คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แค่มาเตือน
กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงกรีดร้องของผู้คนนับร้อยวิ่งหาที่ซ้อนกันจ่าละหวั่น เมื่อชายฉกรรจ์สิบกว่าคนพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าไปในบ่อนของผู้ทรงอิทธิพลในย่านนี้ ศิลา จิรทีปต์ หนุ่มใหญ่วัย 40 ปีเจ้าพ่อเงินกู้ เจ้าของบ่อนพนันและตลาดสดขนาดใหญ่ที่เปิดบังหน้าเพื่อหลบหลีกพวกตำรวจ
“ไอ้ศิลาอยู่ไหน!!” น้ำเสียงดุดันพูดขึ้นพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ
“กูถามว่าไอ้ศิลาอยู่ไหน!!!” คราวนี้อีริคตวาดเสียงดังลั่น เรียกหาตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนต้องมาจัดการด้วยตัวเอง
"มึงเป็นใครกล้าดียังไงมาบุกถึงถิ่นกู!" ศิลาก้าวออกมาจากห้องห้องหนึ่งพร้อมกระบอกปืนในมือที่เล็งไปที่อีริค เพราะคิดว่าเป็นแค่พวกนักเลงที่เคยมาป่วนบ่อน โดยที่ไม่สังเกตเลยว่าคนของตัวเองนั้นโดนจัดการไปหมดแล้ว
“อีริค คลินตัน จำชื่อฉันไว้ถ้านายมายุ่งวุ่นวายกับคนของฉันอีกฉันไม่เอาแกไว้แน่” น้ำเสียงเยือกเย็นของอีริคพูดขึ้นพร้อมเดินเข้าประชิดตัว โดยไม่ได้กลัวด้วยซ้ำว่าปืนที่ศิลาเล็งมาที่ตนจะลั่นไกรตอนไหน
“คนของมึง? กูไปยุ่งกับคนของมึงตอนไหน!”
“แล้วมึงไปทำอะไรที่ห้างล่ะ กีรติคือคนของคลินตันถ้ายังอยากมีที่ซุกหัวนอนก็อยู่เงียบๆ”
“ลูกนังกันยางั้นเหรอ? หึ! นังนั่นมันขายเด็กนั่นให้กูแล้วมึงมีสิทธิ์อะไรมาเสือกเรื่องของกู!”
“เท่าไหร่ กูถามว่าเท่าไหร่” อีริคกดเสียงต่ำขบกรามแน่นเค้นถามศิลาพร้อมกับระงับความโมโหไว้ไม่ให้ฆ่าใครตายซะก่อน ผู้หญิงคนนั้นมันเกินเยียวยาจริงๆ ดวงตาคุมดุลุกโชนราวกับเปลวเพลิงโหมไหม้กำลังแผ่รังสีอำมหิตปกคลุมไปทั่วบริเวร ศิลาเริ่มก้าวถอยหลังเมื่อรู้สึกถึงความอันตรายกลิ่นอายความโหดเหี้ยมมันน่ากลัวเกินกว่าเขาจะต้านทานไหว แต่เพียงก้าวเดียวอีริคก็คว้าคอเสื้อเขาไว้ก่อนจะแย่งปืนที่อยู่ในมือส่งให้เหมที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“กูถามว่าเท่าไหร่” อีริคถามย้ำอีกครั้ง
“ละ…ล้านหนึ่ง”
“หึ! เหมเอาคืนมันไป!” เหมรีบส่งเงินให้เจ้านายก่อนอีริคจะยัดมันใส่หน้าอกให้ศิลาจนแทบคว้าไว้ไม่ทัน
“คราวนี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างแล้วนะ แต่ถ้าต่อจากนี้มึงยังให้เงินผู้หญิงคนนั้นเพื่อแลกกับตัวกีรติ กูจะถือว่าเป็นความโง่ของมึงเอง เพราะฉะนั้นถือว่ากูเตือนแล้วถ้ามีครั้งที่สองมึงเตรียมตัวตายได้เลย” น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับจะแช่แข็งคนฟังทั้งเป็น อีริคหันหลังเดินกลับขึ้นรถได้ไม่นานเสียงรถตำรวจเปิดไซเรนมากว่าสิบคันก็บุกทลายบ่อนพนันของศิลาพร้อมจับกุมนักพนันได้เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นกันยาแม่ของกีรติ
“เป็นยังไงบ้างครับ” ทันทีที่ได้ยินเสียงรถกัสรีบวิ่งออกมารอที่หน้าบ้านยืนชะเง้อคอมองรถที่กำลังขับเข้ามาอย่างใจจดใจจ่อ เพียงแค่อีริคเปิดประตูลงจากรถร่างบางก็รีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะมองสำรวจคนอื่นๆ ว่าเป็นอะไรไหม
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทานข้าวหรือยัง” อีริคถามขึ้นพร้อมกับคว้าเอวร่างบางมากอดไว้แล้วพาเดินเข้าบ้านไป ลูกน้องนับสิบถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อเห็นเจ้านายผู้เคร่งขรึมดูน่าเกรงขามเปลี่ยนเป็นผู้ชายอบอุ่นและอ่อนโยนไปในชั่วพริบตา
“หลังจากนี้สามวันเฮงจะรับช่วงต่อดูแลนายจนกว่าแม็คจะทำงานให้ฉันเสร็จ” หลังมื้อเย็นอีริคก็แนะนำเฮงให้กัสได้รู้จัก
“พี่แม็คต้องไปทำงานแล้วเหรอครับ” กัสมองแม็คตาละห้อยเพราะสองสามวันมานี้เขาก็อยู่กับแม็คเป็นส่วนใหญ่จนสนิทกันไปแล้ว
“ใช่ครับ” แม็คเองก็ตอบด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าเพราะอะไร
“งั้นก็ได้ครับ” กัสตอบรับด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะเฮงดูดุกว่าแม็คมากที่สำคัญน่าจะอายุเยอะกว่าแม็คด้วยเขากลัวว่าจะเข้าไปเฮงไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละมันเป็นแค่ความกลัวที่เขากังวลไปเอง แท้จริงแล้วพี่เฮงที่ดูโหดกลับกลายเป็นผู้ชายเจ้าระเบียบที่ดูอ่อนโยนกว่าพี่แม็คอย่างคาดไม่ถึง
“พี่เฮงทำงานที่นี่นานหรือยังครับ” กัสเริ่มเปิดประเด็นชวนคุยก่อน
“ปีนี้ปีที่ 14 แล้วครับ”
“ผมถามได้ไหมครับ”
“ได้สิครับ”
“คุณอีริคเป็นคนยังไงเหรอครับ”
“บอสก็เป็นคนทำงานเก่ง จริงจัง สำคัญที่สุดคือรักลูกน้องมากแต่ก็มีมุมดุอยู่บ้างครับ”
“เหรอครับ”
“คุณกัสถามทำไมครับ”
“ผมแค่สงสัยเฉยๆ ครับ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ผมเจอคุณอีริคครั้งแรกเขาดูน่ากลัวมาก แต่พอผมอยู่ๆ ไปเขาก็ดูเป็นคนใจดีและก็อ่อนโยน พอเมื่อวานตอนที่เขารู้เรื่องนายศิลาเขาก็ยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ผมเลยอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่”
“ผมว่าการแสดงออกมันก็ขึ้นอยู่กับคนตรงหน้านั่นแหละครับว่าเป็นใคร เพราะจริงๆ แล้วบอสก็ไม่ได้ใจดีกับทุกคน” เหมือนที่ไม่ใจดีกับคุณครูของเขาและเขาในตอนนี้
เหตุการณ์ก่อนหน้า
“ฉันให้คนมารับครูมาสอนนายที่บ้านอีกสักพักคงมาถึง ช่วงนี้ก็อยู่บ้านเรียนหนังสือไปก่อน ถ้าเบื่อๆ หรืออยากออกไปข้างนอกค่อยบอกฉัน”
“ครับ” หลังจากอีริคบอก กัสก็ชวนเฮงออกมารอรับคุณครูที่หน้าบ้าน
ทันทีที่รถจอดเหมที่ยืนรออยู่เช่นกันก็เดินไปเปิดประตูและผ้าปิดตาออกให้คุณครูหนุ่ม
"สวัสดีครับ" กัสยกมือไหว้
“สวัสดีครับผมภาม จะเรียกครูภามก็ได้ครับ” ครูหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาอย่างสุภาพก่อนจะยื่นมือไปจับเพื่อเป็นการทักทาย
“สวัสดีครับครูภามผมชื่อกีรติ ชื่อเล่นชื่อกัสครับ” กัสยื่นมือไปจับพร้อมกับแนะนำชื่อตัวเอง
"เชิญด้านนี้ครับ" เฮงรีบพูดขัดจังหวะเมื่อสังเกตเห็นสายตาคมดุของเจ้านายที่มองผ่านผ้าม่านมาจากชั้นสอง
ถึงจะเลือกมาเองกับมือแต่อีริคก็ไม่ไว้ใจ เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้มีความรู้และความสามารถ สามารถเป็นทั้งนักจิตวิทยาและเป็นทั้งคุณครูให้เขาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูที่การวางตัวอีกทีเพราะเขามันเป็นคนไม่ชอบพวกวุ่นวายจุ้นจ้านอยู่แล้ว
อีริคนั่งทำงานอยู่ริมหน้าต่างตลอดเวลาที่กัสเรียนหนังสือเขาก็แอบมองอยู่ตลอด ถึงจะรู้ว่ามีคนของตัวเองนั่งเฝ้าแต่มันก็รู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย เมื่อครูหนุ่มย้ายที่นั่งเข้าประชิดตัวร่างบางของเขายกมือขึ้นโอบไหล่ทำทีเป็นสอนหนังสือต่ออย่างหน้าตาเฉย
“คนของฉันไม่ใช่เด็กอมมือ คุณไม่จำเป็นต้องมาจับมือเขียน” ไวเท่าความคิดสองเท้าก็ก้าวถึงชั้นล่างเป็นที่เรียบร้อย อีริคไม่รีรอรีบดึงกัสออกมาจากผู้ชายคนนั้นทันที
“เอ่อ…คือ”
“เหม! เอามันไปส่งแล้วหาคนใหม่ที่มันมีจรรยาบรรณความเป็นครูมากกว่านี้!”
“คุณครับผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“ขยับตามประชิดตัวทุกครั้งที่คนของฉันขยับหนีแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน เหม!! เอามันออกไปก่อนฉันจะเอาปืนยิงกระบาลมัน!!”
“นายไม่รู้หรือไงว่ามันลวนลามนายอยู่ทำไมไม่โวยวาย ไม่งั้นก็บอกให้เฮงช่วยก็ได้ หรือทำงานอย่างว่าจนชินถึงได้มองเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว” ทันทีที่เหมพาผู้ชายคนนั้นออกไปอีริคก็หันมาต่อว่าร่างบางโดยที่ไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำว่าคำพูดขอตัวเองมันกำลังทำร้ายจิตใจร่างบางอยู่
“ครับ ผมชินแล้ว" ดวงตาสดใสเริ่มถูกแทนที่ด้วยความเศร้าหมองอีกครั้ง ก่อนร่างบางจะหันหลังเดินหนีอีริคโดยไม่แก้ตัวสักคำ
ความคิดเห็น