คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - Chapter 4 - (100% แร้ววว...เฮ้อออ>.
ร่างเล็กรีบสาวเท้าเร็ว ๆ มาจนถึงหน้าห้องที่คุ้นเคย แผ่นป้ายไม้เขียนคำว่า Ryewook @ Sungmin เด่นหราอยู่หน้าประตู...แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินนั้นทำให้คนตัวเล็กไม่กล้าก้าวเข้าไปในห้อง....นี่เจ้าหนูลัคกี้ทำอะไรฟักทองน้อยกันแน่นะ
"อะ...โอ๊ยย...คยู ไม่เอานะ ชั้นเจ็บ...."
"ทนหน่อยสิครับซองมิน เดี๋ยวก็สบายแล้ว"
"จริงหรอ..."
"จริงสิครับ เนี่ย..เห็นมั๊ย..."
"อืมม....จริงด้วย...อีกสิคยูฮยอน"
ใบหน้าหวานแดงซ่านอีกรอบ...แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะความเขินอายตัวเอง แต่กลัลเป็นเพราะอายแทนรุ่นพี่และเพื่อนที่อยู่ข้างใน ช่างทำอะไรไม่คิดถึงคนอื่นเค้าบ้างเลย...แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เค้าก็จำเป้นที่จะต้องเปิดประตูเข้าไป เพราะที่นี่คือที่เดียวที่จะสามารถมาสงบสติอารมณ์ได้...แม้มันจะเป็นการเสียมารยาทต่อคนข้างในก็ตาม
"ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับพี่ซองมิน!!!"
พูดขอโทษเสียงดังขณะที่ตัวเองหลับตาแน่น...นึกโทษตัวเองที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ทั้ง ๆ ที่น่าจะเคาะประตูก่อนเข้ามาเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทแท้ ๆ แต่นี่กลับพรวดพราดเข้ามา แถมคนข้างใน...ยังทำอะไรที่เค้าไม่อยากจะนึกถึงอยู่ด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้
คนตัวเล็กเริ่มสังเกตว่าเสียงรอบข้างเงียบลงไป...นี่เค้าต้องโดนโกรธแน่ ๆ ไม่น่าเลยจริง ๆ เลย...ซักพัก ก็รู้สึกถึงมือเย็น ๆ ของใครบางคนที่วางอยู่บนไหล่ เรียวอุคค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามอง...แล้วก็พบกับ รอยยิ้มสดใสของสมาชิกที่มีอายุอยู่ในลำดับที่ 7 ของวง (ลูกสาวคนโตของหัวหน้าวง)...ลีซองมิน ยืนยิ้มให้
"เป็นอะไรไปน่ะเรียวอุค" ฟักทองน้อยเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนร่วมวงยืนก้มหน้า...สีแดงระเรื่อจากใบหน้าที่ลามมาจนถึงหูทำให้เค้าถึงกับขมวดคิ้ว
"กะ...ก็....เมื่อกี๊พี่ซองมินกับคยูฮยอนทำอะไรกันล่ะครับ"
"เมื่อกี๊หรอ....เมื่อกี๊นายทำอะไรนะคยู??"
พูดแล้วหันไปถามอีกคนที่อยู่ด้วยกันเพราะดูเหมือนว่าคนตัวเล็กขี้อายตรงหน้าจะเข้าใจผิด....แถมยังเข้าใจไปในทางที่มันออกแนวล่อแหลมอีกด้วย ถึงเจ้าตัวจะยังไม่ได้พูด แต่กริยาท่าทางและอาการ ก็พอจะทำให้เค้าเดาออกแล้วล่ะว่าคนตัวเล็กนี่คิดอะไรอยู่
".....ก็ 'นวดฝ่าเท้า' น่ะสิ นี่นายคิดไปถึงไหนเนี่ย เรียวอุค"
คยูฮยอนกระตุกยิ้มเล็กน้อยใสกับความใสซื่อของคนตรงหน้า แต่ไม่แปลกหรอกถ้าจะเข้าใจผิด ก็เจ้าชาย (เจ้าหญิง) สีชมพูของเค้า (??) เล่นครางซะเสียงหวานขนาดนั้น...ทั้ง ๆ ที่เค้าแค่จะลองนวดฝ่าเท้าแบบที่จำมาจากเมืองไทยให้แท้ ๆ ...จนเค้าเองก็แทบจะอดใจไม่อยู่เหมือนกัน นี่ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้านี่ยังไม่รู้ความรู้สึกเค้าล่ะก็นะ....หึหึ
"อ้อนี่...เรียวอุค เดี๋ยวชั้นกับคยูฮยอนจะไปตามฮันกยองมาทำกับข้าวให้ก่อนนะ"
"อะ.....ได้ครับ"
"รีบ ๆ อาบน้ำแต่งตัวซะล่ะ วันนี้พวกเราจะไปเที่ยวกัน"
พูดแล้วดึงเด็กหนุ่มร่างสูงออกจากห้องไป ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนเรียงลำดับความคิดซักพักก่อนจะกระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวตามคำสั่งของคนหน้าหวาน...
**
**
"เอ้า...พวกเราพร้อมกันแล้วใช่มั๊ย??"
"ครับ!!!"
เสียงสดใสของหัวหน้าวงคนสวยพูดขึ้นขณะใช้สายตากวาดมองทุกคนที่มายืนอยู่กันครบแล้ว และก็ได้รับคำตอบเป็นน้ำเสียงแข็งขันจากทุกคน...เว้นก็แต่จัสมินน้อยที่ยืนทำหน้า งง ๆ อยู่เพียงคนเดียว คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจคำพูดของหัวหน้าวงคนสวย และเหมือนคนพูดจะสังเกตเห็นสีหน้าของคนตัวเล็ก จึงหันมาถามให้แน่ใจ
"อ้อ...เรียวอุคยังไม่รู้สินะว่าต้องทำยังไง"
คนตัวเล็กพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ ๆ มือของใครบางคนก็ตวัดมาโอบเอวของเค้าเอาไว้ และเมื่อหันไปทางที่ที่คิดว่าน่าจะมีต้นเหตุอยู่ ก็พบกับ....คนที่เค้าเพิ่งทำเรื่องน่าอายใส่โดยการแอบไปบอกรักทั้ง ๆ ที่เค้าคนนี้ยังตื่นอยู่เมื่อเช้า....เยซองนั่นเอง เพียงเท่านั้น ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาทันที สร้างความหมั่นไส้ให้เหล่าลิงน้อยใหญ่มากมาย จนลีทึกต้องหันมาปรามคนฉวยโอกาส
"ให้มันน้อย ๆ หน่อยเยซอง"
"เอาน่าพี่ลีทึก ผมยังไม่ได้ทำอะไรเสียหายขนาดนั้นซะหน่อย"
พูดแล้วหันมายิ้มทะเล้นใส่ท่านหัวหน้าวงจนคนเห็นอยากจะเอาอะไรไปโปะหน้าไว้ซะทีก่อนไปเที่ยว ถ้าไม่ติดว่าเวลามีจำกัดและยังต้องมาอธิบายให้คนตัวเล็กที่กำลังโดนไอ้อ้วนที่โอบอยู่ฟังละก็นะ....
"เอาล่ะ....คืออย่างนี้นะเรียวอุค อ้อ ทุกคนด้วย ชั้นจะแบ่งทุกคนออกเป็นคู่ ๆ...เอ๊ย เป็นกลุ่มนะ...จะได้ไม่เด่น จะมี 1 กลุ่มที่มี 3 คน นอกนั้นมี 2 คนหมด เข้าใจมั๊ย??"
"คร้าบบบ!!!!"
"อื้ม...ก็ คู่แรก..เอ๊ย กลุ่มแรก ก็จะมีชั้นกับคังอิน....."
"ไม่ค่อยเลยนะครับพี่ลีทึก"
พูดยังไม่ทันจบก็โดนแซวขัดขึ้นมาซะก่อน ส่วนผู้นำทีมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไก่ปากหมาแห่งซูจูนี่เอง....พูดจบก็ยังชวนผองเพื่อน (ลิง) โห่แกล้งพี่คนโตอีกแน่ะ ส่วนผลที่ได้รับน่ะหรอ....ก็คนสวยที่หันมาค้อนให้ตาเขียวเลยไง ทำเอาผู้ร่วมขบวนการซ่งมีจำนงวนมากอยุ่หนาว ๆ ร้อน ๆ ไปตาม ๆ กัน
"เอ้า...ต่อไปก็ ฮีชอลกับชีวอน คยูฮยอนกับซองมิน เรียวอุคกับเยซอง คิบอมกับดงเฮ และสุดท้าย ฮันกยอง ฮยอกแจ แล้วก็...ชินดง โอเคมั๊ย??"
"เปลี่ยนคู่ไม่ได้หรอฮะ พี่ลีทึก~"
น้ำเสียงออดอ้อนดังมาจากปากของลิงใหญ่ของวง...ดงเฮ โดยที่เจ้าตัวยืนทำแก้มป่องเพื่ออ้อนท่านหัวหน้าวงอยู่ ...ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากคู่กับไอ้คนสมองดีนี่หรอกนะ แต่พอเห็นรอยยิ้มของคู่ของตัวเองแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น...ก็หมอนั่นยิ้มเหมือนตอนที่จะแกล้งเค้าทุกครั้งเลยน่ะสิ....
"ไม่ได้....อย่าเรื่องมากน่าดงเฮ"
"แต่ว่า..........."
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เข้าใจแล้วก็...วิ่งขึ้นรถได้แล้ว นี่มันเลยเวลามามากแล้วรู้มั๊ย...เร็ว!!!"
สิ้นเสียงหัวหน้าวงคนสวย ลิง้นอยใหญ่ทั้ง 13 ก็ไปพร้อมกันที่รถเป็นเรียบร้อย ไม่เหลือไว้แม้แต่เงาของใครทั้งสิ้น...เหตุผลเพราะ เมื่อคนสวยขึ้นเสียงเนี่ย ไม่มีใครกล้าอยู่เผชิญหน้ากับ 'ปีศาจร้าย' หรอก
**
**
Talk
สังเกตุคำพูดทึกไว้ หลุดบ่อย ๆ ....ตามที่ทึกพูด นั่นแหละค่ะ....พล๊อตคู่อื่นของเรา อิอิ
**
**
"ถึงแล้ว ๆ ๆ ๆ.....บรรยากาศสดใสอะไรอย่างนี้~~~"
น้ำเสียงออกแหลมกับท่าทางซุกซนที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลีดงเฮ....ลิงใหญ่ที่วิ่งไปวิ่งมาหน้าสวนสนุกเป็นคนแรกเมื่อทุกคนมาถึงกันแล้ว...ทำเอาคนที่ตามลงมาอดยิ้มไม่ได้กับท่าทีที่เหมือนเด็ก ๆ ของคนคนนี้...เพราะ น่ารัก ถึงได้ชอบแกล้ง...ใช่รึเปล่านะพี่เยซอง
อดคิดพาดพิงไปถึงอีกคนที่กระโดดลงจากรถตามมาหลังจากเค้าไม่ได้ ก็คิดดูสิ...อยู่ดีไม่ว่าดี คนที่หลับยากแสนยากอย่างพี่เยซองดันมาหลับในรถขณะที่กำลังเดินทางกันอยู่ แล้วละเมอกอดคนตัวเล็กข้าง ๆ เนี่ยมันเป็นไปไม่ได้หรอก...ถ้าไม่ใช่ว่า...ร่างหนาที่ยิ้มกริ่มอยู่นั่นน่ะ จะแกล้งฉวยโอกาสอย่างหน้าไม่อายเลยน่ะ
"มองอะไรนักหนาฮะคิบอม...โน่น คนน่ารักของนายไปนู่นแล้ว ไม่ตามไปหรอ"
คำพูดแรกที่ออกมาจากปากของท่านอาละดินหลังจากที่ลงมาจากรถ...คือ คำจิกกัดสโนวไวท์ของวงนิดหน่อย เพราะ เจ้านี่มันเล่นจ้องเค้าด้วยสายตาออกแนวหมั่นไส้มาตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว....คงจะรู้อยู่แล้วน่ะสิว่าไอ้ที่เค้าละเมอกอดจัสมินน้อยน่ะ.... 'แกล้งเล่น'
"อย่าคิดว่าที่ทำไปน่ะไม่มีใครรู้นะครับ" กระซิบใกล้ ๆ คนร่างหนาก่อนจะเดินจากไป...เพื่อไปหาพิน็อคคิโอสุดสวยแต่โดยดี ส่วนคนโดนเหน็บก็ยังคงยิ้มกริ่มเช่นเคย
"อ๊ะ!!"
เสียงอุทานเบา ๆ ที่คุ้นเคยดังมาจากด้านกลังของเยซอง ร่างหนารีบหันหน้ากลับไปหาต้นเสียงทันที...แล้วก็พบกับคนตัวเล็กที่ทั้งเค้าและคิบอมเพิ่งพูดถึงเมื่อครู่นี้ แม้จะไม่เอ่ยชื่อก็ตาม...ร่างบางที่กำลังขมวดคิ้วกับบางสิ่งบางอย่างอยู่ดึงดูดให้เยซองเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็พบว่า...เสื้อตัวเก่งของคนตรงหน้านั้นถูกเกี่ยวอยู่กับอะไรบางอย่างที่ยื่นออกมาจากประตูรถ
"นายเดินยังไงเนี่ย.....แล้วคนอื่น ๆ ล่ะลงมากันหมดรึยัง"
ปากก็บ่นไป ถามไป ส่วนมือก็ก้มลงไปดูเสื้อเจ้าปัญหานั่นพลาง....ค่อย ๆ แกะส่วนที่ติดอยู่กับประตูนั่นไปพลาง...แต่เมื่อเห็นร่างตรงหน้านี่เงียบไปพักใหญ่ ก็ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาคาดคั้นคำตอบอีกรอบ..
"ว่าไงล่ะ...คนอื่นล่ะ"
"อะ...เอ่อ....ลงไปอีกทางนึงหมดแล้วล่ะครับ พี่ลีทึกประกาศบนรถตอนที่พี่ลงมาแล้วว่าให้แยกกัน
ได้เลย
พี่ลีทึกบอกว่าให้เราสองคนไปที่ม้าหมุนกันก่อน..แล้วก็เฮอร์ริเครน ต่อด้วย...."
"พอก่อน ๆ เด๋วนายค่อยบอกทีหลังนะ แกะออกเสร็จพอดีด้วย"
"คะ....ครับ"
เรียวอุคพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองหน้าเยซองเหมือนกับจะบอกให้เดินนำ...แต่คำตอบที่รับกลับมากลับเป็นการพยักเพยิด ซึงถ้าแปลง่าย ๆ คือ ให้เค้าคนนี้เป็นคนเดินนำหน้าไปก่อนนั่นเอง ซักพักเมื่อไม่เห็นว่าคนตัวเล็กจะมีท่าทีว่าจะทำตามที่บอก (ใบ้) ไป...มือของเยซองก็ถือวิสาสะโอบเอวร่างบางจากด้านหลังแล้วก้มไปกระซิบเร่งใกล้ ๆ ใบหูคนตัวเล็กที่ยืนทำอะไรไม่ถูก
"นี่...เดินไปซะทีสิเรียวอุค...."
พูดพร้อม ๆ กับออกแรงดันเล็กน้อยเพื่อให้ร่างบางขยับเขยื้อน ส่วนคนที่โดนกอดอยู่นั้นก็ยิ่งทำอะไรถูกเข้าไปใหญ่ จะพูดก็พูดไม่ออก มันเหมือนกับว่าคำพูดที่อยากจะพูดหรือจะต้องพูดนั้นหายลับลงคอไปหมดแล้ว...จะหันไปดุก็ไม่ได้ เหตุผลเพราะ....เขินจนไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง
"พะ...พี่..กะ....ก็นำไปสิครับ..แล้วก็...มะ...มือนี่...อะ..เอาออกไปก่อนได้มั๊ยครับ....คนเค้ามองกันเต็มหมดแล้ว"
"เค้ามองก็ให้เค้ามองไปสิ...ชั้นไม่เห็นอายเลย"
"แต่ผมอายนี่ครับพี่เยซอง~~" ....ก็ผมไม่ได้หน้าหนาแบบพี่นี่นา...คนตัวเล็กได้แต่เพียงเก็บคำพูดนี้ไว้ในใจ เพราะ กลัวว่าถ้าพูดออกไปอาจจะทำให้คนที่แกล้งเค้าอยู่โกรธเอาก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเค้าซักเท่าไร เพราะ มือที่เกาะเอวเค้าแน่นเหมือนหมวดปลาหมึกนั่นก็ยังไม่ยอมคลายออกเสียที แต่สักพัก....เสียงจากสวรรค์ (หรอ??) ก็ดังขึ้นพร้อม ๆ กับรอยยิ้มดีใจของเรียวอุค...และรอยยิ้มซีด ๆ ของเยซอง
"นี่!!!เมื่อไหร่พวกนายจะเข้าไปซะทีเนี่ย คนอื่นเค้าเข้าไปกันตั้งนานแล้วนะ"
"โธ่...พี่ลีทึกครับ อยากจะเข้าไปสวีทกับพี่คังอินเร็ว ๆ ล่ะสิ"
"หุบปากไปเลยไอ้อ้วน...ฉวยโอกาสเก่งนักนะ ดูซิ...กอดแน่นขนาดนั้นน่ะใครเค้าจะไปเดินได้เล่า"
ท่านหัวหน้าวงคนสวยร่ายยาวใส่ร่างหนาเป็นชุด แต่ก็เหมือนเดิม...อาละดินจอมเจ้าเล่ห์ก็ยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เช่นเคย จนลีทึกต้องใช้น้ำเสียง กับ สายตาดุดุจ้องไปที่อีกคนเป็นเชิงบังคับ ....งานนี้คงต้องด่าแค่ไอ้อ้วนนั่นคนเดียว เพราะ ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กที่โดนฉวยโอกาสจะตามไม่ทันร่างหนานี้เอาเสียเลย
"รีบ ๆ เดินตามาเชียวนะ ไม่งั้นนายโดนฮีชอลฆ่าแน่"
หยิบยกราชินีของวงมาเป็นข้ออ้าง เพราะ รู้ว่าไม่มีคนในวงคนไหนกล้าทำให้ซินเดอเรลล่าสุดสวยโกรธ...ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเวลาคุณเธอโกรธน่ะ ยิ่งกว่าตกอยู่ในขุมนรกซะอีก ข้าวก็ห้ามกิน เกมส์ก็ห้ามเล่น โดนใช้งานทั้งวัน...แถมยังขัดคำสั่งไม่ได้อีก เพราะ กลัวดวงตากลมโตนั่นจะฉีกร่างตัวเองออกเป็นชิ้น ๆ....และแล้วคำขู่นั้นก็ได้ผล เพราะ เมื่อเจ้าอาละดินนั่นได้ยินชื่อของราชินี...ก็สะดุ้งทันทีพร้อมทั้งรีบเปลี่ยนจากโอบกอดมาเป็นจูงมือของ คนตัวเล็กแล้วเดินตามลีทึกไปอย่างว่าง่าย....
**
**
ม้าหมุน...คือสถานที่แรกที่เยซองและเรียวอุคจะต้องไปเล่นเป็นสถานที่แรก ซึ่งการเดินไปก็เหมือนเคย คือ ร่างหนาเป็นคนเดินนำแล้วต้องทำหน้าที่จูงมือร่างเล็กไปด้วย ทั้ง ๆ ที่อีกคนก็บอกไปแล้วเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ว่าเค้าสามารถเดินเองได้โดยไม่หลง....แต่แน่นอน ว่าที่คนเจ้าเล่ห์นี่ต้องจูงมือจัสมินน้อย ไม่ใช่เพราะกลัวหลงหรอก แต่เพราะ...มือของคนตรงหน้านี่นุ่มมากเลยต่างหาก (ทำไมเย่มันฉวยโอกาสจังฟระ)
"ถึงแล้ว ๆ..."
เรียวอุคเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเบา ๆ เมื่อเห็นของเล่นที่จะต้องขึ้นไปเล่นอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเรียวดูสดใสเมื่อมองไปที่เจ้าของที่จะต้องเล่น...ริมฝีปากคลี่รอยยิ้มสดใสเหมือนเด็ก ๆ ทันที ทำเอาคนที่มองอยู่เผลอใจเต้น และ ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว...
"ไปเล่นกันเลยมั๊ยครับที่เยซอง"
"อะ...อื้ม ไปสิ ดูท่าทางนายจะอยากเล่นมากแล้วนี่"
พูดแกล้งอีกฝ่ายเล่นแล้วออกแรงดึงข้อมือของคนตัวเล็กเล็กน้อย...ส่วนคนโดนแกล้งตอนนี้ทำแก้มป่องแสดงอาการงอนอยู่คนเดียว...โดยไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น....ก็จะให้เห็นทำไมล่ะ ในเมื่อพี่เค้าก็ไม่ได้จะง้อซะหน่อยนี่...ก็ไม่ได้สำคัญขนาดที่พี่เค้าจะต้องมาง้อซะหน่อย....คิดเองคนเดียวแล้วเดินตามแรงลากนั่นไปอย่างว่าง่าย โดยไม่รู้ว่าอีกคนที่หันมามองนั้นตอนนี้กำลังยิ้มให้กับท่าทางน่ารัก ๆ นั่นอยู่
เมื่อแลกตั๋วเสร็จเรียบร้อย ร่างหนาก็จัดการดึงมือคนตัวเล็กให้มานั่งตรงที่ ๆ เค้าเล็งไว้ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นมาเล่น มันคือ...ที่นั่งรถม้าในเทพนิยายที่มักจะมีเจ้าชายกับเจ้าหญิงนั่งไปคู่กันเพื่อไปที่ปราสาท...ก่อนร่างหนาจะผายมือเพื่อให้คนตัวเล็กก้าวขึ้นไปนั่ง
"นั่งเลยครับเจ้าหญิง"
"อะ....ครับ..."
เรียวอุครับคำแล้วก้าวขึ้นไปอย่างว่าง่าย เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนั่งเรียบร้อยแล้วเยซองจึงกระโดดตามขึ้นไปแล้วแกล้งเบียดอีกคนทั้ง ๆ ที่ที่นั่งก็เหลือออกจะเยอะแยะ....แถมมือหนวดปลาหมึกก็อยู่ไม่สุข ตวัดมาโอบไหล่คนร่างล็กเสียอย่างนั้น....ทำเอาคนโดนกอดต้องเบินหน้าหนีเล็กน้อยด้วยความอาย และความคิดบางอย่าง
....รู้ว่าพี่ใจดีอย่างนี้กับทุกคน....
....รู้ว่าพี่ถนอมน้ำใจคนอื่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร....
....แต่อย่าทำบ่อยเกินไป....
.....เพราะเดี๋ยวเรียวอุคคนนี้จะคิดเข้าข้างตัวเองกันไปใหญ่....
....คิดว่าพี่รัก....
....คิดว่าพี่หวง....
....คิดอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่มันไม่มีวันเกิดขึ้น....
....เพราะต่อให้ทำยังไง....
....ฐานะที่พี่ให้มันก็แค่ 'คู่ควง' ไม่ใช่ 'คนรัก'....
"พอ ๆ เลิกคิด ๆ ๆ เลิกคิดซิเรียวอุค....เจ้าบ้า เลิกคิด ๆ"
พูดกับตัวเองเบา ๆ แล้วสะบัดหัวไปมาเหมือนจะไล่ความคิดนั้นออกไปโดยลืมไปว่ายังมี (คนฉวยโอกาส) อีกคนนั่งอยู่ข้าง ๆ ...เยซองมองร่างเล็กส่ายหัวไปมาแล้วคลี่ยิ้มออก เพราะอะไรกันนะ...ทำไมถึงต้องยิ้มตลอดเวลาเด็กคนนี้ทำท่าน่ารักใส่ด้วยนะ ทั้ง ๆ ที่ไม่คิดจะจริงจังแท้ ๆ แต่จะพูดได้มั๊ย.....ว่า
เรียวอุคเป็นคนแรกที่เรียกรอยยิ้มจากใจของเค้าได้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน!!!!
ซักพักเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ มือหนาชักมือกลับจากไหล่ของคนตัวเล็กอย่างรวกเร็วแล้วเอาเมื่อนั่นล้วงไปในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าอีกหลาย ๆ กระเป๋าที่สามารถหาของให้เจอได้....แล้วปากได้รูปก็ต้องแย้มยิ้มเมื่อมือไปสัมผัสกับกล่องใบเล็กที่เค้าเตรียมใส่อะไรบางอย่างมาให้คนที่นั่งข้าง ๆ....ที่กำลังใช้สายตามองเค้าด้วยความสงสัย
"พี่เยซองหาอะไรอยู่หรอครับ"
"ก็....หา.....เอ่อ.....หา" จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าหาของขวัญให้น่ะ...แล้วยิ่งมาทำหน้าตาแบ๊วใส่อย่างนี้ ถ้าหากว่าเค้าทนไม่ไหวแล้วจับคนตรงหน้านี่กดขึ้นมาจะมีใครว่าอะไรมั๊ยนะ??...เฮ้ย!!!ไม่ใช่สิ เริ่มฟุ้งซ่านไปใหญ่แล้ว...ซักพัก เยซองก็คิดอะไรบางอย่างออก...ในเมื่อบอกตรง ๆ ไม่ได้ก็ขอใช้แผนของพระเอกนิยายล่ะนะ
"นายหลับตาก่อนสิเรียวอุค"
"หลับตา....หลับตาทำไมครับ"
"นะครับ...จัสมินน้อย หลับตาแป๊บเดียวนะคนดี"
ร่างหนาเริ่มใช้ลูกอ้อนที่รู้ว่ายังไงอีกคนก็ต้องทำตามแน่นอน...คำหวานขอร้องแสนหวานที่ถูกเอ่อยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มของใครบางคนทำเอาเค้าไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ น่ะแหละ เรียวอุคมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจนัก แต่ก็ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงแต่โดยดี
สัมผัสเย็นเฉียบของเส้นโลหะที่ถูกกับผิวเนื้อทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อย มือเล็กค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปแตะบริเวณที่คิดว่าน่าจะมีต้นเหตุที่ทำให้เค้ารู้สึกตกใจนี่ กายสัมผัสถูกใช้ เพราะ ดวงตาที่ทำหน้าที่มองภาพนั้นตอนนี้ไม่สามารถทำได้...เพียงเพราะคำขอร้องของคนที่เค้าชอบนักหนา ส่วนคนที่เป็นเจ้าของเส้นโลหะนี่ตอนนี้กำลังนั่งยิ้มกับผลงานของตัวเอง สร้อยคอถูกสวมลงไปบนลำคอของคนตัวเล็กด้วยมือของเค้าเอง...และตอนนี้เค้าก็กำลังจ้องมองคนตัวเล็กที่ดูเหมือนว่าจะอยากรู้เต็มทนแล้วว่า...ของสิ่งนี้รูปร่างหน้าตาเป้นอย่างไร
"ลืมตาได้แล้วครับ"
บอกอีกคนแล้วแย้มรอยยิ้มใจดีให้...รอยที่ยิ้มถูกใช้กับทุกคนที่เคยคบมา เพียงแต่มันต่างกันที่ว่า เค้าทำให้คนตรงหน้านี่ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยหน้าที่เหมือนกับที่ทำให้คนอื่นๆ ...โดยที่ตัวเค้าเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร อาจเป็นเพราะคนตรงหน้านี่ไร้เดียงสาได้น่ารักจนห้ามใจไม่ไหว หรือ เหตุผลอื่น...ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน
"มันคือ...."
"ก็ ของขวัญ....ฉลองคบกันไง"
คนที่ได้ฉายาว่าจัสมินก้มมองสร้อยบนลำคออีกรอบ...เส้นโลหะเรียบ ๆ แทบจะไร้ลวดลาย กับ จี้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 'Y' ดูยังไงก็ไม่เข้าใจ แล้วตัว Y มันเกี่ยวอะไรกับตัวเค้ากันล่ะเนี่ย...
"แล้วทำไมถึงเป็น....ตัวนี้ล่ะครับ"
เอ่ยถามอีกคนด้วยความสงสัย ส่วนคนที่เป็นคนมอบให้นั้นไม่ได้ตอบว่าอะไร ทำเพียงแต่อมยิ้มแล้วใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่ตัวเอง เหมือนจะบอกเกี่ยวอะไรอะไรซักอย่าง...อะไรที่เรียวอุคไม่เข้าใจ หรือพูดอีกอย่างนึงคือทำเป็นไม่เข้าใจ...เพราะยังไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป
เมื่อเห็นคนตัวเล็กยังทำหน้างุนงงอยู่ อาละดินอมเจ้าเล่ห์ก็แทบจะกุมขมับ...นี่ไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้เนี่ยว่า อักษรตัว Y นั่นมาจากคำย่อของชื่อเค้า "เยซอง" ไงล่ะ...แต่เมื่อทำหน้าไม่เข้าใจอย่างนั้น ก็คงจะต้องบอกตรง ๆ ไปเลยนั่นแหละมั้ง??...คิดแล้วก็ก้มหน้าลงไปใกล้หูคนตัวเล็กแล้วกระซิบเสียงแผ่วเบา
"ชื่อพี่ไงครับ...เอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ"
เท่านั้นแหละ คนที่ถูกแสดงความเป็นเจ้าของก็แทบจะเอาเลือดขึ้นมาหล่อเลี้ยงหน้าไม่ทัน และดูเหมือนว่าการนั่งม้าหมุนเล่น (หรือที่เยซองคิดว่านั่งแกล้งคนน่ารัก)จะหมดเวลาเสียแล้ว เครื่องเล่นที่มีคนคอยควบคุมค่อย ๆ หยุดลงช้า ๆ...ร่างหนาค่อย ๆ ดึงมือคนตัวเล็กให้ยืนขึ้นซึ่งอีกคนก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี โดยที่ใบหน้ายังก้มลงซ่อนความเขินอาบที่ปรากฏให้เห็นเป็นสีแดงระเรื่อบนใบหน้าเรียวนั่น ก่อนที่ทั้งสองจะจูงมือกันเพื่อนเดินไปยังเครื่องเล่นอื่นซึ่งเป็นจุดหมายที่ต้องการ
Talk By Maya :: แฮ่ก ๆ ๆ เสียงของนักปั่นระดับโลกกกก - -" ด้วยความผิดพลาดอะไรบางอย่าง ที่จิงเรากะอัพตั้งแต่ตอนเย็นแล้ววววว แต่ด้วยความผิดพลาด เรยอดอัพ
ขอโทดทุกคนจิงๆ ค่ะ ที่อัพช้ามาก ๆ ๆ ๆ ทั้ง ๆ ที่ปิดเทอมแล้วแท้ ๆ แย่จริงเลยยย
เดี๋ยวปิดเทอมนี้จะไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ ก้อคงไม่ได้อัพอีกนานแหละมังคะ แต่จาพยายามอัพให้ได้อ้ะค่ะ
รักเยเรียวมาก ๆ ๆ 555+....แต่รักคิเฮพอพอกัน ตอนนี้ต้องอัพฟิคเพื่อรูปอุคน้อยยยย
ตอนหน้า ปล่อยให้คนอื่นได้ออกมั่งนะคะ เยเรียวเยอะแล้ววว 55+..(ก็แกเน้นเยเรียวนิหว่า)....ได้ข่าวว่าแต่ละตอนยังไม่ค่อยมีเนื้อ ๆ เรยมีแต่น้ำ จาพยายามทำให้ดีขึ้นค่ะ
ขอบคุนทุกคอมเม้นมาก ๆ จิง ๆ นะคะ ถ้าไม่มีคอมเม้น ก้อไม่มีกำลังใจอัพจิง ๆ น่ะแหละ ^^" รักทุกคนที่ขอบมาติชมนะคะ ขอบคุนจิง ๆ ค่ะ
โปรโมต ๆ ๆ งานพัทยามิวสิคเฟสสส...ไคไปมั่ง ชูมือหน่อยยยย แต่เราไม่ได้ไปป....K.R.Y. มา...โอ้ แรงบันดารใจทั้งหลายของช้านนนนนนนนน มาหวีทกันให้เหนมั่งน้าเยเรียวววว เพื่อฟิคของข้าพเจ้า (มันบ้าไปแร้ว) อย่าลืมน้า วันที่ 17 มีนานี้เค้าขึ้นเวที ไปดูเผื่อเราด้วยยยย
อ้อ....ขอบคุนโบ คุนเพื่อนสุดที่รัก ถ้าไม่มีแกช้านคงไม่อัพฟิคหรอกก 55+ เพื่อหนุ่ม ๆ นะเนี่ย ช้านจาเอารูปเรียวววว
ความคิดเห็น