัฒนธรรมเดิม ไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ประพฤติ แต่งกายอย่างชาวตะวันตก ต้องการที่จะอยู่อย่างคนยุโรป และปฏิเสธที่จะสวมใส่เสื้อผ้าประจำชาติของตนเอง นับว่าเป็น “ความยุติธรรม” แล้ว สำหรับการข่มขืนหมู่ อย่างที่ Samira Bellil ได้กล่าวไว้ ในการสัมภาษณ์กับ CNN กับคดีที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Lille เมื่อเด็กหญิงอายุ 13 ปีคนหนึ่งถูกข่มขืนหมู่โดยชาย 80 คน
ความคิดเห็น