ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ที่เก็บของ~

    ลำดับตอนที่ #1 : ออดิชั่นนางเอกป้าทึก!

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 51


    (( ใบสมัครนางเอกลีทึกสีส้มเข้ม ))
    ชื่อคนออฯ : ไหว้ฮับ

    อายุคนออฯ :
    17 ร๊ะ!

    ++++++++++++++++++++++

    ชื่อ (( ขอเป็นภาษาไทยแปลกๆน่ารักๆ
    Thai//Eng)) : ลิ้นจี่ (มินจี) // Linjee (Minjee)

    อายุ ((
    19-21 )) : 19 ขวบ!

    ฉายาคุณ :
    เต่าเตี้ย, ลิ้นปี่!

    ฉายาคู่คุณ :
    ตาแก่!

    บุคลิก รูปร่าง ท่าทาง (( ที่เห็นได้ชัด ))
    : เตี้ยไงเตี้ย! ตากลม ๆ ชอบทำหน้ากวน_อยู่ตลอดเวลา   ตัวขาว ๆ แก้มป่อง ๆ ท่าเดินมักจะถูกพี่ชายว่าว่าไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย มักจะไปไหนมาไหนพร้อมกับกระเป่าเป้ใบโต เสียงแอบ
    แหลม

    นิสัย ((
    3 บรรทัด Upz..!! )) : รั่ว บ้า ร่าเริงได้ตลอดทั้งวัน ยิ้มเก่ง ยิ้มง่าย สามารถนั่งหัวเราะได้แม้กระทั่งเวลาดูหนังแนวดราม่า ชอบให้คนเอาใจแต่ไม่ชอบเอาใจคน ไฮเปอร์ อยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ อ่อนไหวกับแผงอกผู้ชาย ขี้ลืม แอบซุ่มซ่ามบางครั้ง เส้นตื้นแบบสุด ๆ แถมยังหัวเราะได้หลุดโลก บ้ากล้องเป็นชีวิตจิตใจถึงขั้นพกติดตัวตลอดเวลา และชอบกดชัตเตอร์โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว เปิดเผย จริงใจ พูดตรงไปตรงมา พูดก่อนคิด ช่างเหน็บแนม

    ประวัติครอบครัว (( ที่ส่งผลถึงนิสัยขอเหตุผลด้วยนะคะ )) :
    ครอบครัวอบอุ่น ถึงแม้ว่าจะอยู่กับแม่และพี่ชายเท่านั้น เพราะพ่อของเธอนั้น ต้องอยู่บริหารงานที่บริษัทเครื่องประดับใหญ่ที่เกาหลี แต่ก็จะมีบ้างที่หาเวลากลับมาเยี่ยมบ้างบางครั้ง พี่ชายเป็นพวกกวนบาทาอยู่ตลอดเวลา ส่วนแม่เป็นสถาปนิกอารมณ์ดี ซึ่งนิสัยส่วนนี้กระมังที่เธอได้รับมันมาเต็ม ๆ

    ประวัติความรัก (( ถ้ามีบอกมาด้วยว่าส่งผลอะไรบ้าง )) :
    ตอน ป.6 กับเพื่อนห้องข้าง ๆ พอกลับมาเล่าให้พี่ชายฟังจึงโดนตี จากนั้นจึงไม่คิดจะยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีก!

    ฐานะ (( บอกด้วยว่าคนในบ้านทำงานอะไรถ้ามีพ่อแม่ )) :
    ดี ถึงดีมาก เพราะพ่อเป็นเจ้าของปริษัทอัญมณีขนาดใหญ่ที่เกาหลี

    สิ่งของที่จะพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา (( ไม่เอาสิ่งมีชีวิต )) :
    กล้องถ่ายรูป

    ชอบ :
    แผงอกขาว ๆ ,ไก่! , แมว , อาหารรสส้ม ,รูปนู้ด (อย่างมีศิลปะ)

    กลัว :
    แมงมุม! ,ลมพัดแรง ๆ , ฟ้าผ่า 

    เกลียด :
    คนสองหน้า

    ความสามารถพิเศษ (( แปลกแค่ไหนก็ได้
    >O< )) : บาสเก็ตบอล (ถึงแม้ส่วนสูงจะไม่ค่อยอำนวย)

    งานอดิเรก :
    ถ่ายรูป วาดรูป

    อิมเมจคุณ [3 รูปเอารูปใหญ่ๆหน่อยก็ดีนะ] :

    Jung Hye Won จ้า! ^____________^






    อิมเมจคู่ [
    2 รูปพอจ้า] :




    ++++++++++++++++++++++

    คำถามทั่วไป (( ตอบให้ดีเน้อ
    >3< ))

    ความรักในแบบของตัวละครของคุณมันคืออะไร ((
    3 บรรทัด Upz..!! ))
    : ความสุข เพราะ การที่ถูกเลี้ยงมาอย่างอบอุ่น ไม่กดดันให้เครียด ทำให้เธอเป็นคนที่สนุกสนานอยู่พอตัว สำหรับมินจี ความรักคือ การทำให้คนรอบข้างมีความสุข

    จะเจอกับคู่ของคุณยังไง (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))

    : หัวฟู เสื้อยับ กระเป๋าขาด มือถือแบตหมด เดินสะดุด ขาเคล็ด ท้องเสีย บลา ๆๆๆ~ สารพัดที่จะซวย..ขนาดจะกินข้าวมันไก่ ม๊ายังซื้อข้าวหมูกรอบมาให้!

    มันจะมีวันไหนที่ซวยเท่าวันนี้อีกไหมเนี่ย
    !!!!

    “โอ๊ย เฮียนะเฮีย ใช้เข้ามาได้ น้องทั้งคน เห็นเป็นคนรับใช้รึไง”

    บ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทางเดินยาวของคณะ เป้าหมายคือห้องพยาบาลแสนสะอาด ที่สิงสถิตของคุณเพื่อนร่วมคณะสุดเนี๊ยบของพี่ชายที่ชื่อ ปาร์คจองซู หรือฉายาที่รุ่นน้องในคณะอุตส่าตั้งให้เรียกกันสั้น ๆ ว่าลีทึก...คนพิเศษหรอ หึ
    ~~ก็แค่ตาแก่หน้าสวยจอมเนี๊ยบเท่านั้นนั่นแหละ!!

    “ขอโทษค่ะ มีใครอยู่หรือเปล่า”

    เคาะประตูแล้วลองตะโกนถามเพื่อเป็นมารยาทเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน มือเรียวกระชับซองสีน้ำตาลในมือแน่น แล้วค่อย ๆ เปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไป...นี่ไม่ได้กลัวนะ ไม่ได้ประหม่าด้วย คนอย่างมินจีไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว เพียงแต่
    ..

    “เฮ้ย!!”

    ~แชะ!~

    ตะโกนอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ประตูก็เปิดพรวดออกมา ใบหน้าหวานสวยปราศจากแว่นตา กับผมฟู ๆ ที่บอกให้รู้ว่าอีกคนเพิ่งตื่นทำเอาตกใจ ยิ่งแผงอกขาว ๆ ที่โผล่มากจากเสื้อเชิ๊ตตัวบางนั่งยิ่งแล้วใหญ่ มือมันก็เลยเผลอกดชัดเตอร์ไปโดยปริยาย
    รู้รึเปล่านะพี่ ว่ามินจีหวั่นไหว!!

    “มีอะไร”

    เสียงติดจะหวานเอ่ยถามห้วน ๆ อย่างไม่สบอารมณ์นัก ก็ใครมันจะไปอารมณ์ดีได้ล่ะ ก็คนเขานอนหลับอยู่ดีดี ดันมามีเสียงแหลมปรี๊ดดด ตะโกนเข้ามาให้ได้ยิน ไอ้เขามันก็คนหูดี ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยก็ตื่นแล้วเสียอีก แถมเมื่อคืนก็ก็ดันนอนเสียเกือบเช้าเพราะนั่งปั่นรายงานส่ง ให้ตายเหอะ...

    วันนี้มันเป็นวันซวยแห่งชาติหรือไงกัน
    !

    “ค....คือ พี่ชายฝากของมาให้”

    “พี่ชาย?”

    “พะ..พี่จูมยอก”

    พยักหน้ารับรู้แล้วยื่นมือไปรับของจากเด็กสาว ตาสวยหันไปสนใจกับของมืออยู่พักหนึ่งแล้วตวัดสายตาขึ้นมามองคนตัวเล็กอีกครั้ง

    “กรุณาจ่ายค่ารูปฉันที่เธอถ่ายไว้เมื่อครู่นี้มาด้วย...นะ
    น้องลิ้นปี่!”

    จบคำพูดเนิบ ๆ ของผู้ชายสุดเนี๊ยบเด็กสาวก็แทบจะกรี๊ดออกมาเสียตรงนั้น ค่ารูปงั้นหรอ ใครบอกว่าอยากได้ บอกมั๊ยว่าขอถ่าย มือมันแค่เผลอไปกดชัตเตอร์ตอนที่เห็นแผ่นอกขาว ๆ นั่นเท่านั้นเอ๊ง
    ~ แล้วไอ้ชื่อนั่นมันอะไร บอกทีว่ามันอะไรก๊าน!!

    “ฉันชื่อมินจี ชื่อไทยชื่อลิ้นจี่ เรียกให้มันถูกด้วยคุณรุ่นพี่!”

    “ก็แล้วยังไง...ลิ้นปี่!! ฉันรู้นะว่าเธออยากสัมผัสแผ่นอกอันแข็งแกร่งของฉัน” ร่างสูงพูดพลางแหวกเสื้อให้เห็นอกเนียนขาว
    มากยิ่งขึ้น

    ไอ่ผู้ชายโรคจิต... ดันมาแอบรู้ความคิดซะได้ โอย กำเดาจะกระฉูดดด
    ! แต่ไอ่แข็งแกร่งเนี่ย.. ฉันขอทำเป็นไม่ได้ยินละกัน

    “ไงหล่ะลิ้นปี่ ฉันเซ็กซี่ใช่มั๊ยหละ? เธออยากจะมาลูบไล้ร่างกายที่แสนกำยำของฉันใช่มั๊ยล่าา?” เจ้าของดวงตาเรียวคมยังคงไม่เลิกแหวกเสื้อ หนำซ้ำยังเอามือตัวเองลูบไล้ไปตามแผงอกอีกต่างหาก.. แล้วไหนจะหน้าตาที่ยั่วยวน(กวนประสาท)นั่นอีกหละ ยอมรับนะว่าพี่น่ะเซ็กซี่ แต่ยังไงก็สู้พี่จูมยอกของฉันไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆ

    โอ๊ยย
    ~ อย่าพูดมากนักได้มั๊ยคะพี่จองซูสุดหล่อขา~ เดี๋ยวลิ้นจี่ทนไม่ได้วิ่งไปจับพี่กดขึ้นมาจะทำยังไงคะพ่อคุณสุดเซ็กซี่~~~ = =:::

    มินจีรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ กระพริบตาถี่ๆสองสามทีให้ความคิดบ้าๆนั่นหลุดออกจากหัวซะ

    “ลาก่อนคะ! หวังว่าชาตินี้คงไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ พี่จองซูสุดเซ็กซี่!!”

    พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันก่อนจะเดินหันหลังกลับโดยไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของอีกคนนึงแม้แต่น้อย ให้ตายเหอะ
    ! ให้ตาย...ทำไมไม่มีคนเตือนบ้าง ว่ารุ่นพี่จองซู นอกจากจะเนี๊ยบแล้ว ยังนิสัยเสียแถมงกเอาโล่อีกน่ะ!
    ให้ตาย ก็อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันเลย สาธุ!!

     
     
    เหตุการณ์ตอนกลางๆเรื่องที่อยากให้เกิด (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))
    :
    โปรเจคงานที่มินจีต้องทำนั้น ดันได้ที่ปรึกษาเป็นรุ่นพี่ต่างคณะอย่างลีทึก จึงทำให้ต้องเทียวไปเทียวมาหากันเป็นประจำ แม้ลีทึกจะปากร้าย แต่ก็ช่วยเธอทำงานอย่างเต็มที่ เธอจึงมองรุ่นพี่คนนี้ในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ลีทึกจะยังปากเสีย หื่น นิสัยไม่ค่อยดีเหมือนเดิมก็เถอะ! แต่ก็น่าแปลกใจที่นิสัยหื่นๆของทั้งคู่นั้นเข้ากันได้ดีมาก สงสัยเลเวลความหื่นจะใกล้เคียงกันจนจูนกันได้ง่ายๆแล้วหละมั้งเนี่ยยย
     
     
    ตอบจบ จุดจบของคุณจะเป็นยังไง (( เต็มที่อย่าตามใจคนแต่ง ))
    :
    “ยัยตัวยุ่ง...ออกมาคุยกันก่อนสิ”

    ตะโกนใส่หน้าต่างบานที่ปิดอยู่ราวกับคนบ้า รู้ทั้งรู้ว่าอีกคนคงไม่ยอมเปิดให้ง่าย ๆ ลีทึกจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกให้ร่างบางในห้องนั่นเข้าใจ แต่เล่นหลบหน้าหลบตากันมาตลอดอาทิตย์ ใครมันจะไปอธิบายได้
    อธิบายว่าเขากับดาวคณะจางนารา ไม่ได้คบหากันอย่างที่เข้าใจ!

    “มินจี นี่ฉันอุตส่าห์เรียกชื่อเธอดีดีแล้วนะ”

    “ไม่เอา~ไม่ฟัง ๆ พี่จะคบกับผู้หญิงคนนั้นก็คบไปซี่~”

    “ไม่ได้คบ บอกไปกี่สิบรอบแล้วว่าไม่ได้คบ”

    “ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่~”

    ทำเป็นดื้อหัวแข็ง แต่ก็ยอมเปิดหน้าต่างออกมาให้ได้ยินคำพูดของเขาบ้างแล้ว แถมยังยอมพูดตอบมาเสียด้วย ถึงจะยังไม่ยอมโผล่หน้าออกมาก็เถอะ

    “ไม่เกี่ยวหรอ...”

    “ใช่~ไม่เกี่ยวกับฉันซักนิด~”

    “งั้นฟังดีดีนะ ยัยบ๊อง...”

    “ฟังอะ....”

    “ชั้นชอบเธอ คบกับฉันนะ!”

    ผ้าม่านสีอ่อนถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบหน้าตื่นตระหนกของเจ้าของห้อง ปากบางอ้าค้างเพราะความตกใจ พยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ดูเหมือนจะช็อคจนพูดไม่ออก

    “คราวนี้เกี่ยวรึยัง?”

    “พี่ล้อฉันเล่น”

    “ก็ลงมาฟังใกล้ ๆ สิ จะได้รู้ว่าฉันไม่ได้ล้อเล่น”

    หน้าก็แดงแสนแดง มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ยังมีสปิริตจะทำตามที่อีกคนพูด ขาเรียวปีนออกจากหน้าต่างห้องนอนอย่างรวดเร็วทำเอาคนอื่นข้อเสนออดตกใจไม่ได้ ชุดนอนลายแมวสีส้มทำให้อีกคนดูแปลกตาไป แต่อึ้งได้ไม่นานก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปใกล้เพราะเสียงหวานที่เอ่ยเรียก..

    “พี่มารับฉันด้วยซี~”

    “เฮ้ย จะโดดจิง ๆ หรอ!!”

    ไม่ทันขาดคำ ร่างบางก็ลอยลงมาจากชั้นสองของบ้าน ไม่เสียเวลาคิด ลีทึกรีบพุ่งเข้าไปรับทันที แต่ด้วยไม่ได้เตรี๊ยมมาก่อน เลยทำให้ล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่ ไม่วาย แม่ตัวดียังเงยหน้าขึ้นมายิ้มแล้วถามเสียงใส

    “เจ็บไหม ขอโทษ ลืมลดน้ำหนัก~”

    “เจ็บสิ ใครใช่ให้เธอกระโดดลงมาเล่า”

    “ก็พี่บอกให้ลงมาฟัง ฉันก็ลงมาแล้วนี่ไง”

    “ยัยบ้า จะบ้าตายกับเธอจริง ๆ นะ = =”

    “อะไรเล่า”

    “ฉันชอบเธอ คบกันนะ ยัยเตี้ย ยัยลิ้นจี่ ยัยมินจี...ทุกอย่างที่เป็นเธอ~”

    “ >///< รู้แล้ว ๆ ๆ

    คำตอบเล่ายัยตัวยุ่ง?”

    เก็บแผงอกของพี่ ไว้ให้ฉันดูคนเดียวแล้วกัน!”

     
    พล็อตความรักของคุณ (( หวาน บ้า โหด เอาให้ตรงกะนิสัยหน่อยเน้อ ))
    :
    โหด มัน ฮา (รึเปล่า) ด่ากันไป ด่ากันมา เอาเป็นว่า เป้นคู่ที่ทะเลาะกันได้ทุครัง้ที่เจอ ขนาดแค่มองตายังหาเรื่องทะเลาะกันได้ แล้วก็ด้วยความงก + ปากเสียของลีทึก เลยยิ่งเพิ่มเรื่องทะเลาะให้มากเข้าไปใหญ่ แต่บทจะหวาน ทั้งสองคนก็หวานได้ไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว

    ถ้าออฯติดไม่ทิ้งกันนะค้า

    :
    โอเช~

    ถ้าเป็นไปได้ เนอยากให้มาเม้นท์ทุกสอง-สามวันจะได้มั้ยหนอ..
    ??
    :
    ได้อยุนะคะ!

    มีอะไรจะบอกกับเน
    ,,เมย์มั้ยคะ
    :
    สู้ ๆ เย้~~~ ไม่รุจะเขียนไรแฮะ... คือ มันเป็นการเขียนที่บ้ามากที่สุดในชีวิตแล้ว (หรอเนี่ย) เค้าเขียนให้มันไม่ยืดเยื้อไม่เป็นอร๊า~ พยายามปั่นให้เร็วที่สุดค่ะ หมดวันนี้ เสร็จวันนี้ แบบ ตายไปแล้ว ยังไงก็รับไว้พิจารณาหน่อยเน่อ 55+ ไรท์เตอร์สู้ ๆ น๊า!

    ++++++++++++++++++++++

    คำถามชิงบท (( ตอบให้ดีๆเน้อ
    >_< ))

    เมื่อจู่ๆวันนึง ลีทึกมีเรื่องทุกข์ใจเป็นอย่างมาก คุณเห็นเค้านั่งอยู่ คุณก็เลยเดินไปหาเค้า แล้วชวนเค้าไปบ้านเด็กกำพร้า คุณกับลีทึกเล่นกับเด็กๆอย่างมีความสุข แล้วหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มันคืออะไรคะ..!! (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! )) (( เอาตั้งแต่นั่งเครียดแล้วชวนไปบ้านเด็กกำพร้าจนจบเลยเน้อ
    ^^ ))
    :
    ดวงตาสวยที่หม่นลงประกอบกับอาการนั่งขดตัวก้มหน้าก้มตาของรุ่นพี่จอมงกนี่ทำให้มินจีอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนคนนี้ แว่นสีเหลี่ยมกรอบดำที่เจ้าตัวหวงนักหนาถูกวางไว้ข้าง ๆ ขาดการสนใจ...แปลก แปลกมาก ๆ ถึงลีทึกจะไม่ใช่คนที่พูดมากอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นทำหน้าเคร่งเครียดอย่างนี้สักที

    “รุ่นพี่...”

    “อะไร”

    “เป็นอะไรไป? หรือโกรธฉันที่วันนี้มาทำงานช้า??”

    “ไม่เกี่ยวกับเธอ!”

    ร่างสูงตวาดใส่แล้วลุกเดินหนีไปเงียบ ๆ คิ้วบางขมวดมุ่น งง งวย กับอารมณ์รุนแรงของร่างโปร่งเป็นอย่างมาก สงสัยจะเครียด..เพราะปกติถึงจะปากเสีย เจ้าระเบียบ ขี้งก แต่พี่ลีทึกก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลเสียหน่อย..
    หรือว่าอกหัก?

    “นี่พี่...จะไปไหน รอด้วยสิ!” ร่างกะทัดรัดวิ่งตามคนตัวสูงด้วยความเป็นห่วง แต่อีกฝ่ายกลับหยุดเดินหันมาตวาดเธอซะงั้น

    “จำไม่ได้ว่าบอกให้เธอตามมา”

    ขาเล็กหยุดกึกยืนเท้าสะเอวขวางหน้าคนหน้าหวานโดยไม่เกรงกลัวสายตาคม ๆ นั่นเลย หลังจากพยายามวิ่งจ้ำอ้าวอยู่เสียนาน ลีทึกถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินเลี้ยงคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    “หลบไปซะทีสิ”

    “ไม่เอา จนกว่าพี่จะบอกฉันมาว่าเป็นอะไร?? ทำไมวันนี้หงอยเป็นต้นไม้ขาดน้ำ? พี่จองซูที่แสนเซ็กซี่คนนั้นไปไหนซะแล้วหละ??”

    “แล้วมีเหตุผลอะไร ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยเล่า?”

    “แลกกับการที่ฉันไม่เอารูปพี่ที่อยู่ในกล้องไปประจานไง..~”

    “ยัยเตี้ย! ไหนเธอบอกว่าลบไปแล้ว OoO!!!!”

    “ลบทำไมเล่า สมบัติล้ำค่าเชียวนะ รูปพี่ลีทึกใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนอนเนี่ย~”

    เฮือกก ก นึกแล้วเลือดจะพุ่ง
    ~

    ยิ้มกวนส่งให้พร้อมทั้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้โดยไม่ลืมที่จะจับกล้องไว้ให้มั่นเผื่ออีกคนนึกคึกมาแย่งกล้องไปจากมือขึ้นมา แต่แปลกที่ร่างโปร่งไม่ทำอะไรเลยซักนิด แต่กลับยืนเฉย...เฉยมากกก มากจนน่ากลัว
    กลัวว่าจะไปสะกิดต่อมอะไรที่เขาคนนั้นไม่อยากจะนึกถึง

    “ถ้าพี่ลำบากใจ ไม่ต้องพูดก็ได้นะคะ..”

    “.................”

    “แต่ว่า ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันเหอะ เลิกทำหน้าบูดอย่างนี้ซักทีน่า ยิ่งแก่ ๆ อยู่^^ เดี๋ยวอกแน่นๆของพี่เหี่ยวขึ้นมา อย่ามาโทษฉันนะ!~”

    มินจีไม่ฟังคำตอบรับของอีกคนแต่อย่างใด มือบางก็คว้าขวับเข้าที่ข้อมือหนาแล้วออกแรงลากให้เดินกลับไปทางเดิม ก่อนจะพาไปถึงรถคันสวยคู่ใจของเจ้าตัว ยัดเยียดให้ร่างโปร่งนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับแล้วออกรถอย่างรวดเร็ว ปากบางพูดนู่นนี่ไปตลอดทางโดยยังไม่ปริปากบอกว่าจะพาเขาไปที่ไหน แต่ไอ้ความเร็วเกิน 120 นี่มันก็อดทำให้ลีทึกกังวลใจไม่ได้

    กลัวยัยเตี้ยนี่จะพาไปคลายเครียดด้วยการไปทัวร์นรกนะสิ
    !

    เสียงเบรกเอี๊ยดของรถดังขึ้นพร้อมกับความโล่งใจของลีทึก ร่างโปร่งกระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบมองไปรอบ ๆ อย่างระวังตัว ส่วนคนพามานั้นยังไม่เห็นออกมาจากรถ...หรือขาสั้นจัด ก้าวลงไม่ได้
    ?

    “มองอะไรน่ะรุ่นพี่ ไม่เห็นต้องระแวงขนาดนั้น~”

    พูดจบก็คว้าหมับเข้าที่มือของร่างโปร่งอีกรอบก่อนจะออกแรงดึงให้ตามตัวเองไป รั้วปูนเขรอะเล็กน้อยคงเพราะขาดการดูแลปรากฏให้เห็นเมื่อเดินผ่านรถคันใหญ่ของยัยตัวเล็กนี่มา ป้ายชื่อสถานที่ที่ไม่น่าเชื่อว่าน้องไอ้จูมยอกจะรู้จัก..

    สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มยองนัง

    พอก้าวผ่านประตูทางเข้าปุ๊บ มือเล็กก็ปล่อยข้อมือเขาปั๊บ แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับพวกเด็ก ๆ ที่ออกมาต้อนรับอย่างสนิทสนม ไปทันถึงนาทีดีก็เห็นอีกคนกวักมือเรียกตามเข้าไปทางด้านในพร้อมกับกลุ่มเด็กตัวเล็ก ๆ หลายสิบคน

    “มาบ่อยหรอ?”

    “ว่างก็มา ทำไมพี่ทำหน้าอย่างงั้นเล่า เห็นฉันเป็นคนอย่างไงเนี่ย! นางฟ้าน่ะนางฟ้า รู้จักมั๊ย??”

    ลีทึกหลุดหัวเราะเล็ก ๆ เมือแอบเห็นสีหน้าไม่พอใจของร่างบาง ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ไปรวมกลุ่มกับพวกเด็ก ๆ แทน แหม..ทีงี้แล้วทำเนียน ยิ้มหวานเชียว ที่เมื่อกี๊ยังหน้าบูดอยู่เลย ตาแก่ไม่เจียมสังขาร
    !!
    เล่นกับน้องไป ป้อนขนมน้องกันไปจนเวลาล่วงแลยมาหลายชั่วโมง คุณครูพี่เลี้ยงที่ดูแลจึงต้องออกมาบอกให้เตรียมตัวไปทำกิจกรรมของวันนี้กัน นั่นก็คือ รดน้ำดอกไม้ในสวน แน่นอนว่าแขกพิเศษทั้งสองคนนั้นยินดีที่จะไปร่วมแจมด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

    เล่นไปเล่นมาชักเริ่มเบื่อ คนตัวเล็กจึงต้องคิดหาอะไรใหม่ ๆ เล่นเพื่อความสนุกสนาน ตาเรียวหันไปเจอกับสายยางอันใหญ่ พลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็แอบผุดขึ้นมาบนใบหน้าของคนอารมณ์ดี..คนแก่ตกน้ำป๋อมแป๋ม เสื้อสีขาวเนื้อบางแบบนั้น.. วันนี้คงได้เห็นแผงอกขาวๆของคนหน้าสวยอีกเป็นแน่แท้

    “พี่ลีทึก..”

    หันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงหวานนั่นอย่างสงสัย แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว สายน้ำที่ออกมาจากสายยางใหญ่ก็พุ่งมาถึงตัวเข้าเป็นที่เรียบร้อย เสียงหัวเราะเล็ก ๆ ด้วยความสนุกสนานดังตามออกมา ถ้าเป็นเวลาปกติร่างโปร่งคงโวยวายไปแล้วเพราะยัยตัวแสบนี่ทำเสื้อเขาเละ แต่วันนี้ละให้วันนึง

    ถือว่าเป็นคำขอบคุณ ที่ทำให้ลืมเรื่องเครียด ๆ นั่นไปได้ก็แล้วกัน
    ~

    “กล้าแกล้งฉันหรอยัยลิ้นปี่...”

    “ไม่กล้ามั้ง แต่ฉันก็แกล้งพี่ไปแล้วนี่ ฮ่า ๆ”

    “เธอตายแน่ ยัยเตี้ย!”

    ร่างสูงละทิ้งอายุตัวเองแล้ววิ่งไล่จับอีกคนเหมือนเป็นเด็ก รอยยิ้มสวยเห็นเด่นชัดขึ้นเพราะเจ้าตัวลืมที่จะเก็บมันไว้เหมือนที่เคยทำมา เสื้อผ้าเปียกปอนแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจกับมันสักเท่าไรนัก เสียงหัวเราะสดใสที่ออกมาโดยไม่ต้องคิดก่อน สบาย..โล่งหัว...

    บางครั้งการได้ทำอะไรโดยไม่ต้องคิดถึงคนอื่นนี่ก็ดีเหมือนกันนะ
    !

    “ระวังลื่นนะยัยเต่า”

    “พี่จะเรียกชื่อฉันไม่ได้เลยใช่มั๊ยเนี่ย เฮ้ย ๆ ๆ ๆๆ”

    ไม่ทันขาดคำ ก็ต้องร้องเสียงหลงเพราะพื้นดินที่เปียกน้ำแถวนั้นมันลื่น จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ขาเล็ก ๆ จะเกิดสะดุดลื่นล้ม ดีที่คนตัวสูงกว่ารีบเข้ามารับไว้ได้ทัน ใบหน้าหวานปะทะเข้ากับแผ่นอกเนียนของอีกฝ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเส้อเชิ๊ตสีขาวของร่างโปร่งนั้นมันบางแสนบาง บางเสียจนเห็นอะไรทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด...
    ทำไมหน้ามันร้อน ๆ ล่ะ?

    “เฮ้ย ยัยบ้า เลือดกำเดาไหลได้ไงเนี่ย!!”

    ร้องโวยวายอย่างตกใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้ยิน ตาเรียวปรือลงช้า ๆ ก่อนจะหลับไปในทีสุด พวกเด็ก ๆ ในบ้านต่างพากันมารุมล้อมพี่สาวเสียยกใหญ่ เสียงเจื้อยแจ้วค่อย ๆ กังขึ้นเรื่อย ๆ จนลีทึกต้องออกปากพูด

    “หลบไปก่อนนะเด็ก ๆ เหมือนพี่สาวจะไม่สบาย เดี๋ยวพี่พาเข้าไปนอนพักก่อนนะ”

    รับคำกันเกรียวแล้วเดินชักแถวเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกแล้วยกตัวอีกคนอุ้มอย่างเสียไม่ได้ ยุ่ง ยุ่ง ยุ่งไม่มีใครเกิน นี่ถ้าไม่ได้แตะตัวก็คงไม่รู้เลยว่าร้อนจี๊ดเสียจนปรอทแทบแตก แล้วยังจะฝืนสังขารมาเล่นน้ำ เลี้ยงน้องอีก

    แล้วนี่ตกลง ฉันต้องเลี้ยงเด็กแทนเธอใช่ไหมเนี่ย
    ?

    เคยบอกรึเปล่า ว่าปาร์คจองซูน่ะ เกลียดเด็ก
    !!

     
    เมื่ออยู่ๆลีทึกก็ทำตัวเปลี่ยนไปจากเป็นคนที่ขี้เหนียว เจ้าระเบียบ ขี้บ่น กลายเป็นผู้ชายที่น่ารัก เค้าทำตัวดีกับคุณมากๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนนั้นมันแทบจะฆ่ากันให้ตาย คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ..?? (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
    :
    “อ้ะ...” พูดพลางยื่นของในมือให้ ทำเป็นไม่สนใจสายตาสงสัยนั่นเสีย วันนี้จะได้คุยกันดีดีโดยไม่ต้องทะเลาะ

    “อะไรของพี่?”

    ถามงง ๆ แล้วตวัดสายตาไปมองของในมือ ให้ตายสิพวกคุณคิดว่าคนอย่างเขาจะเอาอะไรมาให้ ..ลูกแมงมุม
    ? ใช่ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ต้องตกใจเพราะในมือของลีทึกนั้นกำลังถือของโปรดของสาวเจ้าอยู่ เค้กส้มร้านโปรดที่เคยบ่นหนักหนาว่าอยากกินแต่ไม่มีเวลาไปซื้อ กำลังล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าคนเอามาให้เป็นร่างโปร่งที่คุ้นตา (คุ้นนิสัย) กันมานะ คงจะรับไว้โดยไม่มีข้อปฏิเสธแล้วล่ะ

    “พี่ใส่ยาพิษมาหรือเปล่าเนี่ย”

    “เธอนี่มันชอบคิดอกุศลจริงๆ”

    “พูดอย่างกับพี่เคยทำดีกับฉันตายล่ะ = =^”

    ประชดประชันด้วยคำพูดแต่ก็ไม่วายเอื้อมมือไปรับของจากอีกคนมาไว้ในมือ ตาเรียวมองของในมือแล้วทำหน้าดีใจเหมือนเด็ก ๆ จนอีกคนอดยิ้มตามไปไม่ได้

    “ไม่เก็บตังทีหลังแน่นะพี่...”

    “หรือจะเก็บดีล่ะ?”

    ไม่ทันขาดคำ มินจีก็ส่งค้อนวงใหญ่มาทันที หน้าหวานเกือบจะง้ำงอ หากไม่บังเอิญสังเกตเห็นยิ้มสวยของคนที่มักจะทำหน้าเฉยชาเป็นประจำนั่น ขาเพรียวก้าวนำไปยังโต๊ะที่เคยมานั่งทำโครงร่างรายงานกันเป็นประจำ กล่องเค้กสีสวยถูกเปิดออก มือบางถือช้อนคันเล็กที่มีติดมาให้ทำท่าเตรียมพร้อมจะจัดการกับขนมหวานตรงหน้าเต็มที่

    “ทานไหม? ให้เปิดก่อนเลย ถือว่าขอบคุณที่อุตส่าห์เจียดเงินซื้อให้”

    ร่างโปร่งส่ายหน้าเบา ๆ เป็นการปฏิเสธ มินจียักไหล่เล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาต (ตรงไหน
    ?) แล้วจัดการกับของโปรดทันที โดยมีลีทึกเป็นคนมองดูอยู่ห่าง ๆ ร่างโปร่งเผยรอยยิ้มกว้างที่น้อยครั้งจะทำ ลักยิ้มสวยปรากฏขึ้นเป็นการการันตีว่าตอนนี้เจ้าของใบหน้าหวานกำลังมีความสุขอะไรบางอย่างเอามาก ๆ ..

    ความสุข ที่ไม่เคยได้รับมานาน..

    ความสุข ที่ไม่คิดว่าจะได้พบกับมันอีก...

    ความสุข ที่เกิดขึ้นจากยัยเตี้ยนี่
    ?

    พอคิดถึงตรงนี้ก็ต้องส่ายหัวแรง ๆ ให้กับความคิดตัวเอง ท่าจะบ้า คิดเข้าไปได้ยังไงนะลีทึก จะฆ่ากันตายล่ะสิไม่ว่ากับยัยนี่เนี่ย..

    “พี่ลีทึก มองอะไร?”

    “.....มด”

    “ไหนมด โม้ละ ๆ มองฉันล่ะสิไม่ว่า”

    “................”

    “พี่แอบชอบฉันหรอ?”

    “วันนั้นโลกคงแตก”

    “รุ่นพี่บ้า!”

    “งั้นโลกคงแตกไปแล้วสินะ...” ลีทึกพึมพำเบาๆกับตัวเองโดยไม่ให้อีกคนได้ยิน

    มินจีพองลมที่แก้มแสดงอาการไม่พอใจให้คุณรุ่นพี่เห็น ถ้าเป็นปกติแล้วลีทึกคงจะทำเป็นไม่สนใจ ไม่ง้อ แต่อาจจะปากเสียกาเรื่องชวนเธอทะเลาะต่อ แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรถึงได้ใจดีเป็นพิเศษ เพราะมีเรียวเอื้อมไปหยิบช้อนตักชิ้นเค้กออกมาหนึ่งคำแล้วทำท่าจะป้อนเธอเสียอย่างนั้น

    นี่ง้อแล้วหรอ คุณรุ่นพี่
    ?

    หรือพี่จะชอบฉันจริง ๆ เนี่ย
    ?

    ...วันนั้นคงโลกแตกจริง ๆ เสียล่ะมั้ง
    ~...
     
     
     
    เพราะความใกล้ชิดที่มีให้กันมาก มันทำให้คุณรู้สึกชอบเค้าเข้าให้แล้ว คุณจะบอกมันมั้ย..!? (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
    :
    แปลก แปลก แปลก!!

    ยังไงมันก็แปลก
    !!

    ใครก็ได้บอกทีว่าไอ้ความรู้สึกบ้า ๆ นี่มันคืออะไร..
    !

    “เป็นอะไรไปเตี้ย”

    “แล้วพี่ล่ะเป็นอะไร มานั่งจ้องหน้าฉันเนี่ย”

    ทำหน้ายุ่งส่งกลับไปให้ แปลกมาก ทั้งที่ปกติเธอก็ไม่ได้หงุดหงิดง่ายขนาดนี้ ทั้งใจสั่น มือสั่น หน้าแดงเถือก นึกแล้วก็พาลโมโหคนตรงหน้าเสียเฉย ๆ ความหื่นที่สะสมมาตั้งแต่วัยเยาว์ก็ดูเหมือนจะลดหายไปกว่าปกติไม่น้อยเลยทีเดียว กับแผงอกผู้ชายคนอื่น มินจีกลับไม่รู้สึกว่ามันสวยซักนิด.. จะมีก็แต่ของปาร์ค จองซู จอมโอหังเนี่ยแหละ ที่จะทำให้ใจสั่นได้
    เพราะพี่ ..เพราะพี่แน่ ๆ !!!

    หรือเพราะฉัน..ชอบพี่
    ?

    “บ้าไปแล้วแน่ ๆ !”

    มินจีพูดกับตัวเองแล้วตักเค้กอร่อยตรงหน้าเข้าปากเอาไม่ยั้ง คิ้วขมวดมุ่นเพราะไอ้เรื่องอาการแปลก ๆ ของตัวเองที่อยู่ในใจ เครียกจนคนที่นั่งอยู่ด้วยกันอดจะส่งสายตาเป็นคำถามไปให้ไม่ได้ เครียดอะไร รอยวันพันปีไม่เห็นเคยเครียด หรือปกติเครียดแล้วก็หัวเราะกับความเครียดของตัวเองเสียมากกว่า

    สงสัยคราวนี้จะเครียดหนักจริง ๆ ถึงได้นั่งกลุ้ม
    ~

    “พี่ลีทึก..พี่เคยชอบใครไหม?”

    “.............”

    “แล้วพี่จะบอกรักเค้าหรือเปล่า?”

    “..............”

    “ถามให้ตอบ ไม่ได้ให้เงียบนะพี่!!”

    “ชอบใครอยู่หรือไง?”

    “ตอบไม่ตรงคำถาม...”

    “ถ้าเป็นฉัน ก็จะบอกเค้าไปเลย บอกไปตรง ๆ ดีกว่ามานั่งกังวลใจเอง..นะ”

    ได้ฟังความคิดเห็นของรุ่นพี่ร่างบางก็นิ่งไปอึดใจ คิ้วโก่งยังคงขมวดมุ่น มือเรียวขยำกางเกงไปมา เม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจก่อนจะสูดลมหายใจลึกแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

    “งั้นเอางี้...”

    “อะไรของเธออีก? = =”

    “ฉันชอบพี่!”

     
    ครั้งหนึ่งที่มีปากเสียงกับคู่คุณ มันเป็นเพราะเรื่องอะไร (( เต็มที่และขอให้เป็นบทพูด..!! ))
    : “ลินจี้!!”

    “โอ๊ยคุณรุ่นพี่ อย่างฝืนสังขารได้มั๊ย ถ้าชื่อฉันภาษาไทยเรียกยากนักก็ไม่ต้องเรียกก็ได้”

    ตาสวยที่มองกลับมาอย่างไม่พอใจทำให้เด็กสาวต้องหยุดคำพูดของตัวเองไว้ เป็นอะไรของเค้า
    ?

    “พี่โกรธอะไรฉันรึเปล่า”

    “เปล่า...”

    มุกเก่าอย่างในนิยายที่เคยอ่าน แต่กลับกันตรงที่ว่าพระเอกไม่ได้เป็นคนถามนางเอก แต่กลับเป็นนางเอกเสียแทนที่ต้องมานั่งถาม นั่งง้ออีตาพระเอกแก่ ๆ นี่ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอะไรผิดตอนไหน

    เอาน่ะ ง้อก่อนก็ได้...

    มินจีไฟเต้ง
    !!

    “พี.....”

    “.................”

    “อย่าเอาแต่บื้อเด้ ฉันก็คิดคำพูดไม่ออกเหมือนกันนะเนี่ย เป็นอะไรก็บอกกันมาสิ ฉันจะได้แก้ไข ไม่ใช่อะไร ๆ ก็เงียบ ๆ ๆ แล้วฉันจะรู้มั๊ยเล่าว่าทำอะไรผิด โว้ยย!!พี่นี่มันบ้าจริง ๆ เลยอ่ะ!”

    ร่างบางร่ายยาวว่าอีกคนจนหนำใจ ลืมไปแล้วว่ากะจะใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ง้อ เพียงเพราะเห็นหน้าที่นิ่งเสียจนเกินไปของอีกคน อารมณ์มันก็พุ่งทันที พูดจบก็ต้องมายืนเหนื่อยเพราะคำพูดแบบไม่เว้นวรรคให้หายใจของตัวเอง แปลกที่อีกคนยังแน่นิ่ง ไม่ไหวติง..

    ยังหายใจอยู่รึเปล่าเนี่ย
    ?

    เอานิ้วจิ้ม ๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อใบหน้าหวานเงยขึ้นมาให้เห็น..

    “ฮ่ะ ๆ ๆฮ่า ๆ ๆ เธอนี่มันจี้ชะมัด ยัยบ๊อง เตี้ย บ้องตื้น หน้าเต่า ฮ่ะ ๆ ๆ นี่เธอกำลังง้อฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย”

    “ฉันไม่ยักรู้ว่าตัวเองคุยอยู่กับคนบ้า = =”

    “ตืดเชื้อบ้ามาจากเธอต่างหาก..ไม่ต้องเถียงเลย เรื่องกล้องเนี่ยยังไม่ได้เคลียร์เลย”

    ลีทึกพูดดักคิเมื่อเห็นอีกคนตั้งท่าจะแย้งขึ้นมากลางคันแล้วยกประเด็นที่ทำให้วันนี้เข้าหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ กล้องตัวโปรด อาวุธประจำกายของยัยเตี้ยนี่ กล้องที่ร้อยวันพันปีลีทึกไม่คิดจะยุ่งกับมันจนได้มาเห็นรูปข้างในนั่นแหละ

    “ทำไม กล้องฉันมันไปทำอะไรให้พี่”

    ไม่ได้ทำอะไร แต่ไม่รู้ทำไมเจ้าของกล้องถึงได้ชอบเอามันไปทำให้ฉันโมโหนัก

    “ทำอะไร พูดดีดีนะพี่…”

    “อะไรล่ะ ก็ไอ้รูปพวกนั้นน่ะ ไม่ใช่ฝีมือเธอหรือ?”

    พูดถึงรูปแล้วก็ถึงบางอ้อ อย่าบอกนะว่าแค่นั้นก็เก็บเอาไปคิด แก่แล้วยังขี้ใจน้อย ตลกดีเหมือนกันนะเนี่ยตาแก่
    !

    “พี่เครียด?ฮะ ๆ เครียดอะไรเล่า”

    “ไม่ขำยัยเตี้ย ลบออกให้หมดเลยนะ รูปผู้ชายเปลือยอกทั้งหลายแหล่นั่นน่ะ”

    “ไม่เอา เรื่องอะไรล่ะ พี่ไม่รู้หรอว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะหามาได้ ละ....”

    “ไม่รู้ แต่ที่รู้คือเธอต้องลบ!”

    “ไม่ลบ!!ไม่ลบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้ยินชัดมั๊ยพี่ ฉันไม่ลบ!!”

    ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เบะปากใส่ แล้ววิ่งจู๊ดหายลับไปในห้องครัวพร้อมกับกล้องสุดที่รัก ไม่ถึง 5 นาทีดี คนตัวเล็กก็วิ่งออกมาอีกครั้ง หน้าหวานแอบขึ้นสีแดงจาง ๆ ในกล้องมือยื่นให้อีกคนอย่างง่ายดายต่างจากเมื่อครู่นี้ ตัวบางโน้มเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอก..

    “เหลือแต่รูปพี่ไว้ คงไม่ว่าอะไรนะ!”

    พูดจบก็วิ่งหนีออกจากห้องไป ทิ้งให้อีกคนนั่งยิ้มขำกับวิธีการง้อแบบแปลก ๆ นี่คนเดียว

    “ทำตัวน่ารักก็เป็นเหมือนกันนี่ ยัยเตี้ย~”

    ++++++++++++++++++++++
    สู้สุดจัย ฮ่า*
    ขอบคุนสำหรับคำแนะนำดีดีแล้วก็ขอบคุนที่ช่วยแก้ให้นะงับ  พี่ตัวเล้กกกก!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×