ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ONLY.

    ลำดับตอนที่ #1 : You are one of my few weaknesses.

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 64


    You are one of my few weaknesses.
    FLOWER. ]

    ดอกไม้งามดอกนั้น ช่างน่าอภิรมย์นัก

    คำกล่าวเปรียบเทียบมากมายที่มีต่อดอกไม้ มักมาในรูปแบบหญิงงามที่ดูสวยเลอค่าเมื่อออกดอก แต่ก็จะเหี่ยวเฉาลงเมื่อยามแก่ชรา ณ เวลานั้น ความงามก็คงค่อย ๆ หมดสิ้นไป หรืออาจจะเป็นไม้ประดับ ไม้ในกระถาง จะอะไรก็ตาม

    เด็กสาวคนนั้น ก็เปรียบเสมือนกับดอกไม้เหมือนกัน เธอเป็นดอกไม้งามที่มีค่า และน่าครอบครองหาดแต่กลับมีคนใจร้าย ที่เด็ดดอกไม้ดอกนั้นออกไปจากความอุดมสมบูรณ์จากต้น ปล่อยมันทิ้งลงไปในที่ที่อาจมิใช่ที่ของมันด้วยเพาะความเอาแต่ใจของตัวเอง

    ช่วงชีวิตของอาซามิ อากิโกะ คงสามารถกล่าวเปรียบเปรยได้แบบนั้น

    เด็กสาวผู้ที่เป็นเหมือนกับดอกไม้งาม แต่กลับด้อยค่า เมื่อมีคนใจร้ายเข้ามาในชีวิต

     

    อาณาจักรอาซามิ อาณาจักรที่ซึ่งเป็นชื่อของนามสกุลของราชวงศ์ที่ปกครองของที่นั่น เป็นเสมือนกับจุดศูนย์กลางของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่ที่องค์ราชาทรงพบรักกับหญิงสามัญชน—ไปจนถึงเรื่องวุ่นวายอื่น ๆ ที่ตามเข้ามาอย่างช้า ๆ

     

    โฮเซ ยูเมะ เป็นหญิงงามที่ซึ่งมาจากต่างเมือง รูปลักษณ์ของเธอเป็นที่ดึงดูดสายตาแก่เหล่าชายหนุ่มในเมืองแทบทุกคน เธอย้ายเข้ามาในอาณาจักรแห่งนี้ได้เพียงไม่นานก็เริ่มมีชายหนุ่มเข้ามารายล้อมเสียแล้ว

    เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีผู้หนึ่ง เขาเป็นพ่อค้าที่มีสัมพันธ์อันดีต่ออาณาจักรนี้ และอาณาจักรใกล้เคียงอีกมากมาย แน่นอนว่าชื่อเสียงของตระกูลก็ย่อมเป็นที่รู้จักอยู่พอสมควร ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยมากมายถึงขึ้นเงินท้องล้นฟ้า แต่ก็ถือว่าเธอมีฐานะที่ดีพอตัว การแต่งตัว และมารยาททางสังคมก็จัดว่ามีอย่างครบถ้วน

    ในครานั้น ราชาของราชอาณาจักร อาซามิ ทาคายูกิ มิได้สนใจอะไรกับข่าวที่ว่ามีหญิงงามคนหนึ่งย้ายเข้าเมืองมากับผู้เป็นพ่อเลย ด้วยความที่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอยู่แล้ว การย้ายเข้าเมืองมานับเป็นเรื่องปกติที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของราชา หากแต่เกี่ยวข้องกับการปกครองที่เขาต้องทำต่อไปเสียมากกว่า

    จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน มันเกิดขึ้นเอาตอนที่พระองค์ทรงงานที่ต่างเมือง

    ในเพลานั้น องค์ราชาเสด็จกลับมายังอาณาจักรของตนในเวลาที่ดึกมากแล้ว รถม้ากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ตัวพระราชวังโดยใช้ทางลัดที่ไปได้ง่ายกว่า ที่คนขับรถม้าทำเช่นนั้น ก็เพราะได้รับคำสั่งจากผู้เป็นราชา ว่าจะต้องกลับถึงราชวังให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะให้องค์ราชาได้พักผ่อนเสียหน่อย

    หลังจากที่ตัดสินใจไปเช่นนั้นแล้ว มันก็ดูเหมือนจะเป็นโชคชะตา

    เพราะในยามนั้นเอง ยูเมะ ออกมาข้างนอก เพื่อที่จะวิ่งตามสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้—เพราะเชือกที่คล้องมันเอาไว้ขาด มันจึงวิ่งเล่นซะจนออกห่างจากตัวบ้าน ส่งผลให้หญิงสาวที่ซึ่งเป็นเจ้าของของมันต้องวิ่งออกมาตาม

    โฮ่ง!

    เฮ้! อะไรเนี่ย!” และคงเป็นความบังเอิญที่มันไปตัดหน้ารถม้าเข้า ทำให้ตัวรถหยุดชะงัก คนขับร้องอุทานเสียงดังจนทำให้ผู้เป็นราชาที่หลับอยู่ด้านในรับรู้ถึงเหตุวุ่นวาย เขาตื่นออกมาจากห้วงนิทราเอาตอนที่ได้ยินเสียงของคนขับรถม้าต่อว่าใครสักคนอยู่

    ชายหนุ่มยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างรถม้าเพียงเล็กน้อย เพื่อที่จะลอบสังเกตเหตุการณ์เหล่านั้น ความง่วงงุนทำให้เขามองเห็นอะไรไม่ชัดนักในคราแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น และสิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาของเขา ก็คือหญิงงามคนนั้น

    ผู้หญิงที่อุ้มสุนัขตัวเล็กดูซุกซนในอ้อมแขน ดวงหน้างดงามหมองลงเมื่อถูกคำต่อว่าด่าทอโถมเข้าใส่ คนตัวเล็กก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เส้นผมสีดำขลับดั่งเงารัตติกาลเคลื่อนตัวลงมาปรกดวงหน้างามนั้น อันเป็นสิ่งที่ทำให้ราชาขัดใจนัก

    ทั้งที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้า แต่ความสงสัยก็ตกตะกอนในหัวใจของราชาหนุ่มมากเสียจนส่งแรงผลักดันทำให้เขาลงมาจากรถม้า คนขับที่กำลังอ้าปากจะต่อง่าต่อพลันหยุดชะงัก แล้วหันไปสนใจราชาที่ตนเคารพแทน ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร องค์ราชาก็สาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นเสียแล้ว

    เจ้าน่ะ เงยหน้าขึ้นเสียสิ จะว่าอะไรไหม ถ้าข้าอยากจะเห็นใบหน้าของเจ้าชัด ๆ เสียหน่อย?” องค์ราชากล่าวเช่นนั้น ซึ่งมันก็สร้างความประหลาดใจให้กับเธออยู่พอสมควรเลยล่ะ ในเมื่อมีเสียงของใครอื่นนอกเสียจากเสียงของคนขับรถม้าแทรกเข้ามา

    พลันความสงสัยแล่นวาบเข้ามาในใจ ทำให้หล่อนจำต้องเงยหน้าขึ้น มิใช่เพียงคำสั่ง แต่เป็นเพราะความที่หล่อนเองก็สงสัยในน้ำเสียงของเขาผู้นั้นด้วย—น้ำเสียงที่ทั้งฟังดูอ่อนโยนอบอุ่น และช่างแสนน่าหลงใหล

    ดวงตาของหล่อนเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมเทาดูแปลกพิลึก แต่กลับงดงามราวกับไข่มุกล้ำค่า แก้วตาคู่นั้นสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินของราชาหนุ่ม ภายในชั่วจังหวะเดียว ก็ราวกับว่าเวลาหยุดนิ่ง ทุกสิ่งพลันเงียบสงัดลง

    คงจะเรียกว่ารักแรกพบได้เลยกระมัง

    ยูเมะเป็นหญิงงามสามัญชนที่มีฐานะอยู่บ้างนิดหน่อย ส่วนเขา—ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ที่แม้จะเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก ๆ ทว่าตัวเขาเองก็เข้มแข็ง รวมทั้งมากไปด้วยความสามารถ จึงสามารถปกครองอาณาจักรมาได้ยาวจนนานจนถึงทุกวันนี้

    พวกเขาน่ะ แตกต่างกัน ทั้งฐานะ ตำแหน่งยศถา แก้วแหวนเงินทอง หรือแม้แต่ชื่อเสียงเลื่องลือ หากแต่ เพียงแค่แรกพบสบตา พวกเขากลับมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันเสียแล้ว และสิ่งนั้นมันก็คือหัวใจยังไงล่ะ

    หัวใจที่เต้นกระหน่ำรัว ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ตรอกซอยที่ค่อนข้างมือ คบไฟที่ส่องแสงสลัว อากาศเย็นเชียบแต่ก็เต็มไปด้วยความเงียบที่ขลับเคลื่อนเพียงเสียงของหัวใจ ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็หลุดออกจากภวังค์เมื่อคนขับรถม้าโพล่งขึ้นมาว่ามียุงกัดเขา ทั้งคู่หัวเราะ แต่ก็ยังไม่ละสายตาออกจากกันไปไหน

    ข้าว่าข้าเคยเห็นท่านมาก่อนนะฝ่ายยูเมะรีบพูดก่อน

    แน่นอนสิ ในเมื่อเจ้าอยู่ในอาณาจักรนี้ เจ้าย่อมต้องเคยเห็นข้าฝ่ายราชาทาคายูกิเอ่ยต่อ ก็ในเมื่อข้าเป็นผู้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้นี่เป็นข้าซะอีก ที่แปลกใจนักที่ไม่เคยพบเจอหญิงงามเช่นเจ้า

    ข้าเป็นเพียงสามัญชนหล่อนตอบยิ้ม ๆ รู้สึกดีไปกับความเป็นกันเองของราชาผู้นี้ ข้าต่างหากที่ต้องประหลาดใจ ที่จู่ ๆ ก็ได้พบกับท่านในค่ำคืนอันเงียบสงัดเช่นนี้ ท่านคงทรงงานมาอย่างหนักมาก

    มันคงเป็นโชคชะตากระมังราชาหนุ่มพูดต่อ รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ถึงงานของข้า จักทำให้ข้าเหนื่อยเสียจนสายตัวแทบขาด ทว่าในวันนี้ ข้าก็คิดว่า ข้าคงได้รับรางวัลแล้วล่ะ หลังจากที่ข้าไม่เคยขี้คร้านกับการทรงงานเลย

    หากข้าสามารถเป็นรางวัลของท่านได้ ข้าก็ดีใจรอยยิ้มของยูเมะปรากฏขึ้นเช่นกัน

     

    โอ้ ใช่—นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความแรกแสนสวยงาม ของราชาผู้ยิ่งใหญ่กับหญิงสามัญชนผู้มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา

    ชื่อของยูเมะนั้นแปลกว่าความฝัน หรือภาพลวง แล้วเธอก็งดงามดั่งภาพวาดในฝันจริง ๆ เสียด้วย อีกทั้งยังเป็นความฝันที่เต็มไปด้วยความงดงามอ่อนหวาน อ่อนโยน เป็นฝันดีที่ใคร ๆ ก็คงไม่อยากจะตื่นขึ้นมาเลยทีเดียว

    เวลาผ่านไป องค์ราชาได้พานพบหญิงสาวคนนั้นบ่อยขึ้น ทั้งตั้งใจและบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางผ่านทางเดิมซ้ำ ๆ หรือตั้งใจแอบมาหาด้วยตัวเอง หลายครั้งหลายคราว จนก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นมา

    โดยที่พวกเขาไม่ทันได้ระวังตัวเลย ว่าในยามที่พวกเขาเริ่มรักกัน มันก็กำลังมีภัยร้ายคืบคลานเข้ามาเช่นกัน—

     

    เมื่อตอนที่องค์ราชายังเด็กเขามีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่ง หญิงนางนั้น มีชื่อว่า อิโนะอุเอะ ซายากะ หญิงสาวผู้เป็นเจ้าหญิงคนเล็กจากอาณาจักรเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หล่อนออกจะมีนิสัยร้ายกาจและดื้อรั้นมกไปหน่อย แม้แต่ตอนที่เจอกับองค์ราชาครั้งแรก หล่อนก็ยังสำแดงนิสัยด้านแย่ ๆ ออกมามากเสียจนองค์ราชาปลื้มไม่ลง

    ทั้งเอาแต่ใจ โวยวาย ชอบกรีดร้องเสียงดัง ๆ และทุบตีเขาเมื่อไม่ได้ดั่งใจต้องการ

    ครานั้นองค์ราชาก็คิดหนัก เพราะเขาเดาว่าตัวเองคงไม่สามรถอยู่กับหล่อนได้แน่ ๆ ต่อให้เป็นคนใจเย็นเพียงใด แต่เล่นเจอคนแบบนี้เข้าไปก็คงตายเสียก่อนกระมัง เขาได้เข้าไปคุยกับพ่อแม่ของตนเพื่อที่จะขอยกเลิกการหมั้น

    พ่อแม่ของเขารับฟัง และเก็บกลับไปคิด ก่อนจะยินยอมยกเลิกให้แต่โดยดี แม้ว่าฝ่ายนั้นจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ก็ตาม เวลาผ่านไป หญิงสาวที่ชื่อซายากะก็เติบโตขึ้น หล่อนยังคงถูกผู้เป็นพ่อแม่ตามอกตามใจมากเสียจนเคยตัว การกระทำแย่ ๆ ของหล่อนยังไม่หมดไป อีกทั้งหล่อนยังนึกโมโหที่ราชาทรงยกเลิกการหมั้นกับเธออีก

    เธอไม่สำนึกเสียหรอกว่าตัวเองแท้ ๆ ที่เป็นคนผิด เธอกลับโกรธเกลียดราชาและคนที่ราชาดูท่าจะรักนางเสียมากกว่า

    ความคั่งแค้นก่อเกิดเป็นตะกอนในหัวใจ ที่ทำให้นางเกลียดสิ้นทุกอย่าง ตราหน้าว่าราชาผู้นั้นหักหน้าเธอ เพื่อที่จะไปหาหญิงสามัญชนนั่น—สักวัน เธอจะหาโอกาสเข้าไปแก้แค้นโดยแน่แท้

     

    วันเวลาผ่านไปองค์ราชาก็ได้แต่งงานกับหญิงสามัญชนอย่างยูเมะ

    แม้ว่าจะมีเสียงของประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็ยด้วยกับเรื่องนี้ แต่ราชาก็ยังคงยืนกรานในการตัดสินใจของตัวเอง ยูเมะไม่ใช่หญิงที่ฐานะต่ำตมขนาดนั้น แต่ก็เป็นเพียงสามัญอยู่ดีกระนั้นเขาก็รักเธอ เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่ยินยอมที่ปล่อยมือเธอไปเด็ดขาด

    ซายากะที่สวมหน้ากากว่าเป็นคนดีแล้มาร่วมงานด้วย เธอแสร้งทำตัวสุภาพ เรียบร้อย และอ่อนน้อมต่อหน้าราชา เพื่อให้เขาเชื่อ ว่าเธอน่ะ กลับตัวแล้วจริง ๆ แต่หารู้ไม่—นั่นน่ะ เป็นมารยาที่เธอลงทุนทำมันเพราะอยากได้ทั้งอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าอาณาจักรของตัวเอง และอยาจะแก้แค้นพวกคนที่เธอเกลียดเสียให้ได้

    ไม่มีใครรู้เรื่อนั้น—แม้แต่ตัวของยูเมะเองก็ไม่ทราบอะไรเลย เธอไม่รู้ตัวอะไรด้วยซ้ำ ในตอนที่ซายากะเข้ามาตีสนิท หญิงสาวที่มีจิตใจเมตตา และเป็นมิตรอยู่แล้วจึงไม่ได้คิดอะไร เธอไม่ได้มองซายากะในแง่ร้ายสักนิด ยูเมะคิดว่าซายากะก็คงเป็นเพื่อนที่ดีของราชา จึงยินยอมให้อีกฝ่ายเข้าหา และตีสนิทด้วย

    ถึงซายากะจะนิสัยเสียไปหน่อย แต่เธอก็ใจเย็นพอที่จะรอเวลาตอกกลับเอาคืนคนพวกนี้เสมอ เธอมาหาพวกเขาบ่อย ๆ ในยามที่มีโอกาส สนิทกับยูเมะและราชาทาคายูกิมากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้นจนพวกเขาไว้ใจ

    นานวันผ่านไปยูเมะได้ให้กำเนิดบุตรสาวผู้น่ารักคนหนึ่ง และเธอ ก็ตั้งชื่อให้กับเด็กน้อยคนนั้นว่า อากิโกะ—เด็กสาวผู้มีใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มคนนั้น เป็นเด็กสาวที่ได้รับความรัก และการเอาใจใส่ในการเลี้ยงดูอย่างเปี่ยมล้นเลยทีเดียว

    แม้จะมีบ้างที่กฎเกณฑ์และระเบียบการเรียนการสอนนั้นเคร่งครัด มันกดดันเด็กสาวหลายครั้ง แต่เธอก็ยังสู้ไหว เพราะพ่อแม่ของเธอ คอยให้กำลังใจเสมอเลย เรียกได้ว่าถึงจะเป็นบรรยากาศที่กดดัน แต่พ่อแม่ของเธอก็คอยอยู่ด้วยเสมอ นั่นทำให้เธอไม่เคยเหงา และไม่เคยรู้สึกแย่กับการเป็นเจ้าหญิงเลย

    วันเวลาผ่านไป เด็กสาวคนนั้นเติบโตขึ้น เธองดงามเหมือนกับผู้เป็นแม่ กิริยามารยาทก็เรียบร้อยเหมือนกันไม่มีผิด อาจจะมีบ้างที่ขี้กลัวไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับแย่อะไร พ่อแม่ของเธอพล่ามสอนในเรื่องของคุณธรรมและความดีงามมากมาย ส่งผลให้เด็กสาวซึมซับเอาคำสอนเหล่านั้นเข้ามาในหัว และฝังรากลึกลงไปตั้งแต่ยังเด็ก

    แม่ของเธอน่ะ เล่าเรื่องตอนที่เจอพ่อครั้งแรก แล้วก็เรื่องราวต่าง ๆ ที่ทั้งคู่ฝ่าฟันร่วมกันมาให้เธอฟังบ่อย ๆ เด็กสาวตัวน้อยที่ฟังอยู่ก็ได้แค่เคลิบเคลิ้ม และคิดเอาว่าในสักวัน เธอเองก็อยากจะมีคนแบบนั้นเขามาในชีวิตเสียบ้างจริง ๆ นะ

    อากิโกะอยู่กับแม่บ่อยมาก เธอจึงซึมซับความเป็นตัวตนของผู้เป็นแม่มาเยอะ ไหนจะเรื่องราวที่แม่เล่าให้เธอฟังอีก อา—ยิ่งเล่าเธอก็ยิ่งชื่นชอบ และขอให้คนเป็นแม่เล่าต่อเรื่อย ๆ เสมือนกับเป็นนิทานกล่อมไปแล้ว

    ช่วงช่วงชีวิตของอากิโกะน่ะ เติบโตมาอย่างสวยงาม ถึงจะไม่ค่อยได้ออกจากวังไปไหน แต่เหล่าคนใช้ต่างก็เอ็นดูเธอกันหมด เธอจึงไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ แต่มันก็มีบางครั้ง ที่เธอขอพ่อแม่ออกจากวังเพื่อไปเที่ยวเล่นเสียหน่อย แน่นอนว่าจะต้องมีคนใช้ตามติดไปด้วย

    แม้จะเป็นแบบนั้น แต่อากิโกะก็ได้เพื่อนต่างชนชั้นมาเยอะแยะเลย พวกเขาส่วนมากชอบเธอ (แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีอีกมากที่ไม่ชอบหน้าเธอเท่าไหร่) แล้วเธอก็มีความสุขที่มันเป็นแบบนั้น—เด็กสาวในวัยแค่หกขวบคิดแบบนั้น

     

    และแล้วครั้งหนึ่งเธอก็ได้พบกับเขา

    อากิโกะวิ่งเล่นอยู่สนด้านหลังของพระราชวัง ก่อนจะเผลอเดินตามลุกบอลที่ตกกลิ้งไปไกล ร่างเล็กเดินไกลออกมาจากสิ่งก่อสร้างหรูหรา ก่อนที่ลูกบอลจะหยุดลงเพราะชนเข้ากับกำแพงของวัง ทว่าในจังหวะที่เธอกำลังก้มเก็บมันขึ้นมานั้นเอง—

    โป๊ก!

    อะ—โอ๊ย!” เครื่องบินที่สลักจากไม้ และตัวปีกที่ทำจากกระดาษได้ล่อนลงมากระแทกเข้ากับศีรษะของเธอเข้าเต็ม ๆ แวบแรกเด็กสาวเกือบจะร้องไห้เสียแล้ว หากความสงสัยไม่หยุดเธอเอาไว้เสียก่อน

    นะนั่นใครเหรอ มีใครอยู่ตรงนั้นด้วยเหรอ?” มันเป็นเสียงของเด็กชายคนหนึ่งเด็กชายผู้ที่อยู่อีกฝั่งของกำแพงนั่น

    อะเอ๊ะ ก็ใช่น่ะสิ นี่มันวังของพ่อข้านะ จะให้ข้าอยู่ที่ใดเล่า เจ้านั่นแหละเป็นใคร เหตุใดจึงขว้างสิ่งของใส่ข้ากันเด็กสาวถามกลับ ขณะลอบมองตัวกำแพงสูงใหญ่ตระหง่าน แม้จะมีช่องระบายน้ำที่เป็นโครงเหล็กที่เป็นซี่ ๆ ด้านล่าง แต่เมื่อเธอก้มลงไปมอง เธอก็มองเห็นแค่เท้าของเด็กหนุ่มคนนั้นเท่านั้น

    วังของข้าอยู่ใกล้ ๆ นี้เอง แล้วข้าก็แค่ขอให้คนใช้พาข้าออกมายังลานกว้างนอกอาณาจักร เพื่อที่ที่ข้าจะได้เล่นของเล่นที่ข้าทำเองได้สะดวกโดยไม่มีใครรบกวนน่ะสิ เด็กหนุ่มคนนั้นให้คำตอบ ก่อนจะตามมาด้วยการพูดเสียงอ่อย ข้าไม่ค่อยชินกับการพูดคุยกับคนอื่นเท่าไหร่ ยิ่งถ้าข้าเล่นอะไรแบบนี้ในรั้วราชวัง พ่อแม่ข้าได้แต่ไถ่ถามแน่ ว่ามันมีประโยชน์อะไร

    ข้าว่ามันก็เอ่อ ดูสวยดีนะ ถึงมันจะเจ็บก็เถอะเด็กสาวตอบกลับ เฮ้ เจ้าช่วงก้มลงมาตรงช่องระบายหน่อยได้ไหม ข้อมองเห็นแต่เท้าของเจ้านานแล้วนะ

    อะ—อ้าว แล้วไยเจ้าจึงมองแต่เท้าของข้าล่ะ เจ้าก็บอกข้าก่อนสิเด็กหนุ่มตอกกลับมาก่อนจะยอมก้มลงมาแต่โดยดี ดวงหน้าของเด็กหนุ่มนั้นติดจะคมคาย แต่ก็มีแววตากับเส้นผมสีบลอนด์สว่างไล่สีลงมาที่ดูงดงามราวสตรี หากแต่มันกลับเป็นการสานรวมกันลงอย่างตัวกันอย่างน่าทึ่ง

    วินาทีนั้น อากิโกะก็ถึงกับหน้าแดงไปเลยล่ะ

    เจ้าชื่ออะไรเหรอ ฝ่ายเด็กหนุ่มค่อย ๆ เผยยิ้ม และเอ่ยถามก่อน

    อะอาซามิ อาซามิ อากิโกะเธอตอบเสียงสั่น แล้วนามของท่านล่ะ?”

    เคนมะเขาตอบ โคสุเมะ เคนมะ ยินดีที่ได้พบนะ

    ข้าก็เช่นกันอากิโกะตอบออกไปเช่นนั้น มันเป็นวันแรกที่เธอได้พบกับเขา ได้รู้ว่าเขาคือเจ้าชายจากอาณาจักรพันธมิตรใกล้ ๆ นี้ แล้วก็อายุมากกว่าเธอนิดหน่อย เขาแก่เดือนกว่า เธอจึงเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกเขาจาก เจ้ากลายเป็น ท่านเพื่อแสดงถึงความเคารพสักหน่อย—แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ดันติดปากจนแก้ไม่หายไปเสียได้

     

    เวลาล่วงเลยผ่านไป ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น เพราะความที่อาณาจักรอยู่ใกล้กัน แล้วพ่อกับแม่ของทั้งคู่ก็ไม่มีท่าทีจะขัดอะไรด้วย หากจะพาบุตรมาเจอกับราชวงศ์ของพันธมิตรบ่อย ๆ

    อิกิโกะได้รู้จักกับเคนมะมากขึ้น ได้เรียนรู้ความเป็นตัวตนของเขามากขึ้น ได้รู้ว่าความจริงแล้ว เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรสักนิด แม้ภายนอกผู้คนจะชอบบอกว่าเขามักจะเพิกเฉยติดจะเฉื่อยชากับชีวิตไปหน่อยก็เถอะ

    นั่นไม่จริงเลยอากิโกะคงเป็นคนคนนึงที่จะยืนกรานแบบนั้น และเช่นเดียวกัน—เคนมะก็เป็นคนคนนึงที่รู้จักอากิโกะดีกว่าใคร ๆ พวกเขาเล่นด้วยกัน ดูแลกันและกันตั้งแต่เล็ก ที่อายุเพียบแค่หกขวบเจ็ดขวบกระทั่งเติบโตกันขึ้นมาจนอายุสิบสี่ปี

    เหตุใดเจ้าจึงทำหน้าเศร้าเช่นนั้นกันเล่า?” ฝ่ายเด็กหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเด็กสาวที่ออกจากวังมาพบกับเขา ที่รออยู่บริเวณสวนดอกไม้นอกอาณาจักรอาซามิใกล้ ๆ นั้น ดวงหน้าคมคายเรียบเฉยเลิกคิ้วขึ้น หรือเพราะว่าข่าวที่องค์ราชินีทรงประชวรน่ะหรือ?”

    “…ใช่ ข้ากำลังรู้สึกโศกากับเหตุนั้นอยู่ ข้ากลัวเหลือเกินกับการที่ข้าจักเสียมารดาไป

    ข้าจะคอยอยู่ข้าง ๆ เจ้านะ อย่ากลัวไปเลยรอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าเขา ข้าจะคอยปลอบประโลมเจ้าจนกว่าเรื่องนี้จักผ่านพ้นไป และจักคอยอยู่เคียงข้างเจ้าจากนี้ และตลอดไป เชื่อข้าสิ

    คำกล่าวนั่นน่ะอากิโกะเชื่อสนิทใจเลย เธอร้องไห้ต่อหน้าเขา แล้วก็กอดเขาเอาไว้—ช่วงวัยนั้น พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน และได้พบกันน้อยลง เพราะแต่ละคนต่างก็เริ่มมีเวลาว่างไม่ตรงกันเลย เพราะแบบนั้น ในช่วงเวลาที่ได้เจอกัน มันจึงมีค่าเอามาก ๆ เลยล่ะ

    ในช่วงเวลานั้น เคนมะยุ่ง ๆ อยู่กับการฝึกและการเล่าเรียนอย่างหนัก อากิโกะเองก็มิได้อยากรบกวนอะไร ประจวบกับในช่วงเวลานั้น แม่ของอากิโกะล้มป่วยพอดี ผู้เป็นราชาค่อนข้างร้อนใจเช่นเดียวกันกับอากิโกะ แต่เพราะเขามีงานต้องทำอีกเยอะ เขาจึงจำเป็นจะต้องฝากงานให้กับสาวใช้และอากิโกะไปแทน

    จังหวะนั้นเองที่ซายากะแฝงตัวเข้ามาอีกครา ตัวเธอที่ที่ผ่านมาแสร้งทำตัวเป็นคนดีและตีสนิทองค์ราชามาตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้บอกว่าตัวเธอเองก็อยากที่จะดูแลองค์ราชินีเช่นกัน หากแต่ ที่ไหนได้ล่ะ

    ตัวซายากะเองนั่นแหละ ที่แอบวางยาพิษใส่ในอาหารที่ทำมาให้กับยูเมะเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง สัปดาห์ละครั้งจนกระทั่งเธอเสียชีวิตไป ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งอากิโกะและองค์ราชาต่างก็จมจ่อมอยู่ในความเศร้ากันทั้งสิ้น

    แต่เห็นทีองค์ราชาคงจะหนักเสียมากกว่า เขาไม่เป็นอันจะทำงานเลยทีเดียว ลูกสาวที่ยังเล็กอยู่ก็มิอาจช่วยเหลืออะไรได้มากมายนัก เธอทำได้แต่เพียงมองเท่านั้นมองซายากะด้วยความรู้สึกหวานกลัวครั่นคร้ามแปลก ๆ เธอแค่รู้สึกกลัวซายากะ ทั้ง ๆ ที่หล่อนก็ยิ้มให้เธอเป็นประจำ

    อ่าแปลกจังเลยแฮะ

    งานศพของผู้เป็นราชินีผ่านพ้นไป แต่ความเศร้าที่สุมอยู่ในอกของคนเป็นราชายังไม่เปลี่ยนไปไหน ในเมื่อคนรักเสียไป คนที่ยังอยู่เคียงกายเขา คอยดูแลและช่วยเหลือก็คือซายากะเขาไม่รู้เลย ว่าหล่อนกำลังหลอกล่อเขาอยู่ทุกวันทุกวัน โดยที่เด็กสาวผู้เป็นลูกไม่สามารถขัดขวางอะไรได้ เพราะเธอเองก็ทั้งเศร้า แล้วเด็กเกินกว่าจะเข้าใจอุบายที่ซับซ้อนขนาดนั้น

    นานวันผ่านไป จนกระทั่งอากิโกะเกือบจะมีอายุสิบหกปีแล้ว เหลืออีกเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น ผู้เป็นพ่อของเธออาการดีขึ้นเยอะ เขาได้รับการเยียวยาจากซายากะ ที่อากิโกะไม่ค่อยสนิทนัก ตัวเธอเองยังคงติดต่อกับเคนมะผ่านจดหมายเรื่อยมา

    และในช่วงเวลานั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็คือว่า—พ่อของเธอ ตัดสินใจแต่งงานกับซายากะแล้ว

    อากิโกะที่รู้สึกหวาดกลัวแปลก ๆ กับซายากะมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อาจปริปากปฏิเสธอะไรได้ เธอแค่ยิ้มรับ แล้วคิดเอาว่ามันคงจะไม่มีอะไรหรอกมั้งนะ

     

    ซึ่งอากิโกะน่ะ คิดผิดเต็ม ๆ เลยล่ะ

    เพราะหลังจากที่แต่งงานได้ไม่นาน ราชาก็ล้มป่วยทันที ซายากะเป็นคนวางยาเขา แต่กลับออกมาป่าวประกาศว่าองค์ราชาคงทรงงานหนักเกินไป และคงมีโรคร้ายติดตัวมา ช่วงเวลานั้นเอง ที่ซายากะแก้แค้นสำเร็จ และได้ครอบครองในสิ่งที่ตัวเองมาดหวังไว้

    หากแต่—มันก็ยังเหลือลูกสาวของเขาคนนั้น ที่เกะกะสายตาของเธอเหลือเกิน เพราะแบบนั้น ซายากะจึงสร้างเรื่องใส่ร้ายอากิโกะว่าเธอนั้นคิดจะทำร้ายตนเองเพราะเกลียดที่เข้ามาแต่งงานใหม่ ก่อนจะส่งย้ายตัวเจ้าหญิงตัวน้อยให้ไปอยู่ในอาคารเก่าด้านหลังราชวัง ที่ที่เงียบเหงา เก่ากรุ และความเป็นอยู่มิได้สุขสบายนัก

    แม้จะถูกทำความสะอาดเอาตอนที่เธอย้ายเข้ามาแล้ว แต่มันก็ย่ำแย่กว่าในราชวังอยู่ดี

    อากิโกะในตอนนั้นเข้าใจแล้วว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง เหล่าคนใช้บางส่วนก็เกลียดเธอไปแล้ว แต่บางส่วนก็ยังรัก แต่ก็จำใจยอมทำตามคำสั่งของราชินีไป พวกเขาเหล่านั้นช่วยเหลืออากิโกะบ่อย ๆ โดยที่ไม่ให้ราชินีคนใหม่รู้

    ชีวิตต่อจากนั้นของอากิโกะดูเหมือนจะย่ำแย่ ชนชั้นสูงยังไม่ทราบว่าซายากะทำอะไรไว้บ้าง เพราะทุกทีที่มีการออกงานอะไร เธอก็จะทำเป็นแสร้งว่ารักกับอากิโกะดี จับเธอหวีผมแต่งตัวเสียใหม่ แต่หลังจากที่จบงาน ซายากะก็ผลักหัวส่งอากิโกะออกไปอย่างไม่ใยดี

    นั่นแหละซายากะน่ะ ไม่เคยละทิ้งนิสัยแย่ ๆ ของตนไปเลย

    ตอนนี้พ่อของเธอป่วยติดเตียง คนที่ดูแลอาณาจักรกลายเป็นซายากะไป เบื้อหน้าอาจดูเหมือนสงบสุขดี เพราะตัวซายากะยังคงเล่นตามน้ำไปก่อน อากิโกะไม่รู้ว่าเมื่อใดกันที่มันจะจบลง ในเมื่อเธอไม่รู้ว่าจะช่วยพ่อของตนยังไง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อถูกวางยาให้ล้มป่วยอยู่เดือนละครั้ง

     

    หน้าที่ที่จะต้องช่วยอาณาจักรและเอาบัลลังก์คืนมานั้นเป็นของเธอ แต่วันใดเล่า ที่เด็กสาวจะสามารถยืนหยัดลุกขึ้นสู้มาได้?

    ชีวิตของเธอกำลังถูกกลั่นแกล้ง จากที่มีความสุขก็กลายเป็นมืดหมองลงไปเพราะคนใจร้าย หากทว่า—อากิโกะก็ยังคงมีเขาอยู่ข้างกาย โคสุเมะ เคนมะ เจ้าชายที่จะเป็นหนึ่งในตัวแปรที่จะทั้งช่วยปลอบใจเธอ ช่วยให้เธอเติบโตขึ้น

    มากพอที่จะช่วยเหลืออาณาจักรของตัวเอง และทำในสิ่งที่ควร

     

    และดอกไม้งามดอกนั้นแหละ ที่จะเปล่งประกาย เปลี่ยนจากดอกตูมเป็นการเบ่งบานอย่างเต็มที่ สำแดงความเป็นตัวตน ความงดงามและความแร่งกบ้าของตัวเองออกมาเสียก่อนที่จะเหี่ยวเฉา

    ดอกไม้ที่ไม่ว่าอยู่ที่ใด ก็จะเลอค่าและเป็นที่น่าจับตามองเสมอ ดอกไม้งดงามที่มากไปด้วยความหมาย มากไปด้วยหลากหลายเรื่องราว ทั้งรัก สุข เศร้า โกรธแค้น ให้อภัย และจุดจบที่มิอาจหยั่งรู้ได้

     

    To be continued...?

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×