โลกแห่งความฝันฉันกับเธอ
เป็นเรื่องราวความรักของ มะลิ เด็กสาวมัธยมปลาย เรื่องราวความรักของเธอจะเป็นเช่นไรลองมาติดตามไปพร้อมกัน
ผู้เข้าชมรวม
99
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เช้าที่แสนสดใสช่วงกลางเดือนพฤษภาคมกับการเริ่มต้นวัยมัธยมปลายวันแรกของมะลิ มะลิเด็กหญิงสาวที่มีนิสัยรักสงบ ร่าเริงบ้างเวลาอยู่กับเพื่อน และมีโลกส่วนตัวสูงมากเวลาอยู่กับครอบครัว มะลิเป็นเด็กค่อยเก็บตัวและอยู่กับตัวเองซะส่วนใหญ่ ซึ่งนิสัยค่อนข้างเก็บตัวของมะลิอาจจะมาจากครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ของมะลินั้น ทำแต่งานอาจจะไม่ค่อยได้สนใจมะลิสักเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้น มะลิก็คงเป็นเด็กเรียบร้อยวางตัวดี และทุกคนก็รักใคร่มะลิแทบจะทุกคน
วันแรกของการมาโรงเรียนมะลิรู้สึกแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเพราะเพื่อนในห้องของมะลิเป็นเพื่อนเก่า ๆ ที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวมาก่อนอยู่ประมาณ 4-5 คน เรื่องเพื่อนมะลิแทบจะไม่ต่องปรับตัวอะไรมาก แต่เรื่องเรียนคงจะต้องปรับมากเลย แต่ด้วยความเก่งของมะลิเธอคงทำได้แน่นอน
มะลิก็เรียนและใช้ชีวิตไปตามปกติมีอยู่วันหนึ่ง มะลินั่งเล่นอยู่ม้าหินอ่อนจู่ ๆ ก็มีเครื่องบินกระดาษมาชนที่หลังของมะลิ มะลิหยิบเครื่องบินกระดาษและหันมองขึ้นไปบนอาคารชั้น 2 ว่าเครื่องบินกระดาษนี้เป็นของใครพอมองขึ้นไปมะลิได้เห็นพี่เชนและพี่ตี๋ยืนยิ้มอยู่ มะลิชี้ไปที่เครื่องบินกระดาษและชี้ไปที่พี่เชนและพี่ตี๋เหมือนถามประมาณว่านี้ของใคร พี่เชนและพี่ตี๋รีบวิ่งเข้าไปในห้องเรียนเพราะกลัวจะโดนมะลิด่า ส่วนมะลิที่นั่งกับเพื่อนก็หันมากลับมายิ้ม
เพื่อน แกยิ้มอะไรวะมะลิ
มะลิ บ้ายิ้มอะไรใครยิ้ม (ที่มะลิยิ้มเพราะว่าเขินพี่เชน เพราะมะลิรู้สึกชอบพี่เชนตั้งแต่แรกเห็นเลย) เออ…แกพี่สองคนเมื่อกี้เขาชื่ออะไรวะ
เพื่อน คนขวาชื่อพี่โน่ คนซ้ายชื่อพี่เชน
มะลิ แล้วแกรู้จักพี่เขาได้ไง
เพื่อน ก็พี่โน่เป็นพี่ชายฉันไง พี่เชนก็เพื่อนเขา เรียน ม.5/3 เขาสองคนเรียนอยู่ห้องเดียวกันฉันจะไม่รู้จักเขาได้ไง
มะลิ อ่อ (แต่ในใจของมะลิคือทางสะดวกละมีคนรู้จักพี่เขาด้วย)
วันต่อมา… ตอนพักเที่ยงมะลิและเพื่อนก็ไปนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนหน้าอาคารเรียนของพี่เชนและพี่โน่เหมือนเดิม และก็มีเครื่องบินกระดาษมาชนหลังมะลิเดิม และเป็นฝีมือของพี่โน่ มะลิหันขึ้นไปมองบนชั้นสองและมีพี่เชนส่งยิ้มพร้อมด้วยพี่โน่ที่ยืมอยู่ข้างๆ มะลิให้หันกลับมาเขินจนตัวบิด แล้วพี่เชนก็ตะโกนบอกมะลิว่า น้อง ๆ เพื่อนพี่ชอบ ยิ่งเพิ่มดีกรีความเขินให้มะลิเข้าไปใหญ่
เพื่อน แกเป็นอะไรเนี่ย
มะลิ ป่าวซะหน่อย
เพื่อน ป่าวอะไรก่อน เสื้อชั้นจะขาดยุแล้วเนี่ย บิดยุนั้นแหละ
มะลิ อ้าวหรอ ขอโทษๆ
เพื่อน ชอบพี่เชนหรอ???
มะลิ บ้าาาาา
เพื่อน พี่เขาโสดอยู่นะ แต่เขาเจ้าชู้เอาเรื่องอยู่
มะลิ งื้มๆ (หยักหน้าประมาณว่าฉันรับรู้แล้ว)
หลายเดือนต่อมา….เริ่มช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงหน้าหนาว เป็นฤดูการที่ทุกคนตั้งตารอ คือ ฤดูการแห่งกีฬาสี ซึ่งโรงเรียนของมะลิก็มีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 สีโดย มีสี แดง เขียว เหลือง ฟ้า ซึ่งมะลิอยู่สีเขียว เพื่อนของมะลิ พี่เชน พี่โน่ อยู่สีฟ้า
วันแห่งการร่วมกลุ่มสี ด้วยที่มะลิมีรูปร่าง สูง ขาว สมส่วน คือถ้าพูดโดยรูปแล้วคือมะลิเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่งนั้นเอง ทำให้เธอได้ถูกคัดเลือกเป็นดรัมเมเยอร์ และพี่เชนและพี่โน่มีความสามารถทางดนตรี เขาทั้งสองก็รับบทเป็นมือกล่องในขนวนของสีฟ้า
แน่นอนว่าเมื่อมีกีฬาสีการซ่อมในกิจกรรมต่าง ๆ ของกีฬาสีย่อมตามมาและมะลิเธอก็ได้ซ้อมดรัมเมเยอร์หลังเลิกเรียนทุกวันไปจนถึงค่ำโดยมีพี่ชนเป็นผู้แฝงตัวมาสังเกตการณ์กับพี่ที่เป็นผู้ฝึกซ่อมมะลิ
ระหว่างที่พักซ้อมมะลิก็นั่งพักเหนื่อยอยู่คนเดียวอยู่ห่างจากตรงจากตรงที่ซ้อมไม่ไกลและก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังของมะลิ
พี่โน่ อะเนี่ยน้ำ
มะลิ ของใครอ้ะ ของพี่หรอ
โน่ รีบเดินจากไป
มะลิก็ไม่ได้สนใจเพราะว่ามะลิหิวน้ำมากจึงรีบเปิดขวดน้ำ และดื่มในทันที่ จู่ ๆ ก็มีคนเดินมาจากด้านหลังของมะลิแล้วพูดว่า น้ำของพี่เองแหละ น้ำเสียที่ไม่ใช่น้ำเสียงของพี่โน่ มะลิรีบหัดกลับไปมองถึงกลับสำลักน้ำ แค๊กๆ
พี่เชน หิวน้ำจนสำลักเลยหรอ???
มะลิ ป่าวค่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำนะคะ (มะลิพูดขอบคุณแบบหน้านิ่ง แต่ในใจนั้น คือ เขินจนสติหลุดไปแล้วจ้า เธอพยายามประคองสติให้ดีที่สุด)
พี่เชน ซ้อมเป็นไงเหนื่อยไหม
มะลิ เหนื่อยมากพึ่งซ่อมได้แค่สอง สามวันยังเหนื่อยขนาดนี้
พี่เชน เลิกดึกเลยอ้ะดิ
มะลิ ช่ายยยย
พี่เชน งั้นเย็นนี้เดี๋ยวพี่รอขี้จักรยานไปส่งนะแบบนี้ดีไหม
มะลิ (รีบตอบ) ดีค่ะ ดีมาก ๆ เลยค่ะ (มะลิเขินจนตัวบิด)
มะลิ พี่เขาเรียกแล้ว เดี๋ยวหนูไปซ้อมก่อนนะคะ
พี่เชน ครับ เดี๋ยวพี่รออยู่ตรงนี้นะ ซ้อมเสร็จแล้วเดินมาตรงนี้นะ
มะลิ ค่าาา (เดินหันหลังยิ้มจนแก้มปริหมดแย้ววว)
หลังจากการซ้อมดรัมเมเยอร์ของมะลิ มะลิได้เดินไปเอากระเป๋าและได้เดินมายังตรงที่พี่เชนนั่งรออยู่
พี่เชน ซ้อมเสร็จแล้วเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม
มะลิ ถ้าบอกว่าเหนื่อยมากจะงอแงไปไหมคะ
พี่เชน ไม่หรอกครับ ทั้งเรียนทั้งซ้อมคงเหนื่อยแย่เลย บ่นได้นะคะ พี่รับฟังเสมอ
มะลิ ค่าาา (คือจากพี่เขินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คือสติหลุด คูณ10)
พี่เชน มาซ้อนท้ายพี่
มะลิเดินเข้าไปนั่งซ้อนท้ายพี่เชน ระหว่างทางที่มะลินั่งซ้อนท้ายพี่เชนนั้น
มะลิ หนักไหมคะ
พี่เชน ไม่หนักเลยครับ ตัวน้องมะลิเบามากแค่นี้สบาย
ระหว่างพี่พูดพี่เชนก็แอบคว้ามือมะลิให้มาโอบพี่เอวของพี่เชนเอง ซึ่งก็เพิ่มความหัวใจพองโตขึ้นไปกันใหญ่ โดนมะลิก็โอบเอวของพี่เชนไปจนถึงปากซอยหน้าบ้านของมะลิ
มะลิ ส่งถึงตรงนี้ก็ได้นะคะ
พี่เชน โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาส่งอีกนะ
มะลิ ได้ค่ะ ว่าแต่พี่เชนจะไปรอตรงที่เดิมหรอคะ
พี่เชน เอาโทรศัพท์ มาสิ
มะลิ (ยื่นโทรศัพท์ให้พี่เชน)
พี่เชน เนี่ย เบอร์พี่ ซ้อมเสร็จ ถ้าไม่เจอตรงที่พี่รอวันนี้ก็โทรหาพี่นะ
มะลิ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ บาย บา๊ย
พี่เชน ทางมืดๆ เดินดีๆละ
มะลิ ค่าาา
มะลิเดินเข้าบ้านแบบหัวใจพองโต โดยที่มะลิก็ไม่คิดเลยว่าคนที่ตัวเองชอบจะมาส่งแล้วก็ปั่นจักรยานมาส่งเธอด้วย ทั้งที่บ้านของมะลิก็ไม่ได้ไกลจากโรงเรียนมากซึ่งเธอก็เดินกับเองได้ ถ้าดูจากระยะทางแล้วบ้านพี่เชนน่าจะห่างจากโรงเรียนมากกว่าบ้านของมะลิอีก ซึ่งก็ทำให้มะลิรู้สึกประทับใจพี่เชนเข้าไปกันใหญ่ และพี่เชนก็ปั่นจักรยานมาส่งมะลิทุกวันจนถึงหมดฤดูกาลกีฬาสี หลังจากฤดูกาลกีฬาสีจบลงอยู่พี่เชนก็หายไป ซึ่งพี่เชนก็เรียนตามปกติแต่ดูหลบหน้าหลบตามะลิไปเลย มะลิโทรหา ก็ไม่รับสาย ซึ่งก็ทำให้มะลิเกิดความสงสัยและเศร้าใจเป็นอย่างมาก ทางออกเดียวที่จะทำให้มะลิรู้ความจริงได้ก็ คือ เพื่อน น้องของพี่โน่นั้นเอง
มะลิได้ชวนเพื่อนคนเดินมานั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนตัวเดิมที่มะลิเคยเจอพี่เชน
มะลิ แกทำไม่พี่เชนเขาหลบหน้าฉันวะ แกพอรู้ไหม
เพื่อน รู้ดิ ถ้าฉันบอกแกจะให้อะไรฉัน
มะลิ ทำไมแกงกจังวะ บอกแค่นี้ก็ไม่ได้หรอ ต้องมีของมาแลกเลยรึไง
เพื่อน ฉันล้อเล่น… หยอก ๆ ฉันไปรู้มาว่า พี่เชนรู้ว่าพี่โด้ ที่เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเขาชอบแก พี่เชนเลยจะหลีกทางให้พี่โด้ได้คบกับแก
มะลิ ห๊ะ (ด้วยสีหน้าที่แบบโคตรจะตกใจมา) อีพี่โด้เป็นใคร ฉันยังไม่รู้เลย จะมาหลีกทางอะไรก่อน แกไปบอกพี่เชนทีว่าฉันชอบเขา
เพื่อน บ้าาา หรอ แกก็ไปบอกเองดิ
มะลิ ก็พี่แกเป็นเพื่อนกับพี่เชนอ้ะ ฝากพี่แกไปบอกก็ได้
เพื่อน พี่ฉันก็ไม่รับฝากค่าาาา
มะลิ ทำไมใจร้ายกันจังวะ งั้นเย็นนี้ฝากบอกให้พี่เชนรับโทรศัพท์ฉันด้วยถือว่าฉันขอละ ฉันอาจจะเป็นได้คุยกับพี่เชนครั้งสุดท้ายก็ได้
ช่วงเย็นของวันนั้น มะลิก็ได้โทรศัพท์พี่หาพี่เชน
มะลิ เสียงโทรศัพท์ ตู๊ด… ตู๊ด…ตู๊ด...
พี่เชน สวัสดีครับ
มะลิ ทำไมพี่ไม่รับโทรศัพท์หนูเลย แล้วทำไมพี่พยายามหลบหน้าหนูด้วย
พี่เชน ใจจริงพี่ก็ไม่อยากทำแบบนั้นหรอก แต่ทำไงได้เพื่อนพี่มันขอให้พี่เลิกยุ่งกับมะลิทุกช่องทาง
มะลิ ไอ้พี่โด้นั้นหรอ หนูไม่ได้ชอบไอ้พี่โด้สักหน่อย มะลิชอบพี่เชนต่างหากเว้ย แล้วพี่ไม่ชอบมะลิหรอทำไมต้องไปทำตามอีพี่โด้ขนาดนั้น
พี่เชน พี่ก็ชอบมะลิครับ พี่สนิทกันกับโด้มากเป็นญาติกันด้วย พี่ไม่อยากทะเลาะกันกับเพื่อนอ้ะ น้องมะลิคงเข้าใจพี่นะ
มะลิ เข้าใจค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจก็จะพยายามเข้าใจ ( ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด มะลิได้กดวางสายพี่เชน)
หลังจากวันที่มะลิได้เครียใจกับพี่เชนมาพักใหญ่ พี่โด้ก็คอยมาตามจีบมะลิ ซึ่งมะลิก็ไม่เคยสนใจพี่โด้แม้แต่นิดเดียว เพราะในใจของมะลินั้นมีแต่พี่เชนคนเดียว ถึงแม้ว่ามะลิและพี่เชนจะไม่ได้ติดต่อพูดคุยกันเลยหลังจากที่เครียใจกันวันนั้นแต่ในใจของมะลินั้นก็คงมีแต่พี่เชน
หลายปีต่อมา มะลิได้ข่าวว่าพี่เชนจะแต่งงานจากเพื่อนถึงแม้ว่ามะลิจะยังโสด แต่มะลิก็เคยมีแฟนแต่รู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้เลยขออยู่เป็นโสดรอคนที่มะลิคิดว่าเหมาะกับตัวเองถึงจะเปิดใจอีกครั้ง แต่พอมะลิได้ยินถึงเรื่องของพี่เชนอีกครั้ง ก็ทำให้อดนึกถึงไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์ตอนนั้นมันดีมาก ๆ ดีจนไม่คิดว่าจู่ ๆ เราจะไม่ได้เจอกันอีกซึ่งมันก็เกิดขึ้นไวมากถึงแม้ว่าในชีวิตจริงมะลิและพี่เชนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราเคยมีความรู้สึกดีให้กันซึ่งความรู้สึกดี ๆ นั้น มันก็คงอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป …..
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ มุมกว้าง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มุมกว้าง
ความคิดเห็น