ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจกีรติ

    ลำดับตอนที่ #13 : เหลือบไร

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 67


     กัสนั่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่เชื่อสายตา ชุดสูทสีน้ำเงินเรียบหรูจากแบรนด์ดังที่ตนสวมใส่เข้ากับธีมงานสีน้ำเงิน-ฟ้า ใบหน้าก็ถูกแต่งแต้มโดยช่างมืออาชีพที่อีริคคัดสรรมา จับเขาแปลงโฉมจากคนธรรมดาให้กลายเป็นเหมือนลูกคุณหนูมีชาติตระกูล 

    “ไม่รู้จะหาคำไหนมาชมเลยค่ะ บางมุมก็ดูหล่อจนใจเจ็บ บางมุมก็ดูสวยยิ่งกว่าผู้หญิงแต่รวมๆ แล้วน่ารักน่าเอ็นดูอยากหยิกแก้มสักสองทีแต่กลัวคุณอีริคจะว่าเอาค่ะ” ประโยคสุดท้ายช่างแต่งหน้าสาวกระซิบบอกกัสให้ได้ยินกันสองคน 

    “ครับ” 

    “เสร็จหรือยัง” อีริคเอ่ยถามขึ้นหลังจากนั่งรอมาสักพัก เขาสวมสูทสีน้ำเงินเข้มยิ่งเสริมให้เขาดูหล่อคมเข้มจนสาวๆ ในงานต้องเหลียวหลัง 

    “เสร็จแล้วค่ะ คุณกัสน่ารักมากๆ จนพี่อยากให้ไปถึงงานเร็วๆ จะได้อวดความสวยความน่ารักให้คนทั้งโลกได้เห็น” มะปรางช่างแต่งหน้าสาวชื่อดังยังคงเอ่ยชมไม่ขาดปากรวมทั้งลูกทีมของเธอก็มองกัสด้วยความภาคภูมิใจ

    “เสร็จแล้วก็ไปกันเถอะงานจะเริ่มแล้ว”

    ค่ำคืนแสนพิเศษงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าและเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เพียงก้าวขาเข้าไปในงานกัสก็แทบก้าวต่อไม่ไหว 

    “เป็นอะไร” อีริคกระซิบถาม 

    “ไหนคุณบอกว่างานเล็กๆ” 

    “ฉันน่าจะจำผิด แต่งานนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ใช่ไหมล่ะ” อีริคว่าพลางหันมายิ้มให้เป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ใครจะทนความกดดันได้เมื่อสายตาทุกคนในงานต่างหันมาจับจ้องพวกเขาเป็นตาเดียว แต่อีริคก็ยังจับมือกัสพาเดินเข้าเงินไปโดยไม่สนแม้กระทั่งนักข่าวที่กำลังรัวชัตเตอร์เก็บภาพทั้งสองคน

    “คุณอีริคเชิญทางด้านนี้ครับนายท่านรออยู่” ชายคนหนึ่งเดินนำอีริคไปที่โต๊ะด้านหน้าเวทีพอไปถึงก็เห็นชายวัยกลางคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว อีริคก็กล่าวทักทายก่อนจะแนะนำกัสให้คุณโจว นักธุรกิจคนไทยเชื่อสายจีนได้รู้จัก

    “ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ข่าวเปิดตัวโปรเจ็คใหม่ของเราหรือข่าวที่คุณมีคนควงมางานข่าวไหนจะดังกว่ากัน” คุณโจวพูดขำๆ ก่อนจะมองกัสอย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา 

    “โหงวเฮ้งดีมีวาสนา” 

    “เอ่อ ขอบคุณครับ” กัสยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับยิ้มดีใจ อย่างน้อยๆ คนที่นี่ก็ไม่ได้รังเกียจหรือมองเขาด้วยสายตาดูถูก อีริคเองเห็นกัสยิ้มได้เขาก็เบาใจ แต่ก็เริ่มหงุดหงิดใจเมื่อคนในงานให้ความสนใจกีรติของเขามากจนเกินไปโดยเฉพาะ...พวกผู้ชาย

    “ผมไม่ยักจะรู้ว่าคุณอีริคมีน้องชายด้วยหน้าตาเหมือนกันเลยนะครับ คุณอีริคก็ดูหล่อคมเข้มส่วนคุณกีรติก็…น่ารัก” หนุ่มตี๋เอ่ยปากชมพร้อมกับเผยรอยยิ้มละลายใจสาวๆ

    “หึ! ผมก็ไม่ยักจะเราว่ารู้จักกันด้วย”

    “งั้นผมขอแนะนำตัวเลยนะครับ ผมตงหยางเจ้าของบริษัทหยางกรุ๊ป ผู้ที่รับหน้าที่ดูแลและตกแต่งภายในให้กับกาสิโนของคุณ” 

    “ยินดีที่ได้รู้จัก แต่กีรติไม่ใช่น้องชายผม” 

    “งั้นเป็น…” 

    “นายบอกว่าหิวใช่ไหม งั้นไปหาอะไรทานทางด้านนั้นดีกว่า” 

    “เอ่อ ครับ” กัสได้แต่เดินตามแรงจูงของอีริคและที่บอกว่าจะพาไปหาอะไรกินก็ไม่ได้กินอะไรสักอย่างเพราะอีริคนั้นจูงมือกัสพาเดินออกนอกประตูไปเลย แต่ยังไม่ทันจะได้กลับไปขึ้นรถ…

    “คุณกีรติ” เสียงเรียกตามหลังมา คราวนี้เป็นหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่เดินตามออกมาพร้อมกับคนติดตามสี่ห้าคน ซึ่งอีริคก็รู้จักดี แฟรงค์ หุ้นส่วนอีกคนของเขา

    “ครับ” กัสมองหน้าอีริคก่อนจะขานรับ

    “เราน่าจะมีช่องทางติดต่อกันไว้สักหน่อยนะครับเผื่อเราจะได้คุยเรื่องธุรกิจกัน” แฟรงค์พูดพลางยื่นโทรศัพท์ให้กัส 

    “คงไม่จำเป็นหรอก แม็คพากีรติไปขึ้นรถก่อนฉันมีธุระที่จะต้องคุยกับคุณแฟรงค์สักหน่อย” 

    “ครับบอส” 

    “กีรติเป็นคนของคลินตันถ้าคุณต้องการคุยงาน กีรติยังไม่มีความสามารถตัดสินใจอะไรได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากคุยเรื่องธุรกิจกรุณาโทรสายตรงหาผม” 

    “แล้วถ้าผมไม่อยากคุยเรื่องธุรกิจล่ะ”

    “อย่ายุ่งกับคนของผมเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน”

    “หวงเหรอ” 

    “...” อีริคเงียบไม่ยอมตอบ 

    “คุณกีรติกับ...คุณเป็นอะไรกันเหรอครับ”

    “...” 

    “เจ้านายกับลูกน้อง? แฟน? หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง” 

    “จะเป็นอะไรแล้วมันเกี่ยวกับคุณ อย่าล้ำเส้นผมให้มากเพราะถ้าผมหมดความอดทนเมื่อไหร่อะไรก็หยุดผมไม่ได้ คุณเองก็น่าจะรู้ดี” อีริคมองเข้าไปนัยน์ตาแฟรงค์อย่างเยือกเย็น

    “หึ! ใจเย็นๆ สิคุณอีริคผมก็แค่อยากทำความรู้จัก ในเมื่อคุณหวงขนาดนี้ผมไม่ยุ่งก็ได้” แฟรงค์ยอมถอยอย่างว่าง่าย ก่อนจะมองตามหลังอีริคด้วยความชอบใจที่ทำให้อีริคโมโหได้

    พอกลับถึงเพนเฮาส์อีริคพยายามเลี่ยงมาอยู่คนเดียวเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาใช้เวลาคิดและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนการที่เขาจะเก็บซ่อนกัสไว้ตลอดเวลามันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่ายังไงก็ต้องมีพวกเหลือบไร เข้ามาเกาะแกะ 

    “คุณอีริคเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” กัสก็พอจะเดาสถานการณ์ออกว่าอีริคหน้าจะหงุดหงิดมาตั้งแต่ในงาน

    “อาบน้ำแล้วเหรอ” 

    “ครับผมง่วงแล้ว คุณไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเหรอครับ” 

    “เดี๋ยวฉันตามไปนายไปนอนก่อนเลย” 

    “เฮ้ออออ เห็นคุณอารมณ์ไม่ดีแบบนี้ผมไม่สบายใจเลย” เมื่ออีริคยังไม่ลุกกัสก็นั่งลงบนพื้นหันหลังพิงกับโต๊ะที่อีริคนั่งอยู่ 

    “ฉันบอกให้ไปนอน” คราวนี้อีริคว่าขึ้นเสียงดุ

    “ผมนอนไม่หลับหรอกครับ คุณยังหน้ายุ่งนั่งคิ้วผูกโบอยู่แบบนี้ผมจะหลับได้ยังไง ผมทำอะไรให้คุณรำคาญหรือไม่พอใจหรือเปล่า” 

    “เปล่า” 

    “งั้นถ้ามีเรื่องไม่สบายใจคุณเล่าให้ผมฟังได้นะ ระบายกับผมก็ได้ผมพร้อมจะรับฟัง” กัสพูดเสียงใสค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับจ้องมองสบตาอีริคไปด้วย 

    “เฮ้อ เพราะนายเป็นแบบนี้ไงคนอื่นถึงได้ชอบเข้ามายุ่งวุ่นวายนัก” ดวงตากลมตาคู่สวยที่แหงนหน้ามองอีริคอย่างสงสัยว่าตัวเองไปทำอะไรตอนไหน แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามกลับไปกัสก็ถูกฉุดให้ลุกขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งซะแล้ว

    “นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าวันนี้ตัวเองเป็นจุดสนใจมากแค่ไหน” กัสพยักหน้าตอบ อีริคก็ใช้มือกอดล็อกเอวคอดไว้แล้วถามต่อ 

    “แล้วรู้หรือเปล่าว่าฉันไม่ชอบ” คราวนี้กัสส่ายหัวปฏิเสธ 

    “เด็กโง่” 

    “อ๊ะ! คุณดีดหน้าผากผมทำไมผมเจ็บนะ”

    “เพราะนายมันไม่รู้อะไรเลยไง” ถึงตรงนี้อีริคก็ยังแอบสงสัยว่ากัสเคยทำงานแบบนั้นทำไมถึงดูไม่ทันคนเอาซะเลย 

    “แล้วผมต้องรู้อะไรครับ คุณก็บอกสิ” เอามือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ พร้อมกับมองอีริคอย่างงอนๆ

    “ที่ฉันช่วยนายมาจนถึงป่านนี้ นายคิดว่าเพราะฉันตั้งใจจะโปรดสัตว์จริงๆ ใช่ไหม” 

    “คิดว่า…ไม่ครับ” 

    “ก็ใช่ไง เพราะนายทำให้ฉันสนใจ ฉันเลยอยากลองค้นหาว่าตัวตนนายแท้จริงแล้วมันเป็นยังไง” 

    “แล้วเป็นยังไงล่ะครับ” 

    “ก็...ชอบไง” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×