ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ออดิชั่นนางเอกป้าทึก!
(( ใบสมัครนางเอกลีทึกสีส้มเข้ม ))
ชื่อคนออฯ : ไหว้ฮับ
อายุคนออฯ : 17 ร๊ะ!
++++++++++++++++++++++
ชื่อ (( ขอเป็นภาษาไทยแปลกๆน่ารักๆ Thai//Eng)) : ลิ้นจี่ (มินจี) // Linjee (Minjee)
อายุ (( 19-21 )) : 19 ขวบ!
ฉายาคุณ : เต่าเตี้ย, ลิ้นปี่!
ฉายาคู่คุณ : ตาแก่!
บุคลิก รูปร่าง ท่าทาง (( ที่เห็นได้ชัด )) : เตี้ยไงเตี้ย! ตากลม ๆ ชอบทำหน้ากวน_อยู่ตลอดเวลา ตัวขาว ๆ แก้มป่อง ๆ ท่าเดินมักจะถูกพี่ชายว่าว่าไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย มักจะไปไหนมาไหนพร้อมกับกระเป่าเป้ใบโต เสียงแอบ
แหลม
นิสัย (( 3 บรรทัด Upz..!! )) : รั่ว บ้า ร่าเริงได้ตลอดทั้งวัน ยิ้มเก่ง ยิ้มง่าย สามารถนั่งหัวเราะได้แม้กระทั่งเวลาดูหนังแนวดราม่า ชอบให้คนเอาใจแต่ไม่ชอบเอาใจคน ไฮเปอร์ อยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ อ่อนไหวกับแผงอกผู้ชาย ขี้ลืม แอบซุ่มซ่ามบางครั้ง เส้นตื้นแบบสุด ๆ แถมยังหัวเราะได้หลุดโลก บ้ากล้องเป็นชีวิตจิตใจถึงขั้นพกติดตัวตลอดเวลา และชอบกดชัตเตอร์โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว เปิดเผย จริงใจ พูดตรงไปตรงมา พูดก่อนคิด ช่างเหน็บแนม
ประวัติครอบครัว (( ที่ส่งผลถึงนิสัยขอเหตุผลด้วยนะคะ )) : ครอบครัวอบอุ่น ถึงแม้ว่าจะอยู่กับแม่และพี่ชายเท่านั้น เพราะพ่อของเธอนั้น ต้องอยู่บริหารงานที่บริษัทเครื่องประดับใหญ่ที่เกาหลี แต่ก็จะมีบ้างที่หาเวลากลับมาเยี่ยมบ้างบางครั้ง พี่ชายเป็นพวกกวนบาทาอยู่ตลอดเวลา ส่วนแม่เป็นสถาปนิกอารมณ์ดี ซึ่งนิสัยส่วนนี้กระมังที่เธอได้รับมันมาเต็ม ๆ
ประวัติความรัก (( ถ้ามีบอกมาด้วยว่าส่งผลอะไรบ้าง )) : ตอน ป.6 กับเพื่อนห้องข้าง ๆ พอกลับมาเล่าให้พี่ชายฟังจึงโดนตี จากนั้นจึงไม่คิดจะยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีก!
ฐานะ (( บอกด้วยว่าคนในบ้านทำงานอะไรถ้ามีพ่อแม่ )) : ดี ถึงดีมาก เพราะพ่อเป็นเจ้าของปริษัทอัญมณีขนาดใหญ่ที่เกาหลี
สิ่งของที่จะพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา (( ไม่เอาสิ่งมีชีวิต )) : กล้องถ่ายรูป
ชอบ : แผงอกขาว ๆ ,ไก่! , แมว , อาหารรสส้ม ,รูปนู้ด (อย่างมีศิลปะ)
กลัว : แมงมุม! ,ลมพัดแรง ๆ , ฟ้าผ่า
เกลียด : คนสองหน้า
ความสามารถพิเศษ (( แปลกแค่ไหนก็ได้ >O< )) : บาสเก็ตบอล (ถึงแม้ส่วนสูงจะไม่ค่อยอำนวย)
งานอดิเรก : ถ่ายรูป วาดรูป
อิมเมจคุณ [3 รูปเอารูปใหญ่ๆหน่อยก็ดีนะ] :
Jung Hye Won จ้า! ^____________^
อิมเมจคู่ [2 รูปพอจ้า] :
++++++++++++++++++++++
คำถามทั่วไป (( ตอบให้ดีเน้อ >3< ))
ความรักในแบบของตัวละครของคุณมันคืออะไร (( 3 บรรทัด Upz..!! ))
: ความสุข เพราะ การที่ถูกเลี้ยงมาอย่างอบอุ่น ไม่กดดันให้เครียด ทำให้เธอเป็นคนที่สนุกสนานอยู่พอตัว สำหรับมินจี ความรักคือ การทำให้คนรอบข้างมีความสุข
จะเจอกับคู่ของคุณยังไง (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))
: หัวฟู เสื้อยับ กระเป๋าขาด มือถือแบตหมด เดินสะดุด ขาเคล็ด ท้องเสีย บลา ๆๆๆ~ สารพัดที่จะซวย..ขนาดจะกินข้าวมันไก่ ม๊ายังซื้อข้าวหมูกรอบมาให้!
มันจะมีวันไหนที่ซวยเท่าวันนี้อีกไหมเนี่ย!!!!
“โอ๊ย เฮียนะเฮีย ใช้เข้ามาได้ น้องทั้งคน เห็นเป็นคนรับใช้รึไง”
บ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทางเดินยาวของคณะ เป้าหมายคือห้องพยาบาลแสนสะอาด ที่สิงสถิตของคุณเพื่อนร่วมคณะสุดเนี๊ยบของพี่ชายที่ชื่อ ปาร์คจองซู หรือฉายาที่รุ่นน้องในคณะอุตส่าตั้งให้เรียกกันสั้น ๆ ว่าลีทึก...คนพิเศษหรอ หึ~~ก็แค่ตาแก่หน้าสวยจอมเนี๊ยบเท่านั้นนั่นแหละ!!
“ขอโทษค่ะ มีใครอยู่หรือเปล่า”
เคาะประตูแล้วลองตะโกนถามเพื่อเป็นมารยาทเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน มือเรียวกระชับซองสีน้ำตาลในมือแน่น แล้วค่อย ๆ เปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไป...นี่ไม่ได้กลัวนะ ไม่ได้ประหม่าด้วย คนอย่างมินจีไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว เพียงแต่..
“เฮ้ย!!”
~แชะ!~
ตะโกนอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ประตูก็เปิดพรวดออกมา ใบหน้าหวานสวยปราศจากแว่นตา กับผมฟู ๆ ที่บอกให้รู้ว่าอีกคนเพิ่งตื่นทำเอาตกใจ ยิ่งแผงอกขาว ๆ ที่โผล่มากจากเสื้อเชิ๊ตตัวบางนั่งยิ่งแล้วใหญ่ มือมันก็เลยเผลอกดชัดเตอร์ไปโดยปริยาย
รู้รึเปล่านะพี่ ว่ามินจีหวั่นไหว!!
“มีอะไร”
เสียงติดจะหวานเอ่ยถามห้วน ๆ อย่างไม่สบอารมณ์นัก ก็ใครมันจะไปอารมณ์ดีได้ล่ะ ก็คนเขานอนหลับอยู่ดีดี ดันมามีเสียงแหลมปรี๊ดดด ตะโกนเข้ามาให้ได้ยิน ไอ้เขามันก็คนหูดี ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยก็ตื่นแล้วเสียอีก แถมเมื่อคืนก็ก็ดันนอนเสียเกือบเช้าเพราะนั่งปั่นรายงานส่ง ให้ตายเหอะ...
วันนี้มันเป็นวันซวยแห่งชาติหรือไงกัน!
“ค....คือ พี่ชายฝากของมาให้”
“พี่ชาย?”
“พะ..พี่จูมยอก”
พยักหน้ารับรู้แล้วยื่นมือไปรับของจากเด็กสาว ตาสวยหันไปสนใจกับของมืออยู่พักหนึ่งแล้วตวัดสายตาขึ้นมามองคนตัวเล็กอีกครั้ง
“กรุณาจ่ายค่ารูปฉันที่เธอถ่ายไว้เมื่อครู่นี้มาด้วย...นะ น้องลิ้นปี่!”
จบคำพูดเนิบ ๆ ของผู้ชายสุดเนี๊ยบเด็กสาวก็แทบจะกรี๊ดออกมาเสียตรงนั้น ค่ารูปงั้นหรอ ใครบอกว่าอยากได้ บอกมั๊ยว่าขอถ่าย มือมันแค่เผลอไปกดชัตเตอร์ตอนที่เห็นแผ่นอกขาว ๆ นั่นเท่านั้นเอ๊ง~ แล้วไอ้ชื่อนั่นมันอะไร บอกทีว่ามันอะไรก๊าน!!
“ฉันชื่อมินจี ชื่อไทยชื่อลิ้นจี่ เรียกให้มันถูกด้วยคุณรุ่นพี่!”
“ก็แล้วยังไง...ลิ้นปี่!! ฉันรู้นะว่าเธออยากสัมผัสแผ่นอกอันแข็งแกร่งของฉัน” ร่างสูงพูดพลางแหวกเสื้อให้เห็นอกเนียนขาว
มากยิ่งขึ้น
ไอ่ผู้ชายโรคจิต... ดันมาแอบรู้ความคิดซะได้ โอย กำเดาจะกระฉูดดด! แต่ไอ่แข็งแกร่งเนี่ย.. ฉันขอทำเป็นไม่ได้ยินละกัน
“ไงหล่ะลิ้นปี่ ฉันเซ็กซี่ใช่มั๊ยหละ? เธออยากจะมาลูบไล้ร่างกายที่แสนกำยำของฉันใช่มั๊ยล่าา?” เจ้าของดวงตาเรียวคมยังคงไม่เลิกแหวกเสื้อ หนำซ้ำยังเอามือตัวเองลูบไล้ไปตามแผงอกอีกต่างหาก.. แล้วไหนจะหน้าตาที่ยั่วยวน(กวนประสาท)นั่นอีกหละ ยอมรับนะว่าพี่น่ะเซ็กซี่ แต่ยังไงก็สู้พี่จูมยอกของฉันไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆ
โอ๊ยย~ อย่าพูดมากนักได้มั๊ยคะพี่จองซูสุดหล่อขา~ เดี๋ยวลิ้นจี่ทนไม่ได้วิ่งไปจับพี่กดขึ้นมาจะทำยังไงคะพ่อคุณสุดเซ็กซี่~~~ = =:::
มินจีรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ กระพริบตาถี่ๆสองสามทีให้ความคิดบ้าๆนั่นหลุดออกจากหัวซะ
“ลาก่อนคะ! หวังว่าชาตินี้คงไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ พี่จองซูสุดเซ็กซี่!!”
พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันก่อนจะเดินหันหลังกลับโดยไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของอีกคนนึงแม้แต่น้อย ให้ตายเหอะ! ให้ตาย...ทำไมไม่มีคนเตือนบ้าง ว่ารุ่นพี่จองซู นอกจากจะเนี๊ยบแล้ว ยังนิสัยเสียแถมงกเอาโล่อีกน่ะ!
ให้ตาย ก็อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันเลย สาธุ!!
เหตุการณ์ตอนกลางๆเรื่องที่อยากให้เกิด (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))
: โปรเจคงานที่มินจีต้องทำนั้น ดันได้ที่ปรึกษาเป็นรุ่นพี่ต่างคณะอย่างลีทึก จึงทำให้ต้องเทียวไปเทียวมาหากันเป็นประจำ แม้ลีทึกจะปากร้าย แต่ก็ช่วยเธอทำงานอย่างเต็มที่ เธอจึงมองรุ่นพี่คนนี้ในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ลีทึกจะยังปากเสีย หื่น นิสัยไม่ค่อยดีเหมือนเดิมก็เถอะ! แต่ก็น่าแปลกใจที่นิสัยหื่นๆของทั้งคู่นั้นเข้ากันได้ดีมาก สงสัยเลเวลความหื่นจะใกล้เคียงกันจนจูนกันได้ง่ายๆแล้วหละมั้งเนี่ยยย
: โปรเจคงานที่มินจีต้องทำนั้น ดันได้ที่ปรึกษาเป็นรุ่นพี่ต่างคณะอย่างลีทึก จึงทำให้ต้องเทียวไปเทียวมาหากันเป็นประจำ แม้ลีทึกจะปากร้าย แต่ก็ช่วยเธอทำงานอย่างเต็มที่ เธอจึงมองรุ่นพี่คนนี้ในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ลีทึกจะยังปากเสีย หื่น นิสัยไม่ค่อยดีเหมือนเดิมก็เถอะ! แต่ก็น่าแปลกใจที่นิสัยหื่นๆของทั้งคู่นั้นเข้ากันได้ดีมาก สงสัยเลเวลความหื่นจะใกล้เคียงกันจนจูนกันได้ง่ายๆแล้วหละมั้งเนี่ยยย
ตอบจบ จุดจบของคุณจะเป็นยังไง (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))
: “ยัยตัวยุ่ง...ออกมาคุยกันก่อนสิ”
: “ยัยตัวยุ่ง...ออกมาคุยกันก่อนสิ”
ตะโกนใส่หน้าต่างบานที่ปิดอยู่ราวกับคนบ้า รู้ทั้งรู้ว่าอีกคนคงไม่ยอมเปิดให้ง่าย ๆ ลีทึกจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกให้ร่างบางในห้องนั่นเข้าใจ แต่เล่นหลบหน้าหลบตากันมาตลอดอาทิตย์ ใครมันจะไปอธิบายได้
อธิบายว่าเขากับดาวคณะจางนารา ไม่ได้คบหากันอย่างที่เข้าใจ!
“มินจี นี่ฉันอุตส่าห์เรียกชื่อเธอดีดีแล้วนะ”
“ไม่เอา~ไม่ฟัง ๆ พี่จะคบกับผู้หญิงคนนั้นก็คบไปซี่~”
“ไม่ได้คบ บอกไปกี่สิบรอบแล้วว่าไม่ได้คบ”
“ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่~”
ทำเป็นดื้อหัวแข็ง แต่ก็ยอมเปิดหน้าต่างออกมาให้ได้ยินคำพูดของเขาบ้างแล้ว แถมยังยอมพูดตอบมาเสียด้วย ถึงจะยังไม่ยอมโผล่หน้าออกมาก็เถอะ
“ไม่เกี่ยวหรอ...”
“ใช่~ไม่เกี่ยวกับฉันซักนิด~”
“งั้นฟังดีดีนะ ยัยบ๊อง...”
“ฟังอะ....”
“ชั้นชอบเธอ คบกับฉันนะ!”
ผ้าม่านสีอ่อนถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบหน้าตื่นตระหนกของเจ้าของห้อง ปากบางอ้าค้างเพราะความตกใจ พยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ดูเหมือนจะช็อคจนพูดไม่ออก
“คราวนี้เกี่ยวรึยัง?”
“พี่ล้อฉันเล่น”
“ก็ลงมาฟังใกล้ ๆ สิ จะได้รู้ว่าฉันไม่ได้ล้อเล่น”
หน้าก็แดงแสนแดง มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ยังมีสปิริตจะทำตามที่อีกคนพูด ขาเรียวปีนออกจากหน้าต่างห้องนอนอย่างรวดเร็วทำเอาคนอื่นข้อเสนออดตกใจไม่ได้ ชุดนอนลายแมวสีส้มทำให้อีกคนดูแปลกตาไป แต่อึ้งได้ไม่นานก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปใกล้เพราะเสียงหวานที่เอ่ยเรียก..
“พี่มารับฉันด้วยซี~”
“เฮ้ย จะโดดจิง ๆ หรอ!!”
ไม่ทันขาดคำ ร่างบางก็ลอยลงมาจากชั้นสองของบ้าน ไม่เสียเวลาคิด ลีทึกรีบพุ่งเข้าไปรับทันที แต่ด้วยไม่ได้เตรี๊ยมมาก่อน เลยทำให้ล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่ ไม่วาย แม่ตัวดียังเงยหน้าขึ้นมายิ้มแล้วถามเสียงใส
“เจ็บไหม ขอโทษ ลืมลดน้ำหนัก~”
“เจ็บสิ ใครใช่ให้เธอกระโดดลงมาเล่า”
“ก็พี่บอกให้ลงมาฟัง ฉันก็ลงมาแล้วนี่ไง”
“ยัยบ้า จะบ้าตายกับเธอจริง ๆ นะ = =”
“อะไรเล่า”
“ฉันชอบเธอ คบกันนะ ยัยเตี้ย ยัยลิ้นจี่ ยัยมินจี...ทุกอย่างที่เป็นเธอ~”
“ >///< รู้แล้ว ๆ ๆ”
“คำตอบเล่ายัยตัวยุ่ง?”
“เก็บแผงอกของพี่ ไว้ให้ฉันดูคนเดียวแล้วกัน!”
พล็อตความรักของคุณ (( หวาน บ้า โหด เอาให้ตรงกะนิสัยหน่อยเน้อ ))
: โหด มัน ฮา (รึเปล่า) ด่ากันไป ด่ากันมา เอาเป็นว่า เป้นคู่ที่ทะเลาะกันได้ทุครัง้ที่เจอ ขนาดแค่มองตายังหาเรื่องทะเลาะกันได้ แล้วก็ด้วยความงก + ปากเสียของลีทึก เลยยิ่งเพิ่มเรื่องทะเลาะให้มากเข้าไปใหญ่ แต่บทจะหวาน ทั้งสองคนก็หวานได้ไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว
: โหด มัน ฮา (รึเปล่า) ด่ากันไป ด่ากันมา เอาเป็นว่า เป้นคู่ที่ทะเลาะกันได้ทุครัง้ที่เจอ ขนาดแค่มองตายังหาเรื่องทะเลาะกันได้ แล้วก็ด้วยความงก + ปากเสียของลีทึก เลยยิ่งเพิ่มเรื่องทะเลาะให้มากเข้าไปใหญ่ แต่บทจะหวาน ทั้งสองคนก็หวานได้ไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว
ถ้าออฯติดไม่ทิ้งกันนะค้า
: โอเช~
ถ้าเป็นไปได้ เนอยากให้มาเม้นท์ทุกสอง-สามวันจะได้มั้ยหนอ..??
: ได้อยุนะคะ!
มีอะไรจะบอกกับเน,,เมย์มั้ยคะ
: สู้ ๆ เย้~~~ ไม่รุจะเขียนไรแฮะ... คือ มันเป็นการเขียนที่บ้ามากที่สุดในชีวิตแล้ว (หรอเนี่ย) เค้าเขียนให้มันไม่ยืดเยื้อไม่เป็นอร๊า~ พยายามปั่นให้เร็วที่สุดค่ะ หมดวันนี้ เสร็จวันนี้ แบบ ตายไปแล้ว ยังไงก็รับไว้พิจารณาหน่อยเน่อ 55+ ไรท์เตอร์สู้ ๆ น๊า!
++++++++++++++++++++++
คำถามชิงบท (( ตอบให้ดีๆเน้อ >_< ))
เมื่อจู่ๆวันนึง ลีทึกมีเรื่องทุกข์ใจเป็นอย่างมาก คุณเห็นเค้านั่งอยู่ คุณก็เลยเดินไปหาเค้า แล้วชวนเค้าไปบ้านเด็กกำพร้า คุณกับลีทึกเล่นกับเด็กๆอย่างมีความสุข แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มันคืออะไรคะ..!! (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! )) (( เอาตั้งแต่นั่งเครียดแล้วชวนไปบ้านเด็กกำพร้าจนจบเลยเน้อ ^^ ))
: ดวงตาสวยที่หม่นลงประกอบกับอาการนั่งขดตัวก้มหน้าก้มตาของรุ่นพี่จอมงกนี่ทำให้มินจีอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนคนนี้ แว่นสีเหลี่ยมกรอบดำที่เจ้าตัวหวงนักหนาถูกวางไว้ข้าง ๆ ขาดการสนใจ...แปลก แปลกมาก ๆ ถึงลีทึกจะไม่ใช่คนที่พูดมากอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นทำหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้สักที
“รุ่นพี่...”
“อะไร”
“เป็นอะไรไป? หรือโกรธฉันที่วันนี้มาทำงานช้า??”
“ไม่เกี่ยวกับเธอ!”
ร่างสูงตวาดใส่แล้วลุกเดินหนีไปเงียบ ๆ คิ้วบางขมวดมุ่น งง งวย กับอารมณ์รุนแรงของร่างโปร่งเป็นอย่างมาก สงสัยจะเครียด..เพราะปกติถึงจะปากเสีย เจ้าระเบียบ ขี้งก แต่พี่ลีทึกก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลเสียหน่อย..
หรือว่าอกหัก?
“นี่พี่...จะไปไหน รอด้วยสิ!” ร่างกะทัดรัดวิ่งตามคนตัวสูงด้วยความเป็นห่วง แต่อีกฝ่ายกลับหยุดเดินหันมาตวาดเธอซะงั้น
“จำไม่ได้ว่าบอกให้เธอตามมา”
ขาเล็กหยุดกึกยืนเท้าสะเอวขวางหน้าคนหน้าหวานโดยไม่เกรงกลัวสายตาคม ๆ นั่นเลย หลังจากพยายามวิ่งจ้ำอ้าวอยู่เสียนาน ลีทึกถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินเลี้ยงคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“หลบไปซะทีสิ”
“ไม่เอา จนกว่าพี่จะบอกฉันมาว่าเป็นอะไร?? ทำไมวันนี้หงอยเป็นต้นไม้ขาดน้ำ? พี่จองซูที่แสนเซ็กซี่คนนั้นไปไหนซะแล้วหละ??”
“แล้วมีเหตุผลอะไร ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยเล่า?”
“แลกกับการที่ฉันไม่เอารูปพี่ที่อยู่ในกล้องไปประจานไง..~”
“ยัยเตี้ย! ไหนเธอบอกว่าลบไปแล้ว OoO!!!!”
“ลบทำไมเล่า สมบัติล้ำค่าเชียวนะ รูปพี่ลีทึกใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนอนเนี่ย~”
เฮือกก ก นึกแล้วเลือดจะพุ่ง~
ยิ้มกวนส่งให้พร้อมทั้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้โดยไม่ลืมที่จะจับกล้องไว้ให้มั่นเผื่ออีกคนนึกคึกมาแย่งกล้องไปจากมือขึ้นมา แต่แปลกที่ร่างโปร่งไม่ทำอะไรเลยซักนิด แต่กลับยืนเฉย...เฉยมากกก มากจนน่ากลัว กลัวว่าจะไปสะกิดต่อมอะไรที่เขาคนนั้นไม่อยากจะนึกถึง
“ถ้าพี่ลำบากใจ ไม่ต้องพูดก็ได้นะคะ..”
“.................”
“แต่ว่า ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันเหอะ เลิกทำหน้าบูดอย่างนี้ซักทีน่า ยิ่งแก่ ๆ อยู่^^ เดี๋ยวอกแน่นๆของพี่เหี่ยวขึ้นมา อย่ามาโทษฉันนะ!~”
มินจีไม่ฟังคำตอบรับของอีกคนแต่อย่างใด มือบางก็คว้าขวับเข้าที่ข้อมือหนาแล้วออกแรงลากให้เดินกลับไปทางเดิม ก่อนจะพาไปถึงรถคันสวยคู่ใจของเจ้าตัว ยัดเยียดให้ร่างโปร่งนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับแล้วออกรถอย่างรวดเร็ว ปากบางพูดนู่นนี่ไปตลอดทางโดยยังไม่ปริปากบอกว่าจะพาเขาไปที่ไหน แต่ไอ้ความเร็วเกิน 120 นี่มันก็อดทำให้ลีทึกกังวลใจไม่ได้
กลัวยัยเตี้ยนี่จะพาไปคลายเครียดด้วยการไปทัวร์นรกนะสิ!
เสียงเบรกเอี๊ยดของรถดังขึ้นพร้อมกับความโล่งใจของลีทึก ร่างโปร่งกระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบมองไปรอบ ๆ อย่างระวังตัว ส่วนคนพามานั้นยังไม่เห็นออกมาจากรถ...หรือขาสั้นจัด ก้าวลงไม่ได้?
“มองอะไรน่ะรุ่นพี่ ไม่เห็นต้องระแวงขนาดนั้น~”
พูดจบก็คว้าหมับเข้าที่มือของร่างโปร่งอีกรอบก่อนจะออกแรงดึงให้ตามตัวเองไป รั้วปูนเขรอะเล็กน้อยคงเพราะขาดการดูแลปรากฏให้เห็นเมื่อเดินผ่านรถคันใหญ่ของยัยตัวเล็กนี่มา ป้ายชื่อสถานที่ที่ไม่น่าเชื่อว่าน้องไอ้จูมยอกจะรู้จัก..
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มยองนัง
พอก้าวผ่านประตูทางเข้าปุ๊บ มือเล็กก็ปล่อยข้อมือเขาปั๊บ แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับพวกเด็ก ๆ ที่ออกมาต้อนรับอย่างสนิทสนม ไปทันถึงนาทีดีก็เห็นอีกคนกวักมือเรียกตามเข้าไปทางด้านในพร้อมกับกลุ่มเด็กตัวเล็ก ๆ หลายสิบคน
“มาบ่อยหรอ?”
“ว่างก็มา ทำไมพี่ทำหน้าอย่างงั้นเล่า เห็นฉันเป็นคนอย่างไงเนี่ย! นางฟ้าน่ะนางฟ้า รู้จักมั๊ย??”
ลีทึกหลุดหัวเราะเล็ก ๆ เมือแอบเห็นสีหน้าไม่พอใจของร่างบาง ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ไปรวมกลุ่มกับพวกเด็ก ๆ แทน แหม..ทีงี้แล้วทำเนียน ยิ้มหวานเชียว ที่เมื่อกี๊ยังหน้าบูดอยู่เลย ตาแก่ไม่เจียมสังขาร!!
เล่นกับน้องไป ป้อนขนมน้องกันไปจนเวลาล่วงแลยมาหลายชั่วโมง คุณครูพี่เลี้ยงที่ดูแลจึงต้องออกมาบอกให้เตรียมตัวไปทำกิจกรรมของวันนี้กัน นั่นก็คือ รดน้ำดอกไม้ในสวน แน่นอนว่าแขกพิเศษทั้งสองคนนั้นยินดีที่จะไปร่วมแจมด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
เล่นไปเล่นมาชักเริ่มเบื่อ คนตัวเล็กจึงต้องคิดหาอะไรใหม่ ๆ เล่นเพื่อความสนุกสนาน ตาเรียวหันไปเจอกับสายยางอันใหญ่ พลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็แอบผุดขึ้นมาบนใบหน้าของคนอารมณ์ดี..คนแก่ตกน้ำป๋อมแป๋ม เสื้อสีขาวเนื้อบางแบบนั้น.. วันนี้คงได้เห็นแผงอกขาวๆของคนหน้าสวยอีกเป็นแน่แท้
“พี่ลีทึก..”
หันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงหวานนั่นอย่างสงสัย แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว สายน้ำที่ออกมาจากสายยางใหญ่ก็พุ่งมาถึงตัวเข้าเป็นที่เรียบร้อย เสียงหัวเราะเล็ก ๆ ด้วยความสนุกสนานดังตามออกมา ถ้าเป็นเวลาปกติร่างโปร่งคงโวยวายไปแล้วเพราะยัยตัวแสบนี่ทำเสื้อเขาเละ แต่วันนี้ละให้วันนึง
ถือว่าเป็นคำขอบคุณ ที่ทำให้ลืมเรื่องเครียด ๆ นั่นไปได้ก็แล้วกัน~
“กล้าแกล้งฉันหรอยัยลิ้นปี่...”
“ไม่กล้ามั้ง แต่ฉันก็แกล้งพี่ไปแล้วนี่ ฮ่า ๆ”
“เธอตายแน่ ยัยเตี้ย!”
ร่างสูงละทิ้งอายุตัวเองแล้ววิ่งไล่จับอีกคนเหมือนเป็นเด็ก รอยยิ้มสวยเห็นเด่นชัดขึ้นเพราะเจ้าตัวลืมที่จะเก็บมันไว้เหมือนที่เคยทำมา เสื้อผ้าเปียกปอนแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจกับมันสักเท่าไรนัก เสียงหัวเราะสดใสที่ออกมาโดยไม่ต้องคิดก่อน สบาย..โล่งหัว...
บางครั้งการได้ทำอะไรโดยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นนี่ก็ดีเหมือนกันนะ!
“ระวังลื่นนะยัยเต่า”
“พี่จะเรียกชื่อฉันไม่ได้เลยใช่มั๊ยเนี่ย เฮ้ย ๆ ๆ ๆๆ”
ไม่ทันขาดคำ ก็ต้องร้องเสียงหลงเพราะพื้นดินที่เปียกน้ำแถวนั้นมันลื่น จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ขาเล็ก ๆ จะเกิดสะดุดลื่นล้ม ดีที่คนตัวสูงกว่ารีบเข้ามารับไว้ได้ทัน ใบหน้าหวานปะทะเข้ากับแผ่นอกเนียนของอีกฝ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเส้อเชิ๊ตสีขาวของร่างโปร่งนั้นมันบางแสนบาง บางเสียจนเห็นอะไรทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด...
ทำไมหน้ามันร้อน ๆ ล่ะ?
“เฮ้ย ยัยบ้า เลือดกำเดาไหลได้ไงเนี่ย!!”
ร้องโวยวายอย่างตกใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้ยิน ตาเรียวปรือลงช้า ๆ ก่อนจะหลับไปในทีสุด พวกเด็ก ๆ ในบ้านต่างพากันมารุมล้อมพี่สาวเสียยกใหญ่ เสียงเจื้อยแจ้วค่อย ๆ กังขึ้นเรื่อย ๆ จนลีทึกต้องออกปากพูด
“หลบไปก่อนนะเด็ก ๆ เหมือนพี่สาวจะไม่สบาย เดี๋ยวพี่พาเข้าไปนอนพักก่อนนะ”
รับคำกันเกรียวแล้วเดินชักแถวเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกแล้วยกตัวอีกคนอุ้มอย่างเสียไม่ได้ ยุ่ง ยุ่ง ยุ่งไม่มีใครเกิน นี่ถ้าไม่ได้แตะตัวก็คงไม่รู้เลยว่าร้อนจี๊ดเสียจนปรอทแทบแตก แล้วยังจะฝืนสังขารมาเล่นน้ำ เลี้ยงน้องอีก
แล้วนี่ตกลง ฉันต้องเลี้ยงเด็กแทนเธอใช่ไหมเนี่ย?
เคยบอกรึเปล่า ว่าปาร์คจองซูน่ะ เกลียดเด็ก!!
เมื่ออยู่ๆลีทึกก็ทำตัวเปลี่ยนไปจากเป็นคนที่ขี้เหนียว เจ้าระเบียบ ขี้บ่น กลายเป็นผู้ชายที่น่ารัก เค้าทำตัวดีกับคุณมากๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนนั้นมันแทบจะฆ่ากันให้ตาย คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ..?? (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
: “อ้ะ...” พูดพลางยื่นของในมือให้ ทำเป็นไม่สนใจสายตาสงสัยนั่นเสีย วันนี้จะได้คุยกันดีดีโดยไม่ต้องทะเลาะ
: “อ้ะ...” พูดพลางยื่นของในมือให้ ทำเป็นไม่สนใจสายตาสงสัยนั่นเสีย วันนี้จะได้คุยกันดีดีโดยไม่ต้องทะเลาะ
“อะไรของพี่?”
ถามงง ๆ แล้วตวัดสายตาไปมองของในมือ ให้ตายสิพวกคุณคิดว่าคนอย่างเขาจะเอาอะไรมาให้ ..ลูกแมงมุม? ใช่ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ต้องตกใจเพราะในมือของลีทึกนั้นกำลังถือของโปรดของสาวเจ้าอยู่ เค้กส้มร้านโปรดที่เคยบ่นหนักหนาว่าอยากกินแต่ไม่มีเวลาไปซื้อ กำลังล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าคนเอามาให้เป็นร่างโปร่งที่คุ้นตา (คุ้นนิสัย) กันมานะ คงจะรับไว้โดยไม่มีข้อปฏิเสธแล้วล่ะ
“พี่ใส่ยาพิษมาหรือเปล่าเนี่ย”
“เธอนี่มันชอบคิดอกุศลจริงๆ”
“พูดอย่างกับพี่เคยทำดีกับฉันตายล่ะ = =^”
ประชดประชันด้วยคำพูดแต่ก็ไม่วายเอื้อมมือไปรับของจากอีกคนมาไว้ในมือ ตาเรียวมองของในมือแล้วทำหน้าดีใจเหมือนเด็ก ๆ จนอีกคนอดยิ้มตามไปไม่ได้
“ไม่เก็บตังทีหลังแน่นะพี่...”
“หรือจะเก็บดีล่ะ?”
ไม่ทันขาดคำ มินจีก็ส่งค้อนวงใหญ่มาทันที หน้าหวานเกือบจะง้ำงอ หากไม่บังเอิญสังเกตเห็นยิ้มสวยของคนที่มักจะทำหน้าเฉยชาเป็นประจำนั่น ขาเพรียวก้าวนำไปยังโต๊ะที่เคยมานั่งทำโครงร่างรายงานกันเป็นประจำ กล่องเค้กสีสวยถูกเปิดออก มือบางถือช้อนคันเล็กที่มีติดมาให้ทำท่าเตรียมพร้อมจะจัดการกับขนมหวานตรงหน้าเต็มที่
“ทานไหม? ให้เปิดก่อนเลย ถือว่าขอบคุณที่อุตส่าห์เจียดเงินซื้อให้”
ร่างโปร่งส่ายหน้าเบา ๆ เป็นการปฏิเสธ มินจียักไหล่เล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาต (ตรงไหน?) แล้วจัดการกับของโปรดทันที โดยมีลีทึกเป็นคนมองดูอยู่ห่าง ๆ ร่างโปร่งเผยรอยยิ้มกว้างที่น้อยครั้งจะทำ ลักยิ้มสวยปรากฏขึ้นเป็นการการันตีว่าตอนนี้เจ้าของใบหน้าหวานกำลังมีความสุขอะไรบางอย่างเอามาก ๆ ..
ความสุข ที่ไม่เคยได้รับมานาน..
ความสุข ที่ไม่คิดว่าจะได้พบกับมันอีก...
ความสุข ที่เกิดขึ้นจากยัยเตี้ยนี่?
พอคิดถึงตรงนี้ก็ต้องส่ายหัวแรง ๆ ให้กับความคิดตัวเอง ท่าจะบ้า คิดเข้าไปได้ยังไงนะลีทึก จะฆ่ากันตายล่ะสิไม่ว่ากับยัยนี่เนี่ย..
“พี่ลีทึก มองอะไร?”
“.....มด”
“ไหนมด โม้ละ ๆ มองฉันล่ะสิไม่ว่า”
“................”
“พี่แอบชอบฉันหรอ?”
“วันนั้นโลกคงแตก”
“รุ่นพี่บ้า!”
“งั้นโลกคงแตกไปแล้วสินะ...” ลีทึกพึมพำเบาๆกับตัวเองโดยไม่ให้อีกคนได้ยิน
มินจีพองลมที่แก้มแสดงอาการไม่พอใจให้คุณรุ่นพี่เห็น ถ้าเป็นปกติแล้วลีทึกคงจะทำเป็นไม่สนใจ ไม่ง้อ แต่อาจจะปากเสียกาเรื่องชวนเธอทะเลาะต่อ แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรถึงได้ใจดีเป็นพิเศษ เพราะมีเรียวเอื้อมไปหยิบช้อนตักชิ้นเค้กออกมาหนึ่งคำแล้วทำท่าจะป้อนเธอเสียอย่างนั้น
นี่ง้อแล้วหรอ คุณรุ่นพี่?
หรือพี่จะชอบฉันจริง ๆ เนี่ย?
...วันนั้นคงโลกแตกจริง ๆ เสียล่ะมั้ง~...
เพราะความใกล้ชิดที่มีให้กันมาก มันทำให้คุณรู้สึกชอบเค้าเข้าให้แล้ว คุณจะบอกมันมั้ย..!? (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
: แปลก แปลก แปลก!!
: แปลก แปลก แปลก!!
ยังไงมันก็แปลก!!
ใครก็ได้บอกทีว่าไอ้ความรู้สึกบ้า ๆ นี่มันคืออะไร..!
“เป็นอะไรไปเตี้ย”
“แล้วพี่ล่ะเป็นอะไร มานั่งจ้องหน้าฉันเนี่ย”
ทำหน้ายุ่งส่งกลับไปให้ แปลกมาก ทั้งที่ปกติเธอก็ไม่ได้หงุดหงิดง่ายขนาดนี้ ทั้งใจสั่น มือสั่น หน้าแดงเถือก นึกแล้วก็พาลโมโหคนตรงหน้าเสียเฉย ๆ ความหื่นที่สะสมมาตั้งแต่วัยเยาว์ก็ดูเหมือนจะลดหายไปกว่าปกติไม่น้อยเลยทีเดียว กับแผงอกผู้ชายคนอื่น มินจีกลับไม่รู้สึกว่ามันสวยซักนิด.. จะมีก็แต่ของปาร์ค จองซู จอมโอหังเนี่ยแหละ ที่จะทำให้ใจสั่นได้
เพราะพี่ ..เพราะพี่แน่ ๆ !!!
หรือเพราะฉัน..ชอบพี่?
“บ้าไปแล้วแน่ ๆ !”
มินจีพูดกับตัวเองแล้วตักเค้กอร่อยตรงหน้าเข้าปากเอาไม่ยั้ง คิ้วขมวดมุ่นเพราะไอ้เรื่องอาการแปลก ๆ ของตัวเองที่อยู่ในใจ เครียกจนคนที่นั่งอยู่ด้วยกันอดจะส่งสายตาเป็นคำถามไปให้ไม่ได้ เครียดอะไร รอยวันพันปีไม่เห็นเคยเครียด หรือปกติเครียดแล้วก็หัวเราะกับความเครียดของตัวเองเสียมากกว่า
สงสัยคราวนี้จะเครียดหนักจริง ๆ ถึงได้นั่งกลุ้ม~
“พี่ลีทึก..พี่เคยชอบใครไหม?”
“.............”
“แล้วพี่จะบอกรักเค้าหรือเปล่า?”
“..............”
“ถามให้ตอบ ไม่ได้ให้เงียบนะพี่!!”
“ชอบใครอยู่หรือไง?”
“ตอบไม่ตรงคำถาม...”
“ถ้าเป็นฉัน ก็จะบอกเค้าไปเลย บอกไปตรง ๆ ดีกว่ามานั่งกังวลใจเอง..นะ”
ได้ฟังความคิดเห็นของรุ่นพี่ร่างบางก็นิ่งไปอึดใจ คิ้วโก่งยังคงขมวดมุ่น มือเรียวขยำกางเกงไปมา เม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจก่อนจะสูดลมหายใจลึกแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
“งั้นเอางี้...”
“อะไรของเธออีก? = =”
“ฉันชอบพี่!”
ครั้งหนึ่งที่มีปากเสียงกับคู่คุณ มันเป็นเพราะเรื่องอะไร (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
: “ลินจี้!!”
: “ลินจี้!!”
“โอ๊ยคุณรุ่นพี่ อย่างฝืนสังขารได้มั๊ย ถ้าชื่อฉันภาษาไทยเรียกยากนักก็ไม่ต้องเรียกก็ได้”
ตาสวยที่มองกลับมาอย่างไม่พอใจทำให้เด็กสาวต้องหยุดคำพูดของตัวเองไว้ เป็นอะไรของเค้า?
“พี่โกรธอะไรฉันรึเปล่า”
“เปล่า...”
มุกเก่าอย่างในนิยายที่เคยอ่าน แต่กลับกันตรงที่ว่าพระเอกไม่ได้เป็นคนถามนางเอก แต่กลับเป็นนางเอกเสียแทนที่ต้องมานั่งถาม นั่งง้ออีตาพระเอกแก่ ๆ นี่ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอะไรผิดตอนไหน
เอาน่ะ ง้อก่อนก็ได้...
มินจีไฟเต้ง!!
“พี.....”
“.................”
“อย่าเอาแต่บื้อเด้ ฉันก็คิดคำพูดไม่ออกเหมือนกันนะเนี่ย เป็นอะไรก็บอกกันมาสิ ฉันจะได้แก้ไข ไม่ใช่อะไร ๆ ก็เงียบ ๆ ๆ แล้วฉันจะรู้มั๊ยเล่าว่าทำอะไรผิด โว้ยย!!พี่นี่มันบ้าจริง ๆ เลยอ่ะ!”
ร่างบางร่ายยาวว่าอีกคนจนหนำใจ ลืมไปแล้วว่ากะจะใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ง้อ เพียงเพราะเห็นหน้าที่นิ่งเสียจนเกินไปของอีกคน อารมณ์มันก็พุ่งทันที พูดจบก็ต้องมายืนเหนื่อยเพราะคำพูดแบบไม่เว้นวรรคให้หายใจของตัวเอง แปลกที่อีกคนยังแน่นิ่ง ไม่ไหวติง..
ยังหายใจอยู่รึเปล่าเนี่ย?
เอานิ้วจิ้ม ๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อใบหน้าหวานเงยขึ้นมาให้เห็น..
“ฮ่ะ ๆ ๆฮ่า ๆ ๆ เธอนี่มันจี้ชะมัด ยัยบ๊อง เตี้ย บ้องตื้น หน้าเต่า ฮ่ะ ๆ ๆ นี่เธอกำลังง้อฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย”
“ฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองคุยอยู่กับคนบ้า = =”
“ตืดเชื้อบ้ามาจากเธอต่างหาก..ไม่ต้องเถียงเลย เรื่องกล้องเนี่ยยังไม่ได้เคลียร์เลย”
ลีทึกพูดดักคิเมื่อเห็นอีกคนตั้งท่าจะแย้งขึ้นมากลางคันแล้วยกประเด็นที่ทำให้วันนี้เข้าหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ กล้องตัวโปรด อาวุธประจำกายของยัยเตี้ยนี่ กล้องที่ร้อยวันพันปีลีทึกไม่คิดจะยุ่งกับมันจนได้มาเห็นรูปข้างในนั่นแหละ
“ทำไม กล้องฉันมันไปทำอะไรให้พี่”
ไม่ได้ทำอะไร แต่ไม่รู้ทำไมเจ้าของกล้องถึงได้ชอบเอามันไปทำให้ฉันโมโหนัก”
“ทำอะไร พูดดีดีนะพี่ ”
“อะไรล่ะ ก็ไอ้รูปพวกนั้นน่ะ ไม่ใช่ฝีมือเธอหรือ?”
พูดถึงรูปแล้วก็ถึงบางอ้อ อย่าบอกนะว่าแค่นั้นก็เก็บเอาไปคิด แก่แล้วยังขี้ใจน้อย ตลกดีเหมือนกันนะเนี่ยตาแก่!
“พี่เครียด?ฮะ ๆ เครียดอะไรเล่า”
“ไม่ขำยัยเตี้ย ลบออกให้หมดเลยนะ รูปผู้ชายเปลือยอกทั้งหลายแหล่นั่นน่ะ”
“ไม่เอา เรื่องอะไรล่ะ พี่ไม่รู้หรอว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะหามาได้ ละ....”
“ไม่รู้ แต่ที่รู้คือเธอต้องลบ!”
“ไม่ลบ!!ไม่ลบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้ยินชัดมั๊ยพี่ ฉันไม่ลบ!!”
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เบะปากใส่ แล้ววิ่งจู๊ดหายลับไปในห้องครัวพร้อมกับกล้องสุดที่รัก ไม่ถึง 5 นาทีดี คนตัวเล็กก็วิ่งออกมาอีกครั้ง หน้าหวานแอบขึ้นสีแดงจาง ๆ ในกล้องมือยื่นให้อีกคนอย่างง่ายดายต่างจากเมื่อครู่นี้ ตัวบางโน้มเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอก..
“เหลือแต่รูปพี่ไว้ คงไม่ว่าอะไรนะ!”
พูดจบก็วิ่งหนีออกจากห้องไป ทิ้งให้อีกคนนั่งยิ้มขำกับวิธีการง้อแบบแปลก ๆ นี่คนเดียว
“ทำตัวน่ารักก็เป็นเหมือนกันนี่ ยัยเตี้ย~”
++++++++++++++++++++++
สู้สุดจัย ฮ่า*
ขอบคุนสำหรับคำแนะนำดีดีแล้วก็ขอบคุนที่ช่วยแก้ให้นะงับ พี่ตัวเล้กกกก!!
ขอบคุนสำหรับคำแนะนำดีดีแล้วก็ขอบคุนที่ช่วยแก้ให้นะงับ พี่ตัวเล้กกกก!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น