ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โซราเรีย เสียงเล่าขานแห่งเทพ

    ลำดับตอนที่ #5 : โซราเรีย ตอนปริศนาที่คิดไม่ออก ปัญหาใหม่ที่คาดไม่ถึงII

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 48


    โซราเรีย ตอน ปริศนาที่คลี่คลายไม่ออก กับปัญหาใหม่ที่คาดไม่ถึงII



    ข่าวร้ายของการสูญเสียครอบงำไปทั่วทุกมุมเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวการตายปริศนาของท่านหัวหน้าเมือง...พ่อของมาเอล



    ทุกคนที่รอดชีวิตทุกคนมารวมตัวกันที่กลางจัตุรัส ชาวบ้านทุกคน หน่วยรบทุกหน่วยมาร่วมกันไว้ทุกข์ ทุกคนโศกเศร้ามีเพียงสาวคนหนึ่งที่นั่งเล่นที่ต้นไม้สูงใหญ่ ต้นประจำของเธอ เซฟาร่านั้นเอง



    ทุกคนร่วมกันร้องเพลงไว้ทุกข์กัน ท่วงทำนองทุกจังหวะเต็มไปด้วยเสียงโศกเศร้าและร้องไห้ และแน่นอนหนึ่งในนั้นคือนายหญิงวัย 11 ปีที่เคยดีใจที่รอดชีวิต บัดนี้ดวงหน้างามเปื้อนน้ำตาไหลเป็นทาง โดยมือข้างหนึ่งถือช่อดอกไม้สีขาวเพื่อให้ท่านพ่อของตน แต่มืออีกข้างนั้นกุมชายผ้าของผู้เป็นพี่ชายเอาไว้



    เซฟาร่าดูเหมือนจะแปลกใจกับชายคนนั้น ยิ่งเธอมอง หัวใจที่นิ่งเฉยกลับยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าขึ้นสี เธอรีบถอนสายตาทันที เมื่อรู้ตัวว่า ชายคนนั้นก็มองมาที่เธอเหมือนกัน



    ตอนนี้ เสียงเพลงไว้อาลัยได้จบลงแล้ว ชายวัยชราคนเดินออกมากลางจัตุรัส ซึ่งจัดพอเป็นพิธี ชายคนนั้นมีผมและหนวดเครายาวสีขาว และที่สำคัญดูมีวุฒิการศึกษาพอสมควร เขาคนนี้เรียกสายตาหลายๆคนหันมามอง รวมทั้งจอมโจรไร้เงาด้วยเช่นกัน



    “ข้า มูลลาฟท์ เป็นที่ปรึกษาของท่านคาเอล”มูลลาฟท์มองไปรอบๆก่อนเอ่ยวาจาต่อไป “ในเวลานี้ พวกท่านบางคนที่รู้เรื่องนี้ดี ข้าก็มิว่าอะไร แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ข้าจะกล่าวสั้นๆได้ใจความให้ฟัง”



    “ดินแดนคอเรียนของเราเป็นชนเผ่าที่มีมานาน และก่อตั้งโดยผู้วิเศษ เมื่อท่านผู้นั้นเสียชีวิตลง ท่านได้มอบพลังเฮือกสุดท้ายไว้ เพื่อเป็นพลังป้องกันและดูแล ไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับดินแดนแห่งนี้ เนื่องมาจาก ดินแดนของเรา ตั้งอยู่ ณ ทางสู่ยมโลก”



    เกิดเสียงฮือฮาทันทีทันใด แม้แต่เซฟาร่ายังคงฉงนกับเรื่องใหม่ๆที่พึ่งรับรู้ เธอขยับตัวเบาๆ เพื่อจะได้ยินเสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเพื่อย่ำกับตัวเองว่า ดินแดนที่เคยอาศัยตั้งแต่จำความได้ เป็นดินแดนสู่ทางยมโลก



    “จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้ก่อผลเสียมากมาย เราคาดการได้เพียงอย่างเดียวว่า เวทมนตร์ที่ปกป้องดินแดนแห่งนี้มานับเกือบร้อยปี ได้อ่อนแรงลง จนเหล่าอสูรและปิศาจออกมาจากยมโลก ตรงมายังดินแดนของเรา เพื่อต้องการเห็นความโศกเศร้าเสียใจและความเคียดแค้น ซึ่งเป็นอาหารที่มันชอบมากที่สุด”



    “ซึ่งมันก็ได้รับเต็มๆ”เซฟาร่ารุดปากบ่นพึมพำออกมา โดยไม่ทันสังเกตว่า มูลลาฟท์และชายนามเคอาร์ได้ยินเสียงนั้นชัดเจน



    “ใช่แล้ว พวกมันได้รับเต็มๆ”มูลลาฟท์เอ่ย ราวกับย่ำกับเซฟาร่า จนเธอกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่



    “และแล้วก็ถึงเวลา ที่พวกเราจะเรียกเหล่าผู้กล้าในตำนาน ‘ผู้กล้าแห่งคอราเรียน’”



    เกิดเสียงฮือฮาและพึมพำไปทั่ว เซฟาร่าก็พอรู้เรื่องกับเขาในเรื่องผู้กล้าที่ว่านี้ ผู้กล้าจะถูกเลือกจากการนำถาดน้ำมันทั้งหกมาวางเป็นวงกลม โดยตรงกลางเป็นเพลิงไฟ ถ้าปีนี้มีผู้กล้า น้ำมันจะติดไฟและเป็นรูปร่างสัญลักษณ์ก่อนที่จะปรากฏชื่อผู้กล้าเหล่านั้น



    “เราจะคัดเลือกผู้กล้ากัน ณ บัดนี้”มูลลาฟท์เอ่ยเสียงแผ่ว ราวกับว่าเขาเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อว่าจะมีผู้กล้าหลงเหลือหลังจากสงครามย่อยๆเมื่อเวลามรณะที่ผ่านมา



    เหล่าทหารนับสิบต่างรีบรุดไปยกถาดน้ำมันในห้องเก็บสมบัติ มูลลาฟท์ให้เคอาร์ ลูกชายของอดีตหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนจุดไฟตรงกลาง ชายคนนั้นไม่ต้องเดินไปไหนเลย เขาแค่พึมพำคำพูดร่ายคาถา จนไฟติดขึ้นมาเอง



    “ตอนนี้เราพร้อมแล้ว”มูลลาฟท์เอ่ย ก่อนที่จะไปยืนหน้าถาดทั้งหกกับอีกหนึ่งกองไฟ ก่อนร่ายคำพูด



                   ‘เหล่าพองข้ามนุษย์ผู้รับบาป            ต้องผลัดพรากจากคนที่เคยรัก

                    นับวันนี้มาแล้วซึ่งความหวัง             ของทวยท่านโปรดบอกชื่อเหล่าผู้กล้า

                    ผู้ที่จะมาปกป้องแผ่นดินเกิด    มิให้เหตุอุบัติร้ายในเมืองนี้

        ดินแดนแห่งมนตราผู้ภักดี    มิขาดไร้ผู้กล้าเสมอไป’



    ทันตาเห็น ลมก็พัดกระโชกมายกใหญ่ ทันใดนั้น!



              ถาดน้ำมันใบแรกก็ปรากฏชื่อผู้จะมาปกป้องแผ่นดินเกิด หรือคนที่โชคร้ายที่ต้องเดินทางผ่านมรสุมที่ไม่มีใครเคยรอดมาได้!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×