ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปรมมิค yaoi

    ลำดับตอนที่ #5 : Valentine Special

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 58





    ตอนพิเศษ
     
    Valentine Special
     
     
     
                    วันวาเลนไทน์ วันนี้อาจจะเป็นวันพิเศษของหลายๆคน และอาจจะเป็นแค่วันธรรมดาของอีกหลายๆคนเช่นกัน สำหรับผม ตลอดชีวิตสิบสี่ปีกว่าๆที่ผ่านมา มันก็เป็นแค่วันธรรมดามาโดยตลอด และผมก็เคยคิดว่ามันคงจะเป็นวันธรรมดาตลอดไป 
     
                    ในปีก่อนๆ วันวาเลนไทน์ส่วนใหญ่ก็ตรงกับวันธรรมดา สิ่งที่พบเห็นกันได้ทั่วไป คือพวกผู้หญิงที่เอาสติกเกอร์ติดให้กันตามปกเสื้อ ชายเสื้อ หรือนาฬิกา ผมว่า พวกเธอไม่ได้อยากติดให้กันเองหรอก แค่ถ้าไม้ติดกันเองก็ไม่มีใครติดให้ ฟังดูหน้าเศร้าจังนะ 
     
                    แต่สำหรับผู้ชายอย่างเราๆ มันก็เป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ที่พวกผู้หญิงรอบข้างจะดูดดี๊ด๊ากว่าปรกติ และดูหน้ารำคาญกว่าปกตินิดหน่อย บางปีผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนี้คือวันวาเลนไทน์ ถึงปีนี้ผมจะสนใจวันนี้มากกว่าปีก่อนๆนิดหน่อย แต่ว่านะ ก็ไม่ถึงขั้นนับวันรอหรอก
     
                    และในวันนี้ วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 2015 ผมกำลังรอใครบางคนอยู่ท่ีสยามพารากอน ตอนแรกก็แค่มาตามที่นัดกันเฉยๆ แต่พอมานั่งได้สักพักผมก็เพิ่งเริ่มสังเกต
     
                    มีแต่ผู้หญิงผู้ชายเดินกันมาเป็นคู่ๆทั้งนั้นเลย 
     
                    วันนี้วันวาเลนไทน์นี่หว่า ลืมไปเลย
     
    ย้อนกลับไปเมื่อประมาณสองสามวันก่อน
     
                    "เปรม" ช่วงพักดื่มนมที่แสนสั้นของผม ถูกก่อกวนด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามิคกี้ ผมเงยหน้าจากกระดาษที่ถูกขีดจนเละของตัวเองมาสนใจคนที่กำลังยืนค้ำหัวผมอยู่
     
                    "เสาร์นี้ไปสยามกับกูหน่อยดิ" ผมมองมันอย่างไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ร้านเกมเจ้าประจำของมันอยู่ที่นั้น ไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร ผมลองคิดถึงกิจกรรมที่ต้องทำแล้วก็เลยตอบตกลงไป
     
                    "เอาสิ"  ผมเห็นมิคกี้ชะงักไปนิดนึงตอนที่ผมตอบตกลง แต่แค่ก็แค่นึดนึงเท่านั้น 
     
                    "อ่าๆ เจอที่เดิม"มิคกี้พูดจบ ก็เดินออกจากห้องไป ตอนที่มันหันหลังไป ผมได้ยินมันพึมพัมบางอย่าง
     
                    "ทำไมง่ายจังวะ"

     
     กลับมาที่ปัจจุบัน
     
                    ผมมาก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เลยมานั้งรอมันอยู่ตรงหน้าทางเข้าที่นัดกันไว้ วันนี้ผมก็แต่งตัวธรรมดาๆ เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ กับตังที่พกมาพอซื้อของได้ ผมเอาหูฟังขึ้นมาฟังเพลงรอคนที่ปกติจะมาช้ากว่าปกติไปประมาณสิบนาทีเป็นอย่างต่ำ
     
                    และก็เป็นอย่างที่คาด พอถึงเวลาสิบนาทีที่ว่า เสียงโทรศัพท์ดัง พอผมรับโทรศัพท์ เสียงปลายสายก็พ่นเสียงใส่แบบไม่เว้นช่วงให้ตั้งตัว
     
                    'ถึงแล้ว อยู่ตรงไหน' ผมเก็บของแล้วยืนขึ้นเตรียมมองหาเจ้าตัวป่วนที่หน้าจะอยู่ไม่ใกล้ไกลจากบริเวณที่ผมยืนอยู่
     
                    "ที่เดิมไง" ผมมองไปรอบๆตัวแล้วก็เห็นคนที่กำลังมองหาอยู่ มิคกี้กำลังมองไปทางนู้นทีทางนี้ที รอบข้างก็โดนคนเบียดบ้างเดินไปชนเขาบ้าง จนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ วันนี้มันก็แต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดสีน้ำเงินสกรีนลายหมาตัวใหญ่ กับกางเกงสี่ส่วนสีดำ ที่ใส่เวลาออกจากบ้านบ่อยๆ และตามประสาเพื่อนที่ดี พอเห็นมันกำลังลำบากใจ ก็เกิดอยากแกล้งขึ้นมา
     
                   'ตรงไหนล่ะ' มันถามมาด้วยเสียงที่ดูหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ผมวางสายทั้งๆที่ยังคุยไม่จบ แล้วเดินไปหามันจากทางด้านหลังโดยที่มันยังไม่รู้ตัว มิคกี้เอาโทรศัพท์ออกจากหูตัวเองแบบอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิิมแล้วกำลังจะกดโทรอีกรอบ แต่ก็ต้องชะงักเพราะผมดึงโทรศัพท์ออกจากมืออีกฝ่ายแล้วทำการกดวางสายให้ซะเรียบร้อย
     
                    "ไปกัน"ผมบอกมันแล้วถือวิสาสะเดินนำไปแบบไม่รอฟังความเห็นคนด้านหลังที่ดูจะยังมึนๆอยู่
     
                    "สึด รอด้วย!" มันตะโกนแล้วรีบเดินตามมาจนทันมาเดินอยู่ข้างๆ ผมหันกลับไปมองมันที่ดูจะกำลังสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่าผม ถึงผมจะมีความสุขกับบการแค่ได้เห็นมันมีความสุข พอมันเจอของถูกใจแล้วยิ้มออกมา ผมก็อดจะยิ้มตามไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นี่มันก็ไม่ต่างจากมายืนดูมันซื้อของสักเท่าไหร่
     
                    พอคิดได้ดังนั้น ก็เอื้อมมือไปจับมือคนข้างตัวมากุมไว้แบบหลวมๆแล้วเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะจับสักติด
     
                    มิคกี้มองหน้าผมสลับกับมือของผมแบบไม่เข้าใจ แล้วทำท่าจะดึงมืออก แต่ผมกระชับมือให้แน่นขึ้นแล้วบอกสิ่งที่สิ้นคิดที่สุดในตอนนั้นออกไป
     
                    "เดี๋ยวเด็กหลง" มิคกี้ดูจะนิ่งไปนิด ก่อนจะเบื่อนหน้าหนีแล้วพึมพำแบบขัดใจ แต่ก็ไม่ได้แกะมือออก ดูจะยอมให้จับดีๆด้วยซ้ำ
     
                    "กูไม่เด็กเหอะ" ผมหัวเราะเบาๆ แล้วแกล้งทำเป็นไม่สนใจคนที่'ไม่ใช่เด็ก'พูด ถึงผมจะมองหน้ามันไม่ชัด แต่ผมก็รู้ว่ามันกำลังยิ้มอยู่ และทั้งผมทั้งมันก็กำลังมีความสุขอยู่เช่นกัน
     
                    ตอนนี้คงไม่มีใครสนใจเราหรอก คนที่เดินส่วนใหญ่ ก็ต่างให้ความสนใจอยู่กับคู่ของตัวเอง ผมเองก็อยากจะทำแบบนี้มานานแล้ว ไม่ต้องสนใจใคร แล้วทำเหมือนโลกนี้มีแค่เราสองคน มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนยกโลกออกจากอก ไม่จำเป็นต้องปกปิด แค่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง 
     
                    นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าวันวาเลนไทน์มันไม่ใช่แค่วันๆหนึ่งที่หน้าเบื่อ อาจจะต้องลองจัดอันดับความสำคัญของมันใหม่ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าปีหน้าผมจะยังได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้อีกหรือเปล่า ปีนี้อาจจะเป็นแค่ปีแรกและปีเดียวก็ได้
     
                  
                    ไม่เกี่ยวว่าที่ไหน แต่เพราะมีมันอยู่ตรงนี้ ข้างๆผม ไม่เกี่ยวว่านานแค่ไหน แต่แค่รู้ว่าตอนนี้ ตรงนี้ มันเป็นของผมคนเดียว 

     
                    แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
     


    ___________________________
     
    50% จบพาร์ทเปรม เย้ๆ ทำไมยาวจัง
    รู้สึกเป็นนิมิตรหมายที่ดี โอ๊ส!
    สู้ต่อไป
    มาบ่นจนหายอยากแล้วจากไป
    Commentบ้างตามสะดวกนะคะ
                   
     
                    
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×