คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : - Chapter2 -(100% แล้วค่า)
และแล้ว..เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนนัดหมาย เหล่าชาวซูจูทุกคนก็มาพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่นบ้านซูจูอย่างพร้อมเพรียง ตอนนี้...ทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในแผนการพร้อม เหลือเพียงนับเวลาถอยหลัง โดยมีผู้นำเป็นหัวหน้าวงคนสวย ที่ตอนนี้พร้อมเต็มที่แล้ว
"พวกเรา....พร้อมนะ"
"ครับ!!"
เสียงตอบรับดังมาจากปากลิงทุกคนอย่างพร้อมเพรียง...โดยเฉพาะดงเฮ ลิงใหญ่ดูจะมุ่งมั่นสุด ๆ กับการทำตามแผนในครั้งนี้ สาเหตุเพราะไม่มีเจ้าชายนายคิบอมมาคอยปราม...แต่ครั้งนี้กลับมาร่วมขบวนการแกล้งเรียวอุคกับคนอื่นเค้าด้วย
"ทุกคน...เริ่มแผน!!"
สิ้นเสียงลีทึก ทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามที่ตกลงไว้...เริ่มด้วยซองมินที่ตอนนี้เดินไปเคาะประตูห้องของเค้าและเรียวอุคอย่างคุ้นเคย ก่อนจะได้ยินเสียงแหลมเล็กของคนที่อยู่ในห้องตะโกนตอบรับกลับมา..
"ใครน่ะ...มีอะไรรึเปล่า"
"ชั้นซองมินเองเรียวอุค เปิดประตูให้หน่อยสิ"
"อ๋อ...ซองมินหรอ เข้ามาสิประตูไม่ได้ล็อค"
พอได้รับคำอนุญาต ซองมินก็เปิดประตูเข้าไปอย่างเคยชิน เพราะ ห้อง ๆ นี้คือห้องนอนของเค้าและเรียวอุคนั่นเอง เมื่อเข้าไปถึง สภาพที่เค้าเจอก็คือ...คนตัวเล็กอีกคนนั่งอยู่บนเตียงนอนของตัวเอง ด้วยท่าทางที่บอกให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า...เพิ่งตื่นนอน
"อะไรกัน เจ้าคนขี้เซา นี่นายแอบหนีทุกคนมานอนหลับหรอเนี่ย"
ซองมินแกล้งต่อว่ายิ้ม ๆ ...แล้วก็ดึงอีกคนให้ลุกออกจากที่นอนเพื่อที่เค้าจะได้ทำการเก็บที่นอนให้...เพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินแผนการต่อ เรียวอุคค่อย ๆ เดินไปยังที่ที่คิดว่าจะไม่ขวางฟักทองน้อยแล้วนั่งลงไปอีกทีเพราะยังตื่นไม่เต็มที่ ซึ่งเมื่ออีกคนทำหน้าที่เสร็จแล้วหันมาเห็นก็เนอักต้องฉุดกระชากลากดึงอีกทีเพื่อให้คนตัวเล็กกว่าลุกขึ้น
"นาย...ไปล้างหน้าก่อนเลยไป ข้างนอกเค้ารอกันอยู่"
"รอ...รออะไรหรอ"
"ไม่ต้องถามมากน่า เดี๋ยวนายก็รู้"
ฟักทองน้อยพูดจบก็ทำการดันหลังอีกคนให้เดินไปที่ห้องน้ำ ซึ่งเรียวอุคเองก็ไม่ขัดศรัทธาเพราะเค้าก็อยากจะทำอย่างที่ฟักทองน้อยพูดอยู่เช่นกัน เข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการทำตัวเองให้เรียบร้อยซักพักก็รีบออกมาทันที...เพราะนิสัยที่ขี้เกรงใจ จึงไม่อยากให้ใครรอนาน แม้ข้างนอกจะมีคนอีกคน ที่เค้าทั้งอยากเจอและไม่อยากเจอะอยู่ด้วยก็ตาม...
"ไปกันเถอะ" คนตัวเล็กพูดแล้วพยักเพยิดเป็นเชิงให้ซองมินออกไปก่อน แล้วเค้าจึงเดินตามออกไป...โดยไม่ลืมที่จะหยิบของสำคัญบางอย่างไปด้วย...ของที่ทำให้เค้ากล้ามากขึ้น เมื่อเจอคนคนนั้น....
เมื่อออกมาจากห้อง ซองมินก็รีบวิ่งไปทางห้องนั่งเล่นทันที ทิ้งให้คนที่เดินตามออกมาทีหลังค่อย ๆ ก้าวไปช้า ๆ ตามสไตล์...และเมื่อไปถึงที่หมาย ก็พบกับเหล่าสมาชิกบ้านซูจูทั้งหลาย รวมทั้งเค้าคนนั้นด้วย...เมื่อเยซองสังเกตุเห็นคนตัวเล็ก ก็กวักมือเรียกเป็นเชิงว่าให้ไปนั่งด้วยกัน...ซึ่งที่นั่งที่ยังว่างอยู่นั้นมีอยู่ที่เดียว คือ ข้าง ๆ คิบอม ซึ่งถัดมาจาดร่างหนามาที่นึง
คนหน้าหวานไม่ขัดคำเชิญของเยซอง จึงพยักหน้ารับและค่อย ๆ เดินเข้าไปตรงที่ที่นั้น เป็นเวลาเดียวกับที่อาหารฝีมือพ่อครัวจากแดนมังกร ฮันกยอง...ถืออาหารออกมาเสิร์ฟให้ทุกคนพอดี ชายหนุ่มยิ้มให้เรียวอุคเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบอาหารอีกจานอย่างขยันขันแข็ง...ทำให้เรียวอุคอดถามไปไม่ได้ว่าจะต้องช่วยหรือไม่ แต่คำตอบที่ได้กลับมา กลับเป็นการส่ายหน้าอย่างรุนแรงของหนุ่มจากแดนจีน และคำพูดที่ว่า
"ขืนใช้นาย ใช้ได้โดนพี่ลีทึกฆ่าตายพอดี"
พูดจบก็เดินหายลับไปที่หลังครัวแล้วออกมาพร้อมกับอาหารน่ากินอีก 2 จาน ทำเอาคนมองแทบจะกระโดดไปกินเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดว่า 'มารยาท' ล่ะก็นะ....เรียวอุคค่อย ๆ เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วรอจนอาหารมาครบแล้วแข่งกันส่งกลิ่นหอมหวนชวนกินไป แต่ยังไม่มีใครสามารถแตะต้องได้...เพราะยังไม่ผ่านพิธีการ โดยประธานของงานนี้ คือ คิม ฮีชอล...หรือ ซินเดอเรลล่าของวงนั่นเอง
"คิดว่าพวกเราคงจะรู้แล้วล่ะนะว่า...เราจัดงานในครั้งนี้เนื่องในโอกาสอะไร"
"YES!!!"
"เพื่อฉลองคู่รักคู่ใหม่ของบ้าน และ ของวง~~"
พูดเสร็จแล้วก็ยกแก้วแชมเปญซึ่งเจ๊เธอมีเพียงแก้วเดียวขึ้นมาเป็นเชิญแสดงความยินดี ส่วน 2 คนที่ถูกกล่าวถึงน่ะหรอ..คนนึง ยิ้มแปล้ พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ ส่วนอีกคนก้มหน้างุด ไม่เงยหน้าขึ้นมามองใคร ๆ ทั้งสิ้น แต่แค่ใบหูที่แดงระเรื่อก็พอจะทำให้รู้แล้วว่าเขินอายเพียงใด
แล้วการกิน....กิน....กิน....และกินของเหล่าบอยด์แบนชื่อดังก็ดำเนินขึ้นอย่างรวดเร็ว ดุจดั่งจะสวาปามกันเข้าไปเลยก็ว่าได้...ทุกคนคุยกันอย่างออกรส โดยเฉพาะแถว ๆ ตรงที่ที่มีฮยอกแจ ชินดง เยซอง และคิบอมดูเหมือนจะเมามันกันเป็นพิเศษ โดยมีคนหน้าหวานนั่งมองไปยิ้มไปกับความบ้าบอของเพื่อน ๆ ร่วมวง และใบหน้าที่มีความสุขของเยซอง
~~เพล้ง!!!~~
เสียงช้อนส้อมของปาร์คจองซู หรือ ลีทึก ผู้ซึ่งเป็นผูนำวงดังขึ้น เมื่ออยู่ดีดีมันก็ดันร่วงลงไปกระทบพื้นใต้โต๊ะ...โดยที่เจ้าของค่อนข้างจะจงใจให้มันตกลงไปเพื่อเป็นสัญญาณของอะไรบางอย่าง ซึ่งเสียงนั่นแม้จะไม่ดังนักแต่ก็สามารถสะกดคนในห้องในอยู่เฉยไปได้สักครู่ ก่อนที่ทุกย่างจะกลับสู่ปกติ...ยกเว้นแต่ว่า.....
"นี่ ๆ คิบอม เอาน้ำหน่อยมั๊ย"
ดงเฮพูดกับหนุ่มน้อยหน้าหวานอีกคนโดยที่ทั้งสองคนนี้นั่งพูดกันโดยมีเรียวอุคนั่งคั่นอยู่ตรงกลาง หากแต่การกระทำและคำพูดของดงเฮนั้นเหมือนกับมองไม่เห็นร่างเล็กที่นั่งห่อไหล่อยู่ข้าง ๆ เสียอย่างนั้น ...ตอนแรก ๆ เค้าก็ไม่นึกเอะใจอะไร และนี่มันเหมือนกับว่าเค้าไม่มีตัวตนไปแล้วนะ..
"อะ..เอ่อ ดงเฮ"
ร่างเล็กค่อย ๆ เรียกอีกคนด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาจนทำเอาใจฝ่อ...ซักพักจึงตัดสินใจลุกออกจากตรงนั้นเพื่อเดินไปหาคนอื่น แต่ว่า...คำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ ความว่างเปล่าจากสายตาของทุก ๆ คน สายตาที่เหมือนกับว่า เค้าไม่มีตัวตน...แม้กระทั่งพี่ลีทึกเองก็ตาม
"นี่...ทุกคน...ฟังผมหน่อยสิ!!!" พยายามตะโกน แต่ก็เหมือนจะได้ผลเหมือนเดิม นั่นคือ ทุกคนยังคงคุยกัน หรือ ทำกิจกรรมของตัวเองต่อไป ตอนนี้กำลังใจของคนตัวเล็กเริ่มหดหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความท้อใจ...ทำไมไม่มีใครได้ยินเค้ากันเลยนะ ทำไมกัน....ทำไมถึงไม่มีใครสนใจ.....ทำไมถึงไม่มีใครตอบรับ นี่มี่มใครรู้เลยรึไงว่าเค้าอยู่ตรงนี้น่ะ
"ฮะ..ฮึก....ฮือ...นะ...นี่....ฟังกันหน่อยสิ...."
น้ำตาเริ่มพรั่งพรูออกจากดวงตาหวาน ร่างทั้งร่างเริ่มทรุดลงกับพื้นแล้วนั่งห่อไหล่ตามแบบของเค้า เพียงแต่ครั้งนี้....เป็นการนั่งกอดเข่าด้วยคมรู้สึกที่ว่าเหลือเค้าเพียงคนเดียวในโลก ซึ่งเมื่อคนอื่น ๆ เห็นก็ตื่นตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะ ไม่คิดว่าคนตัวเล็กนี่จะอ่อนไหวขนาดนี้ โดยเฉพาะ...
"ฮะ...เฮ้!!!โอ๋ ๆ นิ่งซะนะครับคนดี ไม่เอานะ ไม่ร้องนะ"
เยซองวิ่งมาเป็นคนแรก โดยที่ตัวร่างหนาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าลุกออกจากโต๊ะมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ...นี่มันนอกเหนือจากแผนแล้วนี่นา ไม่เห็นมีใครบอกว่าทำแล้วจะทำให้คนคนนี้ร้องไห้นี่ เมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำตาออกมาจากดวงตาที่ชอบหลุบหลบคนอื่นของคนตัวเล็กที่นี่ เค้าก็อยู่ไม่ติดเก้าอี้แล้ว มือทั้งสองข้างรีบโบกอดคนที่นั่งอยู่เป็นเชิงปลอบประโลมทันที
"พะ...พี่...ยะ...เยซอง....ได้ยินผมใช่มั๊ย....ได้ยินผมแล้วใช่มั๊ย...ฮือ.."
"ได้ยินแล้ว...ได้ยินแล้วนะครับ...ไม่ร้องนะเด็กดี"
ปลอบอีกคนไปพลางหันมองคนอื่นอย่างขอความช่วยเหลือไปพลาง ซึ่งคนในบ้านแต่ละคนก็ล้วนแต่ทำหน้าตาตกใจเป็นเชิงว่ายังคิดอะไรไม่ออก แต่ซักพัก พี่ใหญ่ของวงอย่างลีทึกก็คิดวีธีแก้ปัญหาความวุ่นวายได้ โดยการให้เยซองพาคนที่กำลังนั่งร้องไห้เข้าห้องไปก่อน ส่วนเค้าจะจัดการคุยกับพวกที่เหลือเอง เพราะ การที่คนหน้าหวานร้องไห้ในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นความผิดของทุกคน
**
**
ณ.ห้องนอนของเยซอง...
"เป็นไงบ้าง....ตัวเล็ก"
เสียงทุ้มเล็กน้อยของหนุ่มร่างหนาพูดกับอีกคนที่นั่งเช็ดน้ำตาอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำเอาอีกคนหน้าขึ้นสีวูบวาบ...ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าพี่ลีทึกสั่งให้พามาปลอบ แต่ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นห้องพี่เยซองล่ะ!!แทนที่จะเป็นห้องของเค้า...คนตัวเล็กแอบคิดอยู่ในใจ
"มะ...ไม่เป็นไรแล้วครับ...ออกไปข้างนอกกันเหอะ"
รีบชักชวนีกคนออกไปจากห้องนี้ทันที เพราะ กลัวจะทำอะไรที่มันดูตลกต่อหน้าคนที่ชอบ แค่ร้องไห้นี่เค้าก็อายจะแย่...หากจะต้องอยู่กับคนคนนี้เพียงสองคนในห้องล่ะก็...ไม่อยากจะคิดว่าจะทำตัวยังไงดี เพราะ ถึงแม้จะมีความกล้าไปบอกรักเค้าก็เหอะ แต่ความกล้าที่แม้แต่จะมองหน้า ตอนนี้เค้ายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
"คงจะไม่ได้หรอก เพราะ พี่ลีทึกไม่อนุญาติ"
"อะ...เอ่อ ผมจะออกไปขอโทษทุกคนที่ทำให้มันวุ่นวายอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่มันควรจะสนุกแท้ ๆ"
เรียวอุคทำหน้ากังวลอีกครั้ง ทำเอาเยซองอดยิ้มตามไปกับความไร้เดียงสาของร่างตรงหน้านี้ไม่ได้ ร่างหนาเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วนั่งลงข้าง ๆ ทันที มือใหญ่เอื้อมไปที่แก้มเนียนของอีกฝ่ายแล้วเช็ดน้ำตาให้เบา ๆ ทำเอาคนตัวเล็กที่หลบไม่ทันหน้าแดงเพราะความเขินอายยิ่งกว่าเดิมไปเรียบร้อยแล้ว
"ไม่เห็นจะต้องขอโทษเลย พวกชั้นต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ที่เล่นอะไรแรง ๆ กับนาย"
พูดแล้วส่งยิ้มออดอ้อนไปให้อีกฝ่ายทำเอาคนตัวเล็กหลบสายตาแทบไม่ทัน และในขณะที่เรียวอุคยังไม่ทันรู้ตัว มือเล็กก็ถูกดึงฝ่ายจับออกมาจากตักแล้ววางไว้บนมือตัวเอง จากนั้นจึงค่อย ๆ นั่งลงบนพื้นเพื่อให้ตัวและมือของเรียวอุคอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า ก่อนจะประทับจุมพิตอ่อนโยนไว้บนหลังมือของคนตัวเล็ก
"ขอโทษนะครับ....จัสมิน"
คำขอโทษแสนหวานดังออกมาจากปากของคนตัวใหญ่ เยซองเอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นไปหาอีกคนซึ่งเมื่ออีกฝ่ายเห็นก็ได้แต่เบือนหน้านีไปทางอื่นเพื่อซ่อนความอายเอาไว้ คนตัวเล็กที่เพิ่งถูกขนานนามไปว่าเป็น จัสมิน เริ่มทำอะไรไม่ถูก
"อะ...เอ่อ...มะ...ไม่เป็นไรซะหน่อย ไม่เป็นไรจริง ๆ นะครับ คะ...คือ...."
"ชั้นเชื่อแล้วล่ะว่าไม่เป็นไรน่ะ"
"คะ...ครับ" ตอบแล้วหลบสายตาคนตรงหน้าอีกรอบ
"นี่ตัวเล็ก...รู้มั๊ยทำไมนายถึงต้องเป็น 'จัสมิน' น่ะ"
เยซองถามอีกคนด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม....ยิ้มเพราะเห็นท่าทางของคนตัวเล็ก...ยิ้มเพราะอยู่ดีดีใจมันก็เป็นสุขขึ้นมา...ยิ้มเพราะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ส่วนคนถูกถามก็ได้แต่ก้มกัวแล้วส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กไปมาอย่าน่ารัก แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาเป็นคำถามกลับไป
"ไม่บอก"
"อะ...ทำไมล่ะครับ แต่ผม...เอ่อ....ผมอยากรู้นี่นา"
เรียวอุคพูดเสียงแผ่วเบาแล้วก้มหน้าอีกที เพราะ นาน ๆ ทีจึงจะพูดจาเอาแต่จ นาน ๆ ทีจึงจะพูดว่าอยากได้อะไร....จากคนคนนี้
"เดี๋ยวนายก็รู้...ตอนนี้นอนไปเหอะ โดนแกล้งคงจะเหนื่อย"
พูดขอร้องแกมบังคับอีกคนให้นอนต่อโดยที่คนตัวเล็กทำได้เพียงพยักหน้ารับแล้วทำตามที่ร่างหนาบอกโดยลืมไปว่าตัวเองยังคงอยู่ในห้องของอีกคนนึงอยู่ เยซองแอบอมยิ้มอีกรอบ...เพราะบริสุทธิอย่างนี้ไงล่ะ ถึงเหมือนจัสมิน เพราะทั้งสะอาด บริสุทธิ ไร้เดียงสา และน่ารักอย่างนี้ไง...ถึงได้อยากแกล้ง แล้วอีกอย่าง...ก็เพราะเค้าคนนี้เป็นอาละดินไงล่ะ คนที่นอนอยู่จึงจำเป็นต้องเป็นจัสมิน เพราะ อาละดิน กับ จัสมินน่ะ ต้องคู่กัน...
Talk By จอมโจรมายา :: เอ๊ะ งง ๆ ไอ้อันเก่ามันหายไปไหนแล้วหว่า (ขอโทษไอ้โบว์ด้วย)....
ค่ะ...เราก็กลับมาจากค่ายแระ ปวดเมื่อยมากมาย มาอัพได้เล็กน้อย เอาพอจบตอน...ตอนใหม่ก็คงต้องเป็นอย่างที่คุณผู้จัดการ (55+) บอกนั่นแหละค่ะ ศุกร์นี้นะคะทุกคน รอกันไปก่อน..^^
ตอนนี้ กำลังใจเต็มเปี่ยม แต่กำลังสมองไม่มี หมดไปกับการเดินทางไกล 9 กิโลกว่า ๆ -*-....ตันค่ะตัน แต่ไงไงก็จะปั่นให้ได้ ^^"....แอบกลัวว่าจะกลายเป็นฟิคสั้น (-*-)
ฉากแอบหวีทเล็กน้อยของ เย*เรียว รู้แค่ว่าอุคน้อยของอิชั้นคือจัสมิน และเยเย่เนี่ยเป็นอาละดิน (เคยดูอาละดินกับตะเกียงวิเศษ ป่ะคะ) ไม่รุที่มาที่ไป ขอโทดด้วยค่ะ...
ความคิดเห็น