NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Conan ] I'm Mr.Gray OC l BL l Yaoi

    ลำดับตอนที่ #1 : EP.0

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 66


     

     

    ท่ามกลางความมืดมิดและสายฝนกระหน่ำ ในตรอกแคบๆแห่งนี้มีคนอยู่สองคนยืนท้าทายสายฝนจนตัวเปียกปอน ทว่าถึงจะชุ่มโชกไปด้วยน้ำหรือเลือดสักเท่าไหร่ก็คงจะดูไม่ออก เพราะพวกเขาต่างก็สวมเสื้อผ้าสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกปิดร่องรอยทุกอย่างเป็นอย่างดี

     

    แฉะ

     

    เสียงเท้าเหยียบน้ำขังบนพื้นดังขึ้น เมื่อชายวัยกลางคนผงะถอยด้วยท่าทางสั่นกลัว ข้างหลังของเขาคือทางตัน ส่วนข้างหน้าของเขาก็คือชายหนุ่มซึ่งมีเส้นผมและดวงตาเป็นสีเทา เมื่อเห็นว่าไร้ทางหนีสองเข่าก็ทรุดลงกับพื้นทันที

     

    “คะ..คุณเกรย์ครับ ! ผมไม่ได้ทรยศองค์กรนะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด !”

     

    “…”

     

    ชายที่ถูกเรียกว่าเกรย์ไม่พูดอะไร กลับเอาแต่ยิ้มเงียบๆมุมปากชวนให้รู้สึกหวาดระแวงเท่านั้น กระทั่งถูกความเงียบอันน่าอึดอัดบีบรัดให้ต้องตะโกนอย่างคนสติแตก เกรย์ก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแนบรอยยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง

     

    “ชู่ว.. อย่าเสียงดังสิ เป็นคนทรยศก็ต้องตายแบบเงียบๆนะรู้ไหม..”

     

    “ขะ..เข้าใจผิดแล้วครับคุณเกรย์ ผมไม่ได้–!”

     

    “อ่า ฉันไม่สนหรอกว่านายทรยศองค์กรจริงรึเปล่า ฉันก็แค่ได้รับคำสั่งให้มากำจัดนายก็เท่านั้นเอง เพราะงั้นไม่ต้องมาบีบน้ำตาขอร้องให้ไว้ชีวิตหรอก มันเสียเวลา”

     

    ปืนพกที่ถูกเก็บไว้ในซองหนังอย่างดีค่อยๆถูกดึงออกมาและติดตั้งท่อเก็บเสียงอย่างเชื่องช้า ภาพนั้นทำให้ชายวัยกลางคนเบิกตากว้างและสั่นคลอนด้วยความกลัว เขาแน่ใจแล้วว่าชะตาชีวิตของตัวเองกำลังจะขาดในอีกไม่ช้า แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะขอความเมตตา

     

    “คุณเกรย์ครับ ! ผมทำงานกับคุณมานานไม่มีทางที่ผมจะทรยศคุณ ให้ผมได้พิสูจน์..”

     

    “นั่นสินะ นายทำงานกับฉันมานาน งั้นก็คงรู้ใช่ไหมว่าฉันทำหน้าที่อะไรในองค์กร ?”

     

    เกรย์พูดแทรกขึ้นมาขณะใช้สายตาตรวจเช็กความเรียบร้อยของปืนภายในมือ คำพูดนั้นทำให้ชายวัยกลางคนนิ่งอึ้งไปสักพักใหญ่ ก่อนจะก้มหน้าตอบคำถามทั้งน้ำเสียงสั่นเครือ

     

    “ตระ..ตรวจสอบ และเก็บกวาด..”

     

    ตรวจสอบความผิดพลาดและเก็บกวาดให้สะอาดนั่นคือหน้าที่หลักของชายที่ได้รับฉายาว่ามิสเตอร์เกรย์ มุมปากหนากระตุกยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนจะมอบรางวัลให้ในวินาทีต่อมา

     

    “ถูกต้อง”

     

    ปุ !

     

    กระสุน 9 มม.พุ่งผ่านท่อเก็บเสียงและตรงเข้ากลางกระหม่อมในระยะแนบชิด ชายวัยกลางคนสิ้นลมหายใจในทันที ก่อนที่ร่างไร้วิญญาณจะฟุ่บลงไปกองกับพื้นเย็นเฉียบ แววตาของเกรย์ยังคงเฉยชาแม้ว่าเขาจะพึ่งฆ่าคนไป ทว่ารอยยิ้มประดับใบหน้าเหมือนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นเรียบตึงโดยไม่รู้ตัว

     

    และหลังจากยืนตากฝนอยู่สักพัก เกรย์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับนั่งยองๆหน้าศพ สีหน้าของเขาตอนนี้เจื่อนลงผิดกับท่าทีไม่ยี่หระเมื่อครู่นี้ราวกับเป็นคนละคน ปากหนาเผยรอยยิ้มเหยเกออกมาพลางพูดพึมพำกับอดีตลูกน้องที่เขาเองก็จำชื่อไม่ได้

     

    “จะบอกให้นะ ฉันเองก็ไม่ได้มีความสุขกับงานตอนนี้นักหรอก แต่ถ้าฉันไม่ทำฉันก็จะโดนองค์กรลงโทษน่ะสิ ไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวเพราะความผิดพลาดของนายหรอกนะ เข้าใจฉันใช่ไหม”

     

    หากอีกฝ่ายสามารถตอบกลับมาได้ก็คงจะบอกว่าไม่เข้าใจอย่างแน่นอน ทั้งไม่เข้าใจที่ตัวเองต้องตายเพราะความผิดเล็กน้อย และไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมชายที่ฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตาอย่างเกรย์ถึงได้มีสีหน้าแบบนั้น

     

    เกรย์ควรจะมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ติดเย็นชาเสมอ แต่ตอนนี้กลับเผยรอยยิ้มจืดเจื่อนออกมาดูไม่ใช่เขาเลยสักนิดเดียว ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจจะทำงานให้องค์กร ยิ่งเมื่อหลายวันก่อนเขาลื่นล้มหัวฟาดพื้นก็ยิ่งมีใจออกห่างเข้าไปอีก

     

    ผลจากการที่สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงทำให้สิ่งที่ไม่ควรจะรู้ผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน มันคือความทรงจำจากชีวิตก่อน และนั่นก็ทำให้เกรย์หรือชื่อจริงก็คือฮิรากิ เซย์จิได้รู้ว่าที่นี่คือโลกโคนัน ซึ่งมีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงเป็นอันดับต้นๆ

     

    เขาไม่รู้ว่านี่เป็นการเกิดใหม่ หรือทะลุมิติเหมือนในนิยายแฟนตาซีพวกนั้นรึเปล่า แต่สิ่งเดียวที่เซย์จิรู้ก็คือเขายังต้องสวมบทบาทในฐานะเกรย์ต่อไป

     

    เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่สมาชิกระดับสูงอย่างเขามีใจคิดทรยศองค์กรก็จะถูกกำจัดทิ้งในทันที ก็เหมือนกับชายวัยกลางคนคนนี้ที่กลายเป็นศพไปแล้วนี่แหละ..

     

    ดวงตาสีเทาหม่นหลุบมองร่างเจิ่งนองบนพื้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆหยัดยืนอย่างเชื่องช้าและหันหลังเดินจากมา เมื่อพ้นตรอกอันมืดมิดมาได้ชายชุดดำหลายคนก็วิ่งสวนเข้าไปเพื่อจัดการทำความสะอาดแทน ระหว่างนั้นเกรย์ก็พยายามทำตัวเฉยชาและหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบรอ

     

    “คุณเกรย์ครับ..”

     

    ตอนที่กำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสงบสุขจู่ๆชายชุดดำคนหนึ่งก็โผล่พรวดเข้ามาทักเขาจากด้านข้าง เกรย์รู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่ไม่เผลอร้องเหวอด้วยความตกใจออกไป ก่อนจะขยับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ขับให้ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

     

    “ว่าไง ?”

     

    “เมื่อสักครู่นี้มีเมลจากคนของเราส่งมาบอกว่ายินกับวอดก้ากำลังตรงมาทางนี้ครับ”

     

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเกรย์แข็งทื่อไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แต่ก็ไม่ลืมที่จะร้องรับในลำคอเป็นอันว่าเข้าใจแล้วเสียงแผ่ว เขาหันกลับไปมองความว่างเปล่าตรงหน้าพลางพ่นควันบุหรี่ออกมา ตอนนี้สายฝนยังคงไม่หยุดโปรยปรายจึงไม่มีใครดูออกว่าหยดน้ำที่กำลังไหลผ่านแก้ม เป็นสายฝนหรือเหงื่อกันแน่

     

    หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวรถปอร์เช่ 365A สีดำสนิทคันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าพอดิบพอดี เกรย์ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าขณะก้าวเข้ามาใกล้กระจกรถที่ว่า กระทั่งได้เห็นสีหน้าเย็นชาของชายที่ได้รับโค้ดเนมว่ายิน รอยยิ้มของเขาก็ยังไม่หายไป นั่นรวมถึงหยดน้ำที่กำลังเกาะบนหน้าผากด้วย

     

    “ลมอะไรหอบนายมาล่ะ ยิน..”

     

    เกรย์เป็นฝ่ายเอ่ยปากทักทายก่อนราวกับพวกเขาสนิทนักหนา ทั้งความจริงแล้วก็ถูกเกลียดขี้หน้าไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ ยินสาดสายตาเย็นชาใส่อยู่สักพักก่อนจะส่งสัญญาณให้เขาขึ้นรถเร็วๆ เกรย์รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะขึ้นไป แต่จะทำอะไรได้นอกจากเปิดประตูหลังแล้วขึ้นไปนั่งบนเบาะอีกล่ะ

     

    ทว่าทันทีที่งับประตูลง ปืนบาเร็ตต้า 92 ที่ยินชอบใช้ก็ขยับมาจ่อหัวเขาทันที รอยยิ้มของเกรย์กระตุกเล็กน้อยขณะที่แผ่นหลังกว้างลอบหลั่งเหงื่อเย็นออกมา เขาพยายามสบตาสู้ราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร ก่อนจะเอ่ยปากถามเจ้าของปืนอย่างไม่เข้าใจ

     

    “จะทำอะไรน่ะยิน จะฆ่าฉันงั้นเหรอ ?”

     

    “…”

     

    ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหดลงเล็กน้อย แต่เกรย์ก็ไม่เผยพิรุธอะไรให้เห็นนอกจากแอบหลั่งเหงื่อเย็นซะเต็มฝ่ามือ

     

    “เฮ้ๆ หรือว่านายจะตกหลุมรักฉันจนอยากจะฆ่าให้ตายกันล่ะเนี่ย คืองี้นะ นายไม่ใช่สเปคฉันอะยิน”

     

    “ดูเหมือนว่าแกอยากจะตายมากเลยสินะเกรย์..”

     

    “หือ ไม่ใช่ว่านายก็อยากฆ่าฉันอยู่แล้วเหรอ จะบอกให้นะ ถึงฉันจะตายไปทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของฉันก็จะไม่ยอมเป็นของนายเด็ดขาด !”

     

    แกร็ก

     

    “หยุดพูดไร้สาระแล้วก็ตอบคำถามฉันมา.. แกแอบช่วยไอ้หนูสกปรกนั่นรึเปล่า”

     

    หนูสกปรกที่ยินหมายถึงก็คือชายวัยกลางคนที่เขาลงมือฆ่าเองกับมือ เกรย์ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรมากที่ยินจะรู้สึกสงสัยในตัวเขา นั่นเพราะการติดตามและกำจัดคนทรยศในครั้งนี้เขาใช้เวลานานเกินไป ซึ่งมันก็เป็นผลพวงมาจากการที่เขาล้มหัวฟาดพื้นในวันนั้น

     

    เกรย์เหยียดรอยยิ้มกว้างพร้อมกับตอบคำถามด้วยน้ำเสียงระรื่น

     

    “ไม่ได้ช่วยอยู่แล้วสิ”

     

    “แต่ครั้งนี้แกใช้เวลานานมากเกินไป แกจงใจปล่อยให้ลูกน้องคนสนิทของแกหนีไปได้”

     

    “อย่าใส่ร้ายน่ายิน ที่ฉันใช้เวลานานไปสักหน่อยก็เพราะอยากรู้ว่าหมอนั่นจะดิ้นรนยังไง สุดท้ายก็ตายด้วยน้ำมือฉันไม่ใช่เหรอ ?”

     

    “…”

     

    ยินจ้องมองเข้าไปในแววตาแฝงรอยยิ้มราวกับค้นหาอะไรบางอย่างสักพัก เมื่อไม่เห็นความผิดปกติที่ตรงไหนเขาก็เก็บปืนกลับมา

     

    “งานต่อไปถ้าแกชักช้าแบบนี้อีกฉันฆ่าแกแน่..”

     

    “นั่นไม่ใช่สิ่งที่นายจะตัดสินใจได้ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”

     

    แววตาของยินเย็นชาขึ้นหลายเท่าตัวเมื่ออีกฝ่ายต่อปากต่อคำอย่างกล้าหาญ ปืนที่ถูกเก็บกลับไปถูกชักออกมาจ่อหัวอีกครั้ง

     

    แกร็ก

     

    “ไสหัวลงไปจากรถของฉันซะ”

     

    “เฮ้ๆ บอกกันดีๆก็ได้นี่..”

     

    เกรย์ทำเป็นยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนจะขยับลงจากรถอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ และทันทีที่เขาปิดประตูรถ ปอร์เช่สีดำก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทำให้น้ำที่ขังอยู่บนถนนสาดใส่เขาที่ยืนอยู่เต็มๆ

     

    ชายชุดดำที่ยืนอยู่ใกล้ๆถึงกับออกอาการเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งให้อย่างนอบน้อม เกรย์เหลือบมองนิดๆจากนั้นก็รับมา เสี้ยวหน้าของเขาดูเย็นชาและไร้รอยยิ้มจนชายชุดดำตัวสั่นกลัว

     

    “คะ..คือผมจะรีบไปเอารถมารับนะครับคุณเกรย์”

     

    ว่าจบเขาก็รีบวิ่งออกไปทันที เพราะไม่อยากจะทำให้ชายที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมไม่แพ้ยินโมโหไปมากกว่านี้ ทว่าสิ่งที่เขาและคนอื่นๆคิดนั้นผิดไปจากความจริงอย่างมาก

     

    เกรย์ไม่ได้โกรธที่เขาโดนยินข่มขู่และยังถูกน้ำขังสาดใส่หน้า แต่เขากำลังควบคุมตัวเองอย่างมากไม่ให้แสดงท่าทางโล่งใจออกมา เพราะคำพูดคำจาที่เขาพูดกับอีกฝ่ายไปมันน่าโดนสุดๆไปเลย ดีนะที่หมอนั่นไม่หมดความอดทนแล้วเป่ากระบาลเขาจริงๆน่ะ..

     

    เกรย์ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถือไว้เพราะรู้สึกได้ว่ามีเมลเข้า เมลที่จะเข้าโทรศัพท์เครื่องนี้จะเป็นเมลจากองค์กรเท่านั้น เพราะอย่างนั้นเขาก็เลยคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นงานต่อไป ทว่าเนื้อหาเพียงไม่กี่บรรทัดนั่นกลับมาทำให้เขารู้สึกสับสนจนต้องขมวดคิ้วมุ่น

     

    “ตรวจสอบ‘สก๊อต’ว่าเป็นสายลับรึเปล่า ถ้าใช่ก็เก็บกวาดซะ.. งั้นเหรอ”

     

    ..สก๊อต ?

     

    เดี๋ยวนะ เจ้าของโค้ดเนมนี่ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ก็วันที่ 7 ธันวาคมซึ่งเป็นวันที่สก๊อตหรือตัวจริงก็คือโมโรฟุชิ ฮิโรมิทสึฆ่าตัวตาย มันผ่านมาตั้งนานแล้วนี่ ?

     

    ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่อีกล่ะเฮ้ย..

     

     

     

     


     

    มาประเดิมสั้นๆให้ทุกคนได้สัมผัสกับพระเอกคนที่สามของเราสักหน่อย ชื่อจริงของเขาคือฮิรากิ เซย์จิ แต่เขาจะชอบให้ทุกคนเรียกว่าเกรย์มากกว่านะ (เพราะชินน่ะไม่ได้ชอบหรอก) แน่นอนว่าคู่ของเขาก็คือฟุรุยะ เรย์ และขอเน้นย้ำว่าเกรย์อยู่โพซ้ายนะทุกคน ซ้ายย

    ไทม์ไลน์ของเรื่องนี้จะไม่ได้ต่อจากเรื่องของคามิยะ แต่จะย้อนกลับมาอยู่หลายปีเลยล่ะ ถึงอย่างนั้นพระเอกทั้งสองคนก็จะได้เจอกันสักวันหนึ่งแน่นอน ซึ่งคาดว่าน่าจะนานพอดูแหละ //แหะๆ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×