ตอนที่ 4 : ตอนที่4 บุรุษชุดดำ 1
ใครกัน!!! ลองเอาไม้เขี่ยๆดูดีไหม?
ทำไมถึงเข้ามาภายในจวนแม่ทัพบูรพาได้ แล้วยังบาดเจ็บอีก เอาอย่างไรดี แต่ดูท่าแล้วหากไม่ได้รับยาแก้พิษภายในเค่อนี้คงไม่รอดแน่
จริงสิ ลองใช้พรที่ขอดูดีกว่า ไม่ว่ากันนะถ้าข้าจะให้ท่านเป็นหนูทดลองคนแรกของข้า จางเซียนหนี่ได้แต่คิดในใจ ว่าแล้วนางก็นำมีดสั้นออกมาจากมิติแล้วกรีดปาดที่นิ้วเล็กน้อย ปากอวบอิ่มพึมพัมแผ่วเบา
"ข้ายินดีมอบให้ท่าน"
จากนั้นก็นั่งยองๆลงข้างๆบุรุษชุดดำพลิกตัวร่างหนาจับเขาหงายหน้า แล้วเอาเลือดหยดเข้าไปในปากทันที เพียงชั่วอึดลมหายใจ โลหิตที่ออกมาก็กลับกลายเป็นสีแดง แสดงให้เห็นว่าพิษได้ถูกขจัดออกแล้ว
ร่างบางของจางเซียนหนี่ ก็ลงมือลากร่างหนาเข้ามาภายในห้องนอน ด้วยกลัวอิงอิงน้อย หรือคนในจวนจะเข้ามาเห็นแล้วตื่นตกใจ
"คนอะไร ตัวใหญ่ ตัวหนา แล้วยังตัวหนักอีก กินฮิปโปมารึไงนะ คงต้องฝึกอย่างจริงจังแล้วสินะตัวข้า"
จางเซียนหนี่ได้แต่บ่นเนื่องจากร่างใหม่ของนางยังเป็นเพียงดรุณีวัยเพียง14 ปี จึงทำให้ทั้งขนาดรูปร่างและพละกำลังยังไม่มากนัก
แม้นางจะฝึกฝนร่างกาย และพลังปราณ แต่เพียง1เดือนเท่านั้นทั้งการที่มีปราณมากร่างกายก็ต้องรับพลังมากขึ้นแต่ตอนนี้นางยังฝึกร่างกายไม่พอ ต่อให้นางก้าวขึ้นมาถึงระดับปราณขั้นต้นระดับสูง เท่ากับว่าสามารถใช้พลังกายได้เพียง สี่ในสิบส่วนเท่านั้น
พอพาร่างหนาเข้ามาถึงในห้อง แสงจากตะเกียงสะท้อนให้เห็นบุรุษชุดดำ ทำเอานางถึงกับนิ่งงันไปชั่วครู่ บุรุษใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ถ้าเป็นในภพของนางคงไปเป็นดาราฮอลลิวูดได้สบายๆ
นางรีบถอดเสื้อผ้าช่วงบนของร่างหนาที่มีเลือดไหลอย่างต่อเนื่องออก อื้อหือ!! ซิกแพ็คมาเต็มมาก ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิต้านทานคนหล่อจากภพก่อนดี กำเดาคงไหลแน่
ร่างหนากำยำเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่บ่งบอกให้รู้ว่าคนผู้นี้คงผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน นี่นางคงไม่เก็บตัวปัญหามาใช่ไหม
โดยเฉพาะบาดแผลฉกรรจ์ฉีกขาดลากยาวจากหน้าอกซ้ายเลยมาถึงหน้าท้องน่าจะมาจากการโดนอาวุธมีคมจำพวกดาบ นางรีบนำเข็มกับด้ายเย็บบาดแผลทันที
เมื่อเสร็จก็นำสมุนไพรมาบดใส่บาดแผล ระหว่างบดก็นำมือมาวางเหนือสมุนไพรพร้อมถ่ายปราณผู้ปรุงโอสถขั้นกลางเพื่อให้สมุนไพรออกฤทธิ์ไวขึ้นวิธีนี้นางอ่านในตำราผู้ปรุงโอสถที่บังเอิญเจอให้ห้องหนังสือของท่านพ่อ
โชคดีที่นางซื้อสมุนไพรจำพวกห้ามเลือดมาไว้ด้วย จบท้ายด้วยการนำผ้าสะอาดพันรอบบาดแผลแล้วเช็ดตัวนำเสื้อที่มีแต่เลือดไปเผากันคนอื่นมาเจอ
หากมีใครรู้เรื่องนางว่าสามารถใช้ปราณผู้ปรุงโอสถสามนเข้ากับสมุนไพรได้ในครั้งแรกและเพียงแค่อ่านตำรา คงตีอกชกหัวตัวเองเป็นแน่นี่มันคืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะชัดๆ!!
ว่าแต่เขาไปโดนใครทำร้ายมา แล้วเข้ามาในจวนของนางได้อย่างไร เวรยามก็ออกจะแน่นหนาไม่น้อย ได้เพียงคิดคงต้องรอบุรุษชุดดำตื่นเสียก่อน
ซึ่งคงใช้เวลาอีกนานเพราะจากบาดแผลที่สาหัสขนาดนั้น คืนนี้คงต้องเสียสละเตียงให้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาดูว่าฟื้นรึยังพร้อมกับคาดคั้นคำตอบดีกว่า
คิดได้ดังนั้นจางเซียนหนี่ก็เดินเข้าไปในห้องลับของนางที่มีทุกอย่างพร้อมไม่ต่างจากห้องนอนของนางเอง
แต่ที่จางเซียนหนี่คาดผิดไปคงจะเพราะนางคงลืมไปว่าภพนี้มีปราณผู้ปรุงโอสถ ซึ่งนางเพิ่งจะใช้ผสานกับสมุนไพร ยิ่งระดับปราณผู้ปรุงโอสถสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเร่งผลทำให้บาดแผลสมานตัวเร็วขึ้นเท่านั้น
และในภายหน้านางไม่อาจรู้เลยว่า ว่าบุรุษชุดดำผู้นี้จะพานางเข้าไปเจอเรื่องราวต่างๆอีกมากมายและทำให้ชีวิตนางต้องผูกติดกับเขาไปตลอดกาล...เพราะมันคือโชคชะตา
ตกดึกคืนนั้น
ร่างหนาค่อยๆลืมตามขึ้นอย่างช้าๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งเบาๆอาการปวดบริเวณบาดแผลเล่นงานทันทีแต่กลับปวดน้อยกว่าที่ควรจะเป็นจนน่าแปลกใจ คิดพลางกวาดตาไปรอบๆบริเวณ
"เข้ามา หยางอี้" เสียงทุ้มดุดันเอ่ยออกมาเมื่อรู้สึกถึงเงาดำสายนึง ที่เหมือนยืนรอคำสั่งอยู่
"นายท่าน ข้าน้อยขออภัยที่ตามหาท่านช้าขอรับ ทำให้นายท่านได้รับบาดเจ็บ โปรดลงโทษข้าน้อยด้วย" เงาดำสายนั้นเอ่ยพร้อมคุกเข่ารอรับโทษ
"ลุกขึ้นเถอะ เรื่องโทษกลับไปแล้วค่อยว่ากัน รู้รึยังว่าเป็นใคร"
"คนของข้าน้อยรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนของจวนเสนาบดีหลี่เข้าเฝ้าเชื้อพระวงค์แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครขอรับ และเมื่อหกวันก่อน คนเดียวกันได้ติดต่อซื้อของบางอย่างจากแคว้นเหมิง คาดว่าน่าจะเป็นพิษม่านลั่วขอรับ"
พิษม่านลั่ว!! แสดงว่าพวกมันทุ่มทุนมากคงอยากให้เขาตาย เพราะพิษนี้หายากมากเป็นพิษที่ราชวงค์แคว้นเหมิ่งเองก็มีเพียงน้อยนิด ออกฤทธิ์สลายปราณพร้อมทั้งทำลายอวัยวะภายในและไม่มียาถอนพิษผู้โดนจะตายภายใน 2 เค่อ
"ข้าโดนพิษนี้เหตุใดถึง... ดรุณีน้อย? หยางอี้เจ้าไปสืบหาว่าเรือนที่ข้าอยู่คือเรือนผู้ใด"
"ขอรับนายท่าน แต่ตอนนี้นายท่านต้องรีบไปแล้วขอรับ มีรับสั่งให้นายท่านเข้าเฝ้าด่วน"
"อือ รู้แล้ว"
บุรุษชุดดำได้แต่ขบคิดในใจเหตุใดดรุณีน้อยนางนึงถึงสามารถรักษาพิษม่านลั่วได้และยังบาดแผลที่สาหัสของเขาอีก
อีกทั้งบาดแผลแบบนี้ต่อให้ใช้เวลา4-5 วันยังยากที่จะลุกได้ แต่นี่เขาแทบไม่เจ็บปวดมากเท่าที่ควร ทั่งๆที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ชั่วยาม ผู้ที่จะรักษาได้ขนาดนี้น่าจะเป็นผู้ปรุงโอสถขั้นสูงหรืออาจจะถึงขั้นระดับอาวุโส
ย้อนนึกกลับไปยามที่เขาถูกลอบโจมตี การเดินทางของเขาไม่มีผู้ใดรับรู้ยกเว้นคนสนิทไม่กี่คนเมื่อมาถึงเขตเมืองหลวงแคว้นต้าหนาน
กลับมีกลุ่มนักฆ่ากว่า 50 คนล้อมพวกเขาที่เดินทางมาลับๆเพียง 5 คน และนักฆ่าแต่ละคนระดับปราณขั้นต่ำระดับกลางถึงระดับสูง เรียกได้ว่าตึงมือเลยทีเดียว
ในระหว่างที่เขาต่อสู้อยู่นั้น มีหนึ่งในนักฆ่าซัดพิษบางอย่างมาที่เขาทำให้พลังปราณในร่างกายลดฮวบรู้สึกแขนขาไม่มีเรี่ยวแรงจึงพลาดท่าโดนดาบฟันเข้าให้ ส่วนเงาที่ติดตามมาด้วย 4คนโดนแยกกันไปคนละทาง
เขาจึงใช้กำลังเฮือกสุดท้ายกระโจนตัวเองออกมาจากวงล้อมมาได้ ด้านนักฆ่าเห็นว่าเป้าหมายโดนพิษจึงไม่ได้ตามมาแต่อย่างใด
เขาใช้วิชาตัวเบาที่เคยเป็นเลิฐบัดนี้ช้าจนตัวเองยังขัดใจ ทะยานจนมาถึงด้านข้างของจวนๆหนึ่ง แต่เพราะบาดแผลและพิษร้ายทำให้ทนต่อไม่ไหวหล่นลงไป ก่อนจะเหลือบไปเห็นสตรีนางนึง ไม่สิ ดรุณีน้อยนางนึงเดินเข้ามาแต่ไม่ทันได้เอ่ยอะไรก็หมดสติไปเสียก่อน
--------------------------------------------------------------------
ใครกันน้าาา?? บุรุษชุดดำของน้องหนี่
เดากันออกไหมเอ่ย?
มาแล้วน้าค้า
คำผิดตอนก่อนๆต้องขออภัยด้วยนะคะพอดีไรท์พิมในมือถือเนอะ
ตัวอักษรถ้าใครอ่านในเว็บอาจจะเล็กไปนิดน้า ไรท์พยายามแก้แล้ว แต่อย่างว่าพิมในมือถือมันทำไม่ได้อ่าาา
ขอให้สนุกกับนิยายนะคะ คอมเม้นติชมกันได้
ภาษาอาจไม่เก่งมาก ไรท์ยังมือใหม่เนอะ
ขอบคุณที่ติดตามค้าา ♡♡♡
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณค่ะ ชอบค่ะ
รอตอนต่อไปค่าาาา
ชอบๆมาต่ออีกนะค่ะ