ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : โซราเรีย ตอน ปะทะ!?!
โซราเรีย ตอนปะทะ!?!
ระหว่างทางที่ทั้ง 7 มุ่งหน้าไปนั้น เต็มไปด้วยความเงียบสงัดจากสองข้างทาง ยิ่งถ้าไม่รวมสองคนที่เด็กสุด ที่มักจะเถียงกันเป็นระยะๆ โดยพี่ชายเคอาร์และพี่สาวเซร่าคอยห้ามอยู่
“เอาล่ะ เชิญๆพวกท่านเข้ามากันเลย”มูลลาฟท์เอ่ย เซฟาร่ามองไปรอบๆ ตัวบ้านที่เป็นไม้หลังงาม ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบอันใดจากสงครามย่อยๆของเหล่าปิศาจเมื่อกี้ บ้านสองชั้น ภายนอกสวยเช่นนี้ ภายในจะเป็นเช่นไร?เซฟาร่านึก ก่อนผลักไลค์ให้เข้าไป โดยตนเองเดินเข้าเป็นคนสุดท้าย
ภายในนั้นต่างจากภายนอกเล็กน้อย พื้นไม้ที่คัดเงา เข้ากันกับพรมสีแดงที่ปูยาวเหยียด บนผนังมีรูปภาพมากมาย ทั้งรูปคนที่เซฟาร่ารู้จักและไม่รู้จัก
ตอนนี้ทั้ง 7 ได้มายืนในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว
“เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจะเข้าเรื่องกัน”มูลลาฟท์เอ่ย แล้วมีหรือที่จะไม่มีใครสนใจ
“เรื่องที่ข้าได้กล่าวไปในตอนเมื่อกี้นั้น เป็นเพียงเรื่องราวย่อๆ ที่คนเฒ่าคนแก่รู้กันอย่างดี
“แต่เรื่องที่ข้าจะกล่าวต่อไปนั้น พวกท่านโปรดตั้งใจฟังให้ดี นี้คือภารกิจอันดับแรกที่ท่านต้องทำ”
ทุกคนดูเหมือนจะใส่ใจในการฟังเป็นพิเศษ น้ำที่นำมาถูกเสิร์ฟไว้จึงแทบไม่มีใครดื่ม มีเพียงเซฟาร่า ไลค์ มาเอล และเคอาร์เท่านั้นที่ดื่มอย่างกระหาย คงเพราะว่าต้องพูดมาตลอดทาง
“ภารกิจแรก”มูลลาฟท์เอ่ยเสียงดัง ทั้งสี่คนที่ดื่มน้ำอยู่จึงหยุดฟัง คงมีแต่ไลค์กระมั้งที่หยุดในท่าแก้วคาปาก
“พวกท่านจะต้องเดินทางไปยังกลางป่ามายา เพื่อพบท่านเกเดล ผู้เป็นคนมอบภารกิจต่อไป ท่านผู้นี้จะอยู่ในใจกลางของป่า พวกท่านอาจถูกทดสอบ เพื่อที่ว่า ท่านจะได้รู้ทิศทางในการออกจากป่าและสิ่งที่ต้องทำในกาลต่อไป”
เงียบ.....
ทุกคนไม่พูดหรือเอ่ยอย่างไร ไม่มีการเคลื่อนไหว(ยกเว้นไลค์ที่วางแก้วน้ำลงแล้ว) ทุกคนหยั่งคิดไปถึงการที่ต้องผจญในป่ามายา มหาป่าสุดยอดแห่งความโหด
ป่ามายา เป็นป่าที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ตั้งอยู่ตรงทางเข้า-ออกของหมู่บ้าน ดังนั้น จึงมีน้อยคนนักที่ออกจากทางที่นี้ได้ เพราะส่วนใหญ่คนจะไปออกทางทิศใต้เสียมากกว่า ยอมอ้อมไปไกลกว่านับสิบกิโลฯ แต่นั้นก็เพื่อความปลอดภัยและความต้องการที่จะเห็นแสงในยามเช้าต่อไป
ในป่ามายานั้นขึ้นชื่อเรื่องมอนสเตอร์ร้ายกาฬมากมาย อีกทั้งยังมีต้นไม้กินคน ทิศล้วงลอก และที่ขึ้นชื่อมากอีกอันคือ แม่น้ำทั้ง 3 ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่มีคนกล่าวกันว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ แม่น้ำทั้งสามสายคือ
1.เฟลจีธอล แม่น้ำไฟ
2.สติกส์ แม่น้ำสาบานของเทพทั้งปวง ซึ่งกล่าวกันว่า ตัวลำธารนั้นมีส่วนผสมของเลือดเทพ ใครดื่มแล้วจะมีชีวิตอมตะ
และ 3.ลีธี แม่น้ำแห่งความลืม หรือแม่น้ำล้างความจำ ใครที่เผลอไปดื่มเข้า ความทรงจำตั้งแต่เกิดมาจะหายไปหมด ซึ่งจะทำให้ไปพบกับแม่น้ำลึกลับที่มีเซอร์เบอรัส หมาสามหัวเฝ้าประตูอยู่ แม่น้ำนั้นมีชื่อเรียกว่า ทาร์ทะรัส{ Tartarus }
“แล้วเราจะไปเจอกันที่ไหน”เซฟาร่าเอ่ยทำลายความเงียบ ความจริงแล้ว เซฟาร่านั้นไม่อยากจะไปเท่าไหร่ แต่เธอเป็นคนรักการผจญภัย พอๆกับการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกเลยว่าเธอไม่ปฏิเสธสิทธิพิเศษนี้หรอก แต่ที่เธอห่วงคือ หลุมศพของพี่ชายและพ่อแม่ของเธอ
“นั้นสิครับ”ไลค์เอ่ยเสียงเบาๆ ตัวเขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการผจญภัย แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งพ่อแม่ไว้ แล้วนี้ถ้าเขาไม่อยู่ แล้วปิศาจมาอาละวาด พ่อแม่เขาจะเป็นเช่นไร
“เป็นตอนบ่ายๆดีกว่า ข้าชอบแสงแดด”เสียงดังมาจากเคลไล หนุ่มฮันเตอร์ผู้เป็นนายไวเปอร์สัตว์ตัวฉกาจ
“ไปตอนเช้าไม่ดีกว่าหรือ?เราจะได้มีแสงสว่างในป่า เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์บางพวก”ราเชล สาวนักบวชร่างบางเอ่ยอย่างมีเหตุผล ทำให้หลายๆคนคุ้นคิดทันที
“ข้าว่าไม่ดีหรอก เปลื้องอาหารเปล่าๆ ทั้งกลางวันและเย็น ข้าคิดว่าไปหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จสักพักแล้วออกเดินทางเสียดีกว่า ส่วนเรื่องสัตว์ร้ายที่ออกอาละวาดในยามมืดนั้น ถ้าท่านไม่เก่งพอที่จะใช้เวทย์แสงในการนำทาง ข้าว่าท่านก็อยู่ที่นี้เสียก็ได้”เซฟาร่าเอ่ยเสียงกระด้าง เธอไม่ชอบหน้านักบวชสาวคนนี้เท่าไหร่ \'ไม่มีหัวคิด’นั้นคือสิ่งที่เซฟาร่าคิดในตอนนี้
“ท่านจะหาว่าข้าไม่เก่งงั้นหรอ?”ราเชลเริ่มปะทะเสียงกับเซฟาร่า ชั้นเชิงมันต่างกันไอ้หนู!
“ท่านพูดเอง เออเองนี้ คนเรามักจะรู้จักตัวเองมากกว่าใคร หรือท่านว่าไม่จริง?”เซฟาร่าเอ่ยกลับ น้ำเสียงพูดทีเล่นทีจริง ก่อนยักคิ้วให้นักบวชสาว ราเชลหน้าแดงด้วยความโกรธ ในขณะที่เซฟาร่ายิ้มแก้มแทบปริ เรื่องแกล้งคน เธอละถนัดนัก ตอนนี้แทบทุกคนในห้องได้นั่งดูการปะทะคารมของสองสาวในกลุ่ม คนหนึ่งเป็นนักบวชสาวสวยร่างบาง พูดง่ายๆเหมือนฝ่ายธรรมะ ในขณะที่อีกฝ่ายเป็น นักฆ่าสาวและจอมโจรไร้เงา ที่มีค่าหัวหลายนัก แถมคารมดูจะเป็นต่อเสียอีก!!
“เอาล่ะ พวกท่านอย่าพึ่งทะเลาะกัน”มูลลาฟท์เอ่ยเสียงห้าม ขณะที่ราเชลเริ่มที่จะเรียกพลังเวทย์ของตนออกมา
“ข้าเห็นด้วยกับเซร่า”เคอาร์เอ่ย
“หนู/ผม ด้วย!!”มาเอลและไลค์เอ่ยพร้อมกัน (และก็เกิดสงครามปะทะน้ำลายของทั้งคู่)
“ข้าเห็นด้วย”เคลไลเอ่ย เพราะเวลาก็ไม่ได้ต่างจากที่เขาต้องการมากนัก
“เอาไงเอากัน”เสียงของราสดัง ตาของเขายังคงเหม่อลอยไปเรื่อยๆ
“แต่ข้าไม่เห็นด้วย!!!”ราเชลเอ่ย ก็มันเรื่องอะไรกันที่พวก ‘ไม่เอาถ่าน’พวกนี้จะมาใช้ให้เธอใช้เวทย์เพื่อพวกมัน ไม่มีวัน!!
“เสียงเป็นเอกฉันท์ ถ้างั้นท่านก็อยู่ที่นี้สิ ดีเหมือนกันนะ ไม่เปลื้องของ”เซฟาร่าเอ่ยลอยๆ ทำให้ราเชลกำมือแน่น
“ก็ได้ย่ะ!”แล้วราเชลก็เดินปึงปังออกจากบ้านหลังนี้ไป
“แล้วเจอกัน”เสียงของเคลไลและราสเอ่ยขึ้นเกือบพร้อมๆกัน ทั้งคู่มองหน้ากัน ก่อนเดินออกไปพร้อมๆกัน
“จอมโจรลาละ”ว่าแล้วเซฟาร่าก็หายไปเหลือไวแต่หมอกบางๆ ที่ค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“ผมไปก่อนนะครับ”ว่าแล้วไลค์ก็เดินออกไป
“ผมขอตัว ไปเร็วมาเอล”เคอาร์และมาเอลก้มหัวให้มูลลาฟท์ก่อนออกจากบ้านหลังนี้
ทิ้งคนแก่ที่นั่งถอนหายใจ นั่งพึมพำคนเดียวก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องนอน
                                                                ‘จะรอดไม่ล่ะเนี้ย เฮ้อ’
ระหว่างทางที่ทั้ง 7 มุ่งหน้าไปนั้น เต็มไปด้วยความเงียบสงัดจากสองข้างทาง ยิ่งถ้าไม่รวมสองคนที่เด็กสุด ที่มักจะเถียงกันเป็นระยะๆ โดยพี่ชายเคอาร์และพี่สาวเซร่าคอยห้ามอยู่
“เอาล่ะ เชิญๆพวกท่านเข้ามากันเลย”มูลลาฟท์เอ่ย เซฟาร่ามองไปรอบๆ ตัวบ้านที่เป็นไม้หลังงาม ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบอันใดจากสงครามย่อยๆของเหล่าปิศาจเมื่อกี้ บ้านสองชั้น ภายนอกสวยเช่นนี้ ภายในจะเป็นเช่นไร?เซฟาร่านึก ก่อนผลักไลค์ให้เข้าไป โดยตนเองเดินเข้าเป็นคนสุดท้าย
ภายในนั้นต่างจากภายนอกเล็กน้อย พื้นไม้ที่คัดเงา เข้ากันกับพรมสีแดงที่ปูยาวเหยียด บนผนังมีรูปภาพมากมาย ทั้งรูปคนที่เซฟาร่ารู้จักและไม่รู้จัก
ตอนนี้ทั้ง 7 ได้มายืนในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว
“เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจะเข้าเรื่องกัน”มูลลาฟท์เอ่ย แล้วมีหรือที่จะไม่มีใครสนใจ
“เรื่องที่ข้าได้กล่าวไปในตอนเมื่อกี้นั้น เป็นเพียงเรื่องราวย่อๆ ที่คนเฒ่าคนแก่รู้กันอย่างดี
“แต่เรื่องที่ข้าจะกล่าวต่อไปนั้น พวกท่านโปรดตั้งใจฟังให้ดี นี้คือภารกิจอันดับแรกที่ท่านต้องทำ”
ทุกคนดูเหมือนจะใส่ใจในการฟังเป็นพิเศษ น้ำที่นำมาถูกเสิร์ฟไว้จึงแทบไม่มีใครดื่ม มีเพียงเซฟาร่า ไลค์ มาเอล และเคอาร์เท่านั้นที่ดื่มอย่างกระหาย คงเพราะว่าต้องพูดมาตลอดทาง
“ภารกิจแรก”มูลลาฟท์เอ่ยเสียงดัง ทั้งสี่คนที่ดื่มน้ำอยู่จึงหยุดฟัง คงมีแต่ไลค์กระมั้งที่หยุดในท่าแก้วคาปาก
“พวกท่านจะต้องเดินทางไปยังกลางป่ามายา เพื่อพบท่านเกเดล ผู้เป็นคนมอบภารกิจต่อไป ท่านผู้นี้จะอยู่ในใจกลางของป่า พวกท่านอาจถูกทดสอบ เพื่อที่ว่า ท่านจะได้รู้ทิศทางในการออกจากป่าและสิ่งที่ต้องทำในกาลต่อไป”
เงียบ.....
ทุกคนไม่พูดหรือเอ่ยอย่างไร ไม่มีการเคลื่อนไหว(ยกเว้นไลค์ที่วางแก้วน้ำลงแล้ว) ทุกคนหยั่งคิดไปถึงการที่ต้องผจญในป่ามายา มหาป่าสุดยอดแห่งความโหด
ป่ามายา เป็นป่าที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ตั้งอยู่ตรงทางเข้า-ออกของหมู่บ้าน ดังนั้น จึงมีน้อยคนนักที่ออกจากทางที่นี้ได้ เพราะส่วนใหญ่คนจะไปออกทางทิศใต้เสียมากกว่า ยอมอ้อมไปไกลกว่านับสิบกิโลฯ แต่นั้นก็เพื่อความปลอดภัยและความต้องการที่จะเห็นแสงในยามเช้าต่อไป
ในป่ามายานั้นขึ้นชื่อเรื่องมอนสเตอร์ร้ายกาฬมากมาย อีกทั้งยังมีต้นไม้กินคน ทิศล้วงลอก และที่ขึ้นชื่อมากอีกอันคือ แม่น้ำทั้ง 3 ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่มีคนกล่าวกันว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ แม่น้ำทั้งสามสายคือ
1.เฟลจีธอล แม่น้ำไฟ
2.สติกส์ แม่น้ำสาบานของเทพทั้งปวง ซึ่งกล่าวกันว่า ตัวลำธารนั้นมีส่วนผสมของเลือดเทพ ใครดื่มแล้วจะมีชีวิตอมตะ
และ 3.ลีธี แม่น้ำแห่งความลืม หรือแม่น้ำล้างความจำ ใครที่เผลอไปดื่มเข้า ความทรงจำตั้งแต่เกิดมาจะหายไปหมด ซึ่งจะทำให้ไปพบกับแม่น้ำลึกลับที่มีเซอร์เบอรัส หมาสามหัวเฝ้าประตูอยู่ แม่น้ำนั้นมีชื่อเรียกว่า ทาร์ทะรัส{ Tartarus }
“แล้วเราจะไปเจอกันที่ไหน”เซฟาร่าเอ่ยทำลายความเงียบ ความจริงแล้ว เซฟาร่านั้นไม่อยากจะไปเท่าไหร่ แต่เธอเป็นคนรักการผจญภัย พอๆกับการต่อสู้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกเลยว่าเธอไม่ปฏิเสธสิทธิพิเศษนี้หรอก แต่ที่เธอห่วงคือ หลุมศพของพี่ชายและพ่อแม่ของเธอ
“นั้นสิครับ”ไลค์เอ่ยเสียงเบาๆ ตัวเขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการผจญภัย แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งพ่อแม่ไว้ แล้วนี้ถ้าเขาไม่อยู่ แล้วปิศาจมาอาละวาด พ่อแม่เขาจะเป็นเช่นไร
“เป็นตอนบ่ายๆดีกว่า ข้าชอบแสงแดด”เสียงดังมาจากเคลไล หนุ่มฮันเตอร์ผู้เป็นนายไวเปอร์สัตว์ตัวฉกาจ
“ไปตอนเช้าไม่ดีกว่าหรือ?เราจะได้มีแสงสว่างในป่า เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์บางพวก”ราเชล สาวนักบวชร่างบางเอ่ยอย่างมีเหตุผล ทำให้หลายๆคนคุ้นคิดทันที
“ข้าว่าไม่ดีหรอก เปลื้องอาหารเปล่าๆ ทั้งกลางวันและเย็น ข้าคิดว่าไปหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จสักพักแล้วออกเดินทางเสียดีกว่า ส่วนเรื่องสัตว์ร้ายที่ออกอาละวาดในยามมืดนั้น ถ้าท่านไม่เก่งพอที่จะใช้เวทย์แสงในการนำทาง ข้าว่าท่านก็อยู่ที่นี้เสียก็ได้”เซฟาร่าเอ่ยเสียงกระด้าง เธอไม่ชอบหน้านักบวชสาวคนนี้เท่าไหร่ \'ไม่มีหัวคิด’นั้นคือสิ่งที่เซฟาร่าคิดในตอนนี้
“ท่านจะหาว่าข้าไม่เก่งงั้นหรอ?”ราเชลเริ่มปะทะเสียงกับเซฟาร่า ชั้นเชิงมันต่างกันไอ้หนู!
“ท่านพูดเอง เออเองนี้ คนเรามักจะรู้จักตัวเองมากกว่าใคร หรือท่านว่าไม่จริง?”เซฟาร่าเอ่ยกลับ น้ำเสียงพูดทีเล่นทีจริง ก่อนยักคิ้วให้นักบวชสาว ราเชลหน้าแดงด้วยความโกรธ ในขณะที่เซฟาร่ายิ้มแก้มแทบปริ เรื่องแกล้งคน เธอละถนัดนัก ตอนนี้แทบทุกคนในห้องได้นั่งดูการปะทะคารมของสองสาวในกลุ่ม คนหนึ่งเป็นนักบวชสาวสวยร่างบาง พูดง่ายๆเหมือนฝ่ายธรรมะ ในขณะที่อีกฝ่ายเป็น นักฆ่าสาวและจอมโจรไร้เงา ที่มีค่าหัวหลายนัก แถมคารมดูจะเป็นต่อเสียอีก!!
“เอาล่ะ พวกท่านอย่าพึ่งทะเลาะกัน”มูลลาฟท์เอ่ยเสียงห้าม ขณะที่ราเชลเริ่มที่จะเรียกพลังเวทย์ของตนออกมา
“ข้าเห็นด้วยกับเซร่า”เคอาร์เอ่ย
“หนู/ผม ด้วย!!”มาเอลและไลค์เอ่ยพร้อมกัน (และก็เกิดสงครามปะทะน้ำลายของทั้งคู่)
“ข้าเห็นด้วย”เคลไลเอ่ย เพราะเวลาก็ไม่ได้ต่างจากที่เขาต้องการมากนัก
“เอาไงเอากัน”เสียงของราสดัง ตาของเขายังคงเหม่อลอยไปเรื่อยๆ
“แต่ข้าไม่เห็นด้วย!!!”ราเชลเอ่ย ก็มันเรื่องอะไรกันที่พวก ‘ไม่เอาถ่าน’พวกนี้จะมาใช้ให้เธอใช้เวทย์เพื่อพวกมัน ไม่มีวัน!!
“เสียงเป็นเอกฉันท์ ถ้างั้นท่านก็อยู่ที่นี้สิ ดีเหมือนกันนะ ไม่เปลื้องของ”เซฟาร่าเอ่ยลอยๆ ทำให้ราเชลกำมือแน่น
“ก็ได้ย่ะ!”แล้วราเชลก็เดินปึงปังออกจากบ้านหลังนี้ไป
“แล้วเจอกัน”เสียงของเคลไลและราสเอ่ยขึ้นเกือบพร้อมๆกัน ทั้งคู่มองหน้ากัน ก่อนเดินออกไปพร้อมๆกัน
“จอมโจรลาละ”ว่าแล้วเซฟาร่าก็หายไปเหลือไวแต่หมอกบางๆ ที่ค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“ผมไปก่อนนะครับ”ว่าแล้วไลค์ก็เดินออกไป
“ผมขอตัว ไปเร็วมาเอล”เคอาร์และมาเอลก้มหัวให้มูลลาฟท์ก่อนออกจากบ้านหลังนี้
ทิ้งคนแก่ที่นั่งถอนหายใจ นั่งพึมพำคนเดียวก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องนอน
                                                                ‘จะรอดไม่ล่ะเนี้ย เฮ้อ’
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น