คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : - Chapter3 - (อัพต่อนิดหน่อยนะคะ...เยเรียวหวีท ๆ>.
ทางด้านเหล่าซูจูที่เหลือ
"เป็นไงล่ะ...แผนของนายน่ะซองมิน"
ลีทึกพูดแล้วส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะเอาผิดคนต้นคิด เพราะ ทั้งเค้าและคนอื่น ๆ ก็เต็มใจจะทำตามแผนนี้เอง...อ้อ ยกเว้นเจ้าหนุ่มแดนมังกรไว้คนนึงแล้วกัน รายนั้นเค้าถือคติคนดี แม้จะไม่มีคนคุ้มก็เถอะ....ส่วนฟักทองน้อยนั้นก็ได้เพียงแต่ทำแก้มป่องแล้วมองอีกคนก่อนจะพูดแก้ตัวเล็กน้อย
"โธ่...พี่ลีทึก...ก็ผมไม่รู้นี่นาว่าเรียวอุคจะร้องไห้น่ะ"
"แต่เอาเถอะ...ยังไงก็ผิดกันทุกคนนั่นแหละ"
"จะโกรธพวกเรามั๊ยนะ...." บุรุษที่มีรูปร่างและหน้าตาดีเป็นเลิศ...แถมด้านความสามารถยังไม่เป็นรองใคร......ซีวอน พูดแล้วหันไปหาคนสวยตาโตที่ตอนนี้นั่งจิบแชมเปญอย่างสบายใจเฉิบ ซักพัก คนสวยจอมวีนจึงเปิดปากพูดตอบคำถามนายซิมบ้า
"ไม่หรอกน่า หมอนั่นก็แค่ตกใจเท่านั้นเอง ป่านนี้ไอ้อ้วนนั่นคงปลอบเสร็จไปเรียบร้อยแล้วล่ะ"
"เรื่องนั้นมันก็จริงของนายนั่นแหละฮีชอล แต่ยังไงซะพวกเราก็เป็นฝ่ายผิดที่ทำให้เค้าร้องไห้"
หัวหน้าวงตาสวยหันไปพูดกับอีกคน ซึ่งฮีชอลเองก็เห็นด้วย เพียงแต่...ไม่รู้จะทำอะไรเพื่อเป็นการไถ่โทษน่ะสิ...ตามจริงแล้วพวกเค้าเองก็ไม่ค่อยได้คิดเรื่องอื่นนอกจากแกล้งคนซะด้วย คิดแล้วหันไปส่งสายตาเป็นคำถามไปให้เหล่าสมาชิกที่นั่งอยู่รอบ ๆ...ก่อนจะเอ่ยถาม
"แล้วจะขอโทษยังไงล่ะ"
ความเงียบคือคำตอบที่ได้กลับมาจากแต่ละคน แม้แต่ฮันกยองเองก็ยังจนปัญญาไม่รู้ว่าจะทำยังไง...เพราะ รู้ว่ายังไงซะคนตัวเล็กนั่นก็ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว ที่จะขอโทษนี่ก็คงจะแค่ทำพอเป็นพิธี แต่ไอ้การทำพอเป็นพิธีของพวกเค้าเนี่ย มันยากจะตายไป...แต่ซักพัก ความคิดบางอย่างของนายคิบอม เด็กอัจฉริยะผู้ซึ่งมีไอคิว 138 ก็ออกมาจากปากของเจ้าตัว เป็นความคิดที่ทำเอาคนฟังหลาย ๆ คน งง ไปตาม ๆ กัน
"สวนสนุกดีมั๊ยครับ...??"
"สวนสนุกอะไรของนายล่ะคิบอม" หนุ่มอารมณ์ดีของบ้านที่มีนามว่าอึนฮยอกเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจคำพูดของเพื่อนร่วมวง
"ก็...ไปเที่ยวสวนสนุกไง ซื้อบัตรสวนสนุก แล้วไปเที่ยวกัน แล้วก็ปล่อย 2 คนนั้นให้เค้าไปกัน 2 คน"
จบคำพูดของสโนวไวท์แสนเจ้าเล่ห์ เหล่าสมาชิกแห่งบ้านซูจูทุกคนก็ทำตาเป็นประกายใส่กันระยิบระยับอย่างเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนหน้าหวาน โดยเฉพาะดงเฮที่ทำท่าดีใจจนเก็บไม่อยู่ จนคนเสนอความคิดต้องส่งสายตาไปปราม ซักพัก ลีทึกก็พูดยืนยันความคิดของคิบอมอีกรอบ เพื่อเป็นการลงมติการประชุมในครั้งนี้
"ดีมาก ๆ เลยล่ะคิบอม เอาเป็นว่าตามนี้ละกันนะ...วันไหนนายก็ไปคิดเอา แล้วมาบอกชั้นอีกทีก็แล้วกัน...ชั้นไปนอนล่ะ"
พอหัวหน้าวงพูดจบก็เป็นอันว่าทุกคนสามารถแยกย้ายกลับห้องกันไปได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำตามนั้น...ส่วนคนที่เป็นเจ้าของความคิดก็ลากลิงผู้น่ารักของเค้า (??) เข้าห้องไปแล้วด้วยเช่นกัน เว้นแต่...คนที่เข้าห้องไม่ได้อย่างคยูฮยอน และ ฮีชอล กับอีก 1 ฟักทองน้อยที่ไม่ยอมไปนอนอย่างซองมิน
"แล้วคืนนี้ชั้นจะนอนที่ไหนล่ะเนี่ย"
คำบ่นที่ใจความนั้นไม่ได้คิดอะไรมากดังออกมาจากปากของรุ่นพี่คนสวยของวงอีกคน ทำเอาคยูฮยอนและซองมินต้องหันไปยิ้มแหย ๆ ให้เป็นการขอโทษ ซึ่งครั้งนี้จอมวีนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนัก เพราะมันก็เป็นความซวยของเค้าเองที่วันนี้ดันต้องมานอนที่ห้องนี้แทนฮยอกแจที่โดนนายซีวอนลากไปนอนด้วยเพื่อ 'ประชด' ที่ทำอะไรแล้วไม่ยอมรอ....เด็กจริง ๆ นะนายคนนี้
ซักพัก ฟักทองน้อยที่อยู่เฉยไม่ค่อยจะเป็นก็เดินไปด้อม ๆ มอง ๆ แถว ๆ ประตูห้องที่ปิดอยู่ แต่ประเดี๋ยวเดียวก็ทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่างจนคนสวยต้องทักไป
"ไม่มีอะไรคืบหน้ารึไงล่ะซองมิน"
"ก็ใช่น่ะสิครับ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยซักนิด" พูดจบก็ทำแก้มป่องเป็นเชิงไม่พอใจอีกรอบ แล้วเดินมานั่งกระแทกใส่โซฟาข้าง ๆ เด็กหนุ่มร่างสูงที่ยังนั่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่คนเดียว ซักพักเหมือนซินเดอเรลล่าของวงจะนึกอะไรออก จึงแกล้งถามรุ่นน้องสองคนที่นั่งอยู่
"นี่...ชั้นช่วยมั๊ย??"
"ช่วยอะไรหรอครับพี่ฮีชอล" ฟักทองน้อยทำหน้าที่ตอบทั้ง ๆ ที่ยังคงทำหน้าตาอมทุกข์อยู่
"ช่วย...เรื่องแผนไง"
"แผนอะไรล่ะครับ..."
"อย่าคิดนะว่าชั้นไม่รู้ว่าพวกนายวางแผนอะไรกันอยู่"
พูดจบก็หัวเราะเสียงชั่วร้ายแล้วเดินไปนั่งไขว่ห้างข้าง ๆ รุ่นน้องทั้งสองคน ส่วนซองมินนั้นตอนนี้เบิกตากว้างแล้วหันหน้าไปมองอีกคนที่นั่งทำหน้าเหรอหราอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคนถูกจ้องรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา...ชิย์!!ไอ้หมอนี่มันทำยังไงนะ พี่ฮีชอลถึงรู้ว่าเค้ามีแผนอีกแผนนึงซ่อนไว้น่ะ พอรุ่นพี่คนสวยเห็นอาการของเจ้าชายสีชมพูที่จ้องน้องเล็กของวงอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ต้องรีบอธิบายให้ฟังเพราะกลัวว่าคนที่โดนจ้องจะเป็นอะไรไปซะก่อน
"หมอนั่นไม่ผิดหรอกน่า...พอดีวันนั้นชั้นไปทำความสะอาดห้องพอดีน่ะ เลยบังเอิญได้ยิน"
"อะ...อ่อ...หรอครับ"
"ชั้นไม่เอาไปบอกคนอื่นหรอกน่าซองมินน้อย...แต่ถ้าข้อเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็คงจะดีมาก"
พูดแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์จนคนที่ถูกยื่นข้อเสนอให้แทบไม่ต้องคิดว่าเค้าจะต้องตอบคนสวยว่าอย่างไร แต่คิด ๆ ดูอีกที ให้พี่ฮีชอลช่วยก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะ แม้พี่ชาย (หรือพี่สาว) คนนี้จะออกรั่ว ๆ บ้า ๆ ซักนิด แต่ก็รักทุกคนในวงไม่น้อยไปกว่าท่านหัวหน้าวงเลย
"ว่าไงล่ะซองมิน"
"คำตอบที่พี่ต้องการนั่นแหละครับ"
"ดีมากน้องรัก..."
พูดจบก็แสยะยิ้มพอใจ(?) แล้วเดินไปเปิดโทรทัศน์เครื่องหรูดู ปล่อยให้รุ่นน้องอีกสองคนนั่งกังวลว่า ที่คิดไปเมื่อครูนั้น ดีแล้วจริงหรือ....แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมาก เสียงของตัวตลกประจำบ้านก็ดังขึ้นเพื่อเรียกคนสวยของวงกลับไปนอนที่ห้องเดิม
"งั้นชั้นไปล่ะ....รอต่อไปนะ ซองมิน คยูฮยอน"
พูดจบ ซินเดอเรลล่าคนสวยก็เดินกลับห้องไปพร้อมฮยอกแจ ทิ้งไว้เพียง 1 คนที่เข้าห้องไม่ได้อย่างคยูฮยอน กับอีก 1 คนที่นั่งทำอะไรไม่รู้อย่างซองมิน
"นี่....ซองมินไม่ไปนอนหรอ"
น้ำเสียงนุ่มทุ้มของเด็กหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงไปใยคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเอง...ไม่รู้ว่าจะนั่งไปทำไม ไม่ใช่ว่าห้องตัวเองนอนไม่ได้ซะหน่อย แต่ดันมานั่งอยู่บนโซฟานี่ เดี๋ยวเป็นหวัดขึ้นมาลำบากคนในวงแย่....คิดอย่างไม่เข้าใจคนที่อายุมากกว่าแต่ทำตัวเด็กคนนี้
"ก็ยังไม่อยากนอนนี่นา...อีกอย่าง นายเข้าห้องไม่ได้รึไง....ก็แค่จะนั่งเป็นเพื่อน"
ฟักทองน้อยจงใจหรี่น้ำเสียงของประโยคสุดท้ายให้เบาลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มีรึจะพ้นหูปีศาจของคยูฮยอน ....ได้ยินดังนั้น หมาป่าในคราบของลูกแกะก็เริ่มกลายร่างทันที
"อืม...เป็นห่วงผมงั้นสิ"
"ใครว่าล่ะเจ้าบ้า ชั้นแค่ไม่มีอะไรทำ แล้วก็กลัวว่าน้องเล็กของวงอย่างนายจะ..เอ่อ...อย่คนเดียวไม่ได้เท่านั้นเอง" เจ้าชายแห่งสีชมพูแก้ตัวเป็นพัลวัน ในหน้าขาวอวบอิ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่ก่อนที่ผู้แต่งและคนอ่านจะได้ลุ้นอะไรไปมากกว่านั้น บุคคลที่อยู่ภายในห้องก็เปิดประตูออดมาเรียกเด็กหนุ่มร่างสูงให้เข้าไปนอนเสียก่อน
"นี่คยูฮยอน นายจะไม่นอนรึไง" เยซองเอ่ยกับเด็กหนุ่มร่างสูง
"ก็พี่อยู่ข้างในนี่ครับ..."
"ตกลง..ชั้นผิดรึไงเนี่ย จะบอกอะไรอย่างนึงนะคยูฮยอน ประตูมันไม่ได้ล็อคน่ะ...แต่ที่จริง นายไปนอนห้องซองมินก็ได้นะ เพราะ เรียวอุคมานอนห้องเรา ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกันไปก็แล้วกัน"
พูดจบก็กลับเข้าห้องไปแล้วปิดประตูตามเดิม ทำเอาคนฟังข้างนอกตามอารมณ์ไม่ทัน แต่ซักพัก เจ้าหนูลัคกี้ก็เริ่มปรับสภาพได้ ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงซองมินน้อยที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือซักเท่าไหร่ให้เข้านอนเสียที....ส่วนความคิดฟักทองน้อยตอนนี้น่ะหรอ....
"พี่ ๆ คร๊าบบบ ช่วยผมด้วยยย!!เรียวอุค นายรีบกลับมานอนกับชั้นเดี๋ยวนี้!!"
TALK By จอมโจรมายา : แหะ ๆ ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นจังเลย...- -" ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันสั้นขนาดนี้...สั้นขนาดที่ว่า ผู้แต่งมันกำลังนั่งด่าตัวเองอยู่นี่ว่าทำยังไงฟิคมันถึงได้สั้นขนาดนี้...ที่สำคัญ เยเย่ กะ อุคน้อยหายไป !!!
อ้อ ๆ แจ้งข่าวสำมะคันจริง ๆ ค่ะ คือว่า เนื่องจากวันอังคารหน้าเรา "ติดสอบ!!!" จึงทำให้ไม่รู้จะอัพฟิคได้รึเปล่า..(ที่จริงคนอื่นเค้าอัพไม่ได้เลย แต่เพราะ เรามัน....เอ่อ...จึงทำให้ไม่ว่าจะสอบหรือไม่สอบก็สามารถแต่งได้ตลอดเวลา - -")...อาจจะเลื่อนกำหนดการอัพไป (รึเปล่า)....จึงเรียนมาให้ซาบบบบโดยทั่วกันนะคะ ^^"
ตอนหน้า....อยากจะบอกว่า ลุ้นคิเฮเอาไว้ 55+....คนแต่งเริ่มหื่นค่ะ หนูด๊องตายแน่..ก๊าก ๆ แต่แน่นอนว่าเยเรียวจะได้ออกอย่างเต็มยศค่ะ (ประมาณว่าตอนนี้ไม่ค่อยมีเลย - -")...
อ้อ....ขอโทษซักเรื่องนะคะ...ขอโทษที่ลืมหลายท่านไป อาทิเช่น..ชินด๊อง นักกินน่ารักน่ากอด ซีวอน เทพบุตรสุดหล่อ - -" เหตุผลเพียงเพราะ ..."ลืม" เจ้าค่ะ ก็...จาพยายามเขียนให้ครบทุกคนนะคะ ^^"
ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ (ขอโทษที่ไม่ได้ตอบ - -" เป็นความผิดพลาดของเราเองค่ะ)...
- - - - - อัพต่อนิดหน่อยค่ะ - - - - - -
คือว่า...มันสั้นไป...เราเลยอัพชดเชยนิดหน่อยอ้ะค่ะ.. ขอโทดด้วยที่ไม่ได้เขียนไว้ว่ายังไม่ครบ 100 แหะ ๆ คือ พอดีว่าเปลี่ยนใจกระทันหันอ้ะค่ะ
ส่วนตอนหน้า วันศุกร์เช่นเคยค่ะ
go go>>>>
เช้าวันรุ่งขึ้น.
แสงสีทองของแดดในยามเช้าสาดส่องมายังร่างที่หลับสนิทของจัสมินน้อยแห่งบ้านซูจู และอาจเป็นเพราะแสงนั่นจึงทำให้คนที่นอนอยู่ค่อย ๆ ปรือเปลือกตาขึ้นมาสู้กับสิ่งที่ทำให้เค้าตื่นขึ้น ร่างเล็กขยับตัวไปมาเล็กน้อยตามประสาคนเพิ่งตื่นนอนแต่ก็ต้องชะงัก เพราะ สายตาพันเหลือบไปเห็นร่างของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ อย่างสบายอารมณ์ จึงจำต้องอยู่เฉย ๆ เพื่อไม่ให้อีกคนนึงตื่นขึ้นมา
‘จริงสิ...เราอยู่ห้องพี่เยซองนี่นา’
คนตัวเล็กคิดก่อนจะมองไปที่ร่างหนาอีกครั้งพลางพินิจพิจารณาใบหน้าของคนที่หลับอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย...เปลือกตาที่ภายใต้นั้นมีดวงตาที่มีประกายอารมณ์ดีตลอดเวลา....เรียวปากที่มักจะคอยส่งยิ้มให้ทุก ๆ คนรอบข้างเสมอ...จมูกที่ทำหน้าที่ตามหาของกินให้กระเพาะ....และใบหูที่คงจะสามารถรับเสียงไปให้สมองประมวลผลได้
“ผมรักพี่นะครับ...พี่เยซอง”
เรียวอุคค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหูก่อนจะกระซิบบอกคนที่กำลังอยู่ในนิทราด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะโน้มใบหน้าขึ้นแล้วมองคนตรงหน้าอย่างชื่นชม....ชื่นชมรอยยิ้มของพี่เยซอง...ชื่อชมน้ำเสียงของพี่เยซอง...ชื่นชมตัวพี่เยซอง...ชื่นชมทุกอย่างที่เป็นพี่เยซอง และคงจะชื่นชมอย่างนี้ตลอดไป แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของ ‘หัวใจ’ ของพี่ก็ตาม...
แต่อยู่ดีดีคนที่นอนอยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจ้องตาเรียวอุคเสียอย่างนั้น ทำเอาคนที่ถือวิสาสะคิดอะไรกับอีกคนไปเรื่อยเปื่อยสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหลุบสายตาหลบทันที...เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏบนใบหน้าของอีกคน...รอยยิ้มที่เรียวอุคเองก็ยังไม่รู้ ว่ามีเค้าคนเดียวที่สามารถทำให้มันเกิดได้...
“พี่เยซองตื่นตั้งแต่เมื่อไรครับเนี่ย”
ถามเสียงอ่อยเพราะไม่อยากจะคิดว่าถ้าคนตรงหน้าตื่นตั้งนานแล้วอะไรจะเกิดขึ้น...ก็ในเมื่อตัวเค้าเองดันถือโอกาสพูดอะไรไม่คิดออกไปนี่สิ...คิดแล้วก็ก้มหน้างุดซ่อนสีระเรื่อที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ทำเอาคนที่มองอยู่นึกอยากจะแกล้งเล่นอีกซักรอบ
“ก็นานพอสมควรแล้วล่ะ”
“ระ...หรอครับ”
“อือ...นานพอที่จะได้ยินนายพูดอะไรกับชั้นน่ะ”
พูดจบแล้วก็อมยิ้มอีกรอบ เพราะว่า คนตัวเล็กตรงหน้าที่นั่งก้มหน้าอยู่ตอนนี้นั่งตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างเพราะตกใจ ก่อนจะสบัดหัวไปมาเหมือนจมอยู่กับความคิดของตัวเองทำให้ดูน่ารักในสายของคนที่จ้องมองอยู่...ซักพัก ริมฝีปากบางก็เผลอขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ
“ผะ...ผมขอโทษครับ”
“ขอโทษ??ขอโทษเรื่องอะไรกัน”
“ก็...ขอโทษที่พูดอะไรที่เสียมารยาทออกไป...น่ะครับ ถ้าพี่ไม่ชอบ..ผมก็จะไม่พูดอีก”
เยซองมองอีกคนด้วยความงุนงงเล็กน้อย...นี่คนตัวเล็กข้างหน้านี่เข้าใจรึเปล่านะว่ากำลังคบกันอยู่น่ะ แทนที่จะเห็นว่าการบอกรักนั่นเป็นเรื่องธรรมดา คนคนนี้กลับคิดว่ามันเป็นเรื่องเสียมารยาท ทั้ง ๆ ที่เค้าก็ยังไม่ได้บอกซักหน่อยว่าไม่ชอบ...ร่างหนาคิดอยู่ในใจคนเดียวก่อนจะตัดสินในพดอะไรบางอย่างออกไป บางอย่างที่เค้าเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงพูดออกไป
“งั้นถ้าชั้นบอกว่าชอบ...นายก็จะพูดอีกใช่มั๊ยล่ะ”
“อะ..อะไรนะครับ”
“อ๋อ...เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”
พูดแล้วลุกขึ้นมาพับผ้าห่มกลบเกลื่อนคำพูดที่ออกจากปากโดยไม่ทันยั้งคิดเมื่อครู่นี้ ส่วนอีกคนนึงถึงแม้จะอยากรู้และอยากได้ยินประโยคที่ค้างคาอยู่นั้นเพียงใด แต่ก็ไม่คิดจะเอ่ยปากถาม...ก็ในเมื่อพี่เยซองไม่อยากบอก แล้วตัวเค้าเองจะมีสิทธิอะไรไปคาดคั้นกันเล่า.... คิดพลางก้าวลงจากเตียงเพื่อหลบให้ร่างหนาจัดเก็บเตียงให้เรียบร้อย ส่วนตัวเองก็เอ่ยลากลับห้อง
“อะ...เอ่อ...งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณที่ให้ใช้ห้อง....อ้อ...อรุณสวัสดิ์นะครับ”
พูดจบก็ยิ้มให้อีกคนก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากห้องไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกไป เสียงเรียกจากคนในห้องก็ทำให้ต้องหันกลับไปอีกรอบ...แต่ก็ต้องตกใจ เพราะ คนที่เมื่อครู่นี้นั่งพับผ้าห่มอยู่บนเตียงตอนนี้ยืนอยู่ข้างหน้าเค้าแล้ว
“มะ...มีอะไรหรอครับ..พะ..พี่เยซอง”
เรียวอุคพูดเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น ก็เวลาที่ต้องยืนใกล้ ๆ คนนี้ ๆ มักจะทำให้เค้าอดสั่นไม่ได้ทุกที...ซักพัก ร่างหนาก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้คนตัวเล็กที่ตอนนี้ตัวกลายเป็นหินไปชั่วขณะ แล้วกระซิบเสียงแผ่วเบา ให้ได้ยินกันเพียงสองคนใกล้ ๆ ใบหูที่ขึ้นสีระเรื่อ...
“อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับจัสมิน”
พอจบประโยคของเยอง คนตัวเล็กก็หมุนตัวกลับแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีด้วยความรวดเร็ว...ทำเอาคนที่อยู่ในห้องอดจะหัวเราะตามไม่ได้ เพราะน่ารักอย่างนี้แหละน้า ถึงได้อยากแกล้ง...เพราะยิ่งแกล้ง ก็ยิ่งทำตัวน่ารักนี่นา...
ความคิดเห็น