คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : - Chapter 5 - (kihea + kyumin)
................
................................
.......................................................
...................................................................................
.............................................................................................................
อีกด้านของม้าหมุน.
“นี่ คิบอมเมื่อไรนายจะเลิกแอบดู 2 คนนั่นซักทีเนี่ย ชั้นอยากไปเล่นจะตายอยู่แล้ว”
“ของเราอะไรอันแรกล่ะดงเฮ”
“อะ.....เอ่อ....บ้านผีสิง”
“งั้นก็ไปกันเลยสิ”
เด็กหนุ่มหน้าหวานพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพุ่มไม้ ถ้าถามว่าเค้ามาทำอะไรที่นี่...คำตอบที่ตรงที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น...มาสอดแนม (สอดรู้สอดเห็น) เรื่องเยซองกับเรียวอุคนั่นแหละ ก็เมื่อวานตอนที่วางแผนกันอยู่ อยู่ ๆ ราชินีของวง หรือ เจ๊ฮีชอลก็ก้มลงมากระซิบกับเค้าเรื่องที่จะให้ช่วยนี่....ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ทำหรอกนะ....แต่พอเห็นสายตาทิ่มแทงของซินเดอเรลล่าประจำวงแล้ว มันก็ทำเอาคนสมองดีรีบรับคำทันที ส่วนถ้าจะถามว่าทำไมคนสวยไม่ไปเองล่ะก็...คำตอบคือ ต้องเที่ยวกับซีวอน - -
แล้วตอนนี้ภารกิจก็คงจะเสร็จสิ้นแล้วล่ะ เพราะ อาละดิน และ จัสมินแห่งวงเดินจูงมือกันออกมาจากเครื่องเล่นที่มือชื่อว่าม้าหมุน ด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่า.....ไม่อธิบายทุกคนก็คงจะรู้ดี ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของคนตัวโต และ ท่าทางเขินอายของคนตัวเล็กที่แม้เค้าจะเห็นเพียงไกล ๆ แต่ก็พอจะรู้แล้วว่ามีความสุขกันขนาดไหน
“น่าเบื่อจะตาย มานั่งดูไอ้พวกนี้สวีทกันเนี่ย”
“อย่าพูดยังงั้นสิดงเฮ...ถือว่ามาช่วยเพื่อนก็ได้”
หันไปพูดกับคนหน้าสวยที่กำลังทำท่าไม่พอใจอยู่ ยิ่งพอได้ยินคำพูดของเค้าเมื่อสักครู่นี้ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าสวยง้ำลงไปใหญ่....แก้มใสถูกอักลมแน่นแสดงถึงอาการ “งอน” ของคนตัวเล็กนี่...ก็รู้อยู่หรอกว่าอยากเที่ยวสวนสนุกขนาดไหน...แต่งานก็คืองาน แม้จะจำใจทำก็ตามเถอะ...หวังก็เพียงแค่คนตรงหน้านี่จะไม่โกรธเค้ามากจนกระทั่งบอกเลิกเค้าเท่านั้นแหละ
“ชั้นอยากเที่ยว!!!เข้าใจมั๊ยคุณคิมคิบอม...ลีดงเฮคนนี้อยากไปเที่ยวเล่นแล้ว!!”
ตะโกนใส่อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงประชดประชันสุดชีวิต ท่าทางการงอนแบบน่ารักนั่นทำเอาคนที่ถูกโวยวายใส่อดใจไม่ไหวรวบตัวคนหน้าสวยขึ้นมากอด แล้วขโมยหอมแก้มเนียนไปทีให้หายหมั่นเขี้ยว พร้อมทั้งยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น...แก้มป่อง ๆ ของอีกคนทำเอาดงเฮอดไม่ได้ทีจะใช้มือหยิกเล่นให้หายโกรธ
“ไปครับลีดงเฮ....เดี๋ยวคิมคิบอมจะพาลีดงเฮไปบ้านผีสิงนะ กลัวมั๊ยนางฟ้า??”
พูดเลียนแบบอีกคนด้วยรอยยิ้ม ทำเอาคนสวยส่งมือพิฆาตทุบลงที่ไหล่อีกครั้ง....ใคร ๆ ก็รู้ว่าลีดงเฮคนนี้น่ะกลัวผียิ่งกว่าอะไรดี ที่ถามไปน่ะ ทดสอบเสียหน่อยว่าจะยังปากกล้าอยู่อีกรึเปล่า...แต่เรื่องที่ไม่ควรลืมก็คือ...ใคร ๆ ก็รู้ว่าลีดงเฮน่ะ ปากเก่งเป็นที่สุด สุดยอดคนฟอร์มจัดของวง....โดนท้าอะไรมาเป็นต้องรับคำท้าหมดโดยที่ไม่มองตัวเองเลยว่าจะทำได้รึเปล่า
“ไม่มีทาง กับอีแค่บ้านผีสิง ของหลอกเด็กอย่างนั้นน่ะหรอ...ชั้นไม่กลัวหรอก!!”
“แล้วผมจะคอยดูครับ ^-^”
พูดพร้อมกับอมยิ้มแล้วออกแรงดึงมือของอีกฝ่ายให้เดินตามไปยังสถานที่แรกของพวกเค้าที่คุณหัวหน้าวงคนสวยจัดมาให้ แต่ในใจก็ยังไม่วายคิดเรื่องของรุ่นพี่ และ เพื่อน ที่เพิ่งจะคบกันได้ไม่นานนี้อยู่ ก็ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนี้จะหวานกันดีอยู่หรอก....แต่ว่า ที่ฟักทองน้อย (รุ่นพี่) ซองมินห่วงน่ะ มันก็สำคัญเหมือนกันนั่นแหละ
....ก็ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้เรื่องที่พี่เยซองเปลี่ยนผู้หญิงที่คบด้วยบ่อยขนาดไหน
....ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมซองมินถึงกลัวว่าเรียวอุคจะเสียใจขนาดนั้น
....ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นผู้หญิงที่เคยร้องไห้เพราะการคบเล่น ๆ ของพี่เยซอง
....แต่เหตุผลสำคัญอาจจะไม่ได้อยู่ที่พี่เยซองก็ได้
....และเหตุผลข้อนี้ ทั้งเค้า ดงเฮ ซองมิน และอีกหลาย ๆ คนก็คงจะรู้ดีที่สุด
....เพราะเรียวอุครักเยซองมาก....
....มากจนกระทั่งสามารถให้ได้ทุกอย่าง
....แม้สุดท้ายความรักนั้นจะไม่ได้รับความตอบแทนเลย ก็ยินดีที่จะรัก
....รัก....แม้หัวใจของตัวเองจะเจ็บ คนตัวเล็กนั่น...ก็ยอม
“นี่....คิบอม...คิบอม คิดอะไรอยู่น่ะ..”
เสียงใสของคนหน้าหวานเอ่ยเรียกเมื่อเห็นอีกคนอยู่ดีดีอยู่เหม่อไปเสียอย่างนั้น มือเล็กเลื่อนไปเลื่อนมาอยู่ข้างหน้าเพื่อให้อีกคนรู้สึกตัว...เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยตามเสียงเรียก แล้วหันไปมองคนหน้าหวานด้วยหน้าตาเจื่อน ๆ ที่บอกเป็นเชิงขอโทษ
“อืม....ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่....คิดอะไรอยู่หรอ”
“ก็...คิดว่า ถ้าดงเฮไม่ได้รักผมคนเดียวเนี่ย ผมจะทนได้มั๊ย??”
พูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนที่ชอบทำ แต่ผิดกันตรงที่คราวนี้ดงเฮไม่ได้งอนจนแก้มป่องเหมือนเคย แต่กลับจับหน้าของอีกคนให้หันมามองทางตัวเองด้วยสีหน้าและแววตาจริงจัง...ปากเรียวเม้มเข้าหากันเหมือนกับขบคิดอะไรอย่างหนัก แล้วเอ่ยออกมา
“จำไว้นะคิมคิบอม....ลีดงเฮคนนี้จะรักนายเพียงคนเดียว...ชั้น...”
“ชั้นสัญญา.....เน่าจังน้า ดงเฮเนี่ย”
พูดล้อเลียนอีกคนแล้วอมยิ้มจนแก้มป่องอีกรอบ (ป่องอยู่แล้วนี่แก้มน่ะ) จนคนหน้าสวยที่เอามือประคองหน้าคิบอมอยู่ต้องรีบปล่อยแล้วหันหน้าไปอีกทาง...เพื่อเริ่มการ “งอน” ขึ้นอีกครั้ง....ให้มาซึ้งซัก 2-3 นาทีนี่มันจะไม่ได้เลยใช่มั๊ย....คิมคิบอม!!!
“โอ๋ ๆ นางฟ้าของผม....พูดเล่นน่า...อย่างอนน้าคนดี”
“ไม่ต้องมาโอ๋เลย ไอ้เด็กบ้า...ทีเมื่อกี๊และว่าชั้นเอา ทีอย่างงี้แล้วจะมาง้อ”
“โธ่...ดงเฮก็...เลิกโกรธน้า เนี่ย ๆ ถึงบ้านผีสิงแล้วด้วย ไปเล่นกันน้า~”
คนหน้าหวานบอกแล้วทำเสียงออดอ้อนใส่ คำพูดนั้นทำเอาคนที่งอนอยู่ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ...ก็รู้ ๆ กันอยู่แท้ ๆ ว่าบ้านผีสิงน่ะ คือสถานที่ที่ลีดงเฮคนนี้เกลียดและกลัวที่สุด...รู้แต่ก็ยังจะพามาเล่น จำไว้เลยนะคิบอม...เราจะได้เห็นดีกันแน่!!!ชิย์!!!
ร่างบางจำต้องเดินเข้าไปในบ้านผีสิงอย่างช่วยไม่ได้ ก็ไอ้คนที่ตัวไม่สูงไปมากกว่าเค้าสักเท่าไร แถมหน้าก็ไม่ได้หวานน้อยไปกว่าเลยแต่ดันชอบทำตัวแมนคนนี้เล่นฉุดกระชากลากดึงเค้าเสียขนาดนี้ ใครมันจะไปต่อกรกับแรงมหาศาลนี่ได้...แล้วเหตุผผลอีกข้อนึงก็คือ จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเค้ากลัวผีขนาดไหน (เค้ารู้กันหมดแล้วมั้งลูก) ต่อให้เป็นลมตายก็ยอม....แต่ขอทำตัวกล้าไว้ก่อนเถอะ!!!
“ผมรู้ว่านางฟ้าน่ะ ไม่มีวันกลัวผีหรอก”
“ชะ...ใช่....ชั้นไม่กลัว”
“งั้นเข้าไปก่อนนะครับ”
พูดจบก็ดันหลังดงเฮเข้าไปในปราสาทนั่นก่อน...เรียกเสียงโวยวายจากคนที่ยังไม่ได้ทำใจได้เป็นอย่างดีอยากจะรู้นักว่าจะทำยังไงเวลาที่เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกลัวมาที่สุด....อยากจะรู้นักว่าจะทนได้มั๊ยกับสิ่งที่ไม่มีตัวตนนี่....อยากจะแกล้งให้หัวปั่นเล่น อยู่ใน ‘บ้านผีสิง’ นี่แหละ ส่วนตนอวดเก่งน่ะหรอ.....
‘คิบอมบ้า ๆ ๆ คิมคิบอม นายมันบ้าที่สุด!!!’
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนหน้าหวานหลังจากที่โดนดันให้เข้ามาอยู่ในนี้คนเดียว....รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเกลียดที่มืด ๆ มากขนาดไหน แต่ก็ยังจะให้เค้าเข้ามาในบ้านผีสิงที่สุดยอดจะมืดนี่คนเดียวอีก แถมดีไม่ดีบางครั้งก็มีเสียงโหยหวนดังมาจากทางไหนบ้างก็ไม่รู้ คิดแล้วก็สยอง....นี่ก็จะ 5 นาทีได้แล้ว ไอ้เจ้าเด็กบ้าที่มีชื่อว่าคิมคิบอมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาในนี้ซะที....ส่วนตัวเค้าเองก็ยังไม่ได้ขยับไปจากตรงที่เพิ่งเข้ามาสักเท่าไร ก็กลัวว่าถ้าขยับไปไกล ๆ จะได้เจออะไรที่ไม่อยากเจอน่ะสิ
“หึ หึ ฮะ ฮ่า ฮ่าาา!!!~”
“อ๊ากกกกก.....คิบอมนายอยู่ไหน๊!!!!”
เสียงหัวเราะของอะไรบางอย่างดังขึ้น ทำเอาร่างบางสะดุ้งสุดตัว ฉับพลันริมฝีปากเรียวที่ตอนนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของสมองก็ร้องเสียงหลง....และคำพูดที่ตามมาหลังจากอุทานไป ก็คือ ชื่อของคนที่สลักอยู่ในหัวใจเค้าตลอดเวลา คนที่ค้าคิดว่าถ้าเจอเมื่อไหร่ล่ะก็...จะด่าให้เละ คนที่ชื่อว่าคิมคิบอม....ที่วิ่งเข้ามาข้างในด้วยใบหน้าตื่นตกใจ
“ดงเฮ ๆ ...ได้ยินผมมั๊ยครับนางฟ้า นี่ดงเฮอยู่ไหนเนี่ย”
“ไอ้เด็กบ้า...!!!”
ตะโกนเรียกคนที่เพิ่งวิ่งเข้ามาสุดกำลัง ซึ่งเมื่อคิบอมได้ยินเสียงหวาน ๆ ของคนรักก็ไม่รอช้ารีบวิ่งไปตรงที่ที่คิดว่าเป็นที่มาของเสียงทันที แล้วก็ต้องพบกับสภาพของคนปากเก่งที่ตอนนี้เข่าอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว บริเวณรอบ ๆ นั้นยังคงมีเสียงสะท้อนของอะไรบางอย่างที่ทำให้คนตรงหน้านี่รู้สึกกลัวอยู่เบา ๆ คิบอมคลี่ยิ้มเมื่อเห็นอีกคนนึงไม่เป็นอะไรมาก มือแกร่งถูกยื่นไปให้ตรงหน้าคนน่ารัก ซึ่งอีกคนก็รับไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อลุกขึ้นมาได้ คนตัวเล็กก็ยังคงมีทีท่าลุกลี้ลุกลนไม่เปลี่ยนแปลง ตาเรียวเล็กมองซ้ายขวาอย่างระแวง ซักพักเสียงนั่นก็ดังขึ้นอีกรอบทำเอาคนสวยสะดุ้งเฮือก...ผวากอดอีกคนแล้วเอาใบหน้าหวาน ๆ นั่นซุกลงไปในอกแกร่งของคิบอม เด็กหนุ่มยิ้มเล็กน้อยให้กับท่าทางของคนตรงหน้า....กลัวผีมากขนาดนี้แท้ ๆ แต่ดันทำปากเก่งอีก....ทำได้เพียงคิดเบา ๆ ในใจ เพราะ หากพูดออกไปคงจะโดนงอนอีกเป็นแน่ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้าง ๆ หูของคนที่ซุกหน้าอยู่อย่างขำขำ
“ไหนบอกไม่กลัวไงครับ”
“กะ....ก็...ไม่ได้กลัว คะ....แค่....ไม่ชอบ”
คำตอบของคนสวยทำเอาคิบอมต้องกลั้นหัวเราะอย่างรุนแรง...ปากแข็งได้ตลอดทั้งปียังงี้แหละน่า แต่ดูท่าทางคนที่พูดว่าแค่ไม่ชอบเสียก่อน ตอนนี้สั่นยังกับอะไรดี....แต่มันก็เป็นผลพลอยได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สโนวไวท์จอมเจ้าเล่ห์ยินดีจะเก็บเกี่ยวไว้ ก็คนสวยตัวเล็กตรงหน้านี่กอดเค้าซะแน่น..ไม่ดีใจก็ให้มันรู้ไปสิ
“นี่....นายรู้ใช่มั๊ยว่าทางออกอยู่ไหนน่ะคิบอม”
“ครับ ๆ...ผมรู้ครับนางฟ้า”
“ออกไปเร็ว ๆ เหอะ ชั้นไม่ชอบที่นี่”
คนตัวเล็กยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่ชอบทำเอาคิบอมหลุดขำออกมาอีกรอบ เรียกสายตาไม่พอใจเท่าไรนักจากอีกคนให้ตวัดขึ้นมาลองทั้ง ๆ ที่มือยังคงเกาะอยู่กับเอวของคนที่มีฉายาว่าสโนวไวท์อยู่....เมื่อใช้สายตานั่นขู่จนเป็นที่พอใจแล้วก็เก็บมันลงไปแล้วซุกหน้าลงบนอกกว้างของคนหน้าหวานอีกครั้ง ปล่อยความคิดให้ไหลผ่านสมองไป...ความคิดคำนึง เกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อว่าคิมคิบอม
...อบอุ่น...
...นายจะรู้มั๊ยว่าอ้อมกอดนายมันอบอุ่น คิบอม...
...อบอุ่นจนไม่จะอยู่ในอ้อมกอดนี่ตลอดไป...
...ลีดงเฮ รัก คิมคิบอมนะ...
...นายจะได้ยินรึเปล่าคิบอม สิ่งที่หัวใจชั้นมันพูด...
...ชั้นรักนาย...
...ไม่ว่าอะไรจะกิดขึ้นก็ตาม...
...จะรักนายเพียงคนเดียว...
“ถึงแล้วครับนางฟ้า”
เสียงทุ้มห้าวเอ่ยเรียกเมื่อเห็นคนสวยที่มาด้วยกันยังคงกอดเค้าแน่นแม้จะออกมาข้างนอกแล้วก็ตาม ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยตามเสียงเรียก แล้วค่อย ๆ ปรือตาขึ้นรับแสง...รอยยิ้มสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ค่อย ๆ ถูกเผยออกมาเมื่อเจ้าตัวเห็นบรรยากาศภายนอก ดงเฮค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ อย่างไม่เชื่อสายตา....เบื้องหลังทางออกบ้านผีสิงที่เค้ากลัวนักหนา (ยอมรับแล้วหรอจ๊ะ) กลับมีสวนดอกไม้นานาพันธ์นี่อยู่....ทั้งกลิ่มหอม และสีสันหลากหลายของดอกไม้นี่ทำเอาคนมองเผลอยิ้มให้กับบรรยากาศสดชื่นโดยไม่รู้ตัว
“ชอบมั๊ย??”
“อื้ม...-/////-”
“นี่เป็นเพราะ ดงเฮยอมเดินมาจนสุดทางนะครับเนี่ย” พูดแล้วยิ้มให้อีกคน
“งะ...งั้นหรอ”
“คิดดูนะครับดงเฮ ถ้าเกิดดงเฮไม่เดินมา...ดงเฮก็จะไม่ได้เจอกับที่นี่ใช่มั๊ยครับ...แต่นี่ดงเฮเดินมา แม้จะกลัวแค่ไหนแต่ก็ยังกล้าที่จะก้าวเดิน คงเหมือนกับความรักแหละมังครับ....บ้านผีสิง ก็คืออุปสรรค ที่เราจะต้องอดทน และฝ่ามันไปให้ได้ ทนทางข้างหน้า....น่าจะเป็นสวนดอกไม้แสนสวยอย่างนี้นะครับ”
...ใช่ ถ้าเกิดอดทน ก็จะพบกับอะไรดีดี...
...นายก็คิดอย่างนั้นใช้มั๊ยเรียวอุค...
...คิดอย่างนั้น ถึงได้ยอมทน...
...ทน เพื่อที่จะได้รับ ‘ความรัก’ ของคน ๆ นั้น...
...คนที่ไม่เคยมี ‘ความรัก’ ที่แท้จริงอย่างเยซอง...
คิบอมค่อย ๆ โอบกอดคนหน้าสวยจากด้านหลังแล้วกระชับอ้อมกอดนั้นแน่นส่งผ่านไออุ่นถึงอีกคน ซึ่งดงเฮเองก็ตอบรับอ้อมกอดนั้นเป็นอย่างดีด้วยการนำกระชับวงแขนของอีกคนให้แน่นยิ่งกว่าเดิม เจ้าของฉายาสโนวไวท์ค่อย ๆ ก้มลงไปจรดริมฝีปากลงกับใบหู แล้วกระซิบแผ่วเบา...
“ผมก็รักดงเฮนะ...และจะรักตลอดไป”
*******
***************
**************************
*********************************
“ซองมินเดินช้า ๆ หน่อยสิครับ”
เสียงนุ่มทุ้มดังจากปากของเด็กหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นน้องเล็กของวงศิลปินชื่อดัง...ซูเปอร์จูเนียร์....เด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีนามว่า โจวคยูฮยอน ตอนนี้กำลังเดินตามสมาชิกคนกลางของวงที่กำลังเดินจ้ำอ้าวไม่มองใครอยู่ ริมฝีปากบางตอนนี้เชิดรั้นขึ้นบ่งบอกถึงอารมณ์ของเจ้าตัวที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร หมวกสีชมพูที่เคยสวมอยู่บัดนี้ถูกถอดออกมากำไว้แน่นอย่างระงับอารมณ์ ขาเรียวเล็กก้าวฉับ ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อหนีคนที่กำลังตามมา
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ยอมหยุดเท้า ร่างสูงโปร่งก็เริ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก จากเดินจ้ำอ้าวเร็ว ๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นการวิ่งช้า ๆ ไปแล้วโดยที่คนตัวเล็กข้างหน้าไม่สังเกตเห็น ร่างสูงเริ่มวิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันอีกคน มือหนายิ่นออกไปข้างหน้าเมื่อเข้าใกล้อีกคนพอที่จะคว้าไว้ได้แล้วจับเข้าที่แขนก่อนจะใช้แรงกระชากเข้ามาสู่อ้อมอก ท่ามกลางผู้คนมากมาย
“ปล่อย!!!” ซองมินเอ่ยเสียงแข็งสั่งอีกคนที่อายุน้อยกว่า แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากร่างสูงเลยแม้แต่น้อย คยูฮยอนค่อย ๆ รวบตัวคนตัวเล็กที่ดิ้นไปดิ้นมาให้อยู่เฉยๆ ก่อนจะออกแรงลากกระต่ายสีชมพูแสนงอนตัวนี้ไปยังที่ที่มันมีคนน้อยกว่านี้
“ชั้นบอกให้ปล่อยไงไอ้คยูบ้า!!!ไอ้เด็กบ้าปล่อยชั้นนะ!!!”
“ถ้าผมปล่อย ซองมินก็เดินหนีอีกสิครับ ไม่เอาหรอก ผมเหนื่อยแล้ว”
“นายเหนื่อยก็เรื่องของนาย ก็อยากตามชั้นเองทำไมล่ะ!!”
พูดกระแทกเสียงแล้วหันหน้าไปอีกทางทำเอาอีกคนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ....ซวยแล้วมั๊ยล่ะโจวคยูฮยอน ดันทำคนตัวเล็กนี่งอนซะจนได้...แล้วเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าคนอารมณ์ดีนี่ ลองงอนมาทีสิ คนง้อแทบจะเป็นลมตายเพราะความดื้อรั้น
“ซองมินครับ...งอนอะไรผมหรอ??”
“ชั้นไม่ได้งอน!!!”
“แล้วซองมินเป็นอะไรล่ะครับ”
“ชั้นก็แค่เบื่อนาย!!เข้าใจมั๊ยไอ้เด็กบ้า!!!”
ตะคอกใส่คนอายุน้อยกว่าอีกรอบแล้วพยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอ้อมกอดแกร่งอย่างสุดตัว...จะไม่ให้โกรธได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อไอ้เด็กนี่มันดันมาขัดจังหวะเค้าซะเสียอารมณ์หมด..แทนที่เค้าจะได้ดูพี่เยซอง กับ เรียวอุคจู๋จี๋กัน..เอ๊ย!!จะได้ดูความคืบหน้าของสองคนนั่นว่าดีหรือร้าย ไอ้เด็กโข่งนี่ก็ดันมาลากตัวเค้าออกมาพร้อม ๆ กับเหตุผลที่ว่า....ไม่ใช่เรื่องของเรา!!มันน่าฆ่าซะยิ่งกว่าอะไรดี
“โกรธหรอครับ”
“อะ...ไม่ใช่ซะหน่อย!!”ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงอ่อนลงนิด ๆ ไม่อยากจะยอมรับเลยจริง ๆ ว่าเวลาไอ้เด็กนี่ทำหน้าอ้อนมันทำเค้าใจอ่อนทุกที.....ไม่เข้าใจ ทำไมต้องหวั่นไหว??
“ผมขอโทษ....”
“ชั้นบอกว่าไม่ได้โกร๊ธ~~”
“แต่ผมจะขอโทษนิ”
“นายเคยตายมั๊ย??โจวคยูฮยอน”
“ไม่ครับ และผมจะยังตายไม่ได้ เพราะผมยังไม่ได้บอกอะไรบางอย่างกับซองมิน”
คำพูดของคยูฮยอนทำเอาร่างบางที่เกือบ ๆ จะอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้งเพราะคำพูดกวนบาทาของไอ่เด็กคนนี้ต้องหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ....พูดหรอ พูดอะไรกับเค้างั้นหรอ....คิดพลางส่งสายตาไปคาดคั้นอีกฝ่าย ซึ่งแม้ตอนแรกจะอึกอักไม่อยากบอก แต่เมื่อเห็นสายตารวมทั้งประมวลความคิดของตัวเองแล้วร่างสูงก็ถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
“ผมรักซองมิน”
Maya Talk
** จบแล้วล่ะ บ้าไปแล้ว **
ทำอะไรของกรู๊~~~กรูทำอะไรของกรู๊~~
ตอนแรกกะแกล้งด๊องซะหน่อย - - ทำไมมันเน่า ยังไม่รู้เลย...เฮ้ออออ ช่วงนี้บ้าอ่านฟิค เลยไม่ได้ปั่นฟิค...แอ้ก!!ตายแหงเจ้าค่ะ -*- วันเสาร์ก็ไปกรุงเทพละ -*- บ๊ายบายยย ฟิคจ๋า....บอร์ดต่าง ๆ ครับ อย่าลบชื่อผมเลยนะ เดี๋ยวเค้ากลับมาจิง ๆ รอก่อนนนนนนน!!!
งงตัวเอง คยูมินมาไง เหงว่ามันสั้นเลยเอามาลงซะงั้น แหะ ๆ - -“ สั้นมาก ๆ ค่ะ ขอโทดด้วย
เอาล่ะ...โปรเจตตอนพิเศษ วันเกิดฮยอคจี๊~~ฮยอกแจ๋สุดหล่อที่ไม่รู้ไปเอาความหล่อมาจากไหนนักหนาอ้ะ -*-...ก่อนที่จะรัก...นั่นแหละชื่อโปรเจ็ค เน่ามะ ๆ (B’for I fall in love) โฮะ ๆ ๆ ....ช่วงหลังนี่ รู้สึกว่าเราไม่น่าตั้งชื่อเรื่องอย่างนี้เลยอ้ะ ซ้ำมาก ๆ ...แอ้ก!!! 55+...อ้อ แจ้งไว้ ฮยอกฮันนะเคอะ นายลีฮยอกแจ กะ นังฮันกยอง (วิ่งหลบฝ่าเท้าของแฟนคลับป๋า)
อ้อ....เยเรียว ตอนหน้าหวังว่ามันคงจะเครียดแล้วล่ะ - -“ เหอะ ๆ มันจะต้องเริ่มเครียดอย่างแน่นอนถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ (ประมาณว่านังคนแต่งมันจิตใจไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้าเกิดแบบอารมณ์ดี๊...ดี มันคงออกมาแบบ....ปัญญาอ่อนอ้ะ) รอบิ๊วอารมณ์ค่ะ -*-
สุดท้ายนี้!!!~~พัทย๊า~~อยากไป ๆ ๆ.....ฮยอกแจ ไอ้ไก่บ้า ฟิคนี้เพื่อแก!!! (เค้าเริ่มรักไก่แล้วนะ) ...ผีลิง ชื่อที่แท้จริงของดงเฮ ไม่ใช่นางฟ้า 55+
ความคิดเห็น